•ช่วง...นาทีทอง

(เปิดอ่านผ่านโปรแกรม Google chrome )


ช่วง...นาทีทอง
_____________________________เขียนโดย ปรัชญา TVI ____



เชื่อว่าคำ คำนี้ต้องมีคนรู้จักทุกคนก็ว่าได้
ความหมายก็คงไม่มีอะไรซับซ้อน
หลายคนก็บอกว่า...ซื้อได้หุ้นราคาถูก แบบสุดๆ
หลายคนก็บอกว่า...ขายได้ราคาูสูุงสุดๆ
หลายคนก็ว่ารอดตาย ได้ชนิดเสี้ยวยาแดงผ่า8 ผ่า9 เลยเชียว
เซียนกราฟ เซียนเทคนิคเคิล ตลอดจนนักเฝ้ากระดาน
เฝ้าเรียลทาม จะได้พบบ่อยๆ
จังหว่ะดีดี ที่หลายคนที่ตกใจ เทหุ้นทิ้ง
จังหว่ะดีดี ที่หลายคนใจถึง ช้อนหุ้นไว้
สารพัดข่าวดี ที่ทำให้หุ้นขึ้นได้ ในจังหว่ะที่เหมาะสม
สารพัดข่าวร้าย ที่ทำให้หุ้นตกได้ แบบสีแดงท่วมกระดาน
บางคน บางครั้ง ก็ชอบเป็นชาวไล่ ไล่เคาะขวา
บางคน บางครั้ง ก็ชอบเป็นชาวสวน สวนรับหุ้นที่ตกลงแบบน้ำตก
ทุกคนมีนาทีทอง ผ่านมา
แต่บางคนก็มองเห็น ฉวยโอกาสในวิกฤต
แต่บางคนก็มองเห็น วิกฤตเป็นโอกาส
โดยเฉพาะช่วงเวลา คลอมาร์เก็ตช่วงเปิดตลาดเช้า เปิดตลาดบ่าย
โดยเฉพาะช่วงเวลา คลอมาร์เก็ตช่วงปิดตลาดช่วงเที่ยง ปิดตลาดเย็น
เชื่อว่า...หลายคนก็สามารถไขว่คว้าหาโอกาสเก็บและทิ้ง
ได้ตลอดด้วยความชำนาญ หากท่านผู้อ่านมีประสพการณ์ก็ช่วยเล่าให้นักลงทุนเล่นหุ้นทุกคนได้อ่าน
แบบแชร์ความคิด ไอเดีย และประสพการณ์ด้วยครับ ขอขอบคุณ



ตลาดหุ้น มันก็ออกอาการแบบไม่มีเหตุผลบ่อยๆ
หุ้นขึ้นแบบไม่มีเหตุผล (อันนี้คงมีน้อยกว่า)
หุ้นลงแบบไม่มีเหตุผล (อันนี้คงมีบ่อยกว่า)

หุ้นขึ้นแบบไม่มีเหตุผล(บางตัว)
นักเล่นหุ้นที่ชำนาญในการสังเกตุอาการ
เมื่อเห็นหุ้นขึ้นแบบไม่สมเหตุผล
ก็คิดกันไปว่า..อีกไม่นานต้องมีข่าวดีกำลังจะมา มีอินด์ไซด์
เจ้ามือกำลังเก็บของ เจ้ามือกำลังลาก(ขึ้นไปเชือด)

หุ้นลงแบบไม่มีเหตุผล(บางตัว)
นักเล่นหุ้นที่ชำนาญในการสังเกตุอาการ
เมื่อเห็นหุ้นลงแบบไม่สมเหตุสมผล
ก็คิดกันไปว่า..ข่าวร้ายกำลังจะมา มีอินด์ไซด์
เจ้ามือทิ้งหุ้น กำลังจะเลิกเล่น ทุบทิ้ง(หนีตาย)
หรือรายใหญ่กำลังทุบเอาของ

ลีลาการกวาด การเก็บ การทุบก็คงไม่พ้นสายตาของบรรดานักเล่นหุ้นไปได้

เมื่อมีฝ่ายขาย ก็ต้องมีฝ่ายซื้อ

แล้วคุณจะเลือกฝ่ายไหน




__________________________________________________

วิธีหาหุ้น
__________________________________________________


เมื่อเริ่มต้นเข้าเล่นหุ้นแบบเก็งกำไร และ ถือลงทุน
สมัยนั้นกับสมัยนี้วิธีการก็คงไม่มี อะไร ซับซ้อนมากนัก
อาจจะเปลี่ยนจากนักลงทุนหน้าใหม่ที่หาแต่หุ้นอย่างเดียว
กลายมาเป็นคนหน้าเก่า หน้าเดิม
แต่กลับกลายมาเป็นผู้รับและเป็นผู้แจกหุ้น
ไปโดยไม่ได้เฉลียวใจ

เมื่อก่อน เช้าขึ้นมา
หลังจากจัดการเรื่องส่วนตัวเรียบร้อย
ก็จะขับรถกระบะคันเก่า ไปห้องค้า
ไม่ต้องเตรียมอะไรไปมากนัก มีเพียงสมุดเช็ค
เงินติดกระเป๋านิดหน่อย เข้าห้องค้า หลังจากทักทาย
กับ ผอ.มาร์และเพื่อนนักเล่นหุ้น
ผมก็ได้รับแจกหุ้นมาเกือบ10ตัวแล้ว
ยังไม่รวมเปเปอร์จากมาร์ที่ได้รับแฟ็กซ์จากสำนักงานใหญ่
ที่จะบอกกรอบราคา แนวรับ แนวต้าน หุ้นที่วิเคราะห์เจาะแจะมา

ผอ.จะบอกเฮียช่วงนี้ ลงทุนหุ้นกลุ่มนี้นะ

มาร์ เฮียข่าวแว่วมาว่า...วันนี้เขาจะไล่.......ตัวนี้

เพื่อน เล่นหุ้น (ไม่รู้ว่าจะเรียกว่าอะไรมันถึงจะเหมาะ)
เฮ้ยไอ้นั่นเมื่อวานนี้ถูกทุบละเอียดเลย
ลงไปกองแน่นิ่งนับ5นับ10
วันนี้ต้องดูอาการมันจะฮึดสู้หรือเปล่า

.............................................
เมื่อส่งเสียงเอะอะโวยวายจนได้ที่ เอิ๊ก เอิ๊ก เอิ๊ก
ก็เดินเข้าหาเป้าหมาย

แค่คอมเครื่องเก่าๆ ที่ตั้งบริการลูกค้า
เปิดดูกราฟตัวหุ้นที่น่าสนใจ
ไม่ได้เก่งกราฟอะไรหรอก ก็เล่นหุ้นแบบงูๆปลาๆ
ดูบิด ดูออฟเฟ่อร์ ดูเจ้าแท่งแดง แท่งเขียว นับดูมันแดงหรือเขียวกี่ท่อนแล้ว ดูเจ้าเส้น 25 วัน จนถึงเส้น200วัน
หลังจากดูกราฟเสร็จ

ก็ต้องตรวจสภาพความพร้อม
คว้าหนังสือพิมพ์หุ้น มาอ่านข่าวบริษัทจดทะเบียน
อ่านข่าวซุบซิบ แบบว่า...เรืยกความเชื่อมั่น

สมัยนี้สบายครับ
คว้าโน๊ตบุ๊คตัวเดียว หาหุ้นได้จากบทวิเคราะห์ของโบรกฯ
ทางออนไลท์
ดูข่าว ผู้บริหารซื้อ-ขายหุ้น
//capital.sec.or.th/webapp/corp_fin/daily59.php

ดูข่าวบริษัทจดทะเบียนรายงานตลาดเป็นความเคลื่อนไหว
//www.set.or.th/set/todaynews.do?language=th&country=TH

ทางเวปบอร์ดหุ้น
เวปพันทับ ห้องสินธร ต้องแวะเป็นเป้าหมายแรก
//www.pantip.com/cafe/sinthorn/

เวปไทยแวลู่อินเวทเตอร์ ห้องกระทู้ ต้องแวะเป้นอันดับต่อไป...

//www.thaivi.com/webboard/

แล้วอ่านความคิดเห็นจากนักลงทุนรุ่นเดอะจากเวป


//www.setontherock.com/

คนใกล้กันแต่ไม่ค่อยได้เจอหน้ากัน เจอแต่ตัวหนังสือกัน

พยายามรวบรวมทุกความเห็นมายำใหม่
เอามากรองสถานการณ์

ว่า...มันน่า มันน่า มันน่า...จะเป็นอย่างนั้น อย่างนี้

พัฒนาการเล่นหุ้นก็เปลี่ยนไป หลังจากเป็นคนเก็บข้อมูลหุ้นจากคนอื่น โดยได้รับแจกมาทุกวัน

หันมาหาวิธีการจัดการกับชีวิตซะใหม่ดีมั้ง
ต้องหันมา หาหุ้นเอง เลี้ยงหุ้นเอง และแจกหุ้นเองบ้างแล้วแต่จะผสมผสานไปกับการเทรดหุ้น

__________________________________________________

เป็นชนชาวเกาะ
__________________________________________________




เกาะตามกระแสการดันราคา
เกาะข่าว
เกาะเจ้ามือ
สมัยก่อนเกาะเจ้ามือ ชื่อเสี่ยสอง พอลือว่าเสี่ยเข้าตัวไหนก็ต้องเข้าไปช่วยเสี่ยไล่เคาะขวา
หากเห็นท่ามึนแบบมันลุกขึ้นไม่ไหว เราก็ช่วยเสี่ยทิ้งซ้าย
ให้รู้แล้ว รู้แรดไป
แล้ววันเวลา ก็สอนให้เรารู้ว่า...
เกาะแบบเหาฉลาม เก็บกินแค่พออิ่ม
อย่าโลภเกินความรู้(แบบเฮียคลายเครียดสอน)

ช่วงที่ฝาหรั่ง หมุนเงินเข้ามาเก็งกำไร ในตลาดหุ้นไทย
เราก็วิ่งตามหุ้นฝาหรั่งไป

หุ้นที่ฝรั่งชอบ พวกนักวิเคราะห์เขาเรียกว่า... Bluechip
ก็เรียกแบบภาษาคอหุ้นว่าหุ้นดันเซ็ท (หุ้นคำนวนดัชนีตลาดหลักทรัพย์)
มีตัวอะไรบ้างก็คงรู้ๆกัน

ฝาหรั่งมันมากี่รอบก็สไตล์เดิมๆ
เพียงแต่เปลี่ยนกลุ่มอุตสาหกรรม เข้าเก็บสะสมหุ้น
รอบปี48-49 คงหนีไม่พ้น กลุ่มพลังงาน
เมื่อเป็นอย่างที่คาดการ
ในพอท์ต จึงต้องมีหุ้นในกลุ่มนี้ ถือไว้เพื่อรอโอกาส

พูดแบบเข้าใจง่ายๆแบบชาวบ้าน

เก็บไว้รอขาย
__________________________________________________



ออกอาการ
__________________________________________________



การที่หุ้นจะขึ้นจะลง ไปตามทิศทางใดทิศทางหนึ่ง
ก็จะมีอาการให้เห็น อย่างคนที่เก่งกราฟก็จะมองเส้นกราฟ
ว่าส่ออาการไปทางไหน มีเงินใหม่เข้ามาไล่เส้นกราฟ
มีเกณฑ์การตัดสินใจ

บางคนก็ดูวอลุ่ม
ดูการกระตุก
ดูทิศทางแนวโน้มกลุ่มอุตสาหกรรม

คนหลายคนจับทิศทาง จับจังหวะเข้าลงทุน
เลือกหุ้นได้เหมาะสม ก็ได้โอกาสที่ดี ทั้งเล่นยาวหรือเล่นสั้น
ตามความมั่นใจ


__________________________________________________

เปลี่ยนม้าขี่
__________________________________________________


การที่เราซื้อหุ้นได้ราคาที่เหมาะสม ถือหุ้นตัวนั้นได้สักระยะหนึ่ง
อาจจะ1นาที 1ชั่วโมง 1วัน หรือ1เดือน แล้วแต่โอกาส
ก็ตามแน่การลงทุนของแต่ละคน
เมื่อเราดูส่วนองค์ประกอบของตัวหุ้น ว่าขึ้นมามากท่าจะไปไม่ไหวแล้ว
ดูมูลค่าหุ้น ดูผลตอบแทน ดูกำไรต่อหุ้นของผลประกอบการ อื่นๆ
คิดว่าจะไปก็คงได้อีกไม่มาก เราก็ต้องหาวิธี ทำเงินให้งอกเงย

แบบเงินต่อเงิน

โดยการขายหุ้นตัวเดิม เพื่อไปซื้อหุ้นตัวใหม่
หลายคนเรียก เปลี่ยนม้าขี่ เพราะม้าตัวเดิมที่จะล้าหมดแรง
คงวิ่งได้ไม่ไกลก็คงต้องหยุดพัก ราคามันคงไม่ไปไหนแล้ว
แล้วหันไปมองหุ้นตัวอื่นของกระดาน หุ้นตัวไหนที่ผลการดำเนินงานดี
มีองค์ประกอบดีเยี่ยม เงินเราก็มีจำกัดในการลงทุน ย่อมต้องขายตัวเก่า
เข้าซื้อตัวใหม่ ในขณะตลาดเป็นขาขึ้น (ไม่ใช่ขาขึ้นก่ายหน้าผากนะ555)

และในเวลาที่ตรงกันข้าม ในสภาวะตลาดขาลง
เราติดหุ้นตัวหนึ่ง หุ้นเจ้ากรรมมันผลประกอบการก็ไม่โต
ท่าทางผู้บริหารก็ไม่สนใจราคาหุ้น แบบไปเรื่อยๆเหนื่อยก็นอน
ดูแล้วราคามันจะไปทางไหน กับเขาซะที
เวลาตลาดดี หุ้นตัวอื่นวิ่งกันไปทั่วกระดาน
แต่หุ้นที่เราถืออยู่มันยังทำเฉย
เหมือนโดนแช่แข็งซะงั้น
พอตลาดแดง หุ้นชาวบ้านเขาลง เจ้าตัวนี้ก็ขี้อ้อนลงไปกับเขาด้วย

เหมือนที่ว่า...หุ้นคนอื่นขึ้นหุ้นตัวเราถือทำเฉย
หุ้นคนอื่นลง หุ้นที่เราถือมันก็กระโดดลงกับเขาด้วย
พูดแล้วเหนื่อย เห็นแล้วก็ยิ่งเหนื่อยเลยเชียวล่ะ

ก็คงต้องถึงเวลา เปลี่ยนมาขี่
ขายหุ้นเจ้าเวรนายกรรมทิ้งซะ
เพื่อโยกไปหาตัวใหม่ เพื่อรอเวลาตลาดเด้ง
หุ้นที่ซื้อใหม่ก็จะได้เด้งพอให้ได้ทุนคืนซักหน่อย



________________________________________________________

หลักการลงทุน
________________________________________________________

หากไม่มีการเตรียมพร้อม เพื่อการลงทุนก็ดูจะเสี่ยงมากไปหน่อย
เงินนะครับ ไม่ใช่กระดาษ (เป็นเงินที่ชำระหนี้ได้ตามกฏหมาย)

เล่นได้มากว่าเสีย _____ รวย

เล่นเสียมากกว่าได้ ___ จน

เล่นหุ้นต้องมีหลักการ



***หลักการลงทุน***

การนำเงินมาเพื่อลงทุน ซื้อ-ขายหุ้น
ควรนำเงินเก็บที่สะสมมา จัดสรรปันส่วนเพื่อความไม่ประมาท
เก็บเงินส่วนหนึ่งสำหรับ ไว้ใช้ในการครองชีพ
เก็บเงินส่วนหนึ่งไว้ เป็นเงินฝากธนาคารเพื่อรอรับดอกเบี้ย
เก็บเงินส่วนหนึ่งไว้ ยามจำเป็นและส่งเบี้ยประกันชีวิต

และนำเงินส่วนที่เหลือมาฝึกเรียนรู้ วิธีทำเงินให้งอกเงย
นำเงินที่คิดว่าเสี่ยงได้ มาลงทุนในหุ้น

หากเกิดการผิดพลาด ซื้อไม่ถูกจังหว่ะและโอกาส
หุ้นปรับตัวลง จะได้ไม่เครียด

อายุของผู้ลงทุนแต่ละท่าน
สถานภาพทางครอบครัว+สังคม
กฏเกณฑ์ เงื่อนไขจึงแตกต่างกัน

คนอายุน้อย หากลงทุนซื้อ-ขายหุ้น
ผิดพลาด ย่อมมีเวลา เรียนรู้ ปรับปรุงแก้ไข
เพื่อการเริ่มต้นใหม่
พูดกันแบบเข้าใจง่ายๆ คืมีเวลามาเล่นแก้ตัวรอบใหม่


คนอายุมาก หากลงทุนซื้อ-ขายหุ้น
ผิดพลาด จะเหลือเวลาน้อยในการเรียนรู้ปรับปรุงแก้ไข
มีเวลาจำกัด จึงควรเลี่ยง ปัจจัยความเสี่ยงเพราะรับได้น้อยกว่า
วัยที่มีก็ใกล้จะหมดไป แก้ไขลำบาก
ควรคิดคำนวนคาดการ จัดความสมดุลย์ของตัวเอง

-----------------------------------------------------------

คนส่วนใหญ่ ตอนซื้อหุ้น
ทุกคนก็หวังว่าจะได้ดีมีกำไร
คิดว่าจะได้กำไรเท่านี้เท่านั้นเสมอ

แต่ในทางกลับกัน เมื่อซื้อหุ้นแล้ว หุ้นไม่ขึ้นแถมลงซะอีก
ที่เคยคาดหวัง ก็มาผิดหวัง

เกิดอาการกินไม่ได้ นอนไม่หลับ
หงุดหงิด ความเครียด เสียสุขภาพจิต

จะเกิดอาการท้อแท้ หมดหวัง รับไม่ได้

หาแพะรับบาป

โทษไปสารพัด ตั้งแต่คนแนะนำ
โทษนักวิเคราะห์
มาร์เก็ตติ้ง เพื่อน+ญาติสนิทมิตรสหาย
กองทุน
ฝรั่งกองทุนต่างชาติ
สุดท้ายโทษตัวเอง KUไม่น่าเลย

ปัญหาต่างๆก็จะตามมา

คนส่วนใหญ่อีกนั่นแหล่ะ
ตอนซื้อหุ้นได้จังหว่ะเวลาตามโอกาส
แล้วขายได้กำไร ก็จะคุยอวดเสียงดังฟังชัด
อวดทุกคนที่ได้คุยกันและรู้จักกัน
เป็นคนร่าเริง สนุกสนาน กินเที่ยวแบบไม่บันยะบันยัง
ยามที่ตลาดหุ้นแสนดี
ใช้ชีวิตเปลี่ยนไป หลงระเริงกับความสุขชั่วครั้งคราว
เปลี่ยนไปเป็นคนละคนกับก่อนที่จะมาเล่นหุ้น

แต่หากว่าซื้อหุ้น แล้วไม่ถูกจังหว่ะเวลา
ซื้อแล้วหุ้นมันลง
ก็จะปลอบใจตัวเอง ไม่เป็นไรเดี๋ยวมันก็กลับไปที่เก่า
แล้วค่อยขายเอาทุนคืน
แต่...พอหุ้นลงไปอีก
ก็ปลอบใจตัวเองอีกต่อไป
ไม่ขายยังไม่ขาดทุน
แต่พอหุ้นลงไปอีก ก็บอกกับตัวเองว่าซื้อหุ้นเพื่อการลงทุน
เป็นวิธีออมอีกรูปแบบหนึ่ง ว่าเข้าไปนั่น

----------------------------------------------------------
หุ้นตอนเป็นขาขึ้น ก็จะมีข่าวดีดี สารพัดที่นำมาเสนอ จำหน่ายจ่ายแจกมากมาย

หุ้นตอนเป็นขาลง ก็จะมีข่าวร้าย ทะยอยจำหน่ายจ่ายแจก
โหมกระหน่ำ ให้กลุ้มใจไปด้วยกัน แบบมีอารมณ์ร่วม

------------------------------------------------------------
วิธีคิด วิธีจัดการ วิธีบริหารเงิน
ของแต่ละคนจะไม่เท่ากัน หรือลอกกันไม่ได้
เพียงเก้บเอาแนวคิดการจัดการมาปรับให้เหมาะสมกับตัวเอง
ไม่มีสูตรสำเร็จ ที่เที่ยงแท้แน่นอน

ความรู้
โอกาส
จังหว่ะ
ดวงชะตา+วาสนา
ของแต่ละคนไม่เท่ากัน
ควรประเมินสถานะการณ์ ความรู้
ความสามารถของตัวเองเพื่อความไม่ประมาท




เรื่องตลาดหุ้นยามวิญญาณการเก็งกำไรเข้าสิง
มันก็ดูกระชุ่มกระชวย มองไปทางไหนก็เต็มไปด้วยความหวัง
แจกจ่ายความหวังดี บอกเจ้านั่นจะไปถึงนี่บอกเจ้านี่จะวิ่งไปที่นั่น
บอกคนรู้จักรอบข้างที่พูดคุยด้วยว่าให้ซื้อ

แต่หลังจากนั้นหุ้นมันลง ตัวเองกลับขายและไม่ยอมบอกใครให้มาแย่งขาย

เมื่อหุ้นลง10%ก็ขายทิ้งอย่างไม่เหลือเยื่อใย

ปล่อยให้คนรอบข้างเป็นไอ้ห้อยไอ้โหน ปลูกบ้านอยู่บนดอย
หลังจากที่ติดหุ้นกันอยู่นาน อาการก็เริ่มออก

เจอหน้ากันก็จะเล่าว่า ติดหุ้นนั่นราคาเท่านี้ ติดหุ้นนี้ราคาเท่านั้น
จะทำยังไงดี

ปากก็ปลอบใจกันไปเงินเย็น ไม่ขายไม่ขาดทุน

฿฿฿ แต่ตัวเองก็บ่นในใจว่า...
ไอ้ที่เน่าในพอท์ตตรู คัดไม่ทัน
ลำพังตัวกรูเองก็กลุ้มใจพอแรงอยู่แล้ว
ยังต้องไปกลุ้มกับพอท์ตของมรึง อีก ...



______________________________________________________







 

Create Date : 19 พฤศจิกายน 2556   
Last Update : 19 พฤศจิกายน 2556 22:16:21 น.   
Counter : 798 Pageviews.  



P_ปรัชญา
 
Location :
ขอนแก่น Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 63 คน [?]




หยิ่ง
กับตัวเองบ้าง
ในบางครั้ง

เบื่อ
ชีวิตความผิดหวัง
ในบางหน

เกลียด
ความไม่จริงใจ
ในบางคน

ยอมทน
คนหยามเหยียดได้
ในบางที


[Add P_ปรัชญา's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com