มกราคม 2567

 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
 
 
All Blog
รีวิวสุขภาพย้อนหลังในปี 2566 ที่ผ่านมา
เดือน ก.พ 66 แป้งกลับบ้านต่างจังหวัด มีเวลาว่างจึงไปนวดแผนไทยสังกัดโรงพยาบาลสกลนคร ซึ่งปกติไม่เคยนวดแบบนี้ ผลคือ เจ็บไหล่ซ้ายเรื้อรังนาน 2 เดือน กินยาคลายกล้ามเนื้อ norgesic ก็รู้สึกดีขึ้นช่วงที่กินยา พอหยุดกินก็เจ็บไหล่เหมือนเดิม กินยาอยู่ 2 วันเลยเลิกกินดีกว่าเพราะรู้สึกว่า มีผลข้างเคียงจากยาคือ ง่วงนอน ปากแห้งและตาแห้ง

ยิ่งทวีความเจ็บปวดมากขึ้นเวลาที่ออกแรงขัดหม้อ+กะทะสแตนเลส ใช้วิธีนวดยาเคาน์เตอร์เพน+ทายาแอมเม็ลทซ์ โยโกะ โยโกะเป็รระยะๆ(ยาตัวนี้ผลิตในญี่ปุ่น ดีนะคะ ไม่ต้องนวด แค่กลิ้งให้น้ำยาไหลออกมาบริเวณที่รู้สึกปวด หากอาการปวดไม่มาก วันรุ่งขึ้นหายคะ)

เดือนพ.ค 66 ดูเหมือนว่า อาการปวดไหล่ซ้ายเรื้อรังจะดีขึ้น จนเกือบหายสนิท แต่เวลาที่นั่งพิงหัวเตียงราว 1 ชม.ก่อนนอนเพื่อท่องโลกอินเตอร์เน็ต จะรู้สึกตึงๆที่ไหล่ซ้ายนิดๆ ก็ทายาวนไป ตื่นเช้ามาอาการตึงหายไป สาบานว่า จะไม่เฉียดนวดแผนไทยอีกแล้ว 
เคยเล่าให้เพื่อนสนิทที่ชื่นชอบออกกำลังกายเป็นทุนเดิม จนมีกล้ามแขนนิดๆเพื่อนบอกว่า เค้านวดแผนไทยเป็นประจำ รู้สึกดีเบาสบาย คลายเมื่อยล้า แต่แป้งผู้ซึ่งแทบไม่ออกกำลังกายตั้งแต่ช่วงโควิด พอมาเจอการกดกล้ามเนื้อแรงๆ เลยเกิดการบาดเจ็บเรื้อรัง

เดือนมิ.ย 66 เริ่มรู้สึกว่า เวลายืนทำกับข้าว+ล้างจาน+ล้าง
อุปกรณ์เบเกอรี่ร่วมชั่วโมง จะปวดร้าวเอวและปวดหลังมากขึ้น
ซึ่งอาการแบบนี้เป็นมาตลอด 3 ปีกว่าๆ แก้ไขโดยใส่รองเท้ากีฬาเพื่อซัพพอร์ตเท้า ซึ่งจะช่วยได้เยอะกว่าใส่รองเท้าสลิปเปอร์คะ

เดือนก.ค 66 แป้งเริ่มคิดว่า การยืนนานๆทำให้ปวดเมื่อยหลัง นี่คืออาการปกติของผู้หญิงวัย 50 ปีมั๊ยนะ ความจริงร่างกายแป้งมีพลังงานเยอะมาก สามารถทำงานบ้านติดต่อกันโดยไม่ต้องนั่งพักราว 15 นาทีทุกชั่วโมงเหมือนในอดีต แต่ทำไมยังรู้สึกปวดเมื่อยบั้นเอวอยู่

อืม!! กล้ามเนื้อเราคงไม่แข็งแรงเพราะขาดการออกกำลังกายสม่ำเสมอ แต่ระบบการไหลเวียนเลือดทั่วร่างกายจัดว่าดีเยี่ยม(ไม่เหนื่อยง่าย ซึ่งคนละเรื่องกับการปวดหลังเวลายืนท่าเดิมนานๆ)ซึ่งเป็นผลจากการกินวิตามินต่อเนื่องมาตลอด 10 ปี

เดือนส.ค 66 เริ่มเข้าฟิตเนสเพื่อออกกำลังกายจริงจังเพราะอยากมีกล้ามเนื้อสะโพกและต้นขาที่แข็งแรง โดยการถีบจักรยานตามด้วยเล่นเครื่อง leg press+ Lat pull down  เล่นอยู่ 4 เดือน เปลี่ยนไปเดินลู่วิ่ง+เล่น stepper machine ได้ 3 สัปดาห์ ซึ่งเครื่องเล่นอันสุดท้ายร่างกายเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัดเจน กล่าวคือ ยืนเตรียมทำกับข้าว ทำงานครัวร่วมชม.โดยไม่ต้องใส่รองเท้ากีฬาเพื่อซัพพอร์ตเท้า ใส่แค่รองเท้าสลิปเปอร์ก็ไม่รู้สึกปวดหลังเหมือนที่ผ่านๆมา อ๊ะ!!กล้ามเนื้อขาแข็งแรงเป็นแบบนี้นี่เอง

ตอนที่เล่นฟิตเนส แป้งจะเจอน้องผู้ชายมีกล้ามนิดๆ เล่นน้ำหนักที เป็น 100 กิโล แต่สิ่งหนึ่งที่ไม่ต้องหันไปมองก็รู้ว่า น้องมาเล่นคือ เสียงหายใจครืดคราด จุดนี้ไม่แน่ใจว่า เป็นภูมิแพ้ กรดไหลย้อนหรือเป็นผลข้างเคียงจากการดื่มเวย์

มีน้องผู้หญิงร่างบาง อายุน่าจะ 40 นิดๆ แป้งเจอทีไร จะได้ยินเสียงหายใจเหนื่อยหอบนำมาก่อน(น้องเข้าห้องฟิตเนสก่อนแป้งราว 1 ชม.) ช่วงที่เล่นเครื่อง Lat pull down เสร็จ(น้ำหนัก 20 กิโล) เสียงหอบชัดเจน ซึ่งต่างจากแป้งที่เป็นโรคโลหิตจาง+พาหะธาลัสซีเมียโดยกำเนิด เล่นเครื่องเดียวกัน น้ำหนัก 30 กิโล ไม่มีอาการเหนื่อยหอบสักนิด เรียกได้ว่าความเหนื่อยอยู่หนใด สิ่งนี้เป็นผลจากการกินวิตามินเพิ่มพลังงานก่อนออกกำลังกาย

เมื่อก่อนเวลาที่เรานั่งพับเพียบเพื่อทำกิจกรรมบางอย่าง เช่น นั่งปอกเปลือกผักคะน้านั่นนี่ราวครึ่งชม.พอลุกขึ้นต้องร้องโอ๊ย!ด้วยความเจ็บปวดเพราะเหน็บชากินตลอด ยังเคยคิดว่า เราเริ่มแก่ชราแล้วจริงๆ แต่พอเล่นเครื่อง Stepper Machine level 2 speed 10 เป็นเวลา 45 นาทีต่อวัน ระยะทาง 7.5 กม.นั่งบนพื้นนานนับชั่วโมง พอลุกขึ้นยืน กลับไม่รู้สึกโอดโอยหรือเป็นเหน็บชาเลยคะ
 
การออกกำลังกายช่วยเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อเฉพาะส่วน
นี่ดีชะมัด เพิ่งเล่นเครื่องเล่น Stepper Machine ได้เพียง 3 สัปดาห์ แต่เล่นเครื่อง Leg Press Machine น้ำหนัก 30 กิโล ครั้งละ 15 นาทีx2 นาน 4 เดือน ยังไม่ค่อยเห็นความแตกต่างอะไรเลยคะ

ปกติวันเสาร์-อาทิตย์ แป้งจะต้องนอนกลางวันมาตั้งแต่สมัยสาวๆ ไม่เคยมีสัปดาห์ไหนที่จะไม่นอนกลางวัน ตั้งแต่กินวิตามิน +ออกกำลังกาย กลายเป็นไม่ง่วงหงาวหาวนอนอีกต่อไป เปลี่ยนเวลานอนกลางวันมาออกกำลังกายแทน ถือว่าใช้เวลาคุ้มค่าเลยทีเดียว

มัดรวมสุขภาพของแป้ง แข็งแรงขึ้นกว่าเดิมสวนทางกับอายุที่เพิ่มขึ้นดังต่อไปนี้

1.ประจำเดือนยังมาเยอะในวันที่ 2 และหมดไปภายใน 7 วัน รอบประจำเดือนอยู่ที่ 21 วันคงเดิม(วงจรประจำเดือนของผู้หญิงประมาณ 21-28 วัน)
2.สายตาปกติ อ่านหนังสือ+ดูโซเซียลเน็ตเวิร์กไม่ต้องใส่แว่น
3.มีพลังงานเยอะ ไม่เหนื่อยง่าย
แป้งเคยทดลองไม่กินวิตามินสักเม็ดใน 1 วัน ผลปรากฏว่า หลังมื้ออาหารเช้า ซึ่งกินลูกเดือยต้ม 200 กรัม+น้ำนมอัลมอนด์+งาดำ(ทำเอง)ใส่อัลมอนด์สไลด์ เมื่อเวลา 30 นาทีผ่านไป แป้งรู้สึกง่วงมากๆ อยากจะล้มตัวลงนอน แต่ทำไม่ได้เพราะเพิ่งกินอิ่มใหม่ๆ พอครบ 1 ชม.นอนดีกว่า

พอกินมื้อเที่ยง เวลาผ่านไป 1 ชม.เริ่มง่วง แป้งก็นอนกลางวันอีก 1 ชม.สบายใจ คนที่ไร้พลังงานจะไม่กระฉับกระเฉง มีอาการง่วงเหงาหาวนอนแทบตลอดเวลาเป็นแบบนี้เอง 

4.ผมหงอกคงเดิม ~100 เส้น  ไม่ย้อมผมแต่ใช้วิธีย้อมเฮนน่าแทน 
5.กรดไหลย้อนดีขึ้นจากการออกกำลังกาย 

6.ผิวกายยังคงมีความนุ่มเนียน ไม่มีจุดกระขาวบริเวณแขนขาและไม่แห้งกร้านไปตามวัยที่ล่วงเลย สิ่งนี้เป็นผลจากการกินวิตามินสม่ำเสมอ ถ้าไม่ได้กินวิตามินผิวบอกเลยว่า ผิวหน้าและผิวกายจะแห้งหยาบกร้าน(หากเราไม่ได้มีปัญหาผิวชัดเจน การกินวิตามินจะไม่เห็นความแตกต่างเท่าไหร่นัก แต่พอเกิดปัญหาเกี่ยวกับสภาพผิว การกินวิตามินคุณภาพสูง จะเห็นผลชัดเจนจนสังเกตได้)

7.ผิวหน้าจากผิวมันในอดีตกลายเป็นผิวผสม เวลาลงรองพื้นตามด้วยแป้งฝุ่น หน้าจะเนียนกริบแลดูผุดผ่อง ยกเว้นคืนไหนนอนดึกตี2-3 หน้าจะไม่เด้ง แววตาอิดโรยไม่สดใส

8.อาการภูมิแพ้ลดลงจนแทบไม่มีเลย ถึงแม้จะนอนดึกก็ตาม อันนี้เป็นผลจากการออกกำลังกาย

9.เวลาเกิดบาดแผล เช่น มีดทำครัวบาดมือไม่ลึกมาก แต่มีเลือดซึม แผลจะเริ่มสมานและหายภายใน 2-3 วัน อย่างโดนมีดบาดที่นิ้วมือตอนเย็น รุ่งเช้าแผลเริ่มปิด เวลาโดนน้ำจะไม่แสบมือ ไม่มีร่องรอยแผลเป็นหลังเกิดบาดแผลตั้งแต่เริ่มกินวิตามินเมื่อ 10 ปีที่แล้ว
ซึ่งก่อนหน้านั้นช่วงอายุ 20 กว่าปี หกล้มที จะมีรอยแผลเป็นเห็นชัดเจนบริเวณหัวเข่า สิ่งนี้เกิดจากการกินวิตามิน

10.ในช่วง 3 สัปดาห์ที่ผ่านมา สังเกตว่าเส้นผมที่ร่วงลงพื้น(เวลาสระผม จะมีผมร่วงราว 20 เส้น) มีขนาดเส้นเล็กและบางลง เมื่อก่อนจะปนเส้นหนาอย่างเยอะ คาดว่า เกิดจากการออกกำลังกายค่อนข้างหนักสำหรับคนที่มีภาวะโลหิตจางและพาหะธาลัสซีเมียแล้วกินโปรตีนไม่เพียงพอ ส่งผลให้เส้นผมมีขนาดเล็กลง อาจจะต้องพิจารณาดื่มเวย์เพิ่มเพราะไม่สามารถกินเนื้อสัตว์วันละ 50-100 กรัมเพียงพอ

11.นอนหลับสนิทในทุกคืนที่กินอิ่มและไม่ตื่นกลางดึก แม้จะลุกมาเข้าห้องน้ำ พอหัวถึงหมอนก็หลับต่อได้สบาย แถมหลับสนิทไม่ฝันอะไรทั้งสิ้น นานๆครั้งถึงจะฝัน แต่จะจดจำความฝันไม่ได้ จำได้แค่เลือนลาง ไม่ปะติดปะต่อ ซึ่งแม่แป้งอายุ 72 ปีก็เป็นแบบนี้ แกเลยบ่นประจำว่า ไม่เคยฝันถึงเลขที่จะออกในแต่ละงวด สิ่งนี้เป็นผลจากการกินวิตามินก่อนนอน 

แป้งเคยลองงดวิตามินก่อนนอน ปรากฏว่า ตื่นกลางดึกแล้วนอนต่อไม่ได้เลย ตาหลับแต่ใจไม่หลับ คุณพระ!!

12.ไม่มีโรคที่ต้องรักษาด้วยการกินยาแผนปัจจุบันแม้เพียงโรคเดียว เคยมีน้องผู้หญิงอีกคนที่เจอในฟิตเนส อายุน่าจะ 45 กว่าปี ถามแป้งว่า พี่เป็นความดันโลหิตสูงหรือเปล่า น้องบอกว่า กลุ่มแม่ๆผู้ปกครองที่อายุ 50 ปี เป็นความดันโลหิตสูงทุกคน(โรคไขมันในเลือดสูงและความดันโลหิตสูงมักมาพร้อมกับวัยหมดประจำเดือน)

ส่วนเพื่อนรุ่นเดียวกันกับแป้ง พากันเป็นโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง ต้องรักษาด้วยการกินยาต่อเนื่องเรียบร้อย แต่เพื่อนหลายคนที่ออกกำลังกายสม่ำเสมอก็ไม่เป็นโรคเหล่านี้เช่นกัน

ช่วงนี้แป้งมักได้ยินข่าวคนรู้จักเป็นมะเร็งกันเยอะขึ้น ล่าสุดน้องที่ทำงานเก่าอายุ 50 ปี เป็นมะเร็งเต้านมระยะที่ 1 แผนการรักษาคือ ตัดเต้านม ฉีดยามุ่งเป้าเดือนละ 1 เข็ม จำนวน 18 เข็ม ราคาเข็มละ 15,000 บาทและเคมีบำบัด 5 คอร์ส ส่วนน้องอีกคนอายุ 43 ปีเพิ่งเสียชีวิตจากมะเร็งเต้านม หลังพบกับความเจ็บปวด ทนทุกข์ทรมานผ่านการรักษาโรคเป็นระยะเวลา 3 ปี 

คนที่มีภูมิต้านทานสูง  จะไม่เจ็บป่วยหรือติดเชื้อง่าย  สิ่งที่เพิ่มภูมิคุ้มกันมีหลายอย่าง แต่สิ่งที่ทำให้ภูมิคุ้มกันลดฮวบคือความเครียด สุขภาพดีไม่มีขาย อยากได้ต้องมีวินัยในการดูแลตัวเองนะคะ














 



Create Date : 31 มกราคม 2567
Last Update : 31 มกราคม 2567 18:46:45 น.
Counter : 169 Pageviews.

0 comments
(โหวต blog นี้) 

แป้งปังปอนด์
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 878 คน [?]



เริ่มเขียนblog 20ก.ค55
ปัจจุบัน ( 3 มี.ค 57 ) แป้งได้มีเพจแป้งปังปอนด์ สร้างขึ้นเพื่อจุดประสงค์แชร์ข้อมูลจาก blog ให้ท่านที่สนใจได้ติดตามอ่านอย่างสะดวกและรวดเร็ว ไม่ต้องเสียเวลาโหลดเนื้อหาจาก blog ดังนั้นขออนุญาตงดตอบคำถามใดๆทางเพจและ facebook ค่ะ






หากท่านใดมีคำถามเกี่ยวกับการกินวิตามินเพื่อแก้ไขปัญหาสุขภาพและบำรุงผิวพรรณ รบกวนส่งคำถามไปยัง blog แป้งปังปอนด์ นานาสารพันปัญหา volume 5 อย่างเดียวเท่านั้นค่ะ


ขออนุญาตฝากกด like เพจแป้งปังปอนด์ เพื่อเป็นกำลังใจในการสรรค์สร้างผลงานด้วยมันสมองและสองมือพยาบาลสาวภูไท คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น จบการศึกษา ปี พ.ศ 2539 จากที่ราบสูงคนนี้ด้วยนะคะ


สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ 2539 ห้ามผู้ใดละเมิด ไม่ว่าการนำชื่อ " แป้งปังปอนด์ " ไปใช้เพื่ออ้างอิงหรือติดป้ายสินค้าในเวปไซด์หรือที่ใดๆหรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดของข้อความใน " Blog แป้งปังปอนด์ " แห่งนี้ไปใช้ ทั้งโดยการเผยแพร่เพื่อการอ้างอิงหรือนำรูปภาพไปโดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร จะถูกดำเนินคดีตามที่กฎหมายบัญญัติไว้สูงสุด




New Comments
MY VIP Friend