พฤษภาคม 2563

 
 
 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
26
27
28
29
30
31
 
 
All Blog
เคล็ดลับรักษารอยด่างดำที่เกิดจากสิวบนใบหน้า

ก่อนอื่นเราต้องทำความเข้าใจเกี่ยวกับสิวแต่ละอย่าง เช่น สิวอักเสบเกิดจากการอุดตันของรูขุมขนใต้ผิวหนัง โดยมีสิ่งกระตุ้นหลายทาง เช่น ความแปรปรวนของฮอร์โมนเพศเอสโตรเจนและแอนโดรเจน ครีมบำรุงที่มีส่วนผสมของสารที่มีโมเลกุลใหญ่(mineral oil,petrolatum,paraffin,lanolin)ความเครียด การอดนอน อาหารที่มีน้ำตาลและไขมันสูง ฯลฯ


เมื่อผิวมีการอักเสบไม่ว่าจะเกิดจากสาเหตุใดๆก็ตาม พอสิวยุบลงมักจะเกิดรอยดำ-รอยแดงขึ้น(รอยแดงเกิดจากเส้นเลือดฝอยขยายตัวตอนที่ผิวอักเสบ)ขั้นตอนการคงอยู่ของร่องรอยอารยธรรมมักจะเกิดขึ้นแรมเดือนไปจนถึงแรมปี การซ่อมตัวเองของเซลล์ผิวจะเกิดขึ้นอย่างช้าๆในคนที่มีผิวแห้งถึงแห้งมาก(บางครั้งรอยดำจะกลายกระ) แต่จะเกิดอย่างรวดเร็วในคนที่มีผิวมันเนื่องจากผิวมีความชุ่มชื้นเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว


หากเรายังอายุไม่มาก รอยดำมักจะจางลงไปเองในเวลาไม่นาน

แต่บางคนอาจจะอยากให้สีผิวสม่ำเสมอโดยเร็วเพราะรอยดำจากสิว ทำให้เกิดความไม่มั่นใจในผิวหน้า


มีหลายวิธีที่ค่อนข้างได้ผลดีดังนี้


1.Azeleic Acid 2%(กรดอะเซเลอิก)ชื่อทางการค้าคือ Skinoren เป็นยาทาฝ้าและลดรอยดำซึ่งออกฤทธิ์ต่อเม็ดสีที่ทำงานมาก จึงไม่ทำให้ผิวหนังที่มีเม็ดสีที่ทำงานปกติมีสีจางลง 


ผลแทรกซ้อนคือ ทำให้ผิวระคายเคือง ผิวเห่อแดง คัน ปวดแสบปวดร้อน และลอกเป็นขุย ควรทามอยส์เจอไรเซอร์ตามทุกครั้งเพื่อป้องกันผิวระคายเคืองหรือลอกเป็นขุย


2.Retinoid(กรดวิตามินเอ) ชื่อทางการค้า คือ Retin-a ออกฤทธิ์โดยเปลี่ยนแปลงการเจริญเติบโตและการแบ่งเซลล์ผิวหนัง เร่งให้เซลล์ผิวหนังชั้นบนที่มีเม็ดสีเมลานินหลุดลอกออก


ในต่างประเทศมีการจ่ายยาผสมสูตรยาทาฝ้าที่มีส่วนผสมของทั้งกรดวิตามินเอ สเตียรอยด์ และไฮโดรควิโนน พบว่าได้ผลเร็วขึ้น


การทายาตัวนี้อาจเริ่มที่ความเข้มข้นต่ำก่อน แล้วค่อยๆ เพิ่มความเข้มข้นของยา ควรทาวันละครั้งก่อนนอน การใช้ในสตรีมีครรภ์ยังไม่ยืนยันความปลอดภัย การใช้ยาอาจทำให้ผิวไวต่อแสงมากขึ้น


เรตินเอในระดับความเข้มข้นสูงอาจมีผลข้างเคียงคือ หน้าแห้ง ระคายเคือง ผิวลอก ทำให้ผิวบางลงและไวต่อแสงแดด ควรทามอยส์เจอไรเซอร์ตามทุกครั้งเพื่อป้องกันผิวระคายเคืองหรือลอกเป็นขุย


3.BHA(Beta hydroxy acid)เป็นตัวยาที่สังเคราะห์ในกลุ่มที่ช่วยละลายเคราติน (โปรตีนที่เป็นส่วนประกอบของผิวชั้นนอก ผม และเล็บ) ใช้รักษาโรคผิวหนังที่มีผื่นหนา เป็นขุย ใช้ใน Chemical peeling เพื่อลดเลือนริ้วรอยและรักษาสิว


สารในตระกูลบีเอชเอตัวหนึ่งที่เรารู้จักกันส่วนใหญ่คือ กรดซาลิกไซลิก(Salicylic Acid) ซึ่งมีคุณสมบัติละลายในไขมันได้ดี ผ่านลงไปในชั้นผิวหนังได้มาก


BHA ออกฤทธิ์โดยไปทำให้เคราตินที่แข็งนุ่มลง ทำให้ผิวที่แห้งเป็นขุยหลุดออกง่ายและลดการอักเสบของสิว


BHA ช่วยให้การหลุดลอกของเซลล์เยื่อบุในรูขุมขนช้าลง ป้องกันการอุดตัน และช่วยสลายสิวอุดตันทั้งชนิดปลายเปิดและปลายปิด(สิวเสี้ยนชนิดหัวดำและหัวขาว) รวมทั้งลดการอักเสบของสิวอักเสบ


บีเอชเอจะมีฤทธิ์ทำให้ผิวหนังชั้นหนังกำพร้าผลัดตัวเร็วขึ้นดีกว่าเอเอชเอ ซึ่งมีคุณสมบัติละลายในน้ำได้ดี ซึมผ่านลงไปในชั้นผิวหนังได้น้อย


ว่านหางจระเข้(Aloe Vera)มีสารประกอบ BHA ตามธรรมชาติ คนที่เป็นสิวหรือมีรอยดำ จะเห็นผลค่อนข้างชัดเจนหากใช้ว่านหางจระเข้อย่างเนื่องสม่ำเสมอ


ผลข้างเคียงส่วนใหญ่มีอาการคันยิบๆบริเวณที่ทา ควรใช้ในความเข้มข้นที่ค่อนข้างต่ำ

ด้วยเหตุนี้จึงไม่เหมาะกับคนที่มีผิวแห้งเป็นทุนเดิม


ข้อควรระวัง ไม่ควรใช้ BHA ร่วมกับยาทาสิวพวก Benzyl Peroxide, Retinoid ,โฟมที่มีเม็ดบีทส์


4.อาร์บูติน(Arbutin)มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Hydroquinone-beta-D-glucoside ทำหน้าที่เป็นตัวกระตุ้นเซลล์ผิวให้ยับยั้งการผลิตเม็ดสีเมลานิน ซึ่งเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้ผิวหมองคล้ำหรือเกิดจุดด่างดำ อีกทั้งยังทำหน้าที่ในการยับยั้งเอ็นไซม์ Tyrosine และ DOPA ในกระบวนการออกซิเดชัน(Oxidation)หรือการสร้างอนุมูลอิสระซึ่งจะส่งผลเสียหลายประการต่อผิวพรรณ


ดังนั้นการใช้อาร์บูตินจึงช่วยให้รอยด่างดำจางหายลงไป ผิวเรียบเนียนแลดูกระจ่างใสขึ้น


อาร์บูตินยังเป็นสารที่ได้มาจากธรรมชาติ 100% โดยส่วนใหญ่จะสกัดมาจากส่วนต่างๆของพืชหลายชนิด ส่วนมากมักเป็นพืชที่พบในเมืองหนาว เช่น ยุโรป อเมริกาเหนือ และแคนาดา โดยเฉพาะประเทศสวิตเซอร์แลนด์ที่เชื่อว่าเป็นแหล่งของอาร์บูตินที่ดีที่สุดในโลก ผลไม้ที่มีอาร์บูติน เช่น แบเบอร์รี่ (Bearberry), บลูเบอร์รี่, แครนเบอร์รี่, มัลเบอร์รี่, ลูกแพร์ เป็นต้น


เหมาะสำหรับทุกสภาพผิว(ยกเว้นผู้ที่มีผิวแห้ง) โดยเฉพาะผู้ที่มีปัญหาผิวหมองคล้ำ


5.การใช้เลเซอร์ (Laser)เป็นวิธีที่ลดรอยดำได้อย่างรวดเร็ว ไม่ต้องเสียเวลาทายาลดรอยดำนานแรมเดือน


5.1 Q-Switch Laser เป็นเลเซอร์ในกลุ่มที่ใช้รักษา ฝ้า กระ ปาน ลบรอยแผลเป็นและรอยสัก ซึ่งให้ผลประสิทธิภาพดีกว่า IPL


หลักการคือ เป็นการปล่อยพลังงานแสงออกมาเพื่อทำให้เซลล์เม็ดสีแตกตัว หลังจากนั้นเม็ดเลือดขาวจะดูดซึมหรือย่อยสลายเม็ดสีที่ผิดปกติ และจะถูกกำจัดโดยการขับเป็นของเสียออกจากร่างกายโดยไม่เกิดผลข้างเคียงใดๆ ปกติต้องทำเลเซอร์ประมาณ4- 5 ครั้ง


ขอเล่าประสบการณ์ส่วนตัวนิดนึง ช่วงอายุประมาณ 42 ปี ได้ไปลองทำเลเซอร์ Q-Switch 1 ครั้งเพื่อรักษารอยดำจากสิว ราคา~2500 บาทต่อครั้ง ทำแค่ครั้งเดียว


แป้งมีสิวอุดตันขึ้นบริเวณแก้ม 1 จุด พอสิวยุบลงเหลือรอยดำขนาดเม็ดถั่วเกิดขึ้น พอดีพาเพื่อนไปฉีดสิวที่คลินิก เห็นมีโปรโมชั่นเลเซอร์ Q-Switch เลยลองทำดู ปรากฎว่า รอยดำจางหายไปภายใน 1 สัปดาห์ ซึ่งค่อนข้างแปลกใจเพราะเครื่องเลเซอร์ที่ใช้ในคลีนิกนำเข้ามาจากเกาหลี ไม่ได้ผลิตในยุโรปหรืออเมริกา


สอบถามคุณหมอได้ความว่า หากรอยดำเกิดขึ้นมาไม่นาน(ไม่เกิน 1 เดือน)ประสิทธิภาพของเครื่องเลเซอร์ที่ผลิตในเกาหลีจะทำให้รอยดำจางเลือนหายไปราวกับว่า บริเวณผิวตรงนั้นไม่เคยเกิดการอักเสบจากสิวมาก่อน แต่หากเป็นรอยดำที่เกิดขึ้นมานานหลายเดือน จะแทบไม่เกิดผลอะไรเลย

ซึ่งรอยดำจะจางลงนิดเดียวถึงแม้จะทำ 5 ครั้งก็ตาม ยกเว้นเครื่องเลเซอร์ที่ผลิตในยุโรป จะเห็นผลชัดเจน(ขึ้นอยู่กับการประเมินผิวพรรณและการตั้งค่าพลังงานของเครื่อง หมอที่ไม่ได้จบเฉพาะทางด้านผิวหนัง มักจะตั้งค่าพลังงานค่อนข้างต่ำ พอยิงเลเซอร์แล้วเม็ดสีไม่กระจาย แต่ถ้าตั้งค่าพลังงานสูงไป หน้าคนไข้จะเป็นรอยดำ เรียกว่า Post Inflammatory Hyperpigmentation หรือ PIH(เกิดขึ้นหลังจากที่ผิวเกิดการอักเสบหรือได้รับบาดเจ็บ ซึ่งจะกระตุ้นให้เซลล์สร้างเม็ดสี ผลิตเม็ดสีที่เพิ่มขึ้น)


น.พ.จิโรจ สินธวานนท์ รองอธิบดีกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข เคยให้สัมภาษณ์ว่า ปัจจุบันแพทย์ที่ทำงานยังไม่ครบ 1 ปี มักจะถูกซื้อตัวจากคลินิกความงาม โดยที่แพทย์คนนั้นไม่มีความรู้เรื่องผิวหนัง เพียงแต่ทำยอดให้ได้ตามสั่ง ซ้ำยังไม่มีความรู้จริงในการแก้ไขโรค เช่น เมื่อพบความผิดปกติบนใบหน้าก็วินิจฉัยว่าเป็นสิวหรือฝ้าไปหมด


5.2 Dual Yellow เป็นเครื่องเลเซอร์ของบริษัท Norseld จากประเทศออสเตรเลีย ซึ่งเป็นบริษัทเดียวที่สามารถผลิตเลเซอร์ชนิดนี้


Dual Yellow Laser มีแหล่งกำเนิดพลังงานเลเซอร์ คือ สาร Copper และ Bromide ทำให้แสงเลเซอร์ที่เครื่องผลิตออกมามี


2 ชนิดด้วยกัน คือ แสงสีเหลือง ความยาวคลื่น 578 นาโนเมตร และแสงสีเขียว ความยาวคลื่น 511 นาโนเมตร


เมื่อมองในแง่ของ Chromophore absorption พบว่า แสงสีเหลืองสามารถถูกดูดซับได้ดีใน Oxyheamoglobin จึงเหมาะสำหรับการรักษารอยโรคต่างๆที่มีสีแดง ได้แก่ เส้นเลือดผิดปกติ ปานแดง รอยแผลเป็นสีแดง เป็นต้น


ส่วนแสงสีเขียวจะถูกดูดซับได้ดีใน Melanin จึงใช้สำหรับรักษารอยโรคที่เกิดจากความผิดปกติของเม็ดสี ได้แก่ รอยแผลเป็นสีดำ กระ หรือรอยดำที่เกิดขึ้นภายหลังการอักเสบของผิวหนัง (Post Inflammatory Hyper-pigmentation) เป็นต้น


นอกจากนี้เครื่อง Dual Yellow Laser new version ยังมี Y10G mode ที่เกิดจากการผสมแสงเลเซอร์ทั้ง 2 ความยาวคลื่นออกมาในสัดส่วน แสงสีเหลือง 100% ร่วมกับแสงสีเขียวอีก 10% เพื่อใช้สำหรับรักษาฝ้าและ Rejuvenation ให้ใบหน้าขาวใสยิ่งขึ้น


Dual Yellow Laser เหมาะกับการรักษารอยแดงและเส้นเลือด เช่น รอยสิว ไฝแดง ปานแดง เส้นเลือดฝอย กระ ฝ้า ปานดำ รอยแผลเป็นสีดำต่างๆ


คลีนิกหลายๆแห่งที่มีค่าคอร์สราคาถูก ส่วนใหญ่มักจะให้พยาบาลหรือผู้ช่วยพยาบาลที่ได้รับการฝึกมา เป็นคนยิงเลเซอร์ให้ลูกค้า ซึ่งเป็นค่าพลังงานกลางๆที่แพทย์เป็นคนตั้งค่าไว้


แต่ในความเป็นจริง ปัญหาผิวและสุขภาพผิวของคนไข้มีหลากหลายแบบ บางคนทายารักษาสิวจนหน้าแห้งหน้าบางขาดความชุ่มชื้นเหลือเพียงรอยดำทิ้งไว้ พอทำเลเซอร์ที่ตั้งค่าพลังงานไม่เหมาะสมกับปัญหาผิว จึงไม่เห็นผล แถมได้รอยดำเพิ่มขึ้นมาอีกต่างหาก

 


มีน้องชายเพื่อนร่วมรุ่นคนหนึ่ง อยากให้ตัวเองหน้าใสตลอดทั้งปี ตัดสินใจทำเลเซอร์Q-Switch เดือนละ 2 ครั้ง ผลที่ได้คือ หน้าใสโดดเด้ง แต่พอทำไปเรื่อยๆจนครบปีเศษ ผิวบริเวณแก้มสองข้างเกิดด่างขาวถาวรเนื่องจากเม็ดสีในผิวหนังหรือเมลานินมีปริมาณลดลง ซึ่งเป็นผลจากการที่เซลล์เม็ดสีในผิวหนังถูกทำลายไปมาก หรือบางครั้งเซลล์เม็ดสีไม่ได้ถูกทำลายไปหมด แต่มีจำนวนลดลงหรือทำงานผิดปกติไป ทำให้ไม่สามารถสร้างเม็ดสีได้ในปริมาณที่เหมาะสม


ก่อนตัดสินใจจะไปทำเลเซอร์อะไรก็ตาม ควรพิจารณาศึกษาข้อมูลให้รอบคอบอย่างถี่ถ้วนเพราะเราจ่ายเงินเพื่อซื้อความสวยเพียงอย่างเดียว ไม่มีใครอยากได้ความเสียหายที่เกิดขึ้นกับผิวหลังทำแถมมาด้วย กรณีเช่นนี้ไม่ค่อยมีคลีนิกที่ไหนรับผิดชอบหรอกคะ



ที่มา

ww w . bangkokpattayahospital. c om › ...ผลการค้นเว็บDual Yellow - Bangkok Hospital Pattaya

ตาย... จากยาฝ้า? - บทความสุขภาพ โดยมูลนิธิหมอชาวบ้าน

ww w .doctor. or. th › detailAHA และ BHA ขาวเนียนสดใส จริงหรือ? - บทความสุขภาพ โดยมูลนิธิหมอชาวบ้าน

ww w . tcijthai. c om › scoopธุรกิจ'คลินิกความงาม'แม่เหล็กดูดหมอ ช่องโหว่ทำแพทย์สาขาจำเป็นขาดแคลน - ศูนย์ข้อมูล&ข่าวสืบสวนเพื่อสิทธิพลเมือง (TCIJ)




Create Date : 25 พฤษภาคม 2563
Last Update : 25 พฤษภาคม 2563 23:54:41 น.
Counter : 1070 Pageviews.

0 comments

แป้งปังปอนด์
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 878 คน [?]



เริ่มเขียนblog 20ก.ค55
ปัจจุบัน ( 3 มี.ค 57 ) แป้งได้มีเพจแป้งปังปอนด์ สร้างขึ้นเพื่อจุดประสงค์แชร์ข้อมูลจาก blog ให้ท่านที่สนใจได้ติดตามอ่านอย่างสะดวกและรวดเร็ว ไม่ต้องเสียเวลาโหลดเนื้อหาจาก blog ดังนั้นขออนุญาตงดตอบคำถามใดๆทางเพจและ facebook ค่ะ






หากท่านใดมีคำถามเกี่ยวกับการกินวิตามินเพื่อแก้ไขปัญหาสุขภาพและบำรุงผิวพรรณ รบกวนส่งคำถามไปยัง blog แป้งปังปอนด์ นานาสารพันปัญหา volume 5 อย่างเดียวเท่านั้นค่ะ


ขออนุญาตฝากกด like เพจแป้งปังปอนด์ เพื่อเป็นกำลังใจในการสรรค์สร้างผลงานด้วยมันสมองและสองมือพยาบาลสาวภูไท คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น จบการศึกษา ปี พ.ศ 2539 จากที่ราบสูงคนนี้ด้วยนะคะ


สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ 2539 ห้ามผู้ใดละเมิด ไม่ว่าการนำชื่อ " แป้งปังปอนด์ " ไปใช้เพื่ออ้างอิงหรือติดป้ายสินค้าในเวปไซด์หรือที่ใดๆหรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดของข้อความใน " Blog แป้งปังปอนด์ " แห่งนี้ไปใช้ ทั้งโดยการเผยแพร่เพื่อการอ้างอิงหรือนำรูปภาพไปโดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร จะถูกดำเนินคดีตามที่กฎหมายบัญญัติไว้สูงสุด




New Comments
MY VIP Friend