โลกมีทางให้เดินเป็นพันพันทาง เราต่างใช้ปรัชญาแห่งชนชั้นของตน นำทางในการเดิน เราต่างเดินตาม ปรัชญาแห่งชนชั้นตน
 
กรกฏาคม 2551
 
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
19 กรกฏาคม 2551
 
 

การถอยหลังเข้าคลองของศาสนาในอินเดีย

หลังสมัยพุทธกาล, ศาสนาในอินเดียก็เสื่อมคลายและประสบภาวะ
ถอยหลังเข้าคลอง อะไรคือสาเหตุของปรากฏการสังคมอย่างนี้เล่า เมื่อ ชนเผ่าอารยันเอาประชาธิปไตยของชาติกุลมาใช้ในรัฐเดิม, ที่เคยปกครองด้วยระบบราชาธิปไตยนั้น ประชาธิปไตยที่ฟื้นฟูขึ้นใหม่ก็ช่วยให้ปัญญาก้าวหน้าและศาสนาก็ก้าวหน้าขึ้น นี่เป็นไประหว่าง 1,000 ปี ก่อน ค.ศ.กับสมัยพุทธกาล

แต่ต่อมาระบบราชาธิปไตยก็เกิด ขึ้นอีกในหมู่ชนเผ่าอารยันเอง ในสมัยพุทธกาลระบบประชาธิปไตยของกษัตริย์ลิจฉวีได้ถูกทำลายลง โดยระบบราชาธิปไตยของพระเจ้าอชาตศัตรู พระเจ้าอเล็กซานเด้อร์แห่ง มาซิโดเนียก็เอาระบบราชาธิปไตยครอบงำกรีซเสียทั้งหมด ภายใต้ระบบราชาธิปไตย, ประชาชนที่ไม่มีเสรีภาพก็หยุดใช้ปัญญาของเขา ความมืดมนที่เกิดขึ้นใหม่นี้ทำให้ศาสนาก้าวหน้า, ที่เกิดจากพลังประชาธิปไตย, เสื่อมความนิยมในหมู่ประชาชนลง พวกราษฎรได้กลับไปพึ่งศาสนากราบไหว้อ้อนวอนเทพเจ้ากันขึ้นอีก ศาสนาก้าวหน้า ก็เหลือแต่คัมภีร์และปลาสนาการจากอินเดียไปสู่ดินแดนอื่นซึ่งมีภาวะสังคมที่เหมาะกับมัน

เมื่อพระพุทธเจ้าเสด็จปรินิพพานแล้ว ก็เกิดการหลงลืมคำสอนของพระองค์ขึ้น สงฆ์ผู้ใหญ่จึงเรียกประชุมภิกขุทั้งหมดและกระทำสังคายนาธรรมกัน พระอานนท์เป็นผู้สาธยายพระสุตตันตปิฎก, อันว่าด้วยจริยา นุวัตรและการเที่ยวสอนธรรมของพระพุทธองค์ พระอุบาลีเป็นผู้สาธยายพระวินัย และมหากัสสปเป็นผู้สาธยายพระอภิธรรม ภิกษุต่างก็จดจำเอาไว้และนำไปสอนสืบต่อกันมา จึงเกิดคัมภีร์ทางพุทธศาสนาขึ้นเรียกว่าพระไตรปิฎก นี่แปลว่าตะกร้าใส่พระธรรมวินัยสามใบสำหรับส่งต่อกันไป อินเดียในขณะนั้นยังไม่มีหนังสือใช้ ต่อมาในปี 230 ก่อน ค.ศ. ซึ่งพุทธศาสนาแพร่ไปถึงลังกาจึงมีการบันทึกพระไตรปิฎกไว้เป็นตัวหนังสือ

ระหว่างปี 323 ก่อน ค.ศ.ถึง ค.ศ. 117 ลัทธิสกลเทพนิยมที่ถือพรหมเป็นสากลโลกก็เสื่อมคลายลงเป็นลัทธิบูชาพระกฤษณะ, ซึ่งเป็นเทพเจ้าที่
เป็นบุคคลอีก ลัทธินี้ถูกสอนไว้ในภควัทคีตาซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของคัมภีร์มหาภารตะ ในอดีตพระรามะกับพระกฤษณะเป็นเพียงวีระบุรุษของชนเผ่าอารยันในอินเดียเท่านั้น แต่ระหว่างวาระนี้เขาได้กลายเป็นเทพเจ้าสำหรับเคารพบูชาไป พวกพราหมณ์กลุ่มหนึ่งได้นับถือพระวิษณุซึ่งเป็นเทพเจ้าตรงกับพระรามะ และได้อธิบายว่าพระวิษณุอวตารลงมาเป็นวีระบุรุษในนิยายนารายณ์สิบปาง ซึ่งปางหนึ่ง คือ ปางที่ 9 เป็นพระพุทธเจ้า

ด้วยประการฉะนี้พุทธศาสนาก็ถูกศาสนาฮินดูครอบงำไว้ ระหว่างนี้ได้เกิดพวกที่นับถือพระศิวะกับศิวะลึงค์ด้วย ในอินเดียจึงเกิดฮินดู ขึ้นสองพวก คือพวกที่นับถือพระศิวะเรียกว่าพวกไศวะ กับพวกที่นับถือ พระวิษณุเรียกว่าพวกไวษณวะ ระหว่างค.ศ. 318-647 ลัทธิไศวะกับ ไวษณวะได้แยกทางกันยิ่งขึ้น และเกิดความคิดเรื่องตรีมูรติหรือเทพเจ้า 3 องค์ มี พรหม ศิวะและวิษณุขึ้นมา แต่พรหมไม่ใคร่มีคนนับถือเสียแล้ว ระหว่างนี้ได้เกิดคัมภีร์ปุราณะขึ้น ลัทธิตันตระซึ่งเป็นประเพณีศาสนาโบราณได้ฟื้นคืนมาระหว่าง ค.ศ. 657-1197

ในลัทธินี้มีการฆ่าสัตว์บูชายัญ และนำโลหิตของสัตว์ที่ฆ่าไปบูชาเทพเจ้าในเทวาลัย มีการแห่แหนเทวรูปและแสดงนิยายปรัมปรา ในเทวาลัย ก็จัดให้มีหญิงแพศยาไว้ประจำเรียกว่าเทพทาสี และมีพิธีที่ทำกันในเทวาลัยคือการเสพเมถุนธรรมเป็นพลีกรรมขึ้น ลัทธิตันตระได้เข้าไปครอบงำพุทธศาสนา กระทั่งเกิดรูปเคารพเป็นชายหญิงคู่ในท่าสมสู่กันในพุทธศาสนา
ได้เกิดลัทธิศักติขึ้นด้วยในวาระนี้ คือมีการบูชาชายาของพระศิวะกับพระวิษณุคือพระอุมากับพระลักษมี คัมภีร์พระเวทของพวกทมิฬก็เกิดขึ้น หญิงตกต่ำมากทางสังคม เพราะได้เกิดประเพณีสตีเผาหญิงหม้ายให้ตาย ตามสามีไปบนเชิงตะกอนเดียวกัน

ด้วยประการฉะนี้พุทธศาสนาจึงปลาสนาการไปจากอินเดีย และเกิดลัทธิตันตระ, ศักติกับไสยศาสตร์ขึ้นแทน
ในประเทศจีนศาสนาเล่าจื๊อก็เสื่อมคลายลงเหมือนกัน ไม่มีการนับถือเต๋ากันอีก แต่มีการนับถือไตรสุทธิ์หรือเทวดา 3 องค์แทน มีเล่าจื๊อ, พ่วนโกสี, และเง็กเซียนฮ่องเต้ พวกเต้าหยินได้หันไปยึดถือไสยศาสตร์และเที่ยวแสวงน้ำอมตะกัน ลัทธิสกลเทพบูชาได้ถอยหลังเข้าคลองกลาย เป็นลัทธิเทวนิยม ซึ่งอยู่ในระดับวิวัฒนาการที่ต่ำกว่า คำสอนอันแยบคายในเต๋าเต๊อะชิงก็ถูกหลงลืมหรือเฉยเมย, ไม่นำไปปฏิบัติกัน

ด้วยประการฉะนี้พวกเต้าหยิน ที่เคยอยู่ร่วมกับภิกขุในพุทธศาสนาก็เกิดขัดกันขึ้นกับสงฆ์ในพุทธศาสนา ปรากฏการณ์ทางสังคมนี้เกิดขึ้นในแผ่นดินฮั่น




 

Create Date : 19 กรกฎาคม 2551
0 comments
Last Update : 19 กรกฎาคม 2551 23:38:12 น.
Counter : 1119 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

 

ลุงกฤช
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]




อดีต : พ่อค้า ผู้รับเหมาก่อสร้าง

ปัจจุบัน : อาจารย์พิเศษสอนปรัชญาเป็นประจำแก่สถาบันของรัฐแห่งหนึ่ง สอนพิเศษนักศึกษาปริญญาตรีและโทมหาลัยมหิดล

คืนกำไรให้ชีวิตหลังจากการทำงานหนักมาเกือบตลอดชีวิต ขับรถไปฮันนี่มูนต่างจังหวัดบ้าง ไปสอนต่างจังหวัดบ้าง มีความสุขกับศรีภรรยาที่อยู่กันมาเกือบ 50 ปี
เธอดูแลเราเหมือนลูก เพราะลูกๆต่างก็มีครอบครัวแยกย้ายไปทำมาหากินกันดีๆทุกคนแล้ว เราเลยอยู่กันสามพ่อแม่ลูก(คนสุดท้อง)ซึงไม่ยอมมีผัว เพื่อดูแลพ่อแม่ กับหมาอีก 8 ตัว บางวันก็ไปสอนบ้าง บางวันก็เข้ามาในบล๊อกบ้างเพื่อเอางานที่เรียนรู้มา มาคืนให้แก่สังคม ดังที่เห็นๆกันแล้ว งานส่วนใหญ่ที่คัดลอกมาให้อ่านกันเป็นงานเขียนของท่านอาจารย์สมัคร บุราวาศ และทรรศนะส่วนตัว
อยากให้คนสนใจเรื่องปรัชญา เพราะตัวเองนั้นมีความสุขอยู่ได้ทุกวันนี้ก็เพราะมีปรัชญาชี้นำการดำเนินชีวิต มีความรู้ในการปฏิบัติทำมาหากิน ภายหลังหยุดชีวิตการทำมาหากินแล้วก็ยังมีสมบัติทีมากกว่าเบี้ยบำนาญของราชการ

แม้ไม่รวย แต่ก็ไม่จน จึงอยากให้เป็นตัวอย่างแก่คนรุ่นใหม่ที่ไม่มีทุนเข้ามหาลัยได้ดูเป็นแบบอย่างบ้าง เพราะชีวิตผมเริ่มต้นจากสูญ ไม่มีมรดกจากพ่อแม่

บทความซึ่งจะนำลงตอนละประมาณหนึ่งอาทิตย์ ถ้าใครไม่สนใจอ่านจะลบทิ้ง

บทความตอนใดที่ไม่มีผู้สนใจอ่าน(ไม่ให้ความเห็น)
จะลบออกเร็วกว่านั้น
อยากบอกอยากถามก็ขอให้เขียน เรามาแลกเปลี่ยนวิถีทรรศน์ของกันและกัน เพื่อเดินทางร่วมกันฉันท์สหาย
[Add ลุงกฤช's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com