"topicstock ... คลิ๊กตรงนี้ครับ"
มนุษย์หุ้นจะต้องรู้ตัวเองให้ได้ว่า
มีความสามารถเพียงแค่ไหน
แล้วก็เล่นเท่าที่ความสามารถมีอยู่จริงๆ
ไม่ทึกทักเอาว่า ไม่จำเป็นต้องมีความรู้อะไร
ก็สามารถเล่นหุ้นให้ได้เงิน
ซึ่งในตลาดขาขึ้นแบบสมบูรณ์แบบ มันเป็นเช่นนี้นจริงๆ
ถ้าใครอ่านที่ผมโพสมาเรื่อยๆ
จะรู้ดีว่า ผมมีความรู้เรื่องหุ้นน้อยมากๆ
โดยเฉพาะความรู้เรื่องหุ้นแบบเป็นวิชาการ
ไม่ว่าปัจจัยเท็คนิคหรือว่าปัจจัยพื้นฐาน
ใครถามหุ้นที่ผมไม่ได้ถืออยู่
หรือต่อให้เป็นหุ้นที่ผมถืออยู่
ถ้าทำคลายเครียดเรโชไปแล้ว
ผมก็ยังรู้น้อยอีกเช่นกัน
ยิ่งใครมาถามหุ้นที่ผมไม่เคยเล่น
ผมมักจะตอบไม่ได้เลย
เพราะไม่ได้มีความรู้อย่างแท้จริงในหุ้นตัวนั้น ฮาๆๆๆ
๓ เซียนหุ้น
นักเล่นหุ้นสปีชี่นี้
"ไม่จำเป็นต้องจำกัดปริมาณความโลภ"
คนที่รู้ซึ้งตลาดฯอย่างทะลุปรุโปร่ง
และฝึกปรือพลังจิตจนรับได้กับทุกสภาพของตลาด
ไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์แบบไหนๆ
คนนั่นแหละคือเซียนหุ้นตัวจริงเสียงจริง
ผมเชื่อมั่นที่สุดว่า
ไม่มีเซียนหุ้นตัวจริงเสียงจริงแม้แต่คนเดียว
ที่คิดว่าตลาดหุ้นเป็นบ่อนการพนัน
"ที่แพ้ชนะกันด้วยการเล่นไพ่กันแบบวัดดวง"
ทีนี้ ถ้าแบ่งสปีชี่นักเล่นหุ้น
ไปตามเครื่องมือที่ใช้เล่นหุ้น
และวัดผลลัพธ์ของเครื่องมือที่ใช้
จะได้ดังนี้
๑ แมลงเม่าหุ้น
นักเล่นหุ้นสปีชี่นี้
ใน ๑๐ คน จะมีเครื่องมือมาตรฐาน
ในการเล่นหุ้น ไม่ถึง ๒ คน
และอีก ๘ คนที่เหลือจะใช้เครื่องมือ
แบบไม่มีมาตรฐาน และง่ายที่สุดคือ
เล่นตามมาร์เก็ตติ้ง ตามเพื่อน
เล่นตามนักวิเคราะห์ตามสื่อแบบไม่มีการคิดเอาเอง
เล่นตามข่าววงในตามห้องค้า มือถือ และเวปบอร์ดหุ้น
และลักษณะเด่นของแมลงเม่าหุ้น
มักจะชอบเล่น "เล่นหุ้นแบบเสี่ยงดวง"
สำหรับแมลงเม่าหุ้นอีก ๒ คน
พร้อมจะอัพเกรดขึ้นไปเป็นมนุษย์หุ้นได้สบายมาก
เพราะมีเครื่องมือมาตรฐานอยู่แล้ว
เพียงแต่ไม่ยอมเปลี่ยนเครื่องมือนั้น
ทั้งๆที่มันผิดพลาดซ้ำซาก
นักลงทุนในสปีชี่แมลงเม่าหุ้น
ไม่ว่าจะมีเครื่องมือมาตรฐานหรือไม่ก็ตาม
ลงทุน ๑๐ ครั้ง
จะได้ ๑ - ๔ ครั้ง เสีย ๙ - ๖ ครั้ง
ถ้าเสียทั้ง ๑๐ ครั้ง ไปขายเต้าฮวยดีกว่า
๒ มนุษย์หุ้น
มนุษย์หุ้นทุกคนจะต้องมีเครื่องมือมาตรฐานประจำตัว
ไม่แบบใดก็แบบหนึ่ง
เป็นเครื่องมือแบบง่ายๆ
เป็นที่รู้กันอย่างแพร่หลายทั่วไป
แม้แต่ข่าววงใน มนุษย์หุ้นก็จะเอามาเล่นแบบรู้เท่าทันว่า
ตลาดหุ้นไม่ใช่องค์การกุศล จะได้มีคนเอาเงินมาแจก
มนุษย์หุ้นจะใช้ข่าววงใน
"เป็นเครื่องมือในการเล่นหุ้น"
ในขณะที่ แมลงเม่าหุ้น
"จะตกเป็นเครื่องมือของข่าววงใน จนโดนหุ้นเล่น"
มนุษย์หุ้นจะยอมประเมินตัวเองว่า
เครื่องมือที่ใช้อยู่ ยังได้ผลหรือไม่
ถ้าเครื่องมือมาตรฐานที่ใช้มานานๆแล้ว
ยังได้ผลเป็นที่น่าพอใจ
และไม่สามารถต่อยอดหาเครื่องมือแบบใหม่ๆได้
ก็จำเป็นต้องใช้เครื่องมือเดิมไปเรื่อยๆ
"เพราะมันยังทำให้ได้ มากกว่าเสีย"
มนุษย์หุ้นจะไม่ข้ามเส้นไปเล่นหุ้นในแนวทางที่ตัวเองไม่ถนัด
โดยไม่มีเครื่องมือใหม่ๆมาเพิ่มเติมเครื่องมือเดิม
สำหรับตัวผมเอง
เครื่องมือที่ผมใช้เล่นหุ้น
จะอ้างอิงกับผลประกอบการของบริษัทนั้นๆ
ตอนนี้ต่อยอดเพิ่มด้วยหลักสมเกินตามภาพประกอบ
ผลลัพธ์ของการเล่นหุ้นของมนุษย์หุ้น
เล่นหุ้น ๑๐ ครั้ง
จะได้ ๕ - ๗ ครั้ง
เสีย ๕ - ๓ ครั้ง
ระดับสูงสุดของนักเล่นหุ้นสปีชี่นี้
ผมให้ได้แค่ได้ ๗ ใน ๑๐ ครั้ง
ถ้าเกินกว่านั้นถือว่าเป็นเซียนหุ้น
เอ๊ะ งั้นผมก็จัดอยู่ในสปีชี่มนุษย์หุ้น ฮาๆๆๆๆ
๓ เซียนหุ้น
เซียนหุ้นต้องมือเครื่องมือประจำตัว
ที่ไม่ยอมบอกให้ใครรู้ตามสื่อมวลชน
ไอ้ที่บอกให้รู้ ก็บอกแบบคูณสิบหารด้วยร้อย ฮาๆๆๆ
ผลลัพธ์จากการใช้เครื่องมือของเซียนหุ้น
เล่นหุ้น ๑๐ ครั้ง
ได้ ๘ - ๙ ครั้ง
เสีย ๒ - ๑ ครั้ง
ถ้าลงทุน ๑๐ ครั้งได้ทั้ง ๑๐ ครั้ง
ผมว่าอย่าอยู่เป็นเซียนหุ้นเลย
ไปเล่นหวยรุ่งกว่าเยอะ ฮาๆๆๆๆๆ
ให้ดูภาพประกอบก่อนครับ ท่านผู้ชม
จากภาพประกอบ จะเห็นได้ว่า
ปัญหาสำคัญที่สุดคือ
ไม่มีใครรู้ "อนาคต" ได้อย่างแน่นอน
ดังนั้น ทางเดียวที่จะสามารถวัดผลได้คือ
การดันเวลาข้ามมิติที่ ๔ ฮาๆๆๆ
ผมขอดันเวลาให้
อดีต ตอนที่ซื้อหุ้นตัวนั้น -- -- -- >>>> เป็นปัจจุบัน
ปัจจุบัน สถานะของหุ้นในพอร์ตตอนนี้ -- -- -- >>>> เป็นอนาคต
เครื่องมือมาตรฐานที่ใช้ประจำคือ
ผลประกอบไตรมาสล่าสุด เมื่อตอนที่ซื้อ
(ถูกดันเวลาให้กลายเป็นปัจจุบัน)
ค่าพีบีวี พีอี และยีลด์
บวกด้วยหลักสมเกินของสำนักเท็มเปิ้ลบ๊อกซิ่ง
พอทำการดันเวลาข้ามมิติ
แล้วย้อนไปสำรวจพอร์ตตัวเอง
ผมตอบได้ทันทีว่า
หุ้นประเภทไหน
ทำให้พอร์ตเสียหายมากที่สุด
หุ้นประเภทไหน
ทำให้พอร์ตได้ผลตอบแทนดีที่สุด
ลองตั้งเครื่องมือมาตรฐานที่ใช้
มาวัดผลด้วยหุ้น ๔ ประเภท
หุ้นประเภทไหนในพอร์ตของคุณ
ทำกำไร และทำขาดทุน ให้พอร์ตมากที่สุด ????
ผมมีความเห็นว่า
ที่เห็นๆตอนนี้คือ cei จัดเป็นหุ้น "๒ B"
ผลของการดันเวลาไปข้างหน้า
เพื่อพยายามวัดผล
การใช้เครื่องมือมาตรฐาน ที่ใช้ในการเล่นหุ้น
ปรากฏว่า
พอร์ตที่เครื่องมือมาตรฐานของผม
ใช้ได้ผลดีมากที่สุด
กลายเป็นพอร์ตที่สั่งซื้อขายให้คนอื่น
(ตามใบมอบอำนาจ)
ดูตามภาพประกอบ
จะเห็นได้ว่า หุ้นที่ทำกำไรให้พอร์ตมากที่สุด
จุดเริ่มลงมือซื้อ จะอยู่ในประเภท
๓ A ๓ B ทั้งสิ้น
ส่วนหุ้นที่ขาดทุนเละเทะที่สุด
จุดเริ่มลงมือซื้อ มันอยู่ในหุ้นประเภท
๒ B ไปแล้ว
ซื้อโดยไม่ยอมใช้เครื่องมือมาตรฐาน
ว่าด้วยพีอี พีบีวี เข้าไปวัด
กะจะวัดดวงกับแรงกรรมแห่งความโลภและความกลัวของตลาดฯ
เลยเจ๊งเละเทะอยู่เพียงตัวเดียวอันเดียวโดด ฮาๆๆๆ
เมื่อวันศุกร์ผมต้อง ชอร์ตอเกนส์พอร์ด
เพราะเห็นลู่ทางการกินส่วนต่าง ดีกว่าอยู่เฉยๆ
ผมยังไม่ทิ้งหุ้นตัวที่คุณแอนดี้พาดหัวผิด
เพราะว่า ผมยังจัดให้มันเป็นหุ้นประเภท
๑ A ที่อาจจะกลายเป็น ๑ B ได้
เมื่อไหร่ที่เริ่มออกอาการกลายเป็นหุ้น
๒ B ผมคงต้องพิจารณาทิ้งหมดพอร์ต
หาหุ้นตัวอื่นแทนครับ
เพื่อนๆสินธร
ลองกำหนดหุ้นที่ตัวเองถืออยู่
ให้อยู่ในหุ้นประเภทไหนดู
อาจจะได้แนวทางในการเล่นหุ้น
สำนักเท็มเปิ้ลบ๊อกซิ่งขอกำหนดเอาตามใจชอบ ฮาๆๆๆ
แมลงเม่าหุ้น
จะถือครองหุ้นที่เป็น
ขีดเส้นแดงอ่อนและแดงเข้มเป็นส่วนใหญ่
ถือครองหุ้นที่เป็นขีดเส้นเขียวอ่อนบ้างเล็กน้อย
มนุษย์หุ้น
จะถือครองหุ้นที่เป็นขีดเส้นเขียวอ่อน เป็นส่วนใหญ่
มีเขียวเข้มพอประมาณ
และมีแดงอ่อนและแดงเข้มไม่มากไปกว่า
แบบเขียวอ่อนและเขียวเข้มที่มีอยู่ในพอร์ต
ส่วนเซียนหุ้น
จะถือครองหุ้นที่เป็นขีดเส้นเขียวเกือบทั้งพอร์ต
จะถือครองหุ้นที่เป็นสีเขียวเข้ม
เส้นใหญ่ที่สุดเอาไว้เป็นจำนวนมาก
และมีสีแดงอ่อนและเข้ม บ้างเล็กน้อย
ลองนึกย้อนไปถึงหุ้น ทีทีเอดู
กลุ่มไทเก้น เขาเริ่มลงมือซื้อ
หุ้นประเภท ๓ B
จึงทำกำไรให้ตัวเองอย่างมหาศาล
มากเกือบร้อยเท่า(รวมวอร์แรนท์แจกฟรี ๒ รอบ)
สรุปแบบสำนักเท็มเปิ้ลบ๊อกซิ่ง
หุ้นที่ทำให้คนเจ๊งเละเทะมากที่สุดคือ
หุ้น ๒ B
เริ่มลงมือซื้อในตำแหน่ง
ปัจจุบันดี -- -- -- -- -- >>>>>อนาคต แย่มาก
ส่วนหุ้นที่สามารถทำกำไรให้อย่างมหาศาลที่สุดคือ
หุ้น ๓ B
เริ่มลงมือซื้อในตำแหน่ง
ปัจจุบันแย่ -- -- -- -- >>>>>อนาคต ดีกว่าเดิมมาก
ขืนมีแต่หุ้น ๔ B
ไม่มีทางมานั่งเล่นเวปบอร์ดหุ้น แบบสบายอารมณ์หรอก
โพสผิดกระทู้หรือเปล่า คุณ hs9jls
คุยโขมงฯ อยู่ถัดลงไปหนึ่งคลิ๊กครับ ฮาๆๆๆๆ
เอาภาพประกอบให้ดูอีกภาพ
ใครคือแมลงเม่าหุ้น มนุษย์หุ้นและเซียนหุ้น
ลองถามตัวเองตามตรง
ผมขอยืนยันว่า
ถึงจะถือหุ้นตัวไหนไว้เต็มพอร์ต
ผมก็จะ "พยายาม" รับฟัง
ข้อมูลด้านร้ายๆของหุ้นตัวนั้นให้ได้
เพื่อจะได้ไม่ฟังความข้างที่พอร์ตต้องการได้ยินเท่านั้น
การฟังความที่พอร์ตต้องการได้ยินเท่านั้น
ผมเคยมีประสบการณ์มาแล้ว
มันจะทำให้หุ้นเปลี่ยนประเภทได้ในพริบตา
ลองนึกถึงหุ้นปั่นๆ ตอนนี้ดู
ลองดันเวลากลับลงไปครับ
จะสามารถวัดเครื่องมือมาตรฐานที่เราใช้อยู่ได้
ตั้งค่าให้ ตอนที่ซื้อ คือปัจจุบัน
ราคาหุ้น ตอนนี้ คืออนาคต
จะสามารถแยกแยะประเภทของหุ้นได้ครับ
ถ้าแยกแล้ว มีเส้นเขียวน้อยมากกว่าเส้นแดง
น่าจะต้องหาทางเปลี่ยนเครื่องมือที่ใช้อยู่
ถ้ายังมีเส้นเขียวมากกว่าเส้นแดง
ต่อยอดหาเครื่องมือใหม่ๆไม่ได้
ก็ต้องยอมใช้ต่อไป
"ไม่ใช่เพราะว่ามันดี
แต่เป็นเพราะว่า
มันเข้ากับความรู้ ความสามารถที่เรามีอยู่จริงๆ"
สำหรับพวกที่เล่นหุ้นด้วยกราฟ
ลองแยกประเภทหุ้น
ด้วยการตั้งค่าไปที่จุดซื้อตามกราฟให้เป็นปัจจุบัน
จะสามารถแยกได้เช่นกันว่า
เครืองมือของเราใช้ได้ผลหรือไม่เพียงไร
_______________________________________________________
ป้ายประจำสำนัก Temple Boxing School (สำนักมวยวัด)
Create Date : 18 กรกฎาคม 2548 |
Last Update : 24 กุมภาพันธ์ 2552 19:18:07 น. |
|
12 comments
|
Counter : 2321 Pageviews. |
|
|
blogพี่นี่ทำเอาผมต้องเข้ามาค่อยๆตอดค่อยๆอ่านอยู่เรื่อยๆ