1.น้ำตาล จะทำลายคอลลาเจนและอิลาสตินในชั้นผิว ปกติเส้นใยคอลลาเจนจะมีความยืดหยุ่นแต่เมื่อรับประทานน้ำตาลเข้าไปจำนวนมาก จะส่งผลให้โครงสร้างคอลลาเจนบิดตัว ไม่ยืดหยุ่นเหมือนอย่างที่เคย ในด้านองค์รวม สมองทำงานด้วยกลูโคสที่ไม่สามารถกักเก็บไว้ได้ ขนมหวานหรือเครื่องดื่มที่มีรสหวานเป็นเสมือนการอัดฉีดกลูโคส แต่กลูโคสจะลดระดับลงอย่างรวดเร็ว ณ ตอนนั้นสมองจะเข้าสู่โหมดวิกฤติ เราจะรู้สึกปวดศีรษะ อารมณ์ไม่คงที่ เหนื่อยง่าย หลีกเลี่ยงน้ำตาลแต่ควรเติมเชื้อเพลิงให้สมองด้วยคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน เช่น ข้าวกล้อง ธัญพืชต่างๆ ดีกว่าเยอะเลยค่ะ

 2.เกลือ ( sodium chloride ) สององค์ประกอบของเกลือเป็นแร่ธาตุที่สำคัญที่มาพร้อมกับโพแทสเซียม ช่วยให้กล้ามเนื้อ ระบบประสาทและเซลล์ทำงานได้ดีรวมถึงอาหารแปรรูป ( อาหารที่ดูไม่ออกว่า หน้าตาเก่าเป็นอย่างไร เช่น ไส้กรอก หมูยอ แหนม ฯลฯ ) วัตถุปรุงแต่งรสอาหาร สารกันบูด โซเดียมอัลจิเนต ( พบในไอศกรีม ) อาหารที่มีเกลือสูงจะทำให้เซลล์บวมน้ำและเกิดการอักเสบ ส่งผลให้โพแทสเซียมที่ช่วยสร้างพลังงานที่จำเป็นในการเคลื่อนไหวกล้ามเนื้อและเส้นประสาทเกิดความอ่อนแอและเหนื่อยล้า

 3.เนื้อสัตว์ติดมัน คนเราต้องการโปรตีนเพื่อสร้างกล้ามเนื้อ เอ็น ผิวหนัง แต่เนื้อสัตว์มีความเป็นกรดเนื่องจากไขมันอิ่มตัวมีระดับสูงจะก่อให้เกิดการอักเสบเรื้อรัง เนื้อสัตว์แปรรูปส่วนใหญ่ มักเติมซัลไฟต์หรือกรดกำมะถัน ( เกลือที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในอุตสาหกรรมอาหารเพื่อยืดอายุการเก็บรักษาของผลิตภัณฑ์ ) จะทำลายวิตามินบีที่มีความจำเป็นในการเผาผลาญคาร์โบไฮเดรตอีกด้วย

ชดเชยด้วยแหล่งโปรตีน : ปลา ถั่ว เต้าหู้

ควรหลีกเลี่ยง : ไส้กรอก เบคอน แฮม เบอร์เกอร์ บาร์บีคิว ฮอตด็อก เนื้อสัตว์ปิ้งย่าง

4.ไขมันไม่ดี ความจริงไขมันเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการบำรุงรักษาโครงสร้างของเซลล์ ช่วยให้ร่างกายดูดซึมวิตามินที่ละลายในไขมัน สุขภาพผิว การทำงานของสมอง พลังงานและอารมณ์ เซลล์ในร่างกายมีการเคลือบผนังด้านนอกแทบทุกเซลล์ หากการเคลือบที่เป็นไขมันชนิดดี ( HDL ) จะเพิ่มการดูดซึมสารอาหารและน้ำรวมถึงกระบวนการเคมีชีวภาพ ( นี่เป็นอีกเหตุผลที่แป้งกินวิตามินเพียงไม่กี่วัน ก็รู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงในร่างกายอย่างเห็นได้ชัด ) ถ้าเป็นไขมันไม่ดี กระบวนการนี้จะลดระดับลงทันที ก่อให้เกิดผิวหนังอักเสบ ซึมเศร้า ปวดข้อ ข้อเข้าเสื่อม

ไขมันไม่ดีเป็น transfats ( ไขมันผ่านกระบวนการเติมไฮโดรเจน ) พบมากในเค้ก อาหารจานด่วน ไอศกรีม อาหารที่ทอดด้วยความร้อนสูง เมื่อสะสมในร่างกายมากจะไปแทรกแซงการทำงานของเซลล์เกิดภาวะร่างกายมีความเป็นกรดรวมถึงความไม่สมดุลของฮอร์โมนแถมยังได้รับการเชื่อมโยงกับภาวะซึมเศร้า โรคหลอดเลือดหัวใจ น้ำตาลในเลือดสูงและอัลไซเมอร์ ( ภาวะหลงลืมที่เกิดกับผู้ป่วยที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป )

5.เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เช่น เหล้า เบียร์ยกเว้นการดื่มไวน์วันละแก้วอาจจะดีต่อหัวใจแต่การดื่มหนักจะเพิ่มรอบของกระบวนการชราให้เกิดเร็วขึ้น

 สุขภาพดี สดใส ห่างไกลความชราหาซื้อไม่ง่าย อยากได้ต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินเสียใหม่ เมื่อวันที่อายุมากขึ้น จะได้อยู่อย่างมีความสุข เก็บเงินไว้ใช้ยามชรา ไม่ต้องจ่ายให้โรงพยาบาลอย่างไม่ตั้งใจ ไม่ต้องกินยารักษาโรคเป็นกอบเป็นกำ เพราะฉะนั้นหลีกเลี่ยงอาหารที่กล่าวมาจะเป็นการดีที่สุดและในหนึ่งวันขอให้มีผักผลไม้สดให้มากเข้าไว้ สารต้านอนุมูลอิสระ ของขวัญจากธรรมชาติอยู่ใกล้แค่เอื้อม เราจะไม่ยื่นมือหยิบมันหน่อยเหรอค่ะ