ต่อไปนี้หนูจะเล่าถึงวันที่หนูไปเข้าค่ายอบรมนักเขียนน้อย
ณ สถาบัน ทักษิณคดีศึกษา สนุกมาก ๆ เลยคะ
ตั้งแต่วันที่ 23-25 กรกฎาคม จะมีอะไรบ้างนั้น เชิญรับชมได๋เลยคะ

ในเช้าของวันพุธ ที่ 23 กรกฎาคมอันแสนร้อนอ้าว
หนู เปิ้ล นุ พลอย และอาจารย์ โสพณ ฉิมพลีศิริ
ออกเดินทางจากโรงเรียนหาดใหญ่วิทยาลัย ตรงไปยัง สถาบัน ทักษิณคดีศึกษา
ซึ่งอยู่บน เกาะยอ อำเภอเมือง จังหวัดสงขลานี่เอง

ระหว่างทางก็นั่งชมวิวไป คุยกับเพื่อนไป เพื่อนที่ร่วมทางมาด้วยนั้นต่างห้องกันทั้งนั้นคะ
เพิ่งมารู้จักกันในรถ
อาจารย์ก็ขับรถไปอย่างรวดเร็ว ไม่เร็วมาก จนพ้นสะพานเปรม แล้วก็ขึ้นเขาไปยังจุดหมาย
นั่ั่นคือ สถาบันทักษิณคดีศึกษาอันสวยงามเปี่ยมความรู้

เมื่อมาถึง พวกเราก็เข้าหอประชุมอันเย็นฉ่ำ
ลงทะเบียนกันเสร็จก็พบนักเขียน
พบศิลปินแห่งชาติ คือ อาจารย์ สถาพร ศรีสัจจัง ด้วยคะ
นักเขียนก็มากันตั้ง 30 คนแนะ เด็กนักเรียนที่มาอบรมก็มีทั้งหมด 41 คน
จากหลายโรงเรียน หลายจังหวัด ที่มาไกลสุดก็นครปฐมนโน่นแหละคะ
เราก็ได้สร้างปฏิสัมพันธ์กัน

จากนั้น พวกเราชาว ญ.ว. ทั้ง 4 คน
ก็ขออณุญาตอาจารย์ไปซื้อขนมและนม กับไอศกรีมมารับประทาน
กินกันเพลิน อ้อ ลืมบอก ทางไปร้านขายของนั้นสุดแสนจะสูงชัน
ลำบากมาก แต่ก็ไม่เป็นไร ผจญภัยไปกับเพื่อน สนุกดี

กินกันเพลิน เปิ้ลก็โทรศัพท์ไปหาอาจารย์ ปรากฏว่า เขาเริ่มพิธีเปิดกันแล้ว
พวกเราก็เลยโดนดุไปตามระเบียบ รีบกินแล้วก็พากันลงไปหอประชุม

มีการปาฐกฐา เรื่อง วรรณกรรมกับวิกฤตการทางสังคม โดยวิทยากร 4 ท่าน
โหย !! หนูเนี่ยนั่งสัปหงก โงกเงกจะหลับแหล่ไม่หลับแหล่แล้วละคะ
แต่พอวิทยากรท่านที่ 3 มาพูดปุ๊บ คืออาจารย์ฉลอง หนูก็ไม่ง่วงแล้ว
กลับตาเบิกโพลง หูตั้งชัน ฟังอย่างสนุกสนาน
เพราะอาจารย์มีกลอนมากมายคมคายนัก แถมตลกอีกต่างหาก

ภาคบ่าย อาจารย์ยันยง แก้วใหญ่ มีกิจกรรมให้พวกเราเขียนบทกวี 8 หน้า
โดยทำสมุดข่อยและเขียนตามที่อาจารย์อธิบาย
บอกตรง ๆ ทั้งอึดอัด ทั้งงุนงง เพราะตามไม่ทัน แล้วเวลาที่ให้ก็แสนจะน้อยนิด
แต่ก็สนุกดี เพราะเด็กจะได้มีจินตนาการ

เย็นวันนั้น พวกเราขึ้นไปอาบน้ำ เปลี่ยนเสื้อผ้า ที่พักก็สบายมากคะ
เห็นทะเลด้วย สวยมากเลย ห้องน้ำก็สะอาด แต่ประตูเนี่ยสิคะ ช่างร้ายเหลือ
ปิดก็ไม่ค่อยได้ ต้องออกแรงดันประตูให้ติดกับบานพับ
เปิดก็ไม่ออก เสี่ยงจะถูกขัง ต้องให้เพื่อนช่วยถีบ พื้นห้องน้ำก็ลื่น
โอ๊ย แต่หนูได้บั๊ดดี้ดี๊ดี นั่นก็คือเปิ้ล เธอเป็นทั้งเพื่อนทั้งแม่ทั้งพี่หนูเลยคะ
ดูแลดีมาก น่าประทับใจจริง ๆ

เสร็จ พวกเราก็ไปทานข้าวกันที่ ลานนกเขา ว้าว !! บรรยากาศ เห็นวิวทะเลสาบอันงดงาม ภูเขาไกลลิบ ๆ มีโตะเก้าอี้มากมาย
เพราะจัดงานเลี้ยงต้อนรับพวกเรานักเขียนน้อยที่มาร่วมค่าย
สนุกและอร่อยไปในเวลาเดียวกัน

มีเสียงดนตรีบรรเลง มีการ แสดง ลิเก ฮูลู จากราชภัฏยะลา
หนูฟังจนเบื่อแล้ว เพราะที่โรงเรียนการศึกษาคนตาบอดธรรมสากลก็มี
น้อง ๆ ตาบอดเล่นเพื่อซักซ้อม แล้วเดินสายไปเล่นตามที่ต่าง ๆ ที่เขาเชิญไป
โชคดีหนูไม่ได้รับเลือกให้เล่น

กว่าจะเลิกก็ปาเข้าไปสี่ทุ่มครึ่งโดยประมาณ
กลับที่พัก ล้มตัวนอนไม่ฝันอะไรเลย หลับสบายมากด้วย

เช้าวันรุ่งขึ้น หนูและเปิ้ลอาบน้ำแต่งตัวเสร็จก็ไปนั่งกินลมชมวิวกัน
ฟังเพลงในมือถือของเปิ้ล ได้พบอาจารย์จากโรงเรียนต่าง ๆ
อาหารเช้าก็อร่อยคะ มีข้าวต้มกุ้งด้วย

แล้วกิจกรรมภาคเช้าก็คือ การบรรยายเรื่อง ศิลปะการเขียนเรื่องสั้น
โดย อาจารย์จำลอง ฝั่งชลจิตร
ส่วนเรื่องต่อไป คือเรื่อง ศิลปะการเขียนความเรียง
โดย พี่เจี๊ยบ หรือ ดวงแก้ว กัลยา

ภาคบ่าย มีกิจกรรมแบ่งกลุ่มย่อย หนูลงเรื่องสั้นคะ คือเรื่อง ขนม นม เนย
กล่าวคือ มีกลุ่มกวี กลุ่มเรื่องสั้น กลุ่มความเรียง
เย่ !! หนูได้อยู่กลุ่มอาจารย์จำลอง
เมื่อหนูเขียนเสร็จ หนูก็อ่านให้ท่านฟัง ท่านก็ชี้แจงว่า ต้องมีรายละเอียดมากกว่านั้นอีก
อยากฟังไหมคะ ขนม นม เนย

เอาละ อยากฟังไหม หนูจะเล่าให้ฟังแล้วนะ คลิกไปอ่านที่ link นี้ ได้เลยค่ะ

จุดที่จะต้องแก้ไขตามที่อาจารย์จำลองติมาก็คือ
ขาดความละเอียดในการเขียนถึง โน้ตบุ๊คและชุดเต้นรำ
เพราะทั้งสองซื้อของให้แม่คนเดียว
โน้ตบุ๊คต้องบอกราคาเพราะแพงมาก
ส่วนชุดเต้นรำต้องบอกว่าให้ใครเพราะต้องให้แม่มาวัดตัวคะ

แล้วคืนนั้น ในชั่วโมงสันทนาการ หนูได้ร้องเพลง กำลังใจ คู่กับ พี่จอร์จ
โดยมี พี่ปอเล่นกีตาร์ ว้าว สนุกยอดเยี่ยมไปเล้ย
มีเพื่อน ๆ อาจารย์ ชมกันมากว่าหนูเสียงเพราะ ขอบคุณคะ เขินจัง

เช้าวันต่อมา หนูก็ทำกิจวัตรตามปกติกับเปิ้ลเพื่อนคู่หู
แล้วพอรับประทานอาหารเช้าเสร็จก็พากันขึ้นเขาไปชมนิทรรศการเกี่ยวกับศิลปะพื้นบ้าน
ได้รู้ ประโยชน์ของต้นตาลโตนด พิธีบวช และได้ชิมขนมโค ขนมจาก ด้วยคะ อร่อยมากเลย

ภาคบ่ายก็ อ้อ ไม่สิ หลังจากนั้นก็ลงเขาไปห้องประชุม
มีการวิจารณ์บทกวี ความเรียง และเรื่องสั้นตามลำดับ แต่เรื่องสั้นนั้นวิจารณ์ช่วงบ่าย
แล้วปิดท้ายด้วยการ อ่านกลอนแด่ทักษิณคดีศึกษา ทายซิว่าใครอ่าน หนูเอง อยากฟังไหม

กลอนแด่สถาบันทักษิณคดีศึกษา

นามนี้คือสถาบันทักษิณ
เป็นที่ถิ่นให้เราได้ศึกษา
วรรณกรรมต่างต่างอันล้ำค่า
อีกทั้งสรรพวิชานานัปการ

ทะเลสาบสงขลาอันงามงด
น้ำใสสดชวนมองเป็นหนักหนา
วิวทิวทัศน์บนภูเขาดูงามตา
แสงอาทิตย์แต้มฟ้างามจับใจ

อาหารนั้นเลิศรสสุดอร่อย
กิจกรรมใหญ่น้อยชวนไหลหลง
ถึงจะมีบางเรื่องชวนให้งง
แต่ก็งงอยู่ได้มิยาวนาน

โอ้ละหนอเข้าค่ายในคราวนี้
แสนสุขขียินดีเป็นที่ยิ่ง
แสนสุขใจประทับใจในทุกสิ่ง
ไม่ประวิงสิ่งใดอะไรเลย

ดูรูปถ่ายเอาเองนะคะ บ๊ายบาย เหนื่อยแล้วเล่าสารพัดเรื่อง



ชื่อโครงการ นักเขียนน้อย


โรส และ คุณ สถาพร ศรีสัจจัง กับ คุณ จำลอง ฝั่งชลจิต


โรสกับคุณ สถาพร ศรีสัจจัง คุณดวงแก้ว กัลยาณ์ และคุณ กานติ ณ ศรัทธา


โรสอ่าน บทกวีที่แต่งเอง เพื่อ สถาบันไทยคดีศ๊กษา


อ่านเสร็จ ก็รับรางวัลจาก คุณ สถาพร ศรีสัจจัง


รางวัลที่ได้รับ เป็นหนังสือ 3 เล่ม


คุณ จำลอง ฝั่งชลจิต กล่าว สรุป มาดเท่ห์จริงๆ


ดนตรี ก่อนจะจากกันไป โบกมือลา .....


โรสกับเพื่อนๆ จาก หาดใหญ่วิทยาลัย


โรส กับ บัดดี้ และ อาจารย์โสพณ ฉิมพลีศิริ



ภาพ panorama 180 องศา สะพาน ติณสูลานนท์ มองจาก จุดสูงสุด ของสถาบัน ทักษิณคดีึศึกษา ด้านซ้ายมือเรา คือ ทะเลสาบสงขลา ด้านขวามือไกลๆ ริมทะเล คือ ตัวเมืองสงขลา
ภาพนี้ ถ่ายเมื่อวาน ตอนเที่ยงวัน ไปรับน้องโรส ที่เข้าค่าย นักเขียนน้อยนี้

ดูรูปใหญ่
กดซ้ำที่รูปใหญ่ จะได้ขนาดจริง

Create Date : 25 กรกฎาคม 2551
Last Update : 26 กรกฎาคม 2551 7:58:08 น.		20 comments
Counter : 3281 Pageviews.
Share Tweet