เล่นหุ้น-----หรือโดน-----หุ้นเล่น
(เปิดอ่านผ่านโปรแกรม Google chrome )เล่นหุ้นเมื่อย่างเข้าวงการยุทธจักรหุ้นการเก็งกำไรการเล่นข่าวเมื่อมีข่าวลือส่วนมาก มือใหม่ใจถึง มือเก่าเฝ้ากระดานก็จะกระโจนเข้าเก็งกัน ตอนที่ยังมีข่าวที่ยังไม่ชัดเจนหุ้นก็วิ่งไปได้ระดับหนึ่ง เป็นชาวไล่แต่เมื่อข่าวจริงออกมา ก็จะเกิดแรงขายเพื่อเอาส่วนต่างของผลกำไรเพื่อเก็บไว้ มองหาหุ้นตัวใหม่ต่อไปจึงเป็นที่มาของคำว่า....ข่าวลือให้ซื้อ ข่าวจริงให้ขาย_________________________________________________________ซื้อแพง-ขายถูก...เพื่อรอซื้อที่ถูกกว่า..._________________________________________________________ผมชอบพูดล้อเล่น กับคนที่สนิทกันเสมอๆเรื่องก็คือ...เป็นอารมณ์ตลาด(ก็อารมณ์คนเล่นหุ้นนั่นล่ะ)เมื่อเราซื้อหุ้นA ราคา2.30บาท/หุ้นจูๆ ่มู๊ดตลาดมันไม่ดี มีแต่แรงเทขาย ไม้ใหญ่ๆทั้งโยน ทั้งทิ้งกันลงมาขาดหมดเป็นช่องๆ เมื่อเราเฝ้าดูอาการว่า...ท่ามันแรงซื้อ ตงจะสู้แรง ไม่ไหวขณะนั้นราคาหุ้นมันก็ไหลลงจาก 2.30บาทมาอยู่ที่1.98บาท/หุ้นด้วยความคาดหวังว่ามันจะลงไปต่อได้อีกเราก็ทิ้งซ้ายไปแบบสุดสุดเลย เอาไปให้หมดแล้วเราก็ลงไปตั้งรับที่1.90บาท/หุ้นก็อยากจะได้ส่วนต่างสัก 8 สตางค์8 สตางค์นี่ถ้าถือหุ้น1แสนหุ้น ถ้าเป็นไปได้ก็จะได้เงินทอน 8 พันบาทยังไม่หักค่าคอมฯแบบนักวิเคราะห์ เซียนใหม่เซียนเก่า เรียกว่า...ช๊อตอะเกนพอท์ตหลังจากการเทขายทั้ง ลูกมือและเจ้ามือจนมาถึง2.92บาท/หุ้นเป็นบิดและมีออฟเฟ่อร์2.94บาท/หุ้น กดอยู่เป็นล้านหุ้นในใจก็นึกว่า...เดี๋ยวเสร็จเราแต่จู่ๆ เหมือนเจ้ามือมันจะรู้ทันเกมส์มันมีแรงหันไปเคาะขวารูดขึ้นไปหลายคนเรียกว่ามันเด้ง เด้งขึ้นไปมากกว่าเด้งลงมาอีกมันวิ่งขึ้นไปสูงกว่าที่เราขายไปอีก ในชั่วพริบตาเหลืออยู่4วิธี1.เคาะตามมันขึ้นไป2.รอมันลงมาต่ำกว่าที่เราขายไป3.รอดูอาการ แล้วเล่นได้ทั้ง2อย่างข้างบน4.ออกจากหุ้นตัวนั้น แล้วไม่หันไปมองมันอีก หาหุ้นใหม่เล่นดีกว่า__________________________________________________เสียจังหว่ะ พลาดโอกาส___________________________________________________คงไม่มีใครคนไหน เข้ามาเล่นหุ้นแล้วบอกตัวเองว่า...เล่นหุ้นแก้เหงาเล่นหุ้นอันแบบมันส์เข้าว่า...เล่นหุ้นตามเขาเดี๋ยวเราก็รวย(บางครั้งก็ซวย)เล่นหุ้นยามว่าง แบบค่าเวลาหาอะไรทำเล่นหุ้นนี่เป็นงานอดิเรกเล่นหุ้นเพราะอยากหมดเงิน จะได้รู้จัก คำว่าแมงเม่าที่จริงมันอยู่ที่ไหนเล่นหุ้นแบบเงินมันว่าง ม๊ะรู้ว่าจะลงทุนอะไรดีเล่นหุ้นแบบเก็งกำไร แต่พอซื้อแล้วมันลง ก็ว่า...เล่นหุ้นลงทุน พอมันลดราคาลงไปอีก ก็ว่า...เล่นหุ้นแบบถือยาว ก็ไม่ยาวได้ไง ไม่ขายไม่ขาดทุนเล่นหุ้นแบบVI (บางคนก็บ้ากันไปตามกระแสแฟชั่น เทรนนี้มาแรง อ่ะดิ)สารพัด ที่พยายามหาเหตุผลให้ตัวเองสุดชีวิตและเที่ยวได้หลอกชาวบ้าน เพื่อนสนิท มิตรสหาย เครือญาติเล่นหุ้นเป็นการออม การลงทุนชนิดหนึ่งว่ากันไปไม่เคยยอมรับเลยว่าเล่นหุ้นกันเนี่ยเพราะความโลภ เพราะกิเลส เพราะอยากรวย เพราะอยากลองเพราะคิดว่ารู้จักดีมีความรู้+ความสามารถ คิดเข้าข้างตัวเอง ได้ตลอดซิเอ้า..เขียนโดย...ปรัชญา__________________________________________________________________________กฎแห่งการลงทุน ของนักลงทุนระยะสั้น กฎการลงทุนทีคิดค้นโดย Victor Sperandeo __________________________________________________________________________ผู้มีชื่อเสียงในฐานะนักลงทุนทีประสบความสำเร็จในตลาดหุ้น wall Street มาตลอดระยะเวลา 23 ปี โดยได้เขียนหนังสือที่ชื่อ Methode of Wall Street ซึ่งเป็นกฎแห่งการลงทุน 19 ข้อ ซึ่งเหมาะสำหรับการลงทุนในระยะสั้นกฎข้อที่ 1 ลงทุนอย่างมีแบบแผน และปฏิบัติตามแผนที่ตนเองว่างไว้อย่างเคร่งครัดผู้ลงทุนจะต้องมีเป้าหมายและคำนวณถึงโอกาสที่จะไปเป้าหมาย โดยการกำหนดแนวทางในการตัดสินใจ ในการลงทุน ต้องรู้จักประเภทการลงทุนของตัวเอง ซึ่งหมายความว่า นักลงทุนต้องทราบว่าตัวเองเป็นนักลงทุนประเภทใด ระยะสั้น ระยะกลาง หรือระยะยาวกฎข้อที่ 2 เล่นหุ้นตามแนวโน้มของตลาดที่เป็นอยู่นักลงทุนต้องรู้ว่าขนาดนั้นตลาดอยู่ในแนวโน้มระยะใด ไม่ว่าแนวโน้มระยะสั้น แนวโน้มระยะกลาง หรือแนวโน้มระยะยาว ซึ่งแต่ละแนวโน้มล้วนมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลากฎข้อที่ 3 วางแผนในการตัดขาดทุนเมื่อราคาหุ้นไม่เป็นไปตามที่คาดนักลงทุนต้องกำหนดระดับราคาที่จะตัดขายหุ้นเมื่อหุ้นลงถึงจุดที่กำหนด โดยการที่เรายอมตัดขาดทุนเพียงเล็กน้อย ดีกว่าปล่อยให้ราคาหุ้นตกลงไปจนไม่กล้าตัดสินใจขาย การตัดขาดทุนควรกำหนดไว้เมื่อราคาหุ้นตกลงไปในระดับ 10-20 %กฎข้อที่ 4 เมื่อไม่มั่นใจในทิศทางของตลาด ควรหยุดรออยู่ข้างนอกตลาดถ้านักลงทุนอ่านสภาพตลาดไม่ออก ถ้าไม่มีหุ้นอยู่ในมือ ควรหยุดรอไม่ควรซื้อ หรือถ้ามีหุ้นอยู่ควรจะทยอยลดพอร์ตลง โดยนักลงทุนไม่ควรเล่นหุ้นในช่วงทีตลาดที่มีอารมณ์ของคนทั่วไปครอบงำ ไม่ว่าความโลภ หรือความกลัวกฎข้อที่ 5 รอจังหวะอย่างอดทนไม่ควรซื้อหุ้นเพราะไม่มีอะไรให้ซื้อ หรือไม่ควรซื้อหุ้นทั้งๆที่ไม่รู้ว่าจะซื้อหุ้นบริษัทใด โดยต้องรอให้สิ่งต่างๆมีความชัดเจน สามารถพิจารณาได้อย่างละเอียดถี่ถ้วนแล้ว จึงเข้าลงทุนกฎข้อที่ 6 เมื่อหุ้นขึ้นให้ขายช้า เมื่อหุ้นตกให้ขายเร็วเมื่อราคาหุ้นปรับตัวขึ้น ควรปล่อยให้ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นไปเรื่อยๆไม่ต้องรีบขายทำกำไร แต่เฝ้าดูตลาดอย่างใกล้ชิด แต่หากเมื่อราคาหุ้นปรับตัวลดลงหรือเข้าจังหวะในการลงทุนผิด ต้องตัดขายให้เร็วกฎข้อที่ 7 อย่าทำกำไรให้กลายเป็นขาดทุนโดยมีหลักการว่าเมื่อราคาหุ้นขึ้นไป 1/3 ของเป้าหมายที่วางไว้ ควรจะตัดขายหุ้นออกมาประมาณ 1 ใน 3กฎข้อที่ 8 ซื้อเมื่อหุ้นมีราคาต่ำ ขายหุ้นเมื่อหุ้นมีราคาสูงสิ่งที่นักลงทุนในระยะสั้นต้องจดจำคือ เมื่อแนวโน้มระยะสั้นราคาอ่อนตัว ให้ซื้อลงทุนได้กฎข้อที่ 9 ช่วงต้นของตลาดกระทิง ให้ทำตัวเป็นนักลงทุน และเป็นนักเก่งกำไรเมื่อ อยู่ในช่วงท้ายของตลาดกระทิง และตลาดหมีเมื่อตลาดหุ้นเปลี่ยนแนวโน้มจากภาวะหมี กลับขึ้นสู่ภาวะกระทิง จะต้องเป็นนักลงทุนในระยะกลาง ไม่ควรเล่นเก่งกำไรซึ่งจะทำให้ผลกำไร หดลงไป แต่หากภาวะตลาดกลับจากกระทิงเป็นภาวะหมี การลงทุนต้องเปลี่ยนไปเป็นเล่นระยะสั้นเก่งกำไรกฎข้อที่ 10. การซื้อถัวเฉลี่ยจะทำให้ขาดทุนเพิ่มมากขึ้นเพราะจะทำให้นักลงทุนจมสู่การขาดทุนไปมากยิ่งขึ้น ทางที่ดีควรขายตัดขาดทุนเพื่อที่จะรอโอกาสกลับมาซื้อใหม่ในราคาที่ถูกลงกฎข้อที่ 11.อย่าซื้อหุ้นเพราะเห็นว่าราคาต่ำ และอย่าขายเพราะเห็นว่าหุ้นราคาสูงโดยไม่พิจารณาปัจจัยต่างๆให้ถ่องแท้โดยไม่ควรนำเอาอดีตที่ราคาหุ้นได้ตกลงมาถึงจุดที่เคยลงมา และไม่ควรคิดว่าราคาหุ้นจะไม่สามารถผ่านจุดที่เคยขึ้นไปถึงได้กฎข้อที่ 12.ลงทุนในตลาดที่มีสภาพคล่องสูงการลงทุนในตลาดที่มีสภาพคล่องต่ำ นักลงทุนตัวไปจะไม่มั่นใจในตลาด ซึ่งเป็นความกลัวในภาวะต่างๆ จะเกิดความไม่แน่นอนในการลงทุนเป็นอย่างยิ่งกฎข้อที่ 13.อย่าลงทุนในช่วงปลายตลาดขาขึ้น เนื่องจากเป็นช่วงที่นักลงทุนทั่วไปขาดการวิเคราะห์ข้อมูลอย่างถ่องแท้ จึงอาจพลาดในการซื้อหุ้นในราคาสูงกฎข้อที่ 14.การตัดสินใจซื้อหรือขายหุ้นต้องอยู่ที่ตัวเองเท่านั้นไม่ควรที่จะเชื่อข่าวลือต่างๆ ที่ทำให้หลงให้เราเข้าไปติดหุ้นกฎข้อที่ 15.หากเกิดความผิดพลาดต้องนำมาวิเคราะห์ถึงสาเหตุที่เกิดขึ้นเพื่อจะได้ปรับปรุงสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้น ซึ่งก็เหมือนกับว่าจะได้นำอดีตกลับไปเป็นครูเพื่ออนาคตต่อไปกฎข้อที่ 16.เทคโอเวอร์ ข่าวอันตรายกฎข้อที่ 17.การส่งคำสั่งซื้อขายแต่ละครั้งต้องตรวจสอบความถูกต้องให้เรียบร้อยก่อนเสมอกฎข้อที่ 18.บันทึกคำสั่งซื้อขายทุกครั้งเพื่อเป็นหลักฐานต่อไปกฎข้อที่ 19.จดจำและปฏิบัติตามกฎ ทั้ง 18 ข้อที่มา Methode of Wall StreetVictor Sperandeo b-take.com__________________________________________________________________________คัมภีร์ ไตรยุทธ์ __________________________________________________________________________1. เล็งแล้วซื้อ (เกิดขึ้น) เลือกหุ้นยอดนิยม / หุ้น Lead / หุ้นติด Most Activeรอจังหวะราคาหุ้นถูกทุบลงมา แล้วเริ่มยืนได้ โดยสังเกตุราคาหุ้นไม่ทำ New Low และวันต่อมาทำจุดต่ำยกสูงขึ้น ราคาหุ้นทะลุเส้นแนวโน้มลง ระยะสั้น กลาง [ ใช้เครื่องมือทางเทคนิคเคิล กราฟราย 30 นาที รอจังหวะราคาหุ้นตกลงมาแรงๆ และเริ่มยืนได้ คือ ราคาไม่สร้างจุดต่ำใหม่ แต่แกว่งตัวออกด้านข้าง กรอบ Bollinger Bands แคบลงเคลื่อนตัวแนวนอน RSI อยู่ต่ำกว่า 40 (จังหวะนี้เฝ้าดูไว้ เริ่มน่าสนใจแล้ว) รอจนราคาเริ่มขยับขึ้น จน RSIเคลื่อนตัวมาอยู่ที่ระดับ 40 50 (เท่าที่สังเกตุมา ราคาหุ้นจะทรงตัวอยู่ระดับนี้ก่อนทะยานขึ้น 1-3วัน) ** ให้เข้าซื้อบริเวณนี้ แล้วอย่าลืมกำหนด จุด Stop Loss ไว้ด้วย (ความไม่แน่นอน คือความแน่นอน)2. ถือแล้วรอ (ตั้งอยู่) - หลังจากเข้าซื้อแล้ว ก็อดทนรอ (ขันติ) หากราคาหุ้นยังทำ New Highราคายืนเหนือเส้นเฉลี่ย 5 วัน 10 วัน 25 วัน และทำจุดต่ำยกสูงขึ้น ก็ถือต่อไป (Let Profit Run)ช่วงนี้ให้สังเกตุนิสัยหุ้นว่ารอบนี้ว่ามันยืนอยู่เหนือเส้นเฉลี่ยเส้นไหน (5 วัน 10 วัน หรือ 25 วัน)3. งาบแล้วชิ่ง (ดับไป) เมื่อราคาหุ้นเริ่มอ่อนแรงไปต่อไม่ไหว ราคาหุ้นจะไม่ทำ New Highและแกว่งตัวออกด้านข้างจากเดิมกราฟแท่งเทียนที่ปรากฏแท่งเขียวมากกว่าแท่งแดงจะเปลี่ยนเป็นแท่งแดงมากกว่าและแท่งแดงยาวกว่าเส้นค่าเฉลี่ยระยะสั้นเริ่มโค้งลงตัดเส้นค่าเฉลี่ยระยะยาวสุดท้ายราคาหุ้นหลุดเส้นแนวโน้มขึ้น (สังเกตุได้จากเส้นค่าเฉลี่ย 5 วัน 10 วัน 25 วัน) **ถึงจังหวะนี้ ให้รีบขายทำกำไรได้แล้ว ความโลภ ไม่เคยปรานีใคร ** ที่มา กระทู้ของคุณ Mr_TredD จาก set50.com_________________________________________________________________________คัมภีร์มีดสั้นสท้านฟ้า ของ ท่านผู้เฒ่าลี้คิมฮวง __________________________________________________________________________ ข้าพเจ้าในฐานะแขกผู้มาเยือน ก่อนจะสิ้นลมปราณขอถ่ายทอดกลยุทธมีดสั้นสะท้านฟ้าแด่ชาวยุทธทุกท่านเพื่อใช้ปกป้องตัวเองจากเหล่าจอมมารทั้งหลายอนึ่ง ..แม้คัมภร์จะดีเพียงใด แต่หากขาดการฝึกฝน ยากนักที่จะบรรลุเคล็ดวิชานี้ได้คัมภีร์มีดสั้นสท้านฟ้า1.เล่นตัวที่แข็งกว่าตลาดเท่านั้น ให้ลงอย่างเก่งแค่สามช่องแล้วยืนอยู่ได้ ซื้อ2.ตัวที่กราฟยังเป็นขาขึ้น หุ้นมีเจ้ามือ เล่นได้3.หุ้นฝรั่งตัวใหญ่ ไม่เอา เสี่ยงเกิน4.โวลุ่มบางๆซื้อ หุ้นลากมาสูงแล้วบิดหนาผิดหูผิดตา กล้าๆโลภๆ ขายออก5.หุ้นพวกวิ่งมาตลอดทุกวัน ถ้าลงจากยอด 5 ช่อง ขายทิ้งทันที6.ตัวที่เคยนิ่ง แต่เปิดตลาดกระโดดพร้อมโวลุ่มให้ตาม ขายเมื่อพอใจ ระวังหุ้นจะลงมาปิดแก๊ปต่ำ7.หุ้นปิดแก็ปแล้ว หรือไม่เปิดแก๊ปกระโดดและยืนแข็งบวกได้ ให้ซื้อ(เช๊คแก๊ปย้อนหลังเมื่อวาน วันก่อนๆด้วย บางตัวอาจถือว่าปิดไปแล้ว)8.หุ้นที่แรงมากๆพร้อมโวลุ่มและทำหางไว้สูง ให้รอหุ้นนิ่งก่อนค่อยซื้อ พวกนี้ดีมาก9.งดหุ้นโวลุ่มมาผิดปรกติ แต่ราคาไม่ค่อยไปหรือไปไม่ไกล หุ้นพวกนี้เจ้าของขนมาขายเช่น tta เป็นต้น10.ซื้อแล้ว ไม่ไป ขายทิ้ง งดซื้อเพิ่ม ซื้อสู้ทุกรายการ11.ซื้อหุ้นพอใจแล้ว หรือกำไรแล้วกำลังจะขาย ถ้าเงินเหลือ ให้ดูหุ้นใหญ่ ptt scc advanc ให้ซื้อขวาครั้งละ 100-200 เพื่อทำดัชนีบวก ก่อนซื้อดูด้วยว่ามี bid หนากว่า offer หรือเปล่า ถ้าใช่ก็ซื้อขวาเลย ถ้าไม่ใช่รอก่อน และถ้าไม่อยากถือให้ขายทิ้งตามน้ำเมื่อ bid บางกว่า offer และราคายังอยู่ฝั่ง bid อยู่ แต่ถ้าราคาอยู่ฝั่ง offer อย่าเสือ..กขายสวนลงไปล่ะ12.ดัชนีขึ้นสูง หุ้นที่ซื้อมี bid หนาและไม่ขึ้นตามดัชนี ทิ้งให้หมด13.ณะตั้ง bid หลอกเพื่อเจตนาดันราคาหุ้น ห้ามชักออกหากยังขายของไม่หมด ให้วัดดวงไปเลย14.หุ้นราคานิ่ง ที่มี offer หนาๆ bid บางราคายังไม่ขึ้น เจ้ามือกำลังเขย่าของ เอา offer บังไว้15.ถ้าทุบแรงๆให้กลัวมากๆ ให้สังเกตดูก่อนว่า เป็นการทุบจากยอดดอยลงมาหรือเปล่า ถ้าใช่หยุดดูอย่างเดียวว่า จะไหลลงมาเทาไร กี่วันแต่ถ้าหุ้นยังไม่ขึ้น แต่มีทุบแรงๆบ้าง แต่ราคาร่วงไม่กี่ช่องแล้วมีแรงรับยืนได้ ให้ทยอยซื้อ การแย่งซื้อยกล๊อตหุ้นทีละมากๆ ขณะเจ้ายังเก็บไม่เสร็จ จะทำให้เจ้าเกิดน้ำโหได้-------------------------------------------------------------------------แต่สัณญาณฝรั่งกลับตลาดเอเชีย เงินบาทดีขึ้นให้เล่นหุ้นใหญ่ หุ้นพื้นฐานที่ฝรั่งเล่น งดเล่นสั้นแล้วถือยาวๆหุ้นเล็กที่เน่าๆหรือขึ้นมาแรงเกินไป ให้ทิ้งบทความของ ท่านผู้เฒ่าลี้คิมฮวง บอร์ด คุณ ฮั้วหยวนเจี่ย__________________________________________________________________________จะอ่านจะเขียนอย่างไร ก็ดูเหมือนว่า...มันง่ายไปหมดแต่ในเวลาที่เล่นจริงมันไม่ได้เปนตามที่เราคิดเสมอไปในตลาดมีนักลงทุน3กลุ่มหลักนักลงทุนรายย่อย (นักเล่นหุ้นทั่วไป)นักลงทุนสถาบัน (บรรดากองทุน+พอท์ตโบรกเกอร์+พอท์ตบริษัทประกัน+พอท์ตธนาคารฯลฯ)นักลงทุนต่างชาติกองทุนเพื่อการลงทุนต่างประเทศ เฮดฟันด์ ฯลฯและเคยมีคนเล่าอ้างกันมาตลอด ว่า...คนเล่นหุ้น 10 คน จะมีคนเสียเงินเกี่ยวกับหุ้น13คนคนเล่นหุ้น 10 คน จะมีคนได้เงินออกจากตลาดหุ้นเพียง 1 คนคนเล่าอ้างว่า คนเล่น1คน แต่เสียเงิน12คนเพราะคนเล่น1คน เมื่อเล่นเสียจนเงินหมด ก็จะไปหยิบยืม ญาติ เพื่อน อื่นๆเพื่อเข้ามาเล่นหุ้นแก้ตัวใหม่คนเล่นหุ้น 10 คน แต่ได้เงินออกจากตลาดคนเดียว เจ้ามือเขียนโดย...ปรัชญา__________________________________________________________________________เขียนแบบไม่มีจุดหมายปลายทางเขียนแบบ ไม่มีเนื้อหาสาระเขียนแบบสบายๆ ไปเรื่อยๆ__________________________________________________________________________ยามที่ตลาดหุ้นเป็นขาขึ้น ภาวะกระทิงเซียนหุ้นเต็มตลาดเซียนหุ้นเต็มเวปบอร์ดทั้งกะ ทั้งเก็ง ทั้งเล็ง เป้าหมายแบบสมใจนึกกระฉับ กระเฉง กระชุ่ม กระชวยยามที่ตลาดหุ้นเป็นขาลง ภาวะหมีบรรดาเซียนหุ้นก็จะออกจากตลาดเซียนขาดตลาดตลาดก็จะเงียบเหงา หาข่าวหาตัวเล่นลำบากคนที่เคยชวนกันเล่น ก็ตัดช่องน้อยแต่พอตัวกลับไปใช้เงินที่ทำไว้ได้ ปล่อยนักพนันเฝ้ากระดานอ้าวเราก็เป็นนักพนันซิ เฝ้ากระดาน เหอ เหอ_________________________________________________________________________คนเรานี้...คิดไปก็น่าขำอยากลืม กลับ จำอยากจำ กลับ ลืม______________________________________________________