Group Blog All Blog
|
แอบฟังควอนตัมคุยกัน ควอนตัมA: มนุษย์คิดว่าพวกเราดูแปลกประหลาดวุ่นวายสับสนซับซ้อนซ้อนทับและพัวพันกันยุ่งเหยิงไปหมด ควอนตัมB: การที่มนุษย์มองเห็นและคิดว่าเรามีพฤติกรรมที่ดูแปลกประหลาดวุ่นวายสับสนซับซ้อนซ้อนทับและพัวพันกันเกิดจากสองส่วน/สิ่งที่ซ้อนทับและพัวพันกันอยู่ในสิ่งเดียวกันในเวลาเดียวกันที่อยู่ภายในและซ่อนอยู่ภายในการมองเห็นและการรับรู้และที่อยู่และซ่อนอยู่ภายนอกที่อยู่นอกเหนือความสามารถในการมองเห็นและการรับรู้ที่มนุษย์มีอยู่คำว่า "อยู่นอกเหนือความสามารถ" มีความหมายสองความหมายคือ อยู่และไม่อยู่นอกเหนือความสามารถในสิ่งเดียวกันในเวลาเดียวกัน หรือในความหมายทางฟิสิกส์และวิทยาศาสตร์เรียกว่า อนุภาคและคลื่น ซึ่งนักฟิสิกส์และนักวิทยาศาสตร์ต่างลงความเห็นว่า อนุภาคและคลื่นจะแสดงคุณสมบัติอย่างใดอย่างหนึ่ง ระบบควอนตัมจะไม่แสดงคุณสมบัติทั้งสองอย่างพร้อมๆกัน ซึ่งเป็นความเห็นที่มีความจริงและไม่จริงในเวลาเดียวกันเนื่องจากอนุภาคและคลื่นจะแสดงคุณสมบัติทั้งสองอย่างพร้อมๆกัน แต่การที่มนุษย์ไม่สามารถมองเห็นคุณสมบัติทั้งสองด้านพร้อมๆกันก็เป็นเพราะมนุษย์ใช้ชีวิตวนเวียนอยู่ภายในโลกใบใหญ่ที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานของความต้องการที่มีแต่ความสุขสบายด้านเดียวเท่านั้นโดยไม่ยอมรับความทุกข์ยากลำบาก ดังนั้นเมื่อมนุษย์ต้องเผชิญกับปัญหาหรือสถานการณ์ที่สร้างความทุกข์ยากลำบากมนุษย์จะพยายามหลีกเลี่ยงการแก้ปัญหาที่มีความจำเป็นต้องนำพาตัวเองเดินออกนอกขอบเขตของความสะดวกสบายและความเคยชินเก่าๆโดยมีความพยายามที่จะส่งต่อปัญหาของตัวเองให้คนอื่นช่วยแก้ไขให้โดยให้เหตุผลกับตัวเองว่า เป็นการแสดงความมีน้ำใจของผู้อื่นหรือคนที่แข็งแรงกว่าต้องช่วยคนที่อ่อนแอกว่า ซึ่งจะเห็นได้ว่าการให้เหตุผลดังกล่าวเป็นการให้เหตุผลในเชิงควอนตัมซึ่งมีรูปแบบการทำงานสี่รูปแบบคือ สถานะควอนตัม (Quantum State) ใช่และไม่ใช่ในสิ่งเดียวกันในเวลาเดียวกัน สภาวะกึ่งเป็นกึ่งตาย (Quantum Superposition) เป็นและตายในสิ่งเดียวกันในเวลาเดียวกัน หลักการซ้อนทับ (superposition principle) การซ้อนทับและไม่ซ้อนทับในสิ่งเดียวกันในเวลาเดียวกัน ความพัวพัน (entanglement) ความพัวพันและไม่พัวพันในสิ่งเดียวกันในเวลาเดียวกัน อยู่ในนั้นด้วยซึ่งจะมีความจริงและไม่จริงในสิ่งเดียวกันในเวลาเดียวกันและสามารถแยกคู่สมการออกไปอีกเป็นสี่คู่สมการดังนี้คือ จริงคือจริง ไม่จริงคือไม่จริง จริงคือไม่จริงและไม่จริงคือจริง ควอนตัมA: มนุษย์เริ่มให้ความสนใจและอยากทำความรู้จักกับเรามากขึ้นหลังจากเวลาผ่านไปสี่พันกว่าล้านปี ควอนตัมB: ถ้าอย่างนั้นกว่าที่มนุษย์จะรู้จักเราเป็นอย่างดีไม่รู้ว่ามนุษย์จะต้องใช้เวลาอีกนานแค่ไหน ควอนตัมA: ตามหลักการความน่าจะเป็นของควอนตัมมนุษย์จะมีการพัฒนาเร็วขึ้นและจะใช้เวลาน้อยลงไปเรื่อยๆ ควอนตัมB: จริงๆแล้วมนุษย์ได้รับสัญญาณการเเจ้งเตือนจากโลกที่เกี่ยวกับภาวะโลกร้อนและเวลาของโลกที่เดินช้าลง แต่มนุษย์ไม่สามารถเข้าใจความหมายที่ซ่อนอยู่ภายในการเเจ้งเตือนจากโลกเช่นเดียวกันกับที่มนุษย์ยังไม่สามารถมองเห็นและรับรู้ถึงสถานะและสภาวะรวมทั้งการซ้อนทับและความพัวพันที่อยู่ในตัวเองและอยู่ในกันและกันของพวกเราควอนตัมได้อย่างชัดเจน ควอนตัมA: จริงๆแล้วนักฟิสิกส์และนักวิทยาศาสตร์ต่างก็รู้วิธีการสังเกตพวกเราเป็นอย่างดีอยู่แล้ว แต่การรู้วิธีการสังเกตเพียงอย่างเดียวยังไม่สามารถเติมเต็มความรู้ความเข้าใจที่มีอยู่ได้ ซึ่งนักฟิสิกส์และนักวิทยาศาสตร์หรือบุคคลทั่วไปต่างก็มีความจำเป็นที่จะต้องนำเอาวิธีการสังเกตนั้นไปลงมือปฏิบัติเพื่อให้เกิดผลทั้งสองด้านความหมายของคำว่า ทำให้เกิดผลทั้งสองด้านหมายถึง เมื่อสังเกตความเป็นอนุภาคก็จะเห็นทั้งความเป็นอนุภาคและความเป็นคลื่นไปพร้อมๆกัน ในขณะเดียวกันและหรือในทางกลับกันเมื่อสังเกตความเป็นคลื่นก็จะเห็นทั้งความเป็นคลื่นเป็นความอนุภาคไปพร้อมๆกัน ซึ่งความหมายของการมองเห็นและการรับรู้ทั้งสองด้านพร้อมๆกันจะแยกออกเป็นสองส่วนคือ การมองเห็นและการรับรู้ทั้งการมองเห็นและการรับรู้สามารถทำให้รู้ได้เหมือนกัน แต่เป็นการรู้ที่แตกต่างกันเนื่องจากการมีต้นกำเนิดที่แตกต่างกันแต่มีแหล่งที่มาของต้นกำเนิดเดียวกันจึงสามารถทำให้เกิดการมองเห็นและการรับรู้ทั้งสองด้านพร้อมๆกัน/ในเวลาเดียวกันได้การมองเห็นและการรับรู้ทั้งสองด้านพร้อมๆกัน/ในเวลาเดียวกันเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติในโลกของควอนตัม (โลกขนาดเล็กด้วยกันและหรือโลกขนาดใหญ่ด้วยกัน) หรือในอีกความหมายหนึ่งคือ การเกิดข้ามสายพันธุ์หรือข้ามมิติระหว่างโลกขนาดใหญ่กับโลกขนาดเล็กจำเป็นต้องมีตัวกลางที่ทำหน้าที่เป็นตัวเชื่อม ซึ่งมนุษย์คือ หนึ่งในตัวเชื่อมที่สามารถเชื่อมระหว่างโลกขนาดใหญ่กับโลกขนาดเล็กที่อยู่ภายในและภายนอกของตัวเอง มนุษย์สามารถเป็นทั้งพระเจ้าและหรือภูติผีวิญญาณให้กับตัวเอง ซึ่งความเชื่อเรื่องพระเจ้าและหรือภูติผีวิญญาณจะสามารถดำรงอยู่ได้ภายในโลกขนาดใหญ่เท่านั้น ควอนตัมB: ในโลกของควอนตัม/โลกขนาดเล็ก พระเจ้าและหรือภูติผีวิญญาณจะหมายถึง โลกที่เป็นโลก/มิติคู่ขนานที่อยู่ภายในและภายนอกของควอนตัม (อนุภาคและคลื่น) ควอนตัมA: ควอนตัม/โลกขนาดเล็กจะมีมิติที่เป็นมิติคู่ขนานสองมิติที่อยู่ภายในตัวเองและมิติคู่ขนานสองมิติที่อยู่ภายนอกตัวเองคือ ควอนตัมและโลก (อนุภาคและคลื่น/เล็กและเล็กกว่า) ซึ่งภายในมิติคู่ขนานที่อยู่ภายในตัวเองและอยู่ภายนอกตัวเองจะทำงานร่วมกันกับมิติที่ซ่อนอยู่อีกสามมิติและภายในแต่ละมิติก็จะมีมิติคู่ขนานของตัวเองและนอกจากสามมิติแล้วยังมีมิติที่สี่ซึ่งเป็นมิติของช่องว่างและเวลาซึ่งภายในมิติของช่องว่างและเวลาก็จะมีมิติคู่ขนานของการมีและไม่มีช่องว่างซ่อนอยู่ในสิ่งเดียวกันในเวลาเดียวกันและภายในมิติของเวลาก็จะมีมิติคู่ขนานที่มีเวลาและไม่มีเวลาในสิ่งเดียวกันในเวลาเดียวกันซ่อนอยู่อีกชั้นหนึ่ง ควอนตัมB: ถ้ามองตามหลักการทางฟิสิกส์และวิทยาศาสตร์แล้วโลกของมนุษย์จะมีความวุ่นวายสับสนซับซ้อนซ้อนทับและพัวพันกันมากกว่าโลกของควอนตัมอย่างเราอีกเนื่องจากมนุษย์จะมีทั้งมิติขนาดใหญ่และมิติขนาดเล็กที่มีระดับมากน้อยอยู่ภายในตัวเองและอยู่ภายในกันและกันและมิติขนาดใหญ่และมิติขนาดเล็กที่เป็นมิติคู่ขนานอีกสองมิติที่อยู่ภายนอกตัวเองและยังบวกด้วยสามมิติและมิติคู่ขนานของสามมิติที่อยู่ภายในและอยู่ภายนอกของตัวมิติขนาดใหญ่และของตัวมิติขนาดเล็กเองและนอกจากสามมิติแล้วยังมีมิติที่สี่ซึ่งเป็นมิติของช่องว่างและเวลาซึ่งภายในมิติของช่องว่างและเวลาก็จะมีมิติคู่ขนานของการมีและไม่มีช่องว่างซ่อนอยู่ในสิ่งเดียวกันในเวลาเดียวกันและภายในมิติของเวลาก็จะมีมิติคู่ขนานที่มีเวลาและไม่มีเวลาในสิ่งเดียวกันในเวลาเดียวกันซ่อนอยู่อีกชั้นหนึ่งและภายในมิติขนาดใหญ่และมิติขนาดเล็กยังประกอบไปด้วยความสมมาตรและอสมมาตรของอวัยวะต่างๆรวมไปถึงการมีไม่เท่ากันและการมีกลับด้านกันของขนาดปริมาณและจำนวนโดยเฉพาะจำนวนเซลล์สมองและเซลล์ประสาทที่มีผลต่อประสิทธิภาพทางด้านความคิดความรู้สึกและการกระทำ ควอนตัมA: อย่างไรก็ตามมิติขนาดใหญ่ก็สามารถนำพามนุษย์ไปสู่อดีตและอนาคตได้ ควอนตัมB: แต่โลกของควอนตัม/โลกขนาดเล็กสามารถนำพามนุษย์ไปสู่โลกแห่งอนาคตที่มีความแตกต่างกันอย่างชิ้นเชิงและเป็นโลกที่ไม่มีความสับสนวุ่นวายไม่เป็นระเบียบเหลืออยู่เลยและที่สำคัญคือไม่ได้อยู่ภายในวงจรหรือวัฏจักรหรือค่าอนันต์เดียวกันกับอดีตและอนาคตที่เกิดขึ้นจากมิติขนาดใหญ่ ควอนตัมA: อย่างเช่นการเปลี่ยนขนาดและประสิทธิภาพของชิบคอมพิวเตอร์จากขนาดใหญ่และมีประสิทธิภาพตำ่ไปสู่ขนาดเล็กแต่มีประสิทธิภาพสูงแทนใช่ไหม? ควอนตัมB: ใช่และการเปลี่ยนขนาดและประสิทธิภาพของชิบคอมพิวเตอร์จะต้องทำให้เกิดมีขึ้นทั้งสองทางพร้อมๆกันคือ การนำชิบคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่และประสิทธิภาพตำ่ของเดิมออกและในขณะเดียวกันและหรือในทางกลับกันก็นำเข้าชิบขนาดเล็กแต่มีประสิทธิภาพสูงเข้าแทนที่ชิบเดิม ความหมายของมนุษย์คือ การสลับสับเปลี่ยนกระบวนการและเครื่องมือที่มีส่วนร่วมในการสร้างและทำลายที่ทำให้เกิดวงจรหรือวัฏจักรหรือค่าอนันต์ทางความคิดความรู้สึกและการกระทำเดิมๆในขณะที่รู้สึกตัวและหรือในขณะที่มีสติสัมปชัญญะที่ปฏิบัติสืบทอดกันมาที่เกิดขึ้นจากมิติขนาดใหญ่ทั้งหมด ซึ่งการเปลี่ยนแปลงใดใดก็ตามในขณะที่รู้สึกตัวและหรือในขณะที่มีสติสัมปชัญญะจะส่งผลสองทางโดยอัตโนมัติคือ 1. ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในโลกคู่ขนาน/ในขณะที่ไม่รู้สึกตัวและหรือในขณะที่ไม่มีสติสัมปชัญญะทั้งภายในและภายนอกในสิ่งเดียวกันในเวลาเดียวกัน 2. ทำให้เกิดการเริ่มต้นกระบวนการสร้างและทำลายที่ทำให้เกิดวงจรหรือวัฏจักรหรือค่าอนันต์ทางความคิดความรู้สึกและการกระทำใหม่ที่นำไปสู่มิติขนาดเล็กที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้นแทน ซึ่งการเกิดขึ้นโดยอัตโนมัติทั้งสองข้อจะมีความแตกต่างกันคือ ในข้อที่หนึ่งจะเป็นการเกิดขึ้นโดยอัตโนมัติที่มีความสมบูรณ์ทั้งภายในและภายนอกในสิ่งเดียวกันในเวลาเดียวกัน แต่ในข้อสองจะเป็นการเกิดขึ้นโดยอัตโนมัติที่ยังไม่มีความสมบูรณ์เนื่องจากเป็นการเดินออกจากวงจรเดิมเข้าสู่วงจรหรือวัฏจักรหรือค่าอนันต์ทางความคิดความรู้สึกและการกระทำใหม่ที่นำไปสู่มิติขนาดเล็กที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น แต่ยังมีความจำเป็นที่จะต้องมีกระบวนการทางความคิดความรู้สึกและการกระทำใหม่ๆออกมารองรับและลงมือปฏิบัติอย่างต่อเนื่อง ซึ่งการลงมือปฏิบัติอย่างต่อเนื่องจะสร้างความสมบูรณ์ให้เกิดขึ้นทั้งภายในและภายนอกในสิ่งเดียวกันในเวลาเดียวกัน โลกควอนตัม/โลกขนาดเล็กคือ 1. กุญแจไขคำตอบการเกิด-ดำรงอยู่-ตายของโลก (มนุษย์) ทั้งหมด 2. เริ่มต้นจากความเป็นจุลภาคไปสู่ความเป็นมหภาคและขยายไปสู่ความเป็นเครือข่ายใยแมงมุมในที่สุด |
สมาชิกหมายเลข 3784113
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?] จุกมุ่งหมายคือ การรู้แจ้งเห็นจริงในฐานะมนุษย์ปุถุชนคนธรรมดาคนหนึ่ง There is no way to happiness, happiness is the way. การปิดทองหลังพระ ถ้าเราไม่หยุดปิด วันหนึ่งทองก็จะล้นมาด้านหน้าพระเอง คำพูดที่ปราศจากการกระทำนั้นได้ตายไปแล้ว Link |