เมษายน 2563

 
 
 
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
 
 
All Blog
วิตามินสร้างเสริมระบบภูมิคุ้มกันให้แข็งแกร่ง ห่างไกลโควิด-19

เชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่(Coronavirus,Covit-19)ทำเอาคนทั้งโลกเจ็บป่วยและเสียชีวิตลงจำนวนมาก รวมถึงสร้างความหวาดผวาจนประสาทหลอนไปตามๆกัน


จากสถานการณ์โรคปอดอักเสบชนิดรุนแรงที่เกิดจากไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือ ไวรัสโควิด -19 ซึ่งขณะนี้ มีผู้ป่วยสะสมทั่วโลกอยู่ที่ 796,397 ราย มีผู้เสียชีวิต 38,576 ในจำนวนนี้มีผู้รักษาหายแล้ว 169,218 ราย (ข้อมูล ณ วันที่ 31 มีนาคม 2563 เวลา 17.00 น.)   

โดยสหรัฐอเมริกายังคงครองอันดับหนึ่งของโลกที่มียอดผู้ป่วยสะสมที่ 164,359 ราย รองลงมาคืออิตาลีที่มียอดผู้ป่วยสะสมที่ 101,739 ราย อันดับสามเป็นสเปนอยู่ที่ 94,417 ราย อันดับสี่เป็นจีนที่ 81,518 ราย และอันดับที่ห้าเป็นเยอรมันที่ 67,051 ราย (ข้อมูล ณ วันที่ 31 มีนาคม 2563 เวลา 17.00 น.)

 นายแพทย์เรวัต วิศรุตเวช อดีตอธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า PM 2.5 มีขนาดเล็กมาก เล็กกว่า 2.5 ไมครอน ถ้าเทียบกับขนาดของเส้นผมคนจะเล็กกว่าประมาณ 25 เท่า  โคโรน่าไวรัสสายพันธุ์ใหม่ 2019 ก็มีขนาดเล็กมากเช่นกัน เพราะฉะนั้นการสวมใส่หน้ากากอนามัยแบบธรรมดา จะไม่สามารถป้องกันได้  ดังนั้นคำแนะนำจึงควรใช้หน้ากากอนามัย N95 จะช่วยป้องกันได้ทั้งฝุ่นและไวรัส 

 สำหรับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่าเริ่มมีมาตั้งแต่วันที่ 12 ธันวาคม 2562 ที่เมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย ประเทศจีน โดยทางการจีนได้ทำการสืบสวนหาแหล่งแพร่เชื้อ พบว่าผู้ติดเชื้อกลุ่มแรกเป็นคนงานและลูกค้าของตลาดขายส่งอาหารทะเลฮั่วนาน ซึ่งขายสัตว์มีชีวิตที่ใช้ทำอาหาร เช่น เป็ด ลา อูฐ สุนัขจิ้งจอก งู ค้างคาว แบดเจอร์ หนูอ้น กระทั่งเชื้อมีการกลายพันธุ์มากขึ้น จนสามารถติดต่อจากคนสู่คน

 ความจริงแล้วไวรัสโคโรน่าไม่ใช่ชื่อใหม่สำหรับสาเหตุการระบาดของโรคทางเดินหายใจ แต่ก่อนหน้านี้เคยมีมาแล้วถึง 2 ครั้ง เพียงแค่เป็นโคโรน่าคนละสายพันธุ์

 โรคร้ายแรงที่เคยเกิดจากไวรัสโคโรน่า ได้แก่
1.โรคซาร์ส(SARS) ระบาดจากจีนในช่วงปี ค.ศ. 2002 มีผู้ติดเชื้อกว่า 8,000 คน มีอัตราเสียชีวิต 10%
 2.โรคเมอร์ส(MERS) ระบาดจากซาอุดิอาราเบียในปีค.ศ. 2012 มีผู้ติดเชื้อรวม 1,733 คน และมีอัตราเสียชีวิตสูงถึง 36%   

ในอเมริกามีบทความเกี่ยวกับอาหารเสริมที่ขายหมดเร็วที่สุดคืออาหารเสริมที่มีมานานในการวิจัยเกี่ยวกับบรรเทาอาการหวัดและไข้หวัดใหญ่ รวมถึงสังกะสี วิตามินดีและสารสกัด elderberry 

ยอดขายผลิตภัณฑ์เสริมอาหารในอเมริกาพุ่งขึ้นทั่วประเทศอย่างไม่เคยมีมาก่อน เนื่องจากผู้บริโภคตื่นตระหนกกระหน่ำซื้อวิตามิน สมุนไพร สารสกัดต่างๆที่ช่วยแก้โรคหวัดและไข้หวัดใหญ่  

ไม่มีผลิตภัณฑ์ใดที่แสดงให้เห็นว่า สามารถลดโอกาสในการติดเชื้อ coronavirus หรือทำให้อัตราการเจ็บป่วยลดลง และการใช้วิตามินปริมาณมากอาจทำให้เกิดอันตรายได้  

แต่ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า ยอดขายที่เพิ่มขึ้นบ่งชี้ว่าคนจำนวนมากหมดหวังที่จะเสริมสร้างภูมิคุ้มกันและเพิ่มความวิตกกังวลแก่ร่างกาย

 Joan Driggs นักวิเคราะห์จาก IRI ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยตลาดที่ติดตามยอดขายใน Walmart, Walgreens, Safeway, CVS ,ร้านขายยาและร้านค้าปลีก กล่าวว่าตัวเลขที่เราได้เห็นนั้นไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน “ ผู้คนพยายามปกป้องตนเองและพวกเขารู้สึกว่าพวกเขาต้องใช้ประโยชน์จากทรัพยากรที่มีอยู่ในมือ”  

ในขณะที่ยอดขายผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพิ่มขึ้น 6% ในช่วงสัปดาห์แรกของเดือนมีนาคม เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว   ยอดขายวิตามินซีซึ่งเป็นวิตามินเสริมภูมิคุ้มกันอ้างว่าพุ่งขึ้น 146%

 ขณะที่ยอดขายสังกะสีซึ่งเป็นวิตามินยอดนิยมสำหรับโรคหวัดและโรคทางเดินหายใจพุ่งขึ้น 255%   

ยอดขายของผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร elderberry ซึ่งวางตลาดเพื่อส่งเสริมภูมิคุ้มกันนั้นเพิ่มขึ้น 415%  

 Echinacea สมุนไพรที่ใช้รักษาอาการหวัดและไข้หวัดใหญ่พุ่งขึ้น 122%  

การได้รับวิตามินดีในปริมาณที่พอเหมาะนั้น ช่วยลดความเสี่ยงของการเป็นหวัดและไข้หวัดใหญ่ แต่ผลที่เกิดขึ้นมักพบในคนที่มีระดับต่ำหรือบกพร่อง และการทดลองขนาดเล็กที่ได้รับทุนจากอุตสาหกรรมอาหารเสริมจำนวนหนึ่งพบว่า สารสกัด elderberry สามารถลดระยะเวลาและความรุนแรงของอาการหวัดและไข้หวัดใหญ่ลงได้  

แต่หลักฐานส่วนใหญ่ของอาหารเสริมเหล่านี้ไม่แข็งแรงพอและเป็นไปไม่ได้ที่จะคาดการณ์ว่า จะช่วยป้องกันหรือรักษา coronavirus เพราะวิตามินมีประสิทธิภาพต่อโรคหวัดและไข้หวัดใหญ่(โคโรน่าไวรัสเป็นโรคระบบทางเดินหายใจที่โจมตีปอด มีผลกระทบรุนแรงต่อทางเดินหายใจส่วนล่างและระยะฟักตัวนานกว่าเมื่อเทียบกับไวรัสที่ทำให้เกิดโรคหวัดและไข้หวัดใหญ่ )

วิตามินที่ช่วยเพิ่มภูมิต้านทานเพื่อช่วยให้ร่างกายต่อสู้เชื้อไวรัส 
1.วิตามินดี
เป็นสารอาหารที่ละลายในไขมันที่จำเป็นต่อสุขภาพและการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน  

วิตามินดีช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการต่อสู้กับเชื้อโรคจาก monocytes และ macrophages( เซลล์เม็ดเลือดขาวที่เป็นส่วนสำคัญในการป้องกันระบบภูมิคุ้มกัน)และลดการอักเสบซึ่งช่วยส่งเสริมการตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกัน  

งานวิจัยพบว่า คนที่มีระดับวิตามินดีในเลือดปกติ มีโอกาสติดไวรัสน้อยกว่า บางการศึกษาแสดงให้เห็นว่า การเสริมด้วยวิตามินดีอาจช่วยเพิ่มการตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกัน

 2.สังกะสี
สังกะสีเป็นแร่ธาตุที่ถูกเติมเข้าไปในอาหารเสริมและผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพอื่น ๆ เพื่อเพิ่มระบบภูมิคุ้มกัน เนื่องจากสังกะสีมีความสำคัญต่อการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน  

สังกะสีจำเป็นสำหรับการพัฒนาเซลล์ภูมิคุ้มกันและมีบทบาทสำคัญในการตอบสนองการอักเสบ  

การขาดแร่ธาตุนี้ส่งผลต่อความสามารถของระบบภูมิคุ้มกันในการทำงานอย่างเหมาะสม มีผลทำให้เกิดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อและโรคภัยรวมถึงโรคปอดอักเสบ  

การศึกษาจำนวนมากพบว่า อาหารเสริมสังกะสีอาจป้องกันการติดเชื้อทางระบบเดินหายใจ เช่นโรคหวัด ยิ่งไปกว่านั้นการเสริมด้วยสังกะสีอาจเป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่ป่วยอยู่แล้ว


การทดลองแบบสุ่มพบว่าการรับประทานในปริมาณที่สูงอาจช่วยลดความเสี่ยงในการติดโรคหวัดและลดระยะเวลาความเจ็บป่วยลง 20%

3.วิตามินซี 
วิตามินซีอาจเป็นอาหารเสริมที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในการป้องกันการติดเชื้อ เนื่องจากมีบทบาทสำคัญต่อระบบภูมิคุ้มกัน


วิตามินซีสนับสนุนการทำงานของเซลล์ภูมิคุ้มกันต่าง ๆ และเพิ่มความสามารถในการป้องกันการติดเชื้อ 

นอกจากนี้ยังจำเป็นสำหรับการตายของเซลล์ ซึ่งช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันแข็งแรงโดยการชะล้างเซลล์เก่าและแทนที่ด้วยเซลล์ใหม่

วิตามินซียังทำหน้าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพป้องกันความเสียหายที่เกิดจากความเครียดจากปฏิกิริยาออกซิเดชัน ซึ่งเกิดขึ้นจากการสะสมของโมเลกุลปฏิกิริยาที่เรียกว่าอนุมูลอิสระ


ความเครียดออกซิเดชันสามารถส่งผลเสียต่อระบบภูมิคุ้มกันและเชื่อมโยงกับโรคต่าง ๆ

การเสริมวิตามินซีช่วยลดระยะเวลาและความรุนแรงของการติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนบนรวมถึงโรคหวัด 

จากการศึกษาจำนวน 29 งานใน 11,306 คนแสดงให้เห็นว่า การเสริมวิตามินซีเป็นประจำด้วยขนาดเฉลี่ย 1-2 กรัมต่อวัน ลดระยะเวลาการเป็นหวัด 8% ในผู้ใหญ่และ 14% ในเด็ก


ที่น่าสนใจคือการทบทวนกรณีศึกษา ยังแสดงให้เห็นว่าการรับประทานวิตามินซีเป็นประจำนั้น ช่วยลดอาการหวัดที่พบบ่อยในผู้ที่มีความเครียดทางร่างกายสูง รวมถึงนักวิ่งมาราธอนและทหารมากถึง 50%

4.Elderberry 
Black elderberry (Sambucus) ซึ่งมีการใช้กันมานานในการรักษาการติดเชื้อและกำลังได้รับการวิจัยเกี่ยวกับผลกระทบต่อระบบภูมิคุ้มกัน


ในการศึกษา(หลอดทดลอง)สารสกัดElderberry
แสดงให้เห็นถึงศักยภาพในการต้านเชื้อแบคทีเรียและเชื้อไวรัสที่มีผลโดยตรงต่อเชื้อแบคทีเรีย ที่ทำให้เกิดการติดเชื้อระบบทางเดินหายใจส่วนบนและเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่


ยิ่งไปกว่านั้นยังมีการแสดงเพื่อเพิ่มการตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกัน อาจช่วยลดระยะเวลาและความรุนแรงของโรคหวัดรวมถึงลดอาการที่เกี่ยวข้องกับการติดเชื้อไวรัส

การรับประทานอาหารเสริม Elderberry อาจช่วยลดอาการระบบทางเดินหายใจส่วนบนที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสและช่วยบรรเทาอาการไข้หวัด อย่างไรก็ตามจำเป็นต้องมีการวิจัยเพิ่มเติม



5.เห็ดสมุนไพร 
มีการใช้เห็ดสมุนไพรมาตั้งแต่โบราณเพื่อป้องกัน,รักษาโรคและการติดเชื้อ มีการศึกษาเห็ดสมุนไพรหลายชนิดสำหรับการเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน


เป็นที่ทราบกันดีว่า เห็ดสมุนไพรกว่า 270 สายพันธุ์มีคุณสมบัติในการเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน เช่น Cordyceps(ถั่งเช่า),Lion’s mane(เห็ดแผงคอของสิงโต), Maitake(เห็ดไมตาเกะ) shitake(เห็ดหอม)reishi(เห็ดหลินจือ)และTurkey tail(เห็ดหางไก่งวง)ซึ่งเป็นเห็ดสมุนไพรที่มีประโยชน์ต่อระบบภูมิคุ้มกัน

งานวิจัยบางชิ้นแสดงให้เห็นว่า การเสริมด้วยเห็ดสมุนไพรบางชนิดอาจช่วยส่งเสริมระบบภูมิคุ้มกันในหลาย ๆ ด้านและลดอาการของโรค รวมถึงโรคหอบหืดและปอด


อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าอาหารเสริมเหล่านี้อาจให้ประโยชน์เล็ก ๆ น้อย ๆ ต่อระบบภูมิคุ้มกัน แต่ไม่สามารถใช้แทนชีวิตที่มีสุขภาพดีได้


การควบคุมอาหารให้สมดุล นอนหลับให้เพียงพอ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอและไม่สูบบุหรี่ เป็นวิธีที่สำคัญที่สุดในการช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันแข็งแรง ช่วยลดโอกาสการติดเชื้อและโรคภัยไข้เจ็บ


ขนาดยังไม่มีงานวิจัยศึกษาที่น่าเชื่อถือจำนวนมากพอที่จะได้รับการยอมรับจากผู้เชี่ยวชาญ ซี่งกล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า ขณะนี้ยังไม่มีงานวิจัยสนับสนุนการใช้อาหารเสริมเพื่อป้องกัน COVID-19 โดยเฉพาะ


แต่อาหารเสริมที่มีคุณสมบัติกระตุ้นภูมิคุ้มกันและลดการอักเสบขายจนหมดเกลี้ยงชั้นวางสินค้าภายในไม่กี่วันหลังจากผู้นำสหรัฐอเมริกาประกาศภาวะฉุกเฉินระดับชาติสู้โควิด-19 ในวันที่ 13 มี.ค 63 ค่ะ












ที่มา :

https://www.nytimes.com › well › live Supplements for Coronavirus Probably Won't Help, and May Harm - The New York Times
https://www.healthline.com › nutritionCan Supplements Fight Coronavirus (COVID-19)? 15 Immune Boosters - Healthline
https://www.drweil.com › novel-cor...Novel Coronavirus: A Virus Threat? | Disease & Disorders | Andrew Weil, M.D. - Dr. Weil
https://www.nutraingredients.com › ...Hospital turns to high-dose vitamin C to fight coronavirus - NutraIngredients.com

เฟซบุ๊ก นพ.เรวัติ วิศรุตเวช


 



Create Date : 01 เมษายน 2563
Last Update : 1 เมษายน 2563 22:55:20 น.
Counter : 1106 Pageviews.

0 comments

แป้งปังปอนด์
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 878 คน [?]



เริ่มเขียนblog 20ก.ค55
ปัจจุบัน ( 3 มี.ค 57 ) แป้งได้มีเพจแป้งปังปอนด์ สร้างขึ้นเพื่อจุดประสงค์แชร์ข้อมูลจาก blog ให้ท่านที่สนใจได้ติดตามอ่านอย่างสะดวกและรวดเร็ว ไม่ต้องเสียเวลาโหลดเนื้อหาจาก blog ดังนั้นขออนุญาตงดตอบคำถามใดๆทางเพจและ facebook ค่ะ






หากท่านใดมีคำถามเกี่ยวกับการกินวิตามินเพื่อแก้ไขปัญหาสุขภาพและบำรุงผิวพรรณ รบกวนส่งคำถามไปยัง blog แป้งปังปอนด์ นานาสารพันปัญหา volume 5 อย่างเดียวเท่านั้นค่ะ


ขออนุญาตฝากกด like เพจแป้งปังปอนด์ เพื่อเป็นกำลังใจในการสรรค์สร้างผลงานด้วยมันสมองและสองมือพยาบาลสาวภูไท คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น จบการศึกษา ปี พ.ศ 2539 จากที่ราบสูงคนนี้ด้วยนะคะ


สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ 2539 ห้ามผู้ใดละเมิด ไม่ว่าการนำชื่อ " แป้งปังปอนด์ " ไปใช้เพื่ออ้างอิงหรือติดป้ายสินค้าในเวปไซด์หรือที่ใดๆหรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดของข้อความใน " Blog แป้งปังปอนด์ " แห่งนี้ไปใช้ ทั้งโดยการเผยแพร่เพื่อการอ้างอิงหรือนำรูปภาพไปโดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร จะถูกดำเนินคดีตามที่กฎหมายบัญญัติไว้สูงสุด




New Comments
MY VIP Friend