Group Blog
All Blog
|
กล้วยหอมกระตุ้นการไอได้หรือไม่ เมื่อกลางเดือนที่แล้ว สามีแป้งป่วยเป็นโควิด มีอาการไข้และไอ กินยาพาราเซตามอลหลังอาหารเช้า-เย็น เพียง 2 วัน ไข้ลดลง ส่วนอาการไอ เป็นการไอแบบมีเสมหะ จะไอมากในเวลากลางคืน แป้งไม่ได้จัดยาแก้ไอให้เพราะยาแค่ระงับการไอเพียงชั่วคราว พยายามให้ดื่มน้ำอุ่นเยอะๆเพื่อช่วยละลายเสมหะ วันที่ 3 ก็ไม่ไอแล้ว แป้งซื้อกล้วยหอมมา 1 หวี สามีเกรงว่าจะกินไม่หมด เลยช่วยกินกล้วยทั้งวัน ประมาณ 5-6 ลูก เนื่องจากเห็นว่าเป็นผลไม้ แต่กลับกลายเป็นไอหนักมากกว่าก่อนที่จะหายไอเสียอีก แป้งเลยงงว่า อ้าว!อาการไอดีขึ้นแล้ว นานๆครั้งถึงจะไอแคร๊กสักที เลยไปค้นหาข้อมูลของกล้วยว่า สามารถกระตุ้นการไอหรือไม่ อาการไอคืออะไร การไอเป็นกลไกธรรมชาติของร่างกายในการขับสิ่งแปลกปลอม ของเหลวหรือเสมหะที่ไม่ต้องการออกจากลำคอ อาการไอเป็นครั้งคราวนั้นดีต่อสุขภาพ แต่อาจบ่งชี้ว่ามีการอักเสบหากยังมีอาการอยู่เป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์หรือมากกว่านั้น อาการไอเกิดจากอะไร อาการไอ อาจเกิดจากไวรัสหรือจากการแพ้อาหารบางชนิด อาการไออาจเป็นแบบเฉียบพลันหรือเรื้อรัง อาการไอเฉียบพลันคงอยู่น้อยกว่าสามสัปดาห์ และอาการไอเรื้อรังจะคงอยู่นานกว่าแปดสัปดาห์ บางคนอาจมีอาการไอในฤดูหนาวและเมื่อเราเป็นไข้หวัดหรือมีอาการคล้ายหวัด หากเป็นคนที่ดื่มสุราหรือสูบบุหรี่เป็นประจำ อาจเป็นสาเหตุของอาการไอ มีหลายสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการไอและอาจจะเกิดขึ้นชั่วคราวหรือถาวร สาเหตุทั่วไปบางประการของการไอมีดังนี้: • การติดเชื้อ-แบคทีเรียหรือไวรัส • สูบบุหรี่ • หอบหืดและภูมิแพ้ • สิ่งแปลกปลอมหรือสารระคายเคือง • ไอที่เกิดจากยาลดความดันโลหิต Lisinopril และ Enalapril อาการไอมีกี่ประเภท • ไอแห้ง อาการไอแห้งๆ ไม่ได้ทำให้เกิดเสมหะ อาจเกิดจากไข้หวัดและไข้หวัดใหญ่ หรือกรดไหลย้อน ซึ่งกรดในระบบทางเดินอาหาร เคลื่อนตัวขึ้นไปยังหลอดอาหาร ส่งผลให้เกิดการระคายเคืองของเนื้อเยื่อ สาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากการรับประทานอาหารในแต่ละมื้อมากเกินไป โดยเฉพาะอาหารที่มีไขมันสูง รวมถึงการดื่มชา กาแฟ ซึ่งมีผลทำให้กล้ามเนื้อหูรูดระหว่างกระเพาะและหลอดอาหารส่วนปลายหย่อน • ไอมีเสมหะ เป็นการไอที่ช่วยขับเสมหะออกจากระบบทางเดินหายใจ การติดเชื้อเฉียบพลันหรือเรื้อรังบางอย่างอาจทำให้เกิดอาการไอแบบนี้ได้ กล้วยทำให้ไอหรือไม่ กล้วยอุดมด้วยสารอาหารและวิตามิน แต่ก็มีฮีสตามีน(Histamine)เช่นกัน ฮีสตามีนมีบทบาทสำคัญในระบบภูมิคุ้มกันและระบบย่อยอาหารของร่างกาย ในตำราอายุรเวท กล้วยจัดว่าเป็นอาหารที่มีฤทธิ์เย็น นอกจากนี้โรคระบบทางเดินหายใจส่วนต้น เช่น ไข้หวัดใหญ่ ไข้หวัด หรือมีไข้ ภูมิคุ้มกันของร่างกายจะอยู่ในระดับต่ำตลอดเวลา ซึ่งในภาวะนี้ การรับประทานทานกล้วยอาจเพิ่มความไวต่อเชื้อไวรัส ส่งผลให้เกิดการไอและกระตุ้นให้มีเสมหะมากขึ้น ไม่มีหลักฐานเพียงพอที่จะบอกได้ว่า กล้วยสามารถก่อให้เกิดอาการไอได้หรือไม่ อย่างไรก็ตาม วิทยาศาสตร์การแพทย์ได้พิสูจน์ข้อเท็จจริงที่ว่า การกินกล้วยจะทำให้รู้สึกไม่สบายตัวมากขึ้นระหว่างที่มีอาการไอและเป็นหวัด กล้วยทำให้เกิดเสมหะหรือไม่ กล้วยมีสารฮีสตามีน(Histamine)ซึ่งเชื่อว่า เพิ่มการสร้างเสมหะในร่างกาย กล้วยอาจทำให้เกิดเสมหะได้ แต่มันเป็นเพียงด้านหนึ่งของความจริง การแพ้ฮีสตามีนแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ฮีสตามีนเป็นสารเคมีที่ร่างกายผลิตเองตามธรรมชาติ แต่ก็พบได้ในอาหารบางชนิด เช่น กล้วยหอม คนที่มีแนวโน้มที่จะแพ้ฮีสตามีนสามารถทำให้เกิดเสมหะมากขึ้น ในขณะที่บางคนอาจมีผลเพียงเล็กน้อยหรือไม่มีเลย หากมีประวัติแพ้ ฮีสตามีน แนะนำให้หลีกเลี่ยงกล้วย การกินกล้วยเมื่อเป็นหวัดเป็นอันตรายหรือไม่ การกินกล้วยอาจทำให้เกิดเสมหะ แต่ก็ไม่ได้เลวร้ายเสมอไป อันที่จริง น้ำมูกนั้นดีอย่างคือ ช่วยล้างเส้นทางจมูก แต่เมื่อเป็นหวัด ร่างกายจะมีภูมิคุ้มกันต่ำ การกินกล้วยอาจทำให้เกิดโรคจากแบคทีเรีย เช่น ไซนัสอักเสบ ปอดบวม และต่อมทอนซิลอักเสบ นอกจากนี้ การกินกล้วยตอนกลางคืนอาจเป็นตัวสร้างปัญหาเมื่อเราเป็นหวัดหรือไออยู่แล้ว มันสามารถกระตุ้นการผลิตเสมหะมากขึ้นอาจนำไปสู่อาการไอและหายใจลำบากในเวลากลางคืน ทางที่ดีควรหลีกเลี่ยงกล้วยในช่วงที่มีไข้หรือไอ กล้วยมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย แต่อาจส่งผลเสียได้เมื่อมีไข้หรือไอ สารฮีสตามีนในกล้วยอาจทำให้ระคายเคืองลำคอและเกิดเสมหะมากขึ้น กล้วยช่วยแก้หวัดหรือไม่ กล้วยอุดมไปด้วยแร่ธาตุและวิตามิน ซึ่งมีประโยชน์ต่อสุขภาพ ช่วยให้ร่างกายผลิตพลังงานและเพิ่มภูมิคุ้มกันเมื่อบริโภคในปริมาณที่พอเหมาะ อย่างไรก็ตาม หากเป็นหวัดแล้ว ฮีสตามีนในกล้วยอาจกระตุ้นการสร้างเสมหะและนำไปสู่อาการคล้ายหวัดมากขึ้น หากต้องการฟื้นตัวอย่างรวดเร็วจากไข้หวัด ให้หลีกเลี่ยงกล้วยสักสองสามวันจนกว่าจะหายดี เราสามารถกินกล้วยในเวลากลางคืนได้หรือไม่ การกินกล้วยทันทีก่อนนอนไม่ดีต่อสุขภาพ ในช่วงกลางคืนร่างกายของเราไม่ต้องการพลังงาน และการเผาผลาญสารอาหารก็ต่ำ ถ้าเรากินกล้วย มันจะผลิตพลังงานส่วนเกินที่ร่างกายไม่ต้องการ นอกจากนี้ การกินกล้วยตอนกลางคืนยังทำให้เกิดเสมหะมากขึ้น ทำให้ไอและไม่สบายมากขึ้นในตอนกลางคืน กรณีที่เด็กเป็นหวัดและมีอาการไอ ดร.เดบรี(Krishnakant Debri, Senior Physician, Mumbai )กล่าวว่า ในความเป็นจริง ผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่แนะนำว่า ควรรับประทานอาหารที่อุดมด้วยวิตามินซี เช่น ผลไม้รสเปรี้ยว และอาหารที่อุดมด้วยแร่ธาตุ เช่น กล้วย นอกจากช่วยในการย่อยอาหาร แต่ยังช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันและช่วยในการฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว กล้วยไม่เพียงแต่เต็มไปด้วยโพแทสเซียม แต่ยังมีน้ำปริมาณมากอีกด้วย เนื่องจากกล้วยมีอิเล็กโทรไลต์(Electrolyte)ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการรักษาสมดุลของอิเล็กโทรไลต์และของเหลวในร่างกาย กล้วยจึงช่วยในการเติมแร่ธาตุที่สูญเสียไปในร่างกายและรับมือกับอาการไข้และความเย็น นอกจากนี้ยังทำหน้าที่เป็นอาหารให้พลังงานทันที เพราะกล้วยหอม 1 ลูก มีพลังงาน 105 แคลอรี่ ความเห็นของนักโภชนาการประสบการณ์ 12-14 ปีในอินเดีย ไม่มีความสัมพันธ์กันในการกินกล้วย...เราขอเลี่ยงกล้วยเป็นส่วนใหญ่ในกรณีที่ลูกมีอาการไอมีเสมหะ.. ระหว่างที่ไอและเป็นหวัด ควรหลีกเลี่ยงกล้วย ไม่ใช่เพราะจะทำให้ร่างกายเย็นขึ้น แต่สาเหตุคือ ถ้าคนป่วยเป็นหวัดหรือโรคทางเดินหายใจอื่นๆ กล้วยอาจระคายเคืองเมื่อสัมผัสกับเสมหะ จึงควรหลีกเลี่ยงกล้วยในช่วงไอ การกินกล้วยมีการเชื่อมโยงกันทำให้เกิดความหนาวเย็น ภูมิคุ้มกันค่อนข้างอ่อนแอ ส่งผลให้เป็นหวัดบ่อยมาก เราจะเห็นว่า แพทย์และนักโภชนาการมีความเห็นขัดแย้งกัน ดังนั้นครั้งต่อไป หากมีโอกาสกินกล้วยหอม ลองสังเกตดูเพราะประสบการณ์และความไวต่อสิ่งกระตุ้นของแต่ละคนไม่เหมือนกันค่ะ ในระหว่างที่มีอาการไอและเป็นหวัด ควรงดอาหารบางชนิดที่อาจทำให้อาการไอและหวัดแย่ลงได้ • น้ำตาล : ไม่ว่าเราจะบริโภคน้ำตาลผ่านชา กาแฟ หรือช็อคโกแลต ขนมหวานและขนมอบ เนื่องจากน้ำตาลมีผลในการยับยั้งการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน • แอลกอฮอล์ : แม้ว่าบางคนอาจดื่มจินและโทนิกเล็กน้อยในระหว่างที่มีอาการไอและเป็นหวัดเพื่อบรรเทาอาการ แต่การดื่มแอลกอฮอล์จะยับยั้งเซลล์เม็ดเลือดขาวในเลือดและเพิ่มการอักเสบของหลอดลมและปอด • เครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน : ชา กาแฟ หรือเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนทุกชนิด ทำหน้าที่เป็นยาขับปัสสาวะ เพิ่มการขับน้ำและเกลือออกจากร่างกาย • อาหารรสเผ็ด : การบริโภคอาหารรสเผ็ดซึ่งโดยทั่วไปแล้วสามารถบรรเทาอาการได้ชั่วคราว โดยการทำให้เสมหะบางลง แต่ในระยะยาว แคปไซซินในพริกจะเพิ่มการผลิตเสมหะซึ่งจะทำให้การฟื้นตัวของร่างกายช้าลง • นม : การดื่มนมจะเพิ่มเสมหะและทำให้เมือกหนาขึ้น ดังนั้นการบริโภคนมจึงไม่เหมาะสมในช่วงที่มีอาการไอและเป็นหวัด ที่มา : Banana: Why you shouldn't avoid eating it this winter indianexpress . com › ... › Health Does eating banana or citrus fruits aggravate cold in kids ...www . thehealthsite . com › parenting 18 Best Foods to Ease Your Cough and Cold - PharmEasy Blog pharmeasy . in › blog › 12-best-food... Cold In Babies - I Have 16 Months Old Boy, He Caught Cold, //www.. practo . com › consult › cold-i... |
แป้งปังปอนด์
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 878 คน [?] เริ่มเขียนblog 20ก.ค55 ปัจจุบัน ( 3 มี.ค 57 ) แป้งได้มีเพจแป้งปังปอนด์ สร้างขึ้นเพื่อจุดประสงค์แชร์ข้อมูลจาก blog ให้ท่านที่สนใจได้ติดตามอ่านอย่างสะดวกและรวดเร็ว ไม่ต้องเสียเวลาโหลดเนื้อหาจาก blog ดังนั้นขออนุญาตงดตอบคำถามใดๆทางเพจและ facebook ค่ะ หากท่านใดมีคำถามเกี่ยวกับการกินวิตามินเพื่อแก้ไขปัญหาสุขภาพและบำรุงผิวพรรณ รบกวนส่งคำถามไปยัง blog แป้งปังปอนด์ นานาสารพันปัญหา volume 5 อย่างเดียวเท่านั้นค่ะ ขออนุญาตฝากกด like เพจแป้งปังปอนด์ เพื่อเป็นกำลังใจในการสรรค์สร้างผลงานด้วยมันสมองและสองมือพยาบาลสาวภูไท คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น จบการศึกษา ปี พ.ศ 2539 จากที่ราบสูงคนนี้ด้วยนะคะ สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ 2539 ห้ามผู้ใดละเมิด ไม่ว่าการนำชื่อ " แป้งปังปอนด์ " ไปใช้เพื่ออ้างอิงหรือติดป้ายสินค้าในเวปไซด์หรือที่ใดๆหรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดของข้อความใน " Blog แป้งปังปอนด์ " แห่งนี้ไปใช้ ทั้งโดยการเผยแพร่เพื่อการอ้างอิงหรือนำรูปภาพไปโดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร จะถูกดำเนินคดีตามที่กฎหมายบัญญัติไว้สูงสุด
|