Group Blog
All Blog
|
ลูกเดือย อาหารบำบัดจากธรรมชาติกับผลลัพธ์ที่น่าทึ่ง ลูกเดือย(Job's Tears)มีต้นกำเนิดมาจากอินเดีย ปัจจุบันขยายไปยังภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เช่น จีน ญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์ พม่า และไทย ลูกเดือยมีฤทธิ์เย็น ในประเทศจีนใช้ลูกเดือยเป็นยาแผนโบราณและอาหารเสริมทางการแพทย์ มีสรรพคุณช่วยลดการสะสมของไขมันในตับ ลดการสร้างสารกระตุ้นที่ทำให้เกิดเนื้องอก ป้องกันการติดเชื้อไวรัส ลดอาการแพ้ ลดการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ โรคหลอดเลือดแดงแข็ง และภาวะกระดูกพรุน ลูกเดือยถูกนำมาใช้เป็นยาพื้นบ้านเป็นเวลาหลายร้อยปี ใช้รักษาตั้งแต่โรคข้ออักเสบไปจนถึงไข้ทรพิษ งานวิจัยเกี่ยวกับลูกเดือยยังคงเป็นเพียงการศึกษาระดับเซลล์ในห้องปฏิบัติการของประเทศจีนและเกาหลี มีประโยชน์อย่างไร 1. บรรเทาโรคภูมิแพ้ โรคภูมิแพ้ผิวหนังหรือเรียกว่า โรคผิวหนังอักเสบ สาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากปัจจัยภายในร่างกาย มีงานวิจัยที่ตีพิมพ์ใน “Journal of Agricultural and Food Chemistry” ในเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2546 พบว่า สารสกัดจากลูกเดือยช่วยยับยั้งอาการแพ้ในหนูทดลองและสามารถเพิ่มระบบภูมิคุ้มกันได้ 2. ลดคอเลสเตอรอล หนูที่เป็นเบาหวานได้รับอาหารอย่างลูกเดือยและอาหารที่มีคอเลสเตอรอลสูงเป็นเวลา 4 สัปดาห์ในงานวิจัยที่ตีพิมพ์“International Journal for Vitamin and Nutrition Research” ในเดือนกันยายน 2549 เมื่อเปรียบเทียบกับกลุ่มควบคุม หนูที่กินลูกเดือยมีปริมาณคอเลสเตอรอลรวมและไลโปโปรตีนความหนาแน่นต่ำหรือ LDL ที่เป็นอันตรายลดลงอย่างมาก 3. ป้องกันและรักษาโรคมะเร็ง ทีมวิจัยจำนวนหนึ่งในจีนได้วิเคราะห์ผลกระทบของลูกเดือยต่อมะเร็งลำไส้ ตับอ่อน ปอด ตับ เต้านม และมะเร็งเม็ดเลือดขาว พร้อมกับผลลัพธ์ดังนี้ งานวิจัยชิ้นหนึ่งที่ตีพิมพ์ใน “Journal of Ethnopharmacology” ในเดือนกันยายน 2551 พบว่า สารสกัดจากลูกเดือยอุดมไปด้วยสารคอกซีโนไลด์ (Coxenolide) ที่ช่วยยับยั้งการเกิดเนื้องอก และสามารถยับยั้งกิจกรรมการสังเคราะห์กรดไขมันในตับได้อย่างมาก เนื่องจากเซลล์มะเร็งของมนุษย์ประกอบด้วยการสังเคราะห์กรดไขมันในระดับที่สูงขึ้น ซึ่งจัดเป็นองค์ประกอบที่เกี่ยวข้องกับการเจริญเติบโตของเซลล์เนื้องอกที่มีความรุนแรง 4. บรรเทาความผิดปกติของต่อมไร้ท่อ สารสกัดจากลูกเดือยถูกนำมาใช้เพื่อจัดการกับความผิดปกติของต่อมไร้ท่อ เนื่องจากความสามารถในการลดระดับฮอร์โมนเพศ เช่น โปรเจสเตอโรนและเทสโทสเตอโรน ใน “Journal of Traditional Chinese Medicine” ฉบับเดือนธันวาคม 2543 พบว่า สตรีมีอาการเจ็บปวดขณะมีประจำเดือนลดลง 90% ซึ่งเป็นผลลัพธ์ที่ มากกว่าเมื่อเทียบกับกลุ่มควบคุมที่รักษาด้วยยาตามใบสั่งแพทย์ 5. มีประโยชน์ต่อระบบทางเดินอาหาร ลูกเดือยอาจมีประโยชน์ในการป้องกันโรคระบบทางเดินอาหาร มีการศึกษาในเดือนมิถุนายน 2554 ใน "Journal of Agricultural and Food Chemistry" พบว่า ลูกเดือยสามารถยับยั้งเซลล์มะเร็งกระเพาะอาหารในหลอดทดลอง และลดแผลในกระเพาะอาหารของหนูทดลองได้อีกด้วย 6. ช่วยป้องกันโรคกระดูกพรุน การสำรวจที่ตีพิมพ์ในปี 2551 ใน “Asia Pacific Journal of Clinical Nutrition” พบว่า ลูกเดือยช่วยเพิ่มระดับตัวบ่งชี้ทางชีวภาพของโรคกระดูกพรุนจำนวนมากในเลือดของหนูทดลอง เมื่อเทียบกับกลุ่มควบคุม นักวิทยาศาสตร์คิดว่า สารสกัดจากลูกเดือยอาจช่วยรักษาโรคกระดูกพรุนในหนูทดลองได้ และยังเป็นอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพในการป้องกันโรคกระดูกพรุนอีกด้วย ในการแพทย์แผนจีน(TCM)ลูกเดือยเป็นธัญพืชที่ช่วยระบายความชื้น ถือเป็นยาขับปัสสาวะเนื่องจากสามารถกระตุ้นการขับปัสสาวะเพื่อขจัดความชื้นสะสมในร่างกาย ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการบวมน้ำ ปัสสาวะลำบาก การย่อยอาหารไม่ดี แน่นท้อง ท้องเสีย ท้องอืด และระบบทางเดินหายใจทำงานบกพร่อง 7.ช่วยบรรเทาโรคปวดข้อ ด้วยการขจัดความชื้น ผ่อนคลายกล้ามเนื้อ ลูกเดือยอาจช่วยบรรเทาโรคข้อต่างๆที่มีความเจ็บปวดและการหดเกร็งของเส้นเอ็น เช่น ข้ออักเสบรูมาตอยด์ 8.ลูกเดือยใช้สำหรับการลดน้ำหนัก โดยการกำจัดการกักเก็บน้ำซึ่งเป็นสาเหตุของการบวมน้ำ ลูกเดือยดิบ 100 กรัม ให้พลังงาน 380 แคลอรี่ แต่ลูกเดือยต้มสุก 100 กรัม ให้พลังงาน 123 แคลอรี่ เป็นคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน ซึ่งใช้เวลาในการย่อยนาน จึงไม่รู้สึกหิว ไม่ทำให้ระดับน้ำตาลพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็วเหมือนข้าวขาว ขนมปัง ลูกเดือยไม่มีกลูเต็น มีแคลอรี่ต่ำในขณะที่มีเส้นใยอาหารสูง ซึ่งดีต่อการควบคุมน้ำหนักและการลดความอ้วน โดยเส้นใยอาหารจะช่วยทำให้อยู่ท้อง อิ่มนานขึ้น และอาจช่วยลดลดน้ำหนักได้ จากการศึกษาในหนูทดลอง พบว่า สารสกัดจากลูกเดือยส่งผลให้น้ำหนักตัว มวลเนื้อเยื่อไขมัน และไขมันในเลือดลดต่ำลง ข้อควรระวังและผลข้างเคียงของลูกเดือย 1.ไม่ควรบริโภคลูกเดือยหากตั้งครรภ์ การวิจัยในสัตว์ทดลองแสดงให้เห็นว่า สามารถเป็นพิษต่อตัวอ่อนที่กำลังพัฒนาได้ นอกจากนี้ยังอาจทำให้มดลูกหดตัวและอาจเป็นอันตรายต่อการตั้งครรภ์ รวมถึงยังไม่มีข้อมูลด้านความปลอดภัยหากรับประทานลูกเดือยในช่วงที่ให้นมบุตร 2.ผู้ที่มีภาวะขาดน้ำ อาการขาดน้ำ ได้แก่ คอแห้ง ท้องผูก เหงื่อออกมาก ไม่ควรบริโภคลูกเดือย 3.ลูกเดือยช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด จึงควรงดรับประทานลูกเดือย หากรับประทานยารักษาโรคเบาหวาน 3.ลูกเดือยอาจรบกวนการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดระหว่างและหลังการผ่าตัด ควรหยุดบริโภคลูกเดือยอย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนการผ่าตัด ลูกเดือยเป็นธัญพืชที่สุกยาก จึงควรนำไปแช่ทิ้งไว้ข้ามคืนหรือกรณีเร่งรีบ สามารถน้ำอุ่นไว้ประมาณ 2-3 ชั่วโมง ลูกเดือยจะได้พองตัวและสุกง่ายขึ้น ปกติแป้งจะกินวิตามินซี(Ester-c) 1000 mg ครั้งละ 1 เม็ด หลังอาหารเช้า-เย็น พอทดลองกินลูกเดือยต้มสุก เลยงด Ester-c เป็นเวลา 2 เดือน โดยใส่ลูกเดือยต้ม~200 กรัมในนมอัลมอนด์ปั่น+งาดำ+แมงลัก(เมื่อก่อนจะดื่มนมถั่วเหลือง+งาดำ+แมงลัก แต่หาข้อมูลในอินเตอร์เน็ตพบว่า กระตุ้นให้เกิดกรดไหลย้อน จึงเลิกกินนมถั่วเหลืองทันที) สังเกตว่ามีการเปลี่ยนแปลงของร่างกายดังนี้ 1.ช่วงอายุ 47 ปี(ปัจจุบัน 49 ปี)เวลาอาบน้ำโดยใช้ฟองน้ำขัดถูตามร่างกาย บริเวณร่องอกจะมีรอยแดงเกิดขึ้นหลังอาบน้ำทุกคืน คาดว่าในอดีตแป้งชอบฉีดพรมน้ำหอมหลังใบหู ไล่มาช่วงหน้าอก ถึงแม้จะใช้น้ำหอมเคาน์เตอร์แบรนด์ แต่น้ำหอมมีส่วนผสมสำคัญคือ แอลกอฮอล์ ซึ่งมีผลทำให้ผิวบริเวณที่โดนแอลกอฮอล์แห้ง พออายุมากขึ้น แค่โดนฟองน้ำถูนิดเดียว รอยแดงจะเห็นชัดขึ้นทันที พยายามทามอยเจอร์ไรเซอร์สำหรับผิวแห้งหลายยี่ห้อ ก็ไม่เห็นผล จนมากินลูกเดือยแค่ 2 เดือน อ้าว!รอยแดงหายไปเลยคะ 2.วันหยุดสุดสัปดาห์ แป้งมักอบขนมเค้ก คุ้กกี้ ทาร์ตสับปะรด ฝากน้องๆลองชิมบ่อยครั้งเพราะสนใจคุณภาพของเนยนำเข้าจากหลากหลายประเทศว่า รสชาติ ความอร่อยและเทกเจอร์(Texture)ของขนมแตกต่างจากเนยไทยมากน้อยแค่ไหน เวลากลางวันอากาศร้อนจัด ไม่เหมาะที่จะทำขนมเบเกอรี่เพราะเนยจะละลายเหลวง่าย จึงต้องเริ่มอบขนมตอนกลางคืน การล้าง อุปกรณ์เบเกอรี่ซึ่งมีจำนวนมาก จะทำให้นอนดึกราวตี 1-2 ประจำ พอร่างกายพักผ่อนน้อย ภูมิแพ้กำเริบบ่อยครั้ง พอกินลูกเดือย อุ๊ย!! ภูมิแพ้ไม่กำเริบอีกเลยทั้งๆที่ไม่ได้กินวิตามินซีสักเม็ดเลยคะ 3.แป้งเริ่มกินลูกเดือยวันที่ 3 มี.ค 66 ปลายเดือนจะมีประจำเดือน สังเกตว่า ก่อนหน้าที่จะมีประจำเดือน 7 วัน ตัวจะบวม อิ่มน้ำ หน้าบาน น้ำหนักขึ้น ~2 โล ถ่ายรูปทีไรมีแก้มเหมือนคนอ้วนจ้ำม่ำทุกที เป็นแบบนี้มา 7-8 ปีแล้ว ล่าสุดคือ ช่วงวันที่ 25 พ.ค 66 ขณะที่กำลังเขียนบทความอยู่นี้ แป้งกำลังมีประจำเดือน ปรากฎว่า หน้าไม่บวม น้ำหนักไม่ขึ้นเหมือนเมื่อก่อน ใส่กางเกงยีนส์สลิมฟิตสบายๆ ไม่แน่นอึดอัด โห!ลูกเดือยนี่ดีจริงๆเลยคะ 4.สามีแป้งอายุ 55 ปี จะไม่สามารถถอดเสื้อตากพัดลมได้เพราะแค่ไม่กี่นาที จะจามเป็น 10+รอบ เป็นแบบนี้มาตั้งแต่เด็กๆ ตอนแรกแป้งคิดว่า เพราะใบพัดมีฝุ่นจับ เวลาหมุน ฝุ่นจะปลิวล่องลอยมาพร้อมกับความเย็นจากพัดลม พยายามถอดล้างใบพัดบ่อยครั้ง สามีก็ยังจามอยู่ดี ช่วงนี้อากาศร้อนมากๆ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา แป้งสังเกตเห็นว่า สามีถอดเสื้อนั่งตากพัดลมหน้าตาเฉย ไม่มีอาการไอจามอะไรทั้งสิ้น แป้ง : ทำไมพี่ไม่เห็นจามฮัดชิ้วเลยล่ะ สามี : น่าจะเป็นเพราะกินวิตามินที่แป้งจัดให้มั๊ง(สามีกิน Ester-c 1000 mg หลังอาหารเช้า-เย็นตามปกติ ไม่ได้งดเหมือนแป้งคะ) แป้ง : ไม่น่าจะใช่นะคะ พี่กินวิตามินมา 10+ ปี เห็นถอดเสื้อตากพัดลมทีไร จามทุกที น่าจะเป็นเพราะกินลูกเดือยนี่แหละที่ช่วยลดอาการภูมิแพ้ พี่เลยไม่จาม แค่ประโยชน์เพียง 3-4 อย่างที่เกิดขึ้นกับแป้ง ทำให้มุมมองสุขภาพอีกด้านเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง เคยมีคำกล่าวไว้ว่า “You are what you eat” กินอย่างไร ได้อย่างนั้น อาหารบำบัดสุขภาพจึงเปรียบได้กับยาอายุวัฒนะ อยู่ที่ว่าเราเลือกกินอะไร โรคต่างๆที่เกิดขึ้นในร่างกายมนุษย์ ส่วนใหญ่ล้วนเกิดจากการกินทั้งสิ้น โดยเฉพาะอาหารที่มีความเป็นกรดสูง พบว่า อาจจะเป็นต้นเหตุของการเกิดโรค เช่น โรคหัวใจและหลอดเลือดและโรคมะเร็ง เนื่องจากต้องอาศัยการเผาผลาญสารอาหารให้เป็นพลังงานในร่างกายและมีผลให้สมดุลกรด-ด่างเปลี่ยนแปลงไป จนทำให้เกิดอนุมูลอิสระจำนวนมาก นานวันเข้าจะก่อให้เกิดการอักเสบ โรคที่เกิดจากเชื้อไวรัส แบคทีเรียและจุลินทรีย์ทั้งหลายจะตามมา อย่าลืม!! COVID-19 เป็นอีกโรคที่เกิดจากเชื้อไวรัสนะคะ แค่เริ่มกินลูกเดือยไม่นานยังเห็นผลชัดเจนขนาดนี้ หากกินต่อเนื่อง การมีสุขภาพดี ไม่เจ็บไม่ป่วย ใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ให้ห่างโรงพยาบาล(รัฐ+ประกันสังคม)ไม่ต้องตื่นตี 5 เพื่อรอรับบัตรคิวและกลับบ้านตอนบ่ายสามโมง เรื่องแบบนี้ที่คนสูงอายุเจอ คนอายุน้อยอาจมองภาพไม่ออก แต่เมื่อไหร่ที่โรคภัยคุกคาม ลองมองหาอาหารบำบัดจากธรรมชาติอย่างลูกเดือย ที่ไม่ต้องลงทุนสูงดูนะคะ อาจจะเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนแบบแป้งและสามีก็ได้คะ หมายเหตุ อาหารที่มีฤทธิ์เป็นกรด ได้แก่ เนื้อสัตว์ เครื่องในสัตว์ แป้ง น้ำตาล นม เนย กาแฟ อาหารแปรรูป น้ำอัดลม อาหารฟาสต์ฟู้ดต่าง ๆ ส่วนอาหารที่มีฤทธิ์เป็นด่าง ได้แก่ ผักและผลไม้ ธัญพืชต่างๆ ที่มา : Job's tears Facts and Health Benefitshealthbenefitstimes . comhttps:// //www.. healthbenefitstimes . com › jo... The Health Benefits of Job's Tears - Livestrong . comlivestrong . comhttps:// //www.. livestrong . com › article › 51... Job's Tears (Yi Yi Ren) - All Things Healthallthingshealth . comhttps:// //www.. allthingshealth . com › glossary Job's Tears: Health Benefits, Side Effects, Uses, Dose ... - RxListrxlist . comhttps:// //www.. rxlist . com › supplements |
แป้งปังปอนด์
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 878 คน [?] เริ่มเขียนblog 20ก.ค55 ปัจจุบัน ( 3 มี.ค 57 ) แป้งได้มีเพจแป้งปังปอนด์ สร้างขึ้นเพื่อจุดประสงค์แชร์ข้อมูลจาก blog ให้ท่านที่สนใจได้ติดตามอ่านอย่างสะดวกและรวดเร็ว ไม่ต้องเสียเวลาโหลดเนื้อหาจาก blog ดังนั้นขออนุญาตงดตอบคำถามใดๆทางเพจและ facebook ค่ะ หากท่านใดมีคำถามเกี่ยวกับการกินวิตามินเพื่อแก้ไขปัญหาสุขภาพและบำรุงผิวพรรณ รบกวนส่งคำถามไปยัง blog แป้งปังปอนด์ นานาสารพันปัญหา volume 5 อย่างเดียวเท่านั้นค่ะ ขออนุญาตฝากกด like เพจแป้งปังปอนด์ เพื่อเป็นกำลังใจในการสรรค์สร้างผลงานด้วยมันสมองและสองมือพยาบาลสาวภูไท คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น จบการศึกษา ปี พ.ศ 2539 จากที่ราบสูงคนนี้ด้วยนะคะ สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ 2539 ห้ามผู้ใดละเมิด ไม่ว่าการนำชื่อ " แป้งปังปอนด์ " ไปใช้เพื่ออ้างอิงหรือติดป้ายสินค้าในเวปไซด์หรือที่ใดๆหรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดของข้อความใน " Blog แป้งปังปอนด์ " แห่งนี้ไปใช้ ทั้งโดยการเผยแพร่เพื่อการอ้างอิงหรือนำรูปภาพไปโดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร จะถูกดำเนินคดีตามที่กฎหมายบัญญัติไว้สูงสุด
|