สรรพสิ่งล้วนเกี่ยวพัน
<<
มีนาคม 2564
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
15 มีนาคม 2564

ถนนสายนี้มีตะพาบ หลักกม.ที่ #273 : ให้อภัย

ให้อภัย
โจทย์โดย คุณกะว่าก๋า

ตอนเด็กๆ เคยโกรธแม่มากๆๆๆ
เพราะโดนตีบ่อย
เรื่องให้เก็บกวาดถูบ้านทุกเช้า
แม่ตื่นเช้ามืด ไปเข้าสวน รดน้ำ ดายหญ้า
แม่ตะลีก็ทำทุกวันแหละค่ะ 
แต่วิธีทำคือ เอาผ้าขี้ริ้วไปจุ่มน้ำ แล้วบิด
ถูแต่ขั้นบันไดขึ้นบ้าน 9 ขั้น
เสร็จก็เอามาตากไว้ที่บันได ทุกวัน
นึกว่าตัวเองฉลาดนักหนา แม่ต้องไม่รู้
มีรึ ที่แม่จะจับไม่ได้   
พอแม่กลับจากสวนตอนเย็น ตักน้ำล้างเท้าจากโอ่งที่ตีนบันได
เดินขึ้นบันไดไปเรื่อยๆ ก็เจอพื้นเรือนเป็นรอยฝุ่นจับเทือก
เดินไปก็เป็นรอยเท้า ตามหลัง

แม่เรียกซิคะ  "....มานี่ซิ"
"จ๋า"  ขานรับเสียงหวานเดินมาหาแม่
นึกว่าแม่เก็บเอามะม่วงปากตะกร้อหล่น หรือมะยงชิดเอย
มะละกอสุกเอย ชมพู่สาแหรกเอย หรือ ชำมะเลียงงอมๆมาให้
"กวาดถูบ้านรึยัง"
"เรียบร้อยแล้วจ้ะ"
แค่นั้นแหละ 
 
แม่ก็หยิบไม้ก้านมะยมรวมๆกันสัก5อัน
ฟาดเผี๊ยะๆๆๆๆๆ ไม่นับ
เจ็บขนาดนั้น ใครจะอยู่ให้ตีอีกล่ะคะ
โดดบันไดพรวดเดียวโกยอ้าว เข้าสวนค่ะ
แม่ไม่ยอม วิ่งตาม เพราะแม่เป็นคนที่ถ้าตีแล้วห้ามลูกวิ่งหนี
แม่จะยิ่งโกรธ แต่ณ นาทีนั้น อิฉันก็ไม่อยู่ละค่ะ
แม่วิ่งกวดตามตีลูกรอบสวน
จะวิ่งทันได้ไง เราเป็นนักกรีฑาวิ่งเปรี้ยววิ่งผลัดของโรงเรียน

พอกวดไม่ทัน แม่ก็ลงนั่งหอบตัวโยน
ลูกสาวตัวดี ก็ซุกๆอยู่แอบในร่องสวนหลังกอข่าสูงๆ
ไม่ยอมโผล่ออกมาให้ตีได้อีก 
รู้ตัวว่า ไม่น่าโกหกแม่เล๊ย!!
ก็รู้ทั้งรู้อยู่กันทั้งตำบลว่า แม่ดุยังกะเสือ
ผิดกับพ่อ ที่ใจดีสุดๆ

เย็นใกล้ค่ำ แม่กลับบ้านไปหุงหาอาหารให้พ่อ
ตัวลูกก็ยังนั่งตบยุงอยู่ในดงกอข่า
มืดๆก็ย่องออกมาจากสวน
ดูหน้าดูหลัง แอบฟังเสียงบนเรือน
พ่อแม่ น้องเงียบกันหมดแล้วแสงตะเกียง
ที่นอกชานไม่เหลือแล้ว
มีแสงตะเกียงวับๆแวมๆ อยู่ในเรือนห้องนอน
คงเข้านอนกันหมดแล้ว 
เลยเวลาข้าวเย็นไปนานโข
แม่ตะลีแอบซุ่มดูเหตุการณ์อยู่ใต้ถุนเรือน
คิดว่าคงรอดปลอดภัย จากเงื้อมมือแม่แน่แล้ว
ก็ค่อยๆ ปีนต้นมะยมหน้าบันได
แล้วปีนหน้าต่างเข้าบ้าน
ค่อยๆใช้สายตามองผ่าความมืดเข้าไปในครัว
ค้นหาข้าวในหม้อกิน กับข้าวยังพอมีเหลือในตู้กับข้าว
ปกติ แม่จะหุงข้าวทำกับข้าวพอดีกิน
ไม่มีเหลือติดหม้อ ติดจาน
แต่นี่ แม่คงเหลือไว้ให้เราแหละ..ไม่คว่ำหม้อคว่ำจานเสียหมด
(ตู้กับข้าวที่บ้านจะเป็นลักษณะเหมือนตู็นี้จริงๆค่ะ...ภาพแทน)





รีบกินๆๆๆ เสร็จ แอบปีนหน้าต่างลงทางต้นมะยม
เหมือนขาขึ้น ไปนอนในเปลไม้ใต้ถุนเรือนไทยยกสูงของเรา
ที่เป็นที่นอนของน้องในยามกลางวัน
ซึ่งเราต้องเลี้ยงน้องแทนแม่ทุกวัน ตอนแม่เข้าสวน
ตัวก็โตเกินเปลไม้แล้ว
ก็ขดตัวอยู่ในนั้น หลับไป ยุงกัดทั้งคืน 
แม่ตื่นเช้าลงมาเจอเราหลับอยู่
พอเราได้ยินเสียงกุกกัก ก็ตื่น เจอหน้าแม่ โห..สะดุ้งเฮือกอีก
แต่แม่ก็ไม่ได้ฟาดต่อ ทำเฉยๆ  เดินไปเข้าสวน
เฮ้อ!!!!!! โล่ง
(เปลที่บ้าน เชือกถักขาด เพราะใช้มาหลายรุ่น
พ่อเลยใช้ไม้ตีเป็นลูกกรงแทนเชือกถัก
แต่ก็ยังใช้เชือกโยงกับคานบ้านใต้ถุนเรือนอยู่...ภาพแทน)





ตอนแรกที่แม่ฟาดๆๆๆๆๆๆ โดยไม่บอกไม่แจงเหตุผล
ก็โกรธๆๆๆๆๆ ด้วยเจ็บ
แต่พอมีข้าว มีกับเหลืออยู่
ความโกรธก็หายหมด ให้อภัย มือไม้เรียวมหาภัยของแม่เลย





นับจากวันนั้นก็ถูบ้านจริงๆทุกวัน
ไม่มีหลอกแม่ โดยซักผ้าขี้ริ้วตากไว้เฉยๆ
บ้านเป็นมันแผล่บ...แค่บางส่วน
เพราะโก่งก้นแล้ววิ่งไถให้เสร็จเร็วที่สุดค่ะ
จะได้ออกไปเล่นลูกหินลูกแก้วกับเพื่อนได้ไวขึ้น!!!
(ภาพแทน)






ไม่ว่าพ่อแม่ ทำอะไรไว้ให้เราโกรธ
เสียใจ สุดท้าย ท่านก็มีเหตุผลแฝงอยู่เสมอ
แต่ไม่ได้สาธยายให้ฟังเท่านั้นเอง

ซึ่งจริงๆแล้ว ไม่สมควรโกรธท่านเสียด้วยซ้ำ


สวัสดี



ขอบคุณภาพแทนจากเจ้าของภาพด้วยค่ะ



Create Date : 15 มีนาคม 2564
Last Update : 15 มีนาคม 2564 11:45:36 น. 14 comments
Counter : 1248 Pageviews.  

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณThe Kop Civil, คุณเริงฤดีนะ, คุณมาช้ายังดีกว่าไม่มา, คุณtoor36, คุณฟ้าใสวันใหม่, คุณภาวิดา คนบ้านป่า, คุณไวน์กับสายน้ำ, คุณSleepless Sea, คุณhaiku, คุณเนินน้ำ, คุณกะว่าก๋า, คุณkae+aoe, คุณmcayenne94, คุณหอมกร


 
สวัสดีครับพี่
เคยถูบ้านเหมือนกันครับ แต่ผมไปอยู่บ้านตากับยาย ตู้กับข้าวแบบเดียวกันเป๊ะเลยครับ ว่าแล้วก็คิดถึงสมัยตอนโน้นจังเลยครับ มีความสุขมาก ๆ


โดย: The Kop Civil วันที่: 15 มีนาคม 2564 เวลา:11:53:50 น.  

 
ถูบ้านจนเข้าด้านเลยค่ะ
ดีที่ รร .ให้ใส่กระโปรงคลุมเข่า

แม่ก็คือแม่ค่ะ
รักและห่วงลุกเสมอ
แม่ตะลีโตมาและมีบุตรโต
ก้คงเข้าใจลึกซึ้งส์

ซนเหมือนกนันนะคะแม่ตะลี


โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 15 มีนาคม 2564 เวลา:12:34:37 น.  

 
สวัสดีครับคุณตะลีกีปัส

เข้ามาอ่านตะพาบด้วยคนครับ
อ่านแล้วนึกภาพบรรยากาศวัยเด็กตามไปด้วยครับ

ตอนเด็กๆ ผมก็เอาแต่ใจ จนถูกพ่อทำโทษบ่อย
ตอนนั้นเราก็ไม่เข้าใจความคิดเค้ามากนัก
ก็น้อยใจ และโกรธตามเรื่อง
พอยิ่งอายุมากขึ้นๆ
เมื่อนึกถึงเรื่องเก่าๆ ก็เข้าใจหัวอกเค้ามากขึ้นครับ


โดย: มาช้ายังดีกว่าไม่มา วันที่: 15 มีนาคม 2564 เวลา:13:17:30 น.  

 
น่ากลัวจริงๆ ครับ จริงๆ บอกเหตุผลซะหน่อยน่าจะดีกว่านะครับ (เข้าใจว่ารักแต่รู้สึกน่ากลัว)


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 15 มีนาคม 2564 เวลา:14:00:51 น.  

 
วีรกรรมไม่น้อยเลยนะคะ
ทำให้นึกถึงวีรกรรมของตัวเองเหมือนกัน



โดย: ฟ้าใสวันใหม่ วันที่: 15 มีนาคม 2564 เวลา:14:31:29 น.  

 
การตีมีมานานมกาเลยนะครับพี่
จนมีสุภาษิตว่า

"รักวัวให้ผูก รักลูกให้ตี"

สมัยผมพ่อแม่ยังบอกครูเลยว่าถ้าลูกดื้อครูตีได้เลยนะครับ 555

ตอนนี้ยุคสมัยเปลี่ยนไป คงจะไม่ค่อยมีการตีแล้ว
แต่ถ้าการตีนั้นเป็นไปด้วยความรักและความปรารถนาดี
ก็เป็นการบ่มเพาะนิสัยอีกวิธีหนึ่งได้เช่นกันครับ



ปล. ผมยังคงรอคอยการกลับมาทำงาน
ถ้าเป็นไปได้ครับ 555



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 15 มีนาคม 2564 เวลา:16:08:20 น.  

 
นึกถึงภาพ ไปแอบแม่แล้วยุงกัด 555

แม่ก็คือแม่แหละครับ เหมือน ๆ กัน... พอผมโตขึ้นมาก็พยายาม
จะไม่ให้แม่ผิดหวัง เพราะแม่เหนื่อยใจเหนื่อยกายกว่าพวกเรา
มากมาย


โดย: ไวน์กับสายน้ำ วันที่: 15 มีนาคม 2564 เวลา:19:09:37 น.  

 
สวัสดีครับ

มาอ่านงานตะพาบด้วยครับ
เด็กๆเวลาดื้อๆก็เคยโดนทำโทษเหมือนกันครับ



โดย: Sleepless Sea วันที่: 15 มีนาคม 2564 เวลา:22:22:27 น.  

 
คุณแม่ของแม่ละตีต้องตีเจ็บแน่ ๆ เลย ^__^
ตอนเด็ก ๆ คงไม่ค่อยมีใครชอบทำงานบ้านเนาะ
อยากออกไปเล่นกับเพื่อนมากกว่า


โดย: เนินน้ำ วันที่: 16 มีนาคม 2564 เวลา:0:16:22 น.  

 

สวัสดียามเช้าครับพี่



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 16 มีนาคม 2564 เวลา:6:40:47 น.  

 
ตอนเด็กๆ มี้ก็โดนคุณยายให้ทำนั่นนี่มากมายยังเล่าให้น้องซีฟังเลยค่ะ


โดย: kae+aoe วันที่: 16 มีนาคม 2564 เวลา:8:20:15 น.  

 
อิอิ ไม่มีใครไม่โดน ให้ทำงานบ้านนะ ^^
เวลาทำก็เพลินคะ แต่บทจะขี้เกียจก็ไม่ยอมทำ
บางทีก็อยากพักผ่อน ๆ บ้าง งานบ้านเยอะเหลือเกิน


โดย: *~ต้นกล้า...ของหัวใจ~* วันที่: 16 มีนาคม 2564 เวลา:15:49:50 น.  

 
เกมากนะคะเนี่ย ขนาดว่าให้อภัยแม่
อย่างนี้ต้องหวดซ้ำ เชื่อว่าคุณแม่ตะลีต้องถูกหวดเยอะ
ยังดีที่รู้คิดได้เอง กลับตัวได้ ไม่งั้นเป็นหัวโจกแน่
แม่ของเย็น จะบอกไว้เสมอ ทำอะไรกับพ่อแม่
จะได้รับเมื่อมีลูก จริงรึเปล่าคะ


โดย: mcayenne94 วันที่: 19 มีนาคม 2564 เวลา:9:35:51 น.  

 
ที่จริงต้องบอกว่าแม่ให้อภัยลูกแล้วถึงจะถูกค่ะ
งานนี้ไม่เข้าข้างแม่ตะลรีวัยเด็กเต็มๆ



โดย: หอมกร วันที่: 22 มีนาคม 2564 เวลา:10:09:02 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

ตะลีกีปัส
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 11 คน [?]




New Comments
[Add ตะลีกีปัส's blog to your web]