พฤษภาคม 2565

1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
 
 
All Blog
Picosecond Laser แต่ละชนิดกับผลลัพธ์อันน่าทึ่ง
มีน้องผู้หญิงอายุราว 35 ปี มีปัญหาหลุมสิว ผิวไม่เรียบเนียน มีจุดด่างดำ มาปรึกษาแป้งว่า อยากทำเลเซอร์ แต่ตัดสินใจไม่ถูก ไม่รู้จะเลือกคลีนิกไหนหรือเลเซอร์ตัวไหนดีเยอะแยะไปหมด  น้องเคย
ทำเลเซอร์หลุมสิว finescan,e-matrix มาก่อน แต่หลุมสิวตื้นเพียง 20% แป้งเลยไปค้นข้อมูลเลเซอร์พิโคเซคเคิน(Picosecond laser)มาให้น้องอ่าน ครั้งต่อไปจะได้เลือกเป็นค่ะ

Picosecond Laser เป็นเทคโนโลยีใหม่ในการรักษาผู้ที่มีปัญหาผิวหน้า เช่น ฝ้า กระ หลุมสิว จุดด่างดำ ปัญหารูขุมขนกว้าง รวมถึงหลุมสิว โดยจะปล่อยพลังงานเลเซอร์ในเวลาที่สั้นกว่า Nanosecond (อีกชื่อหนึ่งคือ Q switched laser) มาก

เลเซอร์แบบเดิมจะมีการยิงพลังงานด้วยความเร็วในระดับ Nanosecond หรือ 1 ต่อ พันล้านวินาที โดยจะมีส่งพลังงานแสงลงไปยังเม็ดสีที่มีความผิดปกติ เมื่อเกิดความร้อนที่ชั้นใต้ผิวมากๆ ทำให้เสี่ยงที่จะเกิดผิวไหม้ แต่ Pico Laser ส่งพลังงานเลเซอร์ที่ความเร็วสูงสุดในระดับ Picosecond  หรือ 1 ต่อ ล้านล้านวินาที โดยเปลี่ยนจากพลังงานความร้อนที่ส่งมาเป็นแรงดัน จึงไม่ทำให้ผิวหน้าไหม้ เป็นการรักษาปัญหาผิวหน้าที่ได้ผลทันที ไม่เจ็บ ไม่ต้องพักฟื้น และด้วยความที่สามารถปล่อยพลังงานด้วยความเร็วสูง จึงมีผลให้ใช้เวลาในการรักษาที่น้อยลงกว่าเลเซอร์แบบเดิม

Picosecond Laser ที่ใช้รักษาหลุมสิว  จะเป็นหัวยิงแบบ LIOB   คือมีเลนส์แบบรวงผึ้งที่บีบแสงให้กลายเป็นจุดเล็กๆ จำนวนมาก ถ้าทดสอบยิงลงใส่น้ำ  จะเห็นเป็นฟองอากาศผุดๆ ขึ้นมา ยิงเพื่อให้เกิดไฟฟ้าสถิตย์ที่เป็นขั้วลบ พอลบเจอลบจึงผลักกันออกมาเป็นช่องว่างใต้หลุมสิว ร่างกายของเราจะมองช่องว่างนี้เป็นบาดแผลจึงเกิดการสมานแผลด้วยการสร้างคอลลาเจนเข้ามาเติมเต็มช่องว่างนี้ มีผลทำให้ผิวหนาขึ้นเพื่อมาเติมเต็มหลุมสิวให้ตื้นขึ้น โดยหลักการนี้มีชื่อว่า Laser Induced Optical Breakdown(LIOB) ได้ผลกับหลุมสิวตื้นๆ  ไม่ได้เหมาะกับหลุมแหลมลึก หลุมโค้งที่มีผังผืด ที่สำคัญคือ  ต้องทำหลายๆครั้ง  รายงานการทางการแพทย์ที่บอกว่าได้ผล คือทำหลายๆครั้ง  ส่วนใหญ่ 6เดือนขึ้นไปทั้งนั้น

ส่วน Picosecond Laser ที่เป็นหัวยิงธรรมดาจะไม่สามารถรักษาหลุมสิวได้  ใช้ในการรักษารอยดำหรือรอยสักเท่านั้น

หลักการรักษาเกี่ยวกับ PICOSECOND LASER
    1.    Skin Revitalization : ลดริ้วรอย ผิวกระจ่างใส รูขุมขนกระชับขึ้น
    2.    Removal of pigmented : รักษากระ จุดด่างดำจากวัย จุดด่างดำจากแสงแดด รักษาปานดำ ฝ้า รักษากระลึกและปานดำได้อย่างนุ่มนวลที่สุด แทบจะไม่มีสะเก็ด หลังทำไม่มีบาดแผล ผิวไม่ลอก หน้าไม่บาง
    3.    Acne Scar : แผลเป็น หลุมสิว ทั้งหลุมสิวใหม่และเก่า รอยดำแดง หลังจากสิวหาย
    4.    Tattoo Removal : ลบรอยสักทุกสี หรือรอยสักขาวดำ

ผู้ที่ไม่ควรทำ PICOSECOND LASER
    •    ผู้ที่ตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร
    •    ผู้ที่มีประวัติโรคลมชัก (ลมบ้าหมู)
    •    ผู้ที่มีปัญหาทางผิวหนัง
    •    ผู้ที่มีปัญหาหลอดเลือด


เลเซอร์ต้องเป็นเครื่องที่มาจากอเมริกาเท่านั้น ถึงจะยิงได้พลังงานที่สูงจนถึงจุด End Point ที่สร้างลูกโป่งลูกใหญ่ได้

เครื่องอเมริกามี 4 ยี่ห้อ คือ Picosure,PicoWay, PicoGenesis(Enlighten), Pico Discovery
ส่วน Picoplus เป็นของเกาหลี 

ขึ้นอยู่กับลักษณะและความลึกของหลุมสิว ถ้าหลุมลึกๆก็อย่าทำเลย เครื่อง Pico ความยาวคลื่น 1064 nm ยิงได้ลึกสูงสุดแค่ 1.5 mm เท่านั้น หลุมลึกคือไม่สะเทือนผิว



Pico จะเหมาะกับหลุม Rolling Scar, Ice Pick Scar ที่คล้ายรูขุมขนเท่านั้น หลุมลึกๆ แนะนำไปรักษาวิธีอื่น

ความลึก อาจจะยิงได้ไม่ลึกมาก ลึกสุดที่ 1064 nm (PicoWay, PicoGenesis), 755 nm (PicoSure) 
เพราะฉะนั้นถ้าเป็นหลุมลึกๆ PicoSecond Laser อาจจะลึกไม่พอ แนะนำให้รักษาด้วย Fractional RF (E-Matrix, Fractora, Venus Viva, Infini) จะเหมาะสมกว่า

จุดเด่นของพิโคเลเซอร์ในการรักษาฝ้า คือ คงสภาพความจางของฝ้าได้นาน 6 เดือน ซึ่งนานกว่าเลเซอร์ทุกชนิด

ไม่ใช่ทุกคนที่เป็นฝ้าที่ยิงพิโคเลเซอร์แล้วฝ้าจะจางลง มีคนไข้ 15%ที่ยิงเลเซอร์ฝ้าแล้วฝ้าแย่ลงหรือเข้มขึ้น คนไข้อีก 30% ยิงแล้วไม่เห็นผลการรักษา

ยารับประทาน Tranexamic acid ได้รับการยอมรับว่าได้ผลดีในการรักษาฝ้า

เราต้องทำ Picosecond Laser กี่ครั้งจึงจะเห็นผลลัพธ์
– ปัญหาฝ้าแดด ฝ้าฮอร์โมน ฝ้าผสม ต้องทำเลเซอร์ประมาณ 4-6 ครั้งขึ้นไป
– ปัญหากระแดดต้องทำเลเซอร์ประมาณ 1-3 ครั้ง (เมื่อเปรียบเทียบกับ Q-Switched Laser ซึ่งเป็นเทคโนโลยีรุ่นเก่า อาจต้องทำถึง 5-6 ครั้ง)
– ปัญหากระลึกต้องทำเลเซอร์อย่างน้อยประมาณ 5-6 ครั้งขึ้นไป(เมื่อเปรียบเทียบกับ Q-Switched Laser ซึ่งเป็นเทคโนโลยีรุ่นเก่า อาจต้องทำถึง 10-12 ครั้ง)
– ปัญหาจุดด่างดำ รอยสิว ต้องเลเซอร์ประมาณ 2-6 ครั้งขึ้นไป
– ปัญหาหลุมสิว รูขุมขนกว้าง รอยแผลเป็น รอยแตกลาย ต้องเลเซอร์ประมาณ 4-6 ครั้งขึ้นไป
– สำหรับการลบรอยสัก จะขึ้นอยู่กับความเข้มและคุณภาพของสีที่ใช้ในการสัก

หมายเหตุ เว้นระยะการรักษาในแต่ละครั้งโดยเฉลี่ยประมาณ 1 เดือน แต่ในส่วนของกระลึกและรอยสัก แนะนำให้ทำเลเซอร์ประมาณ 2 เดือนครั้ง

ตารางที่ 1 เปรียบเทียบประสิทธิภาพและผลข้างเคียงของเลเซอร์และ RF ในการรักษาหลุมสิว



***ประสบการณ์ส่วนตัวและผลงานวิจัยของ ศ.นพ.วรพงษ์ มนัสเกียรติ
ตารางที่ 2 เปรียบเทียบประสิทธิภาพของเลเซอร์ Picosecond ในการรักษาปัญหาผิวต่างๆ



***ประสบการณ์ส่วนตัวของ ศ.นพ.วรพงษ์ มนัสเกียรติ ที่ใช้ 
Picosecond ตั้งแต่พ.ศ 2558

ใครที่มีปัญหาผิวต่างๆ เช่น ฝ้า กระ จุดด่างดำ ริ้วรอย หน้าขาวใส
คิดอยากจะทำพิโคเลเซอร์ แนะนำอ่านข้อมูลในตารางให้ละเอียดก่อนนะคะ

ราคาการทำ Picosecond laser มีทั้งถูกและแพง แตกต่างกันอย่างไร
    •    ต้องเช็คก่อนว่า เป็นเครื่องเลเซอร์แท้ที่ได้รับรองจากอเมริกาหรือไม่ หากราคาถูกเกินไป เป็นไปได้ว่าเป็นเครื่องเลเซอร์ที่นำเข้าจากเกาหลีหรือจีน ซึ่งเป็นพลังงานระดับ Picosecond เช่นกันแต่อาจไม่เสถียรและไม่ได้รับรองมาตรฐานจากอเมริกา
    •    เครื่องแท้เหมือนกัน แต่ทำไมราคาแตกต่างกัน อาจเป็นเรื่องของสถานที่และค่ามือหมอที่แตกต่างกัน สำหรับการทำเลเซอร์ในโรงพยาบาลเอกชนราคาจะสูงกว่าการทำเลเซอร์ในคลินิก เพราะโรงพยาบาลมีค่าบริการอื่นๆมากกว่า
    •    การทำเลเซอร์ด้วยแพทย์ฉพาะทางโรคผิวหนัง จะมีค่ามือหรือค่า DF(ค่าธรรมเนียมแพทย์) สูงกว่าการทำเลเซอร์ด้วยผู้เชี่ยวชาญที่ผ่านการอบรม ทั้งนี้ขึ้นกับความสะดวกของคนไข้ ส่วนตัวคิดว่า เลเซอร์เป็นการตั้งค่าพลังงานที่เสถียรและต้องทำต่อเนื่องหลายครั้งเพื่อให้รอยจางลงชัดเจน ควรเลือกทำกับแพทย์ผิวหนังเฉพาะทาง ซี่งจะเห็นผลชัดเจนกว่ามากๆเพราะเรียนเวชปฏิบัติ 6 ปี ต่อตจวิทยาอีก 4 ปี รวมเป็น 10 ปี ย่อมวิเคราะห์ปัญหาผิวคนไข้ได้แม่นยำและใช้พลังงานสูงตรงจุดโดยที่ไม่ก่อให้เกิดผลข้างเคียงกับผิวหน้า

แพทย์ที่ดูแลปัญหาด้านผิวหนัง แบ่งเป็น 2 กลุ่มคือ
1.แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคผิวหนัง หรือ เรียกสั้น ๆ ว่า “แพทย์ผิวหนัง” หรือ Dermatologist 

ตจแพทย์จะต้องจบแพทยศาสตร์บัณฑิตก่อน โดยใช้เวลาเรียนปกติคือ 6 ปี หลังจากนั้นจึงเข้าเรียนเพื่อเป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคผิวหนัง(ตจวิทยา) ในประเทศไทยมีหลักสูตรการอบรมแพทย์ประจำบ้าน สาขาตจวิทยาที่ต้องใช้เวลาเรียน 4 ปี ซึ่งในปัจจุบันมีสถาบันฝึกอบรมในระดับนี้ 7 แห่ง ได้แก่ 
    1.    หน่วยโรคผิวหนัง ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
    2.    หน่วยโรคผิวหนัง ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
    3.    สถาบันโรคผิวหนัง กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข
    4.    สาขาวิชาโรคผิวหนัง ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล
    5.    สาขาวิชาตจวิทยา ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
    6.    ภาควิชาตจวิทยา คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล
    7.    แผนกผิวหนัง กองอายุรกรรม โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า

ในแต่ละปีจะมีแพทย์ที่จบหลักสูตรการอบรมและสอบผ่านจนได้รับ “วุฒิบัตร” แสดงความรู้ความชำนาญในการประกอบวิชาชีพเวชกรรม สาขาตจวิทยา จากแพทยสภา ประมาณ 20 คนเท่านั้น 

2.แพทย์ที่ทำงานด้านโรคผิวหนัง อาจเรียกว่า “แพทย์ดูแลโรคผิวหนังและผิวพรรณทั่วไป” ซึ่งไม่ใช่ Dermatologist เพราะไม่ได้ผ่านการอบรมตามหลักเกณฑ์มาตรฐานของสมาคมแพทย์ผิวหนังแห่งประเทศไทยและแพทยสภา แต่สามารถเป็นสมาชิกสมทบของสมาศมแพทย์ผิวหนังแห่งประเทศไทยได้ เพื่อพัฒนาตนเองให้มีความรู้ด้านโรคผิวหนังและผิวพรรณมากขึ้น

แพทย์ในกลุ่มนี้มีความแตกต่างกันอย่างมากในแต่ละคน เพราะบางท่านอาจผ่านการอบรมด้านผิวหนังจากสถาบันการศึกษาทั้งในและต่างประเทศ แต่เป็นหลักสูตรที่สั้นและไม่ใช่หลักสูตรเพื่อเป็นผู้เชี่ยวชาญ  ซึ่งมีหลักสูตรตั้งแต่ 4 เดือน, 10 เดือน, 1 ปี, และ 2 ปี

แพทย์บางท่านอาจไม่เคยผ่านการอบรมหลักสูตรใด ๆ ที่เกี่ยวกับด้านผิวหนังเลย เพียงแต่มีความสนใจทำงานด้านผิวหนัง หรือ เรียนรู้ขณะทำงานไปเรื่อย ๆ แพทย์เหล่านี้อาจนำวิธีการรักษาที่แปลกใหม่แต่ไม่ผ่านเกณฑ์มาตรฐานหรือไม่มีหลักฐานทางวิชาการมาใช้ ซึ่งอาจเกิดผลเสียต่อผู้ป่วยหรือผู้มารับบริการได้ทั้งโดยเจตนาและไม่เจตนา 

มีหลายคนที่ทำเลเซอร์แล้ว ไม่เห็นผลหรือไม่พึงพอใจในผลลัพธ์ ครั้งต่อไปก่อนตัดสินใจจ่ายเงิน ควรเช็ครายชื่อแพทย์ที่ทำการรักษาว่า จบแพทย์ผิวหนังโดยตรงหรือจบแค่แพทย์เวชปฏิบัติทั่วไป(เรียน 6 ปี)ไม่ได้เรียนเพิ่มเติมด้านใดเป็นพิเศษ ที่เรียกว่า แพทย์เฉพาะทาง(ตจวิทยา) ความรู้และประสบการณ์ของแพทย์+เครื่องมือประสิทธิภาพสูง เป็นปัจจัยหลักที่ควรให้ความสำคัญลำดับต้นๆดีกว่าซื้อคอร์สเลเซอร์ราคาถูกๆแต่ไม่เห็นความเปลี่ยนแปลงอะไรเลย 


สามารถเช็ครายชื่อแพทย์ได้ที่ แพทยสภา :: The Medical Council of Thailandhttps://tmc.or.th











ที่มา :

เพจ Prof Dr Worapong/ศ.นพ.วรพงษ์ มนัสเกียรติ

PicoSure Laser Treatments - Are You Aware of All the Benefits?https://vivecenter.com › picosure-laser-tre...

Pico Laser - ลบรอยสัก, รักษา ฝ้า กระ จุดดำจากวัย จุดดำจากแสงแดด รักษาปานดำ ฝ้าที่ดื้อต่อการรักษา

มารู้จักแพทย์ผิวหนังกันhttps://medinfo.psu.ac.th › WebBoard › readboard

ดีจริงไหม? เครื่อง Picoway Laser เหมาะกับใคร? ใช้รักษาปัญหาใดบนผิวหนัง - รีวิวศัลยกรรม แนะนำศัลยแพทย์ เกาหลี

โต๊ะเครื่องแป้ง พันทิป

ตจวิทยา - วิกิพีเดีย

 



Create Date : 31 พฤษภาคม 2565
Last Update : 1 มิถุนายน 2565 10:41:53 น.
Counter : 2084 Pageviews.

0 comments

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณนายแว่นขยันเที่ยว, คุณnewyorknurse


แป้งปังปอนด์
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 878 คน [?]



เริ่มเขียนblog 20ก.ค55
ปัจจุบัน ( 3 มี.ค 57 ) แป้งได้มีเพจแป้งปังปอนด์ สร้างขึ้นเพื่อจุดประสงค์แชร์ข้อมูลจาก blog ให้ท่านที่สนใจได้ติดตามอ่านอย่างสะดวกและรวดเร็ว ไม่ต้องเสียเวลาโหลดเนื้อหาจาก blog ดังนั้นขออนุญาตงดตอบคำถามใดๆทางเพจและ facebook ค่ะ






หากท่านใดมีคำถามเกี่ยวกับการกินวิตามินเพื่อแก้ไขปัญหาสุขภาพและบำรุงผิวพรรณ รบกวนส่งคำถามไปยัง blog แป้งปังปอนด์ นานาสารพันปัญหา volume 5 อย่างเดียวเท่านั้นค่ะ


ขออนุญาตฝากกด like เพจแป้งปังปอนด์ เพื่อเป็นกำลังใจในการสรรค์สร้างผลงานด้วยมันสมองและสองมือพยาบาลสาวภูไท คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น จบการศึกษา ปี พ.ศ 2539 จากที่ราบสูงคนนี้ด้วยนะคะ


สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ 2539 ห้ามผู้ใดละเมิด ไม่ว่าการนำชื่อ " แป้งปังปอนด์ " ไปใช้เพื่ออ้างอิงหรือติดป้ายสินค้าในเวปไซด์หรือที่ใดๆหรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดของข้อความใน " Blog แป้งปังปอนด์ " แห่งนี้ไปใช้ ทั้งโดยการเผยแพร่เพื่อการอ้างอิงหรือนำรูปภาพไปโดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร จะถูกดำเนินคดีตามที่กฎหมายบัญญัติไว้สูงสุด




New Comments
MY VIP Friend