|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
ต้นจาก
๙ ตุลาคม ๒๕๕๒ ปลูกต้นจาก
ต้นจาก ขุดกันมาสดๆ จากแม่น้ำบางปะกง เขตอำเภอบางน้ำเปรี้ยว จังหวัดฉะเชิงเทรา เวลาขุดต้องรอเวลาตอนน้ำลดลงถึงได้ขุด ใช้เวลาไป3วัน2คืน
ความสวยของใบ ทะลายลูกจาก ที่เคยเห็นที่สมุทรสงคราม ตอนไปเที่ยวริมแม่น้ำแม่กลอง
บ่อที่สวน กว้างไปหาต้นไม้มาปลูกริมบ่อ
ปกติต้นจากจะอยู่ตามแม่น้ำ เอามาปลูกในบ่อ จากที่เคยอยู่ในแม่น้ำ น้ำขึ้นลงตามเวลา มีน้ำเค็มสลับน้ำจืด เป็นน้ำกร่อย มาอยู่ในบ่อ น้ำจืดอย่างเดียว น้ำไม่ขึ้นไม่ลง รอดไม่รอดมาลุ้นกัน
ต้นจาก 15ต้นใหญ่ เดินทางมาไกล จากแถบ...ภาคตะวันออก ขนใส่รถหกล้อ มาอย่างทุลักทุเล แต่ละต้นโคนที่ฝังตัวในเลน ยกขึ้นมาเหนือน้ำ ต้นหนึ่งน่าจะถึงเกือบร้อยกิโลกรัม ย้ายที่มาปลูกที่จังหวัดขอนแก่น ที่ราบสูงภาคตะวันออกเฉียงเหนือ(อีสาน)
______________________________________________________
จาก จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
จาก (Nypa) เป็นพืชจำพวกปาล์มที่มีชื่อสามัญว่า Nipa Palm โดยมีการจัดอยู่ที่ในวงศ์ย่อย Nypoideae ซึ่งมีสกุลเดียว (Nypa) และเป็นปาล์มเพียงชนิดเดียวที่เป็นพืชในป่าชายเลน และมีลำต้นอยู่ใต้ดิน นับเป็นพืชเก่าแก่มากชนิดหนึ่ง ที่มีซากดึกดำบรรพ์อายุถึง 70 ล้านปี
จากพบได้ทั่วไปในเอเชียใต้ และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทั้งในบริเวณน้ำจืด และน้ำกร่อย ที่มีน้ำเค็มขึ้นถึง มักจะขึ้นเป็นดงขนาดใหญ่ เรียกว่า ป่าจาก หรือดงจาก
ลักษณะทางกายภาพ จากเป็นพืชที่มีลำต้นอยู่ใต้ดิน ต้นตั้งตรง ซึ่งมักจะเป็นดินโคลน ส่วนที่เราเห็นของจากนั้น คือส่วนใบและช่อดอกเท่านั้น โดยที่โคนใบ มีกะเปาะอากาศ ช่วยพยุงให้ใบชูขึ้นเหมือนชูชีพ แต่แม้ว่าลำต้นของจากจะอยู่ใต้ดิน แต่ใบที่โผล่ขึ้นมานั้น อาจชูขึ้นไปสูงได้ถึง 9 เมตร โดยไม่มีส่วนของลำต้นให้เห็นเลย
ดอกและผล ดอกของปาล์มเป็นลักษณะช่อ กลม ดอกตัวเมียที่ปลาย ดอกตัวผู้อยู่ตรงโคนช่อดอกส่วนผลนั้นมีเปลือกแข็ง กระจุกเป็นทะลายหลายผล เปลือกสีน้ำตาล ข้างในมีเนื้อเมล็ดสีขาว มีปริมาณเนื้อไม่มากนัก เมื่อสุกเต็มที่ผลจะแยกจากกลุ่ม ลอยน้ำ สามารถแพร่พันธุ์ไปได้ไกลๆ บางครั้งก็แตกหน่อขณะยังลอยน้ำ
จากสามารถเติบโตได้ดีในดินโคลน ตามป่าชายเลน หรือบริเวณริมคลอง ที่มีไม้ให้ร่มเงาปะปนอยู่ด้วย มักอยู่ในช่วงที่มีน้ำจืดและน้ำกร่อยปนกัน แต่บนบกที่น้ำท่วมถึงก็พบจากได้บ้างเช่นกัน หากดินไม่แห้งแล้งนานจนเกินไป
ประโยชน์ จากเป็นพืชที่คนไทยรู้จักมานาน และใช้ประโยชน์ของจากได้เป็นอย่างดี ตั้งแต่ใบจนถึงผล ใบจากมีลักษณะคล้ายใบมะพร้าว แต่มีความเหนียว และกว้างกว่า ทำให้สามารถใช้นำมาเย็บเป็นตับ เรียกว่า "ตับจาก" แล้วนำไปมุงหลังคา กันแดดกันฝนได้เป็นอย่างดี แม้ว่าจะใช้งานไปนาน ใบจากกรอบ เปลี่ยนจาก สีเขียวเข้ม เป็นสีเหลือง สีน้ำตาล กระทั่งเกือบเป็นสีดำ แต่ก็ยังคงกันฝนและ แดดได้ จนกว่าจะแห้งกรอบและผุไป คำว่า "หลังคาจาก" หรือ "หลังคามุงจาก" จึงเป็นที่รู้จักกันดีในสังคมไทย การใช้ใบจากมุงหลังคายังคง นิยมใช้จนปัจจุบัน โดยเฉพาะในแถบที่อยู่ใกล้ลำคลองและที่ราบลุ่มมีต้นจากชุกชม
ใบจากยังมีประโยชน์ใช้ห่ออาหาร ที่เรียกว่า ขนมจาก ซึ่งเป็นขนมที่ทำจากแป้ง น้ำตาล และมะพร้าว ผสมกันจนเหลวได้ที่ แล้วนำห่อด้วยใบจาก ปิ้งบนไฟ ก็จะได้ขนมจากที่อร่อย มีกลิ่นหอม รสชาติดี เป็นขนมไทยอีกอย่างหนึ่ง ที่รู้จักกันดี แม้อาจมีการใช้ใบมะพร้าวมาห่อ แต่ก็ได้รสชาติที่ไม่อร่อย อย่างการใช้ใบจากจริงๆ
ใบจากที่ยังไม่แก่ หากยังใช้เป็นใบห่อยาสูบได้ โดยลอกใบจากที่ตากแห้งแล้ว ออกเป็นแผ่นบางๆ แล้วตัดให้พอดีสำหรับมวนยาสูบ
ผล ผลจากที่สุกแล้ว จะเป็นเยื่อสีขาว ใส นุ่ม มีรสหวาน นิยมรับประทาน เป็นของหวาน มาช้านานดังความปรากฏใน"พระราชนิพนธ์กาพย์เห่ชม เครื่องคาวหวาน" ที่ยกมาข้างบน
นอกจากนี้ในบางท้องถิ่นยังตัดปลายช่อดอกของจาก เพื่อเอาน้ำตาลจาก ไปทำเป็นน้ำเมา เช่นเดียวกับที่นิยมใช้น้ำตาลจากต้นตาลและมะพร้าว ส่วนผลอ่อนที่แตกหน่อ จะมีจาวอยู่ข้างใน นำมารับประทานได้เช่นเดียว กับจาวตาล หรือจาวมะพร้าว ส่วนกลีบดอกนั้นนำไปเป็นส่วนผสมของชาสมุนไพรได้ _____________________________________________________
ความรู้เกี่ยวกับ ต้นจาก ที่มาของข้อมูล...//www.thairath.co.th/content/pol/20443 (ต้องสมัครเป็นสมาชิก นสพ.ไทยรัฐ ถึงอ่านได้ครับ)
ป่าจากสมัย ร.5 คัมภีร์จากแผ่นดิน บาราย หนังสือ วชิรญาณพิเศษ ร.ศ.109-110 (พ.ศ. 2433-2434) ตีพิมพ์อาชีพของชาวสยาม 25 อาชีพ กรมศิลปากรพิมพ์เผยแพร่ใหม่ เมื่อ พ.ศ.2551 ทุกอาชีพ ตัวอย่างการตีผึ้ง กางเคย (ทำกะปิ) ถึงวันนี้ ยังมีคนทำอยู่ เพียง แต่กระบวนการขั้นตอนอาจเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา
อาชีพหนึ่ง คือการทำป่าจาก...ผู้เขียนซึ่งเป็นกรรมการหอพระสมุด ไม่ระบุชื่อ เขียนไว้ว่า เมืองที่มีป่าจากมากกว่าเมืองชายทะเลด้วยกัน เขาเห็นว่า ปากน้ำบางปะกง ตลอดขึ้นไปจนถึงเมืองฉะเชิงเทรา
วิธีปลูกจาก เอาผลจากแก่ๆมาทิ้งไว้ในที่ชุ่มหรือที่แฉะๆ เพื่อจะให้ผลจากงอกงามดี พอเห็นว่า งอกขึ้นยาวพอจะเอาไปปลูกได้ก็เอาไปปลูก พื้นที่ปลูกป่าจากควรเป็นที่ชายเลนริมน้ำ เพราะจากจะงอกงามตามริมน้ำ
คนโบราณถือกันว่า คนที่จะมีอาชีพทำป่าจากนั้น ต้องอายุเกิน 30 ปีขึ้นไป ถ้าอายุไม่ถึง 30 ปี ถือกันว่าอายุจะสั้น หรืออัปรีย์จัญไร
หลังการปลูกจากแล้ว รอเวลาอีกประมาณ 3 ปี ก็ตัดได้ ถ้าที่ดินไม่ดี เวลาก็อาจจะถึง 4-5 ปี
นอกจากกำหนดอายุคนทำป่าจากแล้ว ยังกำหนดด้วยว่าเวลาเริ่มตัดจากควรเป็นเดือน 4 ถ้ามีต้นจากมาก ก็ต้องจ้างเขาตัด ราคาค่าจ้างสมัยนั้น 5 มัดต่อเฟื้อง ถ้ามีจากน้อย ส่วนใหญ่เจ้าของป่าและคนในครอบครัวก็จะลงมือช่วยกันตัดจากเอง
เครื่องมือตัดจากไม่มีอะไรมาก ใช้มีดแบบที่เรียกว่าพร้าจากเล่มเดียว
ถ้าป่ารกนักก็ต้องแผ้วถางวัชพืชอื่นๆให้เตียนเสียก่อน จึงจะตัดจากได้สะดวก ตัดแล้วก็แบ่งใบจากออกเป็นสองกอง กองใบยาว เอาไว้เย็บกระแชงขาย จากใบสั้นเอาไว้เย็บจากตับมุงหลังคาเรือน
ถ้าคนตัดเก่ง วันหนึ่งจะได้จากถึง 20 มัด ขายเป็นมัดราคา 8 มัด 1 บาท จากมัดหนึ่ง 1,500 ใบ 8 มัด 12,000 ใบ ใบจากจำนวนนี้ ถ้าเย็บเป็นจากสั้น (มุงหลังคาบ้าน) ก็จะได้ไม่ต่ำกว่า 400 ตับ
ถ้าไม่มีใครซื้อ เจ้าของจากมักจะเย็บขายเอง เป็นกระแชงบ้าง เป็นตับบ้าง
วิธีเย็บกระแชง ต้องเอาใบซ้อนสองใบ ยาวสี่ศอก กว้างสองศอกคืบ เป็นกระแชงยาว
ประโยชน์ของกระแชงยาว สมัยนั้นมีไว้ปิดของ หรือบังแดดบังฝน ราคาซื้อขาย 100 ผืน เป็นเงิน 6 บาท 16 อัฐ
กระแชงสั้น ใบจากยาว 2 ศอกคืบ กว้าง 2 ศอก ราคา 100 ผืนเป็นเงิน 2 บาท 8 อัฐ
จากตับ...ต้องผ่าเอาไม้ไผ่สีสุกหรือไม้ไผ่ป่า ทำเป็นไม้ตับ สำหรับเย็บจาก ยาว 2 ศอก เป็นจากสั้น ยาว 3 ศอกคืบเป็นจากยาว จากนั้นขายเป็นราคา 1,000 ละ 4 บาท
แต่บางปีราคาจากแพง ก็ขายกันถึง 1,000 ละ 5 บาท คนหนึ่งเย็บจากสั้น ได้วันหนึ่ง 150 ตับ ถึง 200 ตับ
ผู้เขียนตั้งข้อสังเกตว่า จากยาวไม่ค่อยมีคนซื้อนัก เพราะส่วนใหญ่เจ้าของบ้าน มักจะเย็บจากมุงเรือนของเขาเอง แต่ถ้ามีการว่าจ้าง ก็จะเย็บขายกันในราคา 1,000 ละ 10-11 บาท
ผลผลิตของจากในป่าที่มีพื้นที่ 10 ไร่ จะขายได้ปีหนึ่ง เป็นเงินไม่ต่ำกว่า 3 ชั่ง
ประมาณทั้งพระราชอาณาเขตที่มีการทำป่าจาก รวมแล้วเป็นเงินไม่ต่ำกว่า 6,000 ชั่ง มีคนรับเอาจากเมืองชายทะเล มาขายในกรุงเทพฯ และหัวเมืองเหนือ
ผู้เขียนทิ้งท้ายว่า คนที่ทำป่าจาก และซื้อขายจาก เป็นคนบ้านนอกที่ขยันขันแข็ง ส่วน ใหญ่ก็เลี้ยงตัวได้ จะมีส่วนน้อยที่เกียจคร้านเท่านั้น ที่เอาตัวไม่รอด
ข้อน่าสังเกตของผู้เรียบเรียง ผลผลิตของจากนอกจากใบจากแล้ว ยังมีลูกจาก เคยมีคนพยายามทำน้ำตาลจาก เลียนแบบการทำน้ำตาลมะพร้าว แต่เข้าใจว่าน้ำจากมีไม่มากพอ การทำน้ำตาลจากจึงล้มเลิกไป ปล่อยให้ผลจากโตรวมกันเป็นพวงเรียกว่า "มุย"
เมื่อลูกจากแก่พอสมควร แล้วก็ผ่าออกเอาเนื้อกิน เป็นผลไม้อร่อยลิ้นชนิดหนึ่งของชาวบ้านในย่านนั้นๆ.
O บาราย O _____________________________________________________
ที่มาของเนื้อหา ข้อมูล...//www.geocities.com/srpproject_nypa/main.htm
ต้นจาก ต้นจาก (Mangrove Palm) เป็นต้นไม้ประเภทปาล์ม (palm) ชนิดหนึ่ง โดยอยู่ในวงศ์ปาล์ม (Palmae หรือ Arecaceae) โดยจัดอยู่ในวงศ์ย่อย Subfamily Nypoideae ซึ่งวงศ์ย่อยนี้ก็มีอยู่ เพียงสกุลเดียว และชนิดเดียวก็คือต้นจากที่เราๆท่านๆพบเห็นอยู่ทั่วไป ตามริมน้ำริมคลองต่างๆ โดยเฉพาะแถบๆปากแม่น้ำและปากอ่าว ชื่อพฤกษศาสตร์ของต้นจากคือ Nypa fruitcans โดยคำว่า Nypa นี้มาจากคำในภาษามาเลย์คือคำว่า Nipah ในธรรมชาติ ต้นจากพบขึ้นอยู่ตามริมลำน้ำและตามที่ดินตะกอน ที่ลุ่มริมฝั่งและป่าชายเลน โดยเฉพาะบริเวณใกล้ปากแม่น้ำสายต่างๆ โดยพบตั้งแต่ประเทศศรีลังกา ชายฝั่งด้านตะวันออกของประเทศอินเดีย, เอเชียตะวันออกเฉียงใต้, ฟิลิปปินส์ , หมู่เกาะโซโลมอน ,ตอนเหนือของ ออสเตรเลีย , และหมู่เกาะริวกิว (หรือโอกินาวา)ของประเทศญี่ปุ่น ต้นจากนี้มีลักษณะที่แตกต่างจากพืชวงศ์ปาล์มอื่นๆ หลายอย่าง เช่น ลักษณะของช่อดอกและลำต้น จนต้องจัดอยู่ในวงศ์ย่อยของตัวเอง แยกต่างหาก ดอกแต่ละดอกเป็นดอกเพศเดียว แต่ในช่อดอกนึงนั้น จะมีทั้งดอกตัวผู้และดอกตัวเมีย เมื่อเมล็ดเริ่มแก่ก็จะงอกรากตั้งแต่ เมล็ดยังคงติดอยู่กับทะลาย เมื่อแก่เต็มที่ก็จะหล่นลงน้ำ และลอยไปกับสายน้ำก่อนจะไปติดตาม สันดอนหรือตลิ่งที่อยู่ห่างออกไปเพื่อเติบโตเป็นต้นใหม่ต่อไป ลำต้น ของต้นจากนั้นอยู่ใต้ดิน โดยจะแตกหน่อใหม่ออกไปเรื่อยๆในลักษณะ ทวีคูณ ( Dichotomous ) คือจากหนึ่งก็จะแตกออกเป็นสองต้น จากนั้นก็จะกลายเป็นสี่ , แปด ,สิบหก ,สามสิบสอง ไปเรื่อยๆตามลำดับ หลักฐานทางฟอสซิลแสดงให้เห็นว่า ต้นจากนี้ถือกำเนิดขึ้น หลายล้านปีมาแล้ว และคาดว่าจะเป็นหนึ่งในพืชใบเลี้ยงเดี่ยว ชนิดแรกๆที่วิวัฒนาการขึ้นมา เนื่องจากมีการพบฟอสซิลของ ละอองเกสรของดอกจาก ในตะกอนดินยุคอีโอซีน (Eocene) (ประมาณ 60 ล้านปี)จากบริเวณใกล้ๆกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ซึ่งเป็นหลักฐานหนึ่งที่แสดงให้เห็นว่าในอดีตภูมิอากาศของโลก นั้นแตกต่างไปจากปัจจุบัน เนื่องจากในปัจจุบันนี้ต้นจากจะพบเฉพาะ ในบริเวณเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และพื้นที่ใกล้เคียงเท่านั้น
ผลิตภัณฑ์จาก ผลิตภัณฑ์ที่ได้จากส่วนต่างๆ ของจาก ซึ่งสามารถนำมาใช้ได้ทุกส่วน
ผลิตภัณฑ์จากส่วนต่างๆ ของจาก : ใบจาก >> มวนบุหรี่/ยาเส้น จากตับ ต้มปัด เปี้ยว จากลา แชง อีหุบ แมงดา ลูกโตน ฝาปิดตุ่ม : ทางจาก/หลังทางจาก >> ตับจาก ปลอกแจวเรือ : น้ำหวานจาก >> น้ำตาลจาก น้ำผึ้งจาก น้ำตาลฮบ/น้ำผึ้งมบ น้ำส้มจาก ตาลมะยัง ______________________________________________________
อ้างอิง ข้อมูล จาก.... //www.kanchanapisek.or.th/kp8/smk/smk106.html
ศึกษาค้นคว้า ได้ตามนี้ //www.thanu-st.com/index.php?mo=3&art=283528 ______________________________________________________
จาก (Nypa fruticans Wurmb.)
จากเป็นพืชพวกปาล์มชนิดหนึ่งที่ขึ้นเป็นกอตามริมน้ำ ในที่น้ำกร่อย หรือน้ำทะเลท่วมถึง มีใบประกอบแบบขนนกขนาดใหญ่ คล้ายใบมะพร้าว ช่อดอกขนาดใหญ่ออกตรงซอกใบ ประกอบด้วยช่อดอกย่อยๆ หลายช่อ แต่ละช่อมีกาบสีเหลืองอมส้มเป็นแผ่นใหญ่หุ้มอยู่ ช่อดอกเพศผู้เป็นช่อยาว หลายๆ ช่อ ล้อมรอบช่อดอกเพศเมีย ซึ่งเป็นช่อกลมอยู่ตรงกลาง ผลสีน้ำตาล ไม่มีก้านเรียงตัวอัดกันแน่นเป็นกลุ่มใหญ่ๆ เรียกว่า ทะลายแต่ละผลเป็น รูปหกเหลี่ยม เปลือกหนาแข็งมี เส้นใย เนื้อในเมล็ดสีขาว รสหวานเล็กน้อย รับประทานได้ มักนำมาเชื่อม หรือใส่น้ำหวานรับประทานกับน้ำแข็ง เป็นขนมที่เด็กๆ ชอบเมื่อนำมารับประทานแบบนี้ ผู้ชายมักบอกว่าเป็นลูกชิด (ซึ่งเป็นปาล์มอีกชนิดหนึ่งที่เนื้อในเมล็ดคล้ายจาก แต่อร่อยกว่า และราคาแพงกว่าจาก) การหลอกลวงผู้บริโภคแบบนี้มีมาตั้งแต่สมัย รัตนโกสินทร์ตอนต้นแล้ว ดังปรากฏใน นิราศเมืองเพชร ของสุนทรภู่ ดังนี้
ในลำคลองสองฟากล้วนจากปลูก ทะลายลูกดอกจากขึ้นฝากแฝง ต้นจากกถูกชิดนั้นติดแพง เขาช้างแปลงชื่อถูกเรียกลูกชิด
ทางภาคใต้มีการนำช่อดอกอ่อน และผลอ่อนซึ่งมีรสฝาด มารับประทานสด ต้ม หรือลวกจิ้มน้ำพริก หรือนำไปทำแกงเผ็ดต่างๆ ช่อดอกมีน้ำหวานใช้ทำน้ำตาลได้เหมือนมะพร้าวหรือตาลแต่มักจะนำ มาหมักทำน้ำส้มสายชูมากกว่า แต่เดิมจังหวัดสมุทรปราการมีต้นจาก มากมายเรียกว่า ป่าจาก อาชีพสำคัญของชาวสมุทรปราการคือ การทำขนม ที่ใช้ใบจากห่อเป็นชิ้นยาวๆ แล้วปิ้งให้สุกเรียกว่า ขนมจาก ใบจากใช้มุงหลังคาได้ ส่วนแกนช่อดอกแห้ง นำมาทุบให้แตกเป็นเส้นๆ ใช้ทำแส้ปัดยุง ปัจจุบัน การพัฒนาท้องถิ่นเหล่านี้ทำให้แทบจะไม่มี ป่าจากหลงเหลืออยู่อีก
______________________________________________________
ผลิตภัณฑ์จาก ต้นจาก
1. จากที่ใช้มุงหลังคาเราเรียกว่า ตับจาก ลักษณะนามของจาก ก็คือ
ตับ เป็นการนำเอาใบจากที่แก่มาทับซ้อนหรือเกยกันทีละ2-3 ใบ แล้วพับครึ่ง
นำมาพับครอบไม้ไผ่ ที่ตัดไว้เป็นซี่ๆ แล้วเย็บตรึงด้วยตอกคล้า ทำเช่นนี้ไปเรื่อยๆ
จนกระทั่งเต็มตับก็ผูกมัดกันลุ่ย อายุการใช้งานของจากจะอยู่ได้ประมาณ
6 เดือน 1ปี
2. ใบจากที่ที่ใช้สูบบุหรี่ ทำจากยอดอ่อนของต้นจาก นำมาตัดเป็นใบ ๆ
ตากทิ้งไว้ให้แห้ง แล้วนำมาลอกเยื่อบางๆ ออก ม้วนแล้วตากแห้งอีกครั้งก่อนตัด
ขนาดพอเหมาะกับมวนบุหรี่ มัดเป็นมัด ๆ หรือบรรจุซองพลาสติกจำหน่าย
3. น้ำส้มจาก เป็นการนำน้ำเลี้ยงจากงวง(ช่อดอก)ของจาก โดยการตัด
ปลายงวงบางๆ แล้วนำกระป๋องพลาสติก หรือขวดพลาสติกที่เปิดปากกว้าง
ไปรอน้ำที่หยดไว้ หากเก็บบ่อย ๆ ก็จะทำให้น้ำส้มมีคุณภาพดี สะอาด
เมื่อได้น้ำมาแล้วก็นำมาเทหมักไว้ในไหที่สะอาด ทิ้งไว้ ประมาณ 1- 2 เดือน
ก็นำมาบรรจุขวดออกจำหน่ายขวดละประมาณ 6-10 บาท น้ำส้มจากนี้ ผู้บริโภค
จะนำไปทำน้ำพริกจิ้มปลากระเบนเค็ม หรือไม่ก็นำไปต้มกับปลากระบอกหรือ
ปลากะพง เรียกว่าปลาต้มส้ม
4. ลูกจากลอยแก้ว เป็นขนมหวานที่นำลูกจากอ่อนมาผ่าแล้วควักเอา
เนื้อลูกจากมาล้างน้ำ ต้มน้ำใส่ลูกจากลงไปแล้วตามด้วยน้ำตาลชิมรสชาติหวาน
พอเหมาะยกลง ปล่อยไว้ให้เย็น เสริฟพร้อมน้ำแข็ง รับประทานในยามที่อากาศ
ร้อนๆ รสชาติดีนัก ลูกจากนี้รสชาติคล้ายลูกชิดแต่ราคาถูกกว่า ซึ่งสุนทรภู่เองยังกล่าว
ถึงความเหมือนและความต่างในนิราศเมืองเพชรว่า
ในลำคลองสองฟากล้วนจากปลูก ทะลายลูกดอกจากขึ้นฝากแฝง ต้นจากถูกลูกชิดนั้นติดแพง เขาช่างแปลงชื่อถูกเรียกลูกชิด
ปัจจุบันหากต้องการรับประทานลูกจากลอยแก้ว สามารถหารับประทานได้
โดยการไปรับประทานอาหารที่ครัวณิชา ซึ่งเป็นร้านอาหารที่ปรุงอาหารจำพวก
อาหารทะเลสดรสชาติอร่อยมากไม่ว่าจะเป็น แกงเลียงส้มป่อยกับกุ้งสด
ปลาอินทรีราดเต้าซี่ ฉู่ฉี่ปลากระเบนใบรา ฯลฯ เมื่อรับประทานอาหารที่สั่งมาเสร็จ
เจ้าของร้านก็จะมาเสริฟลูกจากลอยแก้วที่หอมหวานอร่อย แต่ทั้งนี้ก็ต้องเป็นไปตาม
ฤดูกาล เพราะลูกจากเป็นผลิตผลจากธรรมชาติมิใช่โรงงานที่จะสั่งการได้
ตามใจปรารถนา
5. ขนมจาก ขนมจากเป็นนำใบจากที่ค่อนข้างแก่มาทำเป็นใบห่อแป้งขนม
โดยการตัดด้านหัวและปลายให้ได้ขนาดพอเหมาะ ตัวแป้งมีแป้งข้าวเหนียว
มะพร้าวทึนทึกขูด และน้ำตาลปี๊บผสมน้ำตาลทราย หรือจะใช้อย่างใดอย่างหนึ่ง
ตามแต่รสชาติที่ปรารถนา ด้วยส่วนผสมที่เท่าๆ กันเช่น 1:1:1 กก.
เหยาะเกลือลงเล็กน้อยเพื่อรสชาติที่กลมกล่อม หากใช้มะพร้าวมากกว่าส่วนผสมอื่นๆ
จะทำให้ขนมอร่อยยิ่งขึ้น และไม่ต้องทาน้ำมันที่ใบจาก คลุกเคล้าให้เข้ากัน
ระหว่างนั้นก็ติดไฟเตรียมย่างขนม โดยทำเตาเป็นรูปรางสำหรับวางขนมจากได้
ของโบราณจะใช้ปี๊บ วาง2 ข้าง แล้วนำทางจากมาวางพาดขนานเป็นแนวยาว
ติดไฟกาบมะพร้าว ให้ลูกโชนกระจายไปตามแนวของราววาง นำใบจากมาเกย
ซ้อนทับครึ่งใบกลัดไม้กลัดที่ทำจากก้านมะพร้าวหรือก้านจาก ตักขนมประมาณ 1
ช้อนโต๊ะใส่ลงไปเกลี่ยไปตามแนวของใบจากปิดห่อ กลัดด้านบน ตรงกลาง หัว ปลาย
นำไปวางบนราวไฟที่เตรียมย่าง กะระยะเวลาคอยพลิกขนมให้สุกทั้งสองด้าน
ก่อนสุกเนื้อขนมจะเดือดส่งกลิ่นหอม ใบไม้จะเริ่มออกสีน้ำตาลเป็นสัญญาณเตือน
ให้น้ำลายไหล กองเชียร์จะเริ่มมาออ รอรับขนมจากร้อนๆ
วิธีการรับประทานโดยไม่ต้องดึงไม้กลัด
ก็คือฉีดหรือดึงก้านจากที่อยู่ข้างห่อออกเป็นแนวยาวตลอดแนว ขนมจากก็จะหลุดร่อน
ออกมาด้านข้าง(ระวังมือพอง) ก่อนรับประทานกรุณาเป่าลม 2-3 ครั้งเพื่อระบาย
ความร้อน ป้องกันลิ้นพอง
ปัจจุบันมีการประยุกต์ขนมจากทั้งการย่างและการปรุงรสชาติ
โดยเตาปิ้งย่างสำเร็จรูปสะดวกใช้สะดวกพกพา รสชาติก็มีการผสมน้ำใบเตยหอม
ผสมเนื้อมะพร้าวอ่อน ผสมมันสำปะหลังขูด ผสมฟักทองและผสมเผือกหั่นฝอย
และคงจะมีขนมจากชาเขียวในไม่ช้า แม้ว่าใบจากกับใบมะพร้าวจะมีลักษณะ
คล้ายคลึงกันแต่ไม่อาจใช้แทนกันได้ กลิ่นหอมของขนมจากท่านผู้รู้บอกว่ามาจาก
นมจาก คือขนคู่ที่สีน้ำตาลที่ทอดไปตามแนวก้านของใบจากตามรูป
นั่นล่ะคือที่มาของความหอมอร่อยของขนมจาก
ส่วนประกอบของขนมจาก 1.แป้งข้าวเหนียวดำ 250 กรัม 2.แป้งข้าวเจ้า 220 กรัม 3. น้ำตาลปี๊บ 200กรัม 4.น้ำตาลทราย 300 กรัม 5.กะทิ 1/2-3/4 ถ้วย 6.มะพร้าวขูดขาวเป็นเส้นๆ 1 ลูก 7.เกลือ 1/2-1 ช้อนชา ใบจาก ไม้กลัด
วิธีทำ 1.ผสมส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน 2.ตัดใบจากให้ยาวประมาณ 10 นิ้ว เช็ด ทำความสะอาดให้หมดฝุ่น 3.ทาน้ำมันบางๆเพื่อไม่ให้ขนมติดใบจาก 4 ตักส่วนผสมประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ ใส่ลง ใบจากตามยาวปิดให้แน่น กลัดด้วยไม้ กลัดหัวท้าย ปิ้งไฟอ่อนกลับด้านไปมาจน สุก............
6. หมาจาก หมาจาก เป็นภาชนะที่ใช้สำหรับตักน้ำในบ่อที่น้ำในหน้าแล้ง เนื่องจากน้ำน้อย
ตะกอนหรือเลนก้นบ่อขุ่นได้ง่าย ต้องระมัดระวังในการตักมิให้กระทบกระเทือนถึงก้นบ่อ
หากน้ำมากการใช้ถังเหล็กถังพลาสติกตักจะได้ปริมาณที่มากกว่าสะดวกกว่า
แต่เมื่อน้ำน้อยและลึกภาชนะที่เบาและเล็กย่อมจะดีกว่า
หมาจากจึงเป็นภูมิปัญญาเพื่อความอยู่รอดอย่างหนึ่งเช่นกัน
วิธีการทำหมาจาก เริ่มจากตัดทางใบจากอ่อนมา 1 ทาง แล้วตัดใบจาก
ออกจากทาง รวบทางจากตามจำนวนที่ต้องการประมาณ.30-50ใบ ตัดส่วนหัว
ส่วนปลายให้เท่ากัน นำใบจากมาคลี่ให้คลายจากรอยพับ การซ้อนใบจากเพื่อทำหมาจาก
ต้องใช้ทั้ง 2 มือและ 1 เท้า มือหนึ่งรวบปลาย เท้าเหยียบใบจากส่วนที่เรียงซ้อนกันแล้ว
มือหนึ่งหยิบใบใหม่มาเรียงซ้อนลักษณะเหมือนกับการเข้าเดือยไม้
ถ้าหลุดใบใดใบหนึ่งก็จะหลุดหมดต้องเริ่มต้นใหม่ ยิ่งกว้างยิ่งยากต่อการทำ
เมื่อเรียงซ้อนจนได้ความกว้างที่ต้องการก็รวบปลายผูกทั้ง 2 ด้าน
แล้วนำปลายทั้งสองมาประกบรัดร้อยด้วยตอกที่ทำจากทางจากอีกครั้งหนึ่ง
ก็จะได้หมาจากตามต้องการ หมาจากนี้ไม่ต้องฉีดวัคซีนป้องกันพิษสุนัขบ้าเสียด้วย
ปัจจุบันหมาจากถูกยกเลิกภาระหน้าที่ในการตักน้ำ หากแต่ได้รับเกียรติ
ให้มาเป็นเครื่องประดับตกแต่งบ้านแทนด้วยการใช้น้ำยาเคลือบเงา ก็เป็นวาสนา
ของหมาจากไป
แหล่งที่มาของข้อมูล //www.st.ac.th/resources/bang/longbang4.htm _____________________________________________________
ต้นจากมากประโยชน์ เนื่องจาก จาก เป็นพืชในวงศ์เดียวกับ ชิด ซึ่งมีลักษณะที่คล้ายคลึงกัน และยังมีความหมายที่สัมพันธ์กัน จึงมักจะมีความเข้าใจสับสน ว่า "จาก" กับ "ชิด" เป็นพืชชนิดเดียวกัน โดยเรียกต้นว่า "จาก" และเรียกลูกว่า "ชิด" ดังมีคำกลอนในนิราศเมืองเพชร ของสุนทรภู่ กล่าวไว้ดังนี้
ในลำคลองสองฟากล้วนจากปลูก ทะลายลูกดอกจากขึ้นฝากแฝง ต้นจากถูกลูกชิดนั้นติดแพง เขาช่างแปลงชื่อถูกเรียกลูกชิดฯ จาก ยังเป็นพรรณไม้ที่ปรากฏในกาพย์เห่เรือ ในรัชกาลที่ 2 อีกด้วยดังนี้ ผลจากเจ้าลอยแก้ว บอกความแล้วจากจำเป็น จากช้ำน้ำตากระเด็น เป็นทุกข์ท่าหน้านวลแตงฯ กาพย์เห่เรือ ในรัชกาลที่ 2
จากกลอนนี้ก็พอจะเห็นภาพของจากมากขึ้น หากพูดถึงคำว่า "จาก" นั้น แต่ละคนก็คงนึกถึงความหมายของคำนี้ต่างกันไป แท้จริงแล้ว คำว่าจากนี้มีความหมายอย่างไรบ้าง
จาก (Nypa) เป็นพืชจำพวกปาล์มที่มีชื่อสามัญว่า Nipa Palm โดยมีการจัดอยู่ที่ในวงศ์ย่อย Nypoideae ซึ่งมีสกุลเดียว (Nypa) และเป็นปาล์มเพียงชนิดเดียวที่เป็นพืชในป่าชายเลนและมีลำต้นอยู่ใต้ดิน นับเป็นพืชเก่าแก่มากชนิดหนึ่ง ที่มีซากดึกดำบรรพ์อายุถึง 70 ล้านปี
แม่เฒ่าเล่าเรื่องจาก "จาก" เป็นพืชที่อยู่กับคนไทยมาช้านาน ถึงแม้ว่าในปัจจุบันนั้น การใช้ประโยชน์ของจากในชีวิตประจำวันจะพบเห็นได้น้อย แต่ในสมัยที่พ่อเฒ่าแม่เฒ่าของพวกเรายังเป็นเด็กหรือเป็นหนุ่ม เป็นสาวกันอยู่นั้น ต้นจากมีประโยชน์ที่สามารถนำมาใช้ได้มากมาย ทั้งของกินและของใช้เราไปอ่านเรื่องเล่าจากพ่อเฒ่าแม่เฒ่ากันดีกว่าค่ะ ว่าในสมัยก่อนนั้น เราใช้ประโยชน์จากต้นจากอย่างไรบ้าง พ่อเฒ่าได้เล่าเรื่องจากให้ฟังว่า จากจะชอบขึ้นที่ดินเหนียวและมีน้ำขัง น้ำเป็นน้ำกร่อยและชอบขึ้นริมคลองใกล้ๆ กับทะเล หรือที่เรียกว่า ปากน้ำนั่นเอง ในสมัยก่อนนั้น จากมีทั้งที่คนตั้งใจจะปลูกขึ้นเพื่อใช้ ประโยชน์และที่ขึ้นมาเอง แต่ส่วนมากแล้วผู้คนจะนิยมปลูกกันมากกว่า เพราะว่าต้นจากนั้นมีประโยชน์มาก สามารถใช้ประโยชน์ได้ทุกส่วน อีกทั้งไม่ต้องปลูกเพิ่มเพราะจากจะสามารถ แพร่ขยายพันธุ์ได้เอง นอกจากนี้ ในสมัยก่อนนั้นการปลูกจากยังเป็น การจับจองที่ดินหากใครปลูกจากบริเวณไหนก็จะถือว่าที่ดินเป็นของคน ที่มาปลูกจากนั้นและในการปลูกก็ใช้การลงแขก ซึ่งก็ถือว่าผู้ที่ไปช่วย ลงแขกปลูกจากนั้นเป็นพยานในการจับจองที่ดินด้วย
พ่อเฒ่าแม่เฒ่าก็ได้เล่าถึงส่วนต่างๆ ที่นำมาใช้ประโยชน์ของจาก เริ่มตั้งแต่ พอนจาก หรือที่ภาษาถิ่นเรียกว่า ปงจาก คุณตาเล่าว่า ส่วนนี้เด็กๆ จะนำมาเป็นทุ่นสำหรับเกาะเวลาว่ายน้ำ เพื่อไม่ให้จม หรือจะนำไม้มาเสียบไว้ด้านซ้ายขวาของพอนจากเพื่อให้เป็นด้ามจับ ของทุ่นเวลาว่ายน้ำก็ได้ พ่อเฒ่าเล่าว่าสมัยเด็กๆ พ่อเฒ่าจะเลือก พอนจากที่สวยๆ แล้วนำไปซ่อนไว้ เมื่อถึงเวลาจะลงเล่นน้ำพ่อเฒ่า ก็จะไปเอาพอนจากที่ซ่อนไว้นั้นมาใช้ นอกจากนี้เด็กๆ ยังนำพอนจาก มาทำเป็นของเล่นต่างๆ มากมาย ทั้งเรือ ปืน หรือดาบ ซึ่งจริงๆ แล้ว พอนจากนั้นเป็นสิ่งที่เหลือใช้ แต่เด็กๆก็ยังสามารถนำมาใช้ประโยชน์ ได้ ส่วนที่เหนือขึ้นมาเล็กน้อยของพอนจาก ก็สามารถตัดมาทำไม้ดอก ตีเงี่ยงปลาสำหรับชาวประมงได้ด้วย โดยเลือกตัดพอนจากให้มีขนาด พอดีมือจับ ใช้ตีเงี่ยงปลาเมื่อจับปลามาได้
ส่วนของทางจาก หลังของทางจากก็สามารถนำมาทำปลอกแจวเรือได้ ปลอกแจวเรือจากนี้มีข้อดีกว่าปลอกแจวเชือกไนลอนคือมีความเหนียวกว่า แต่ข้อเสียก็คือไม่ทนทาน ทางจากนั้นก็ยังสามารถทำตับจากได้อีก แต่ต้องใช้เพียงชั่วคราวเท่านั้น เพราะไม่แข็งแรง ดังนั้น จึงต้องทำเตรียมไว้หลายๆ อันใส่ใต้ท้องเรือที่มีน้ำขังนิดหน่อย เพื่อไม่ให้มันกรอบ และคงความเหนียวอยู่ และเวลาใช้ก็ต้องวิดน้ำ ใส่ปลอกแจวก่อนเพื่อให้เหนียวและไม่ขาดง่าย และสามารถทำตับจาก ชั่วคราวที่ไม่ต้องการความคงทนถาวรมากนัก และชาวประมงยังใช้ส่วน ของทางจากแก่มาทำเป็นตะแกรงย่างปลาอีกด้วย
สำหรับใบจากนั้นจะมีลักษณะคล้ายๆ กับใบมะพร้าวแต่มีขนาดใหญ่กว่า ใบอ่อนที่เพิ่งแตกยอดนั้นนำมาทำมวนบุหรี่สูบ ส่วนใบนำมาห่อขนมจาก อย่างที่พบเห็นกันในปัจจุบัน
ใบแก่จะเย็บเป็นตับจากนำมามุงหลังคาหรือกั้นฝาบ้าน นำมาทำกระแชง ซึ่งมีลักษณะคล้ายๆ กับเตนท์ ทำเป็นเพิงอาศัยพักผ่อนเวลาไปทำนา ทำสวนหรือใช้กันแดดกันฝนบนเรือแจว พ่อเฒ่าบอกว่ากระแชงนั้น กันความร้อนได้ดีกว่าเตนท์มาก เพราะใบจากที่ซ้อนๆ กันนั้นก็เป็น ฉนวนกันความร้อนอย่างดีเลยทีเดียว ดังนั้นคนก็เลยนำใบจากมาทำฝา ซึงที่ใช้นึ่งอาหารต่างๆ เพราะใบจากทนความร้อน เปรียบเสมือนฉนวน กันความร้อน สามารถทำได้เองโดยไม่ต้องซื้อ หรือจะทำฝาชีครอบ กับข้าวก็ได้
แม่เฒ่ายังเล่าอีกว่าใบจากอ่อนยังสามารถทำหมาจากใช้วิดนำในเรือได้อีก และยังดีกว่าหมาวิดน้ำอื่นๆ เพราะหมาจากนั้นไม่กินเนื้อไม้ ทำให้เนื้อไม้ไม่เสีย เรือไม่ทะลุ ใบจากยังใช้ทำแมงดากันฝนได้อีกด้วย และยังสามารถทำของเล่นได้อีก นั้นก็คือ ลูกโตนนั้นเอง ก้านจากยัง สามารถนำมาทำเสวียนหม้อและไม้กวาดได้อีก
ส่วนของนกจาก เมื่ออ่อนก็นำไปต้มกินกับน้ำพริก หรือนำไปแกงกะทิ รับประทานก็ได้ งวงจากหนุ่มสามารถทำไม้กวาดหรือแส้ปัดแมลงได้ หรือทำชดหรือแปรงล้างกระบอกตาลเวลาทำน้ำตาลจากได้อีก
น้ำหวานของต้นจากหรือนำตาลจาก พ่อเฒ่าแม่เฒ่าเล่าว่ามีรสชาติ เหมือนกับน้ำตาลโตนด และสามารถนำไปเคี่ยวเพื่อทำน้ำผึ้งจาก หรือจะหมักเพื่อทำน้ำส้มจากก็ได้ ซึ่งปัจจุบันนี้นำส้มจากก็เป็นที่นิยม ของผู้ที่เลี้ยงกุ้งมากเพราะสามารถนำไปหมักผสมกับอาหารกุ้ง และช่วยให้นำในบ่อกุ้ง ไม่เน่าเสียอีกด้วย น้ำส้มจากนั้นก็นำไป ทำน้ำตาลเมาได้นอกจากนี้หากนำ น้ำตาลจากไปเคี่ยวหลังจากเคี่ยว ได้น้ำผึ้งจากแล้วก็จะได้น้ำตาลปึก หรือเคี่ยวต่อเป็นตังเม ตังเมเป็นขนมที่เด็กสมัยก่อนชอบมากเพราะเมื่อก่อนไม่ได้มีขนม ขบเคี้ยวมากเหมือนปัจจุบัน เวลาที่ทำตังเม เด็กๆ ก็จะเตรียมใบจาก มารองตังเมไว้เพราะตังเมจะไม่ติดที่ใบจาก
และส่วนสุดท้ายลูกจาก ลูกจากอ่อนสามารถนำไปแกงรับประทานได้ หรือเมื่อปล่อยให้อ่อนพอเหมาะก็สามารถนำมาลอยแก้วหรือเชื่อมรับ ประทานเป็นขนมหวานหรือทานกับไอศกรีมได้
โดย นางสาวพัณณิกา วัฒโน นักวิชาการส่งเสริมการเกษตร สำนักงานเกษตรอำเภอพุนพิน
ข้อมูลที่มา อ้างอิงจาก...//www.fisheries.go.th/cf-chan/hatch/tree/tree-page.htm _______________________________________________________
ต้นจาก...ถ่ายเมื่อ ๒๕๕๓ ถ่ายมาจากแม่น้ำบางปะกง หน้าแพร้านอาหารรวยเพื่อน _____________________________________________________
//www.andamanfriend.org/database/data/4/0004.html การเพาะและใช้ประโยชน์จาก ตอนที่ 1
คำนำ
บริเวณอ่าวกะเปอร์ตั้งอยู่ที่ตำบลกะเปอร์และตำบลม่วงกลวง อำเภอกะเปอร์ จังหวัดระนอง พื้นที่อ่าวกะเปอร์ มีทั้งหมดประมาณ 28 ตร กม หรือ 17,218 ไร่ เป็นแหล่งที่ไหลรวมกันของสายน้ำต่างๆ ก่อนไหลลง สู่ทะเล เช่น คลองกะเปอร์ คลองนาคา คลองลัดโนด และคลองเล็กน้อย อื่นๆ อีกหลายสาย ต้นจากเป็นไม้พื้นเมืองชนิดหนึ่งที่พบเห็นเฉพาะที่ตาม บริเวณปากแม่น้ำ เช่น ตามปากแม่น้ำปากพนัง ปากแม่น้ำบางปะกง และปากแม่น้ำแม่กลอง เป็นต้น ในจังหวัดระนองเอง จะพบเห็นในปริมาณ ที่หนาแน่นได้ที่บริเวณปากแม่น้ำกระบุรีและที่ปากคลองกะเปอร์แห่งนี้ เท่านั้น ที่บริเวณอ่าวกะเปอร์แห่งนี้ จะมีชาวบ้านไม่ต่ำกว่า 50 ครอบครัว ที่มีอาชีพในการตัดจากขายและรับจ้างเย็บใบจากตลอดทั้งปี และมีชาวบ้าน ประมาณ 10 ชุมชน ในละแวกนี้ได้เก็บเกี่ยวผลประโยชน์จากต้นจาก อย่างสม่ำเสมอ เป็นต้นว่า บ้านบางลำพู บ้านด่าน บ้านชีมี บ้านเกาะยายรัง และชุมชนใกล้เคียง ได้มีการทำผลิตภัณฑ์จากจาก เช่น ทำตับจากวาง จำหน่ายที่ข้างทางบริเวณบ้านบางลำพู ริมถนนเพชรเกษมตรงหลัก กม ที่ 666 ดังนั้นอาจจะกล่าวได้ว่า ต้นจากเป็นไม้ในป่าชายเลนที่มีความสำคัญ ต่อวิถีชีวิตของชุมชนมากที่สุดชนิดหนึ่ง และอาจจะกล่าวได้ว่าประชาชน ใช้ประโยชน์จากไม้ชนิดนี้มากที่สุดกว่าไม้ชนิดอื่นๆ ในป่าชายเลน
ลักษณะของต้นจาก
ต้นจาก มีชื่อสามัญ คือ Nypa Palm ชื่อวิทยาศาสตร์คือ Nypa fruticans Wurmb) ซึ่งจัดเป็นพืชในป่าชายเลนชนิดหนึ่งที่ขึ้นได้ในป่าชายเลน ตามปากแม่น้ำ ลำคลอง ที่มีระบบน้ำกร่อย และชอบขึ้นตามดินเลนตะกอน แม่น้ำ ที่มีลักษณะเหนียวและค่อนข้างแข็ง พบมากตามชายฝั่งคลองที่ บริเวณปากแม่น้ำ จะขึ้นเป็นกลุ่มๆ ตามริมแม่น้ำ ลำคลองบริเวณปากแม่น้ำ และจะพบขึ้นกระจัดกระจายทั่วไปปะปนกับไม้ป่าชายเลนชนิดอื่นๆ เช่น ปรง ลำพู ลำแพน แสม โกงกาง และตะบูน เป็นต้น จากมีการขยายพันธุ์ได้ทั้งโดยการแตกหน่อ และจากการงอกของเมล็ด
ประโยชน์ของต้นจาก
ต้นจากเป็นพืชสารพัดประโยชน์ ชาวบ้านรู้จักต้นจากและรู้จักการใช้ ประโยชน์จากต้นจากมาตั้งแต่บรรพบุรุษมาช้านาน หลายๆ ส่วนของ ต้นจากล้วนมีคุณค่าทั้งสิ้น ใบอ่อนใช้ทำเป็นที่มวนบุหรี่ดูดและใช้ห่อขนม ใบแก่นำมาทำตับจากมุงหลังคาบ้านและทำฝาผนังและมีความทนทานนาน ประมาณ 3-4 ปี หลังคาจากตับจากจะมีความสวยงามและกลมกลืนกับ ธรรมชาติเป็นอย่างยิ่งและเย็นสบายดีในหน้าร้อนและใบแก่ยังใช้ห่อขนม จากปิ้งที่นิยมรับประทานกันทั่วไป งวงตาลเมื่อปาดแล้วจะได้น้ำตาลจาก ที่สามารถนำมาทำน้ำตาลได้เหมือนกับน้ำตาลจากต้นตาลและต้นมะพร้าว หรือใช้ทำเหล้าจาก และทำน้ำส้มจากได้ด้วยเมล็ดใช้กินสดได้รสชาด เหมือนลูกตาล และนำมาทำลูกชิดหรือลูกจากที่รู้จักกันดี ซึ่งจะเห็นได้ว่าต้นจากมีประโยชน์มากมายสารพัดต่อชุมชน
จากการพูดคุยกับชุมชนที่บ้านชีมี เกาะยายรัง และบางลำพู อำเภอกะเปอร์ ทำให้ทราบว่า ต้นจากจะให้ผลผลิตเมล็ดและตัดใบจากได้เมื่ออายุได้ประมาณ 4 ปีขึ้นไป หลังจากตัดใบจากจากก้านแก่ครั้งแรกแล้ว จะเหลือก้านอ่อนไว้อย่างน้อย 2-3 ก้านเพื่อให้เจริญเติบโตต่อไป เพื่อตัดครั้งต่อไป ซึ่งก้านอ่อนนี้จะสามารถวนมาตัดใบได้อีกภายใน 3 เดือน ดังนั้นชุมชนในพื้นที่ดังกล่าวจึงมีการดูแลและเก็บรักษาต้นจากไว้อย่างดี เวลาตัดใบจะมีการถากถางวัชพืชในบริเวณที่มีต้นจากขึ้นเพื่อให้สะดวก ต่อการเข้าไปเก็บเกี่ยวใบจาก ชาวบ้านจะมีการจัดการการเก็บเกี่ยวจาก เป็นต้นว่ามีข้อกำหนดที่รู้กันดีภาย ในชุมชนในการเก็บเกี่ยวผลผลิต ดังนั้นวิธีการนี้จึงมั่นใจได้ว่าต้นจากจะมีการฟื้นตัวได้ดีกว่า กาถากถาง บริเวณต้นจากให้โล่ง นอกจากสะดวกต่อการเข้าไปตัดแล้ว ยังส่งผล ให้ต้นจากมีโอกาสขยายพันธุ์เองได้ง่ายตามธรรมชาติทั้งจากการแตกกอ และจากงอกของเมล็ด เพราะจากจะชอบขึ้นในพื้นที่ที่โล่งและมีแสงแดด ส่องถึง ดังนั้นภูมิปัญญาชาวบ้านเหล่านี้สามารถนำมาผสมผสาน ในการจัดการและอนุรักษ์ต้นจากได้เป็นอย่างดี
ขั้นตอนการทำตับจาก
การตัดใบจาก ชาวบ้านจะออกตัดจากได้ในช่วงระหว่าง5 ค่ำ ถึง12 ค่ำ เพราะเป็นช่วงที่น้ำตาย (ระดับน้ำเปลี่ยนแปลงขึ้นลงไม่แตกต่างกันมากนัก) และเป็นระยะเวลาที่น้ำท่วมไม่มากนัก ทำให้สะดวกต่อการเดินเข้าไป ตัดใบจาก การตัดแต่ละครั้งจะมีการเหลือก้านอ่อนเอาไว้ 2-3 ก้านต่อต้น เพื่อให้ก้านเหล่านี้มีการเจริญเติบโตต่อไป หลังจากตัดครั้งแรกไปแล้ว ประมาณ 3 เดือน ก็จะวนมาตัดที่ต้นเก่าได้อีกครั้งหนึ่ง ชาวบ้านจะออกทำการตัดใบจากตลอดทั้งปี ถ้าฝนไม่ตกหนักจนเกินไป
เมื่อทำการตัดก้านจากแล้วจะริดใบจากออกจากก้าน แล้วนำมาใบจากมามัดรวมกันเป็นมัดๆ การมัดโดยการนำใบจาก มาวางเรียงให้ดีในบริเวณที่ปักไม้หรือก้านจากเอาไว้ จากนั้นใช้เชือกที่ลอกออกมาจากเปลือกก้านจากมัดให้แน่น มัดจาก เมื่อมัดจากเสร็จสิ้นแล้วจะทำการลำเลียงลงเรือ บรรทุกกลับมา ที่บริเวณทำผลิตภัณฑ์ตับจากของกลุ่ม หรือบางคนก็จะลำเลียง ไปทำตับจากที่บ้านของตนเอง
การทำตับจากโดยการเรียงใบที่เหมาะสมและจัดใบให้เท่ากัน การเรียงใบจะทำครั้งละประมาณ 2-3 ใบแล้วพับรอบก้านไม้ไผ่ที่เตรียมไว้ จากนั้นเย็บยึดใบจากเข้าด้วยกันด้วยตอกหรือเชือกฟาง คนหนึ่งจะทำ ตับจากได้ประมาณ 100 ตับต่อวัน ตอกจะทำจากไม้ไผ่ชนิดหนึ่งที่เรียก เป็นภาษาชาวบ้านว่าไผ่ราชวัง ที่มีปล้องยาวและเมื่อทำเป็นตอกแล้ว จะมีความเหนียวมากเป็นพิเศษ ตับจากอันหนึ่งจะมีความยาว 1-2 เมตร
หลังจากเย็บตับจากเสร็จแล้ว ชาวบ้านจะนำตับจากมามัดรวมกัน เป็นชุดๆ ชุดหนึ่งมีทั้งหมด 25 ตับ ซึ่งจะจำหน่ายที่ราคา 75 บาทต่อชุด หรือราคา 3 บาทต่อหนึ่งตับ ลูกค้าส่วนมากจะเป็นผู้ที่สัญจรผ่านไปมา และลูกค้าที่ทราบข่าวและบอกเล่ากันฟังปากต่อปาก รวมทั้งผู้ที่ประกอบธุรกิจท่องเที่ยวและร้านอาหาร และชุมชนใกล้เคียง
การขยายพันธุ์ของต้นจาก
ต้นจากตามแนวคลองกะเปอร์
ต้นจากขยายพันธุ์ได้เองโดยธรรมชาติ เช่นโดยการแตกกอ และโดยเมล็ด เมื่อเมล็ดแก่แล้วจะหลุดร่วงล่องลอยไปตามน้ำพอน้ำแห้ง ก็จะติดกับดินเลนแล้วเจริญเติบโตขึ้นมา อย่างไรก็แล้วแต่ เราสามารถ ทำการปลูกจากได้ โดยการเก็บรวบรวมเมล็ดที่แก่จัด (โดยทั่วไปเมล็ดจะแก่ได้ที่ประมาณเดือนตุลาคม ถึง เดือนธันวาคม ดังนั้นจึงเก็บหาเมล็ดได้ในช่วงนี้ของทุกปี) เมล็ดที่แก่จัดส่วนมากแล้วจะร่วงหล่นจากทลายเอง แล้วนำเมล็ดเหล่านั้นมา เพาะ เมล็ดจากอาจจะมีความงอกต่ำ แต่ข้อสังเกตุของการเลือกเมล็ด ที่จะนำมาเพาะคือให้เลือกเฉพาะเมล็ดที่มีหน่อเล็กๆ ให้เห็นเท่านั้น เพราะว่าเมล็ดที่มีหน่อเล็กๆ นี้จะมีความงอกแน่นอน ส่วนเมล็ดที่ไม่มีหน่อ เล็กๆ จะมีอัตราความงอกต่ำมาก ดังนั้นควรเลือกเฉพาะเมล็ดที่มีหน่อเล็ก มาทำการเพาะชำ กล้าจากจะมีการเติบโตช้ามาก ดังนั้นอาจจะใช้เวลา เพาะนานถึง 1-2 ปี ในระหว่างที่เพาะกล้าจากควรทำการรดน้ำบ้าง โดยเฉพาะในช่วงหน้าแล้ง และเป็นช่วงที่มีน้ำลงนานๆ ต้นกล้าที่จะนำไป ปลูก ถ้าหน่อยังเล็กอยู่อาจจะเสี่ยงต่อการกัดกินของสัตว์น้ำโดยเฉพาะปู ดังนั้นควรจะเลือกต้นกล้าที่มีขนาดโตและเริ่มมีใบแตกออกมาแล้วไปปลูก
เรือนเพาะชำสามารถทำได้ง่ายๆ โดยการกั้นพื้นที่ด้วยอวนหรือตาข่าย ที่บริเวณน้ำกร่อยท่วมถึง และเป็นที่ดินเลนเหนียว และเป็นที่ที่มีร่มเงา กั้นแปลงด้วยไม้แล้วนำถุงเพาะชำที่มีดินเลนมาเรียงไว้ให้เต็มในบริเวณ ไม้ที่กั้นเอาไว้ แล้วนำเมล็ดมาทำการเพาะชำในถุงเพาะชำเหล่านี้
บางพื้นที่มีการเก็บต้นกล้าที่งอกเองตามธรรมชาติมาปลูก แต่วิธีการนี้ ต้องรู้จักการเก็บและเหลือต้นกล้าบางส่วนไว้ด้วย เพื่อให้ต้นกล้าได้มี โอกาสเจริญเติบโตทดแทนต้นแก่ต่อไป การเก็บเต้นกล้าและเมล็ดตาม ธรรมชาติจะมีผลเสียบ้างที่ทำให้เมล็ดและต้นกล้าไม่มีโอกาสไปขยายพันธุ์ สู่ที่อื่นๆ ดังนั้นจึงควรเหลือเมล็ดและต้นกล้าไว้ให้มีการขยายพันธุ์เองบ้าง ตามธรรมชาติ การเก็บต้นกล้าจากจากธรรมชาติมาปลูกจะมีความเสี่ยงต่อ อัตราการตายสูง เพราะเวลาถอนหรือขุดจะทำให้ระบบรากขาดหรือกระทบ กระเทือนต่อระบบราก ดังนั้นควรเลือกกล้าจากที่ยังไม่มีรากแทงลงสู่ดิน
การเตรียมการก่อนปลูก อาจจะมีการถากถางวัชพืชบ้างเล็กน้อย เพื่อให้การปลูกได้ง่ายขึ้นและต้นกล้าได้รับแสงแดดอย่างพอเพียง บริเวณสถานที่ปลูกจากควรจะเป็นพื้นที่ริมลำคลองและริมแม่น้ำ และเป็นบริเวณที่มีดินเหนียวและแข็งเป็นส่วนประกอบ หลังจากปลูก แล้วควรจะมีการกำจัดวัชพืชอย่างสม่ำเสมอเช่นกันโดยเฉพาะในระยะแรกๆ เพื่อไม่ให้วัชชพืชรบกวนการเจริญเติบโตต่อต้นจากอ่อน andamanfriend 15 Mar 2008 - 17:34 _______________________________________________________
การเพาะและใช้ประโยชน์จาก ตอนที่ 2 //www.andamanfriend.org/database/data/4/0005.html
_______________________________________________________
งานวิจัยร่วมเอทานอลจากต้นจาก
หมวด: ปาล์มน้ำมัน/ไบโอดีเซล/พลังงานทดแทน และอนุรักษ์พลังงาน เผยแพร่เมื่อ วันพฤหัสบดี, ๑๑ ตุลาคม ๒๕๕๕ ๐๙:๔๐ เขียนโดย Super User
งานวิจัยร่วมเอทานอลจากต้นจาก งานวิจัยเรื่อง เอทานอลจากต้นจากนี้ เป็นงานวิจัยที่ รศ.ดร.นพรัตน์ บำรุงรักษ์ นักวิจัยผู้เชี่ยวชาญการศึกษาต้นจาก ร่วมกับ Prof. Dr.Shiro Saka จากมหาวิทยาลัยเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น ได้ทำการวิจัยเกี่ยวกับการสกัดเอทานอลจากต้นจาก พืชจำพวกปาล์มที่มีสำคัญและคุณประโยชน์สูง เพราะเป็นพืชพลังงานที่สามารถนำทุกส่วนมาแปรรูปได้ ทั้งทำน้ำตาลจากต้นจาก ทำก๊าชชีวมวล และอื่นๆอีกมากมาย ซึ่งในประเทศญี่ปุ่น มีอากาศเปลี่ยนแปลงค่อนข้างรุนแรง ทั้งหนาวจัด พายุ ฝน และร้อน จึงไม่เหมาะแก่การปลูกต้นจาก ในขณะที่ประเทศไทยนั้น มีอุณหภูมิที่เหมาะสม และสามารถปลูกต้นจากได้ดี เมื่อผนวกกับความรู้ความสามารถ ในการเป็นผู้นำและนวัตกรรม กระบวนการต่างๆของประเทศญี่ปุ่นแล้ว จึงเป็นโอกาสอันดีที่จะมีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในเรื่องดังกล่าว เพื่อให้เกิดการประยุกต์ใช้ให้เป็นประโยชน์ทั้งต่อมหาวิทยาลัยทั้ง 2 และประเทศต่อไป
ทีมวิจัยจากญี่ปุ่น เข้าศึกษาดูงานในพื้นที่
ชมวิดีโอข่าวการวิจัยร่วม เรื่องเอทานอลจากต้นจาก
สถาบันวิจัยระบบพลังงาน มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ สำนักวิจัยและพัฒนา ชั้น 11 อาคารศูนย์ทรัพยากรการเรียนรู้ (Learning Resource Center Building) โทร. 0-7428-6968 โทรสาร 0-7428-6961 //www.perin.psu.ac.th/
_______________________________________________________
Create Date : 11 ตุลาคม 2552 |
| |
|
Last Update : 7 กุมภาพันธ์ 2556 22:47:30 น. |
| |
Counter : 21992 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
P_ปรัชญา |
|
|
|
|