โลกมีทางให้เดินเป็นพันพันทาง เราต่างใช้ปรัชญาแห่งชนชั้นของตน นำทางในการเดิน เราต่างเดินตาม ปรัชญาแห่งชนชั้นตน
 
กรกฏาคม 2551
 
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
11 กรกฏาคม 2551
 
 

รากเหง้าของความนิยมวัฒนธรรมตะวันตก

เมื่อถึงสมัยปลายคริสต์ศตวรรษที่19, ต้นคริสต์ศตวรรษที่20, ชนชาว ยุโรป, ซึ่งมีอาณานิคมอยู่หลายแห่งในโลก, ก็เริ่มเกิดความภาคภูมิใจในความเจริญก้าวหน้าและความยิ่งใหญ่ของตน อังกฤษและฝรั่งฯได้กลาย เป็นมหาอำนาจไป เยอรมนีเริ่มตระหนักว่าเจริญไม่ทันอังกฤษและฝรั่งฯ และไม่อาจแสวงหาอาณานิคมทางตะวันออกได้อีก อิตาลีก็เห็นว่าประเทศของตนคับแคบ ไม่พอกับประชากรที่กำลังเพิ่มขึ้นทุกขณะ

ในเวลาเดียวกันนี้ชาวตะวันออกในอินเดีย พม่า สยาม อินโดจีนและจีน เริ่มสำนึกถึงความล้าหลังของตน และเกิดความนิยมในวัฒนธรรมของชาวตะวันตกขึ้นมาอย่างรั้งไว้ไม่อยู่ การรังเกียจผิวสีของชาวตะวันตกจึงเกิดคู่ขนานไปกับแนวความคิดของชาวตะวันออกบูชาผิวขาวของชาวยุโรป วัฒนธรรมเพียง 200 ปีของอเมริกันถูกจับตามอง แต่วัฒนธรรมนับพันๆปีของชาวตะวันออกด้วยกันกลับถูกเพิกเฉยหมดความสำคัญเสียสิ้น ชาวยุโรปมักอ้างถึงภารกิจของชาวผิวขาวที่จะมาทำให้ชาวผิวสีเจริญขึ้น และพวกเขาก็ได้พบผู้สนับสนุนร่วมมือกับเขาในทางการเมือง การค้าและวัฒนธรรมมากมายทางโลกตะวันออก นี่ย่อมเป็นประโยชน์ต่อการครองโลกของชาวยุโรปที่มีอาณานิคมเป็นอย่างยิ่ง

ชาวตะวันออกเหยียดหยามดูถูกพวกเดียวกันเอง ทั้งมีความท้อแท้และไม่มองความจริงทางประวัติศาสตร์ พวกเขาเห็นโลกดำรงอยู่เช่นนี้ไปชั่วกัลปาวสาน เขาเห็นอานุภาพอันแข็งแกร่งคงกระพันชาตรีของชาวยุโรป, เปรียบได้กับที่ชาวยุโรปในอดีตไม่เห็นทางสู้รบปรบมือกับพวกมองโกลเมื่อ 600 ปีกว่ามาแล้ว เขาเห็นความเจริญทางวัตถุและบ้านเมืองอันใหญ่โตโอ่โถงของชาวยุโรป เห็นศิลปะอันงดงามของชาวยุโรปและอเมริกันในภาพถ่ายและภาพยนตร์ เห็นปัญญาของชาวยุโรป ที่เจริญก้าวหน้าไปไกล จนมองไม่เห็นทางที่จะตามให้ทันได้ เห็นรูปร่างอันขาวสะอาด, สูงสง่า, สวยงามชาวยุโรป เห็นรถยนต์และยานยนต์มากหลายเรือเดินทะเลใหญ่ๆกับอากาศยานที่เพรียวลมของอเมริกัน จึงเกิดความดูถูกดูแคลนเชื้อชาติและประเทศของตนขึ้นมา ฉะนั้นจึงเกิดปมด้อยในชีวิตอันยากที่จะรักษาให้หายได้ ปมด้อยนี้พลิกกลับเป็นการวางท่าเขื่องต่อเพื่อนร่วมชาติ, ร่วมทวีปกับเขาเอง ด้วยประการฉะนี้จึงดูเหมือนว่า ความเป็นไปจะดำรงอยู่เช่นนี้ไปตราบชั่วกัลปาวสาน แต่พลังที่ผลักดันประวัติศาสตร์ก็คงดำเนินต่อไปไม่หยุดยั้ง

จาก ปัญญาวิวัฒน์ ภาค 1 ของอาจารย์สมัคร บุราวาศ
หนังสือ 1 ใน 100 เล่มที่คนไทยควรอ่าน




 

Create Date : 11 กรกฎาคม 2551
1 comments
Last Update : 11 กรกฎาคม 2551 11:02:11 น.
Counter : 1401 Pageviews.

 

1

 

โดย: 22 IP: 125.27.40.238 7 กันยายน 2552 21:53:22 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

 

ลุงกฤช
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]




อดีต : พ่อค้า ผู้รับเหมาก่อสร้าง

ปัจจุบัน : อาจารย์พิเศษสอนปรัชญาเป็นประจำแก่สถาบันของรัฐแห่งหนึ่ง สอนพิเศษนักศึกษาปริญญาตรีและโทมหาลัยมหิดล

คืนกำไรให้ชีวิตหลังจากการทำงานหนักมาเกือบตลอดชีวิต ขับรถไปฮันนี่มูนต่างจังหวัดบ้าง ไปสอนต่างจังหวัดบ้าง มีความสุขกับศรีภรรยาที่อยู่กันมาเกือบ 50 ปี
เธอดูแลเราเหมือนลูก เพราะลูกๆต่างก็มีครอบครัวแยกย้ายไปทำมาหากินกันดีๆทุกคนแล้ว เราเลยอยู่กันสามพ่อแม่ลูก(คนสุดท้อง)ซึงไม่ยอมมีผัว เพื่อดูแลพ่อแม่ กับหมาอีก 8 ตัว บางวันก็ไปสอนบ้าง บางวันก็เข้ามาในบล๊อกบ้างเพื่อเอางานที่เรียนรู้มา มาคืนให้แก่สังคม ดังที่เห็นๆกันแล้ว งานส่วนใหญ่ที่คัดลอกมาให้อ่านกันเป็นงานเขียนของท่านอาจารย์สมัคร บุราวาศ และทรรศนะส่วนตัว
อยากให้คนสนใจเรื่องปรัชญา เพราะตัวเองนั้นมีความสุขอยู่ได้ทุกวันนี้ก็เพราะมีปรัชญาชี้นำการดำเนินชีวิต มีความรู้ในการปฏิบัติทำมาหากิน ภายหลังหยุดชีวิตการทำมาหากินแล้วก็ยังมีสมบัติทีมากกว่าเบี้ยบำนาญของราชการ

แม้ไม่รวย แต่ก็ไม่จน จึงอยากให้เป็นตัวอย่างแก่คนรุ่นใหม่ที่ไม่มีทุนเข้ามหาลัยได้ดูเป็นแบบอย่างบ้าง เพราะชีวิตผมเริ่มต้นจากสูญ ไม่มีมรดกจากพ่อแม่

บทความซึ่งจะนำลงตอนละประมาณหนึ่งอาทิตย์ ถ้าใครไม่สนใจอ่านจะลบทิ้ง

บทความตอนใดที่ไม่มีผู้สนใจอ่าน(ไม่ให้ความเห็น)
จะลบออกเร็วกว่านั้น
อยากบอกอยากถามก็ขอให้เขียน เรามาแลกเปลี่ยนวิถีทรรศน์ของกันและกัน เพื่อเดินทางร่วมกันฉันท์สหาย
[Add ลุงกฤช's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com