พฤษภาคม 2562

 
 
 
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
13
15
16
18
19
21
22
23
24
25
26
27
28
29
31
 
 
All Blog
การสืบทอดอำนาจเป็นเรื่องปกติ
การสืบทอดอำนาจเป็นเรื่องปกติ การไม่สืบทอดอำนาจเป็นเรื่องไม่ปกติ ในขณะที่เรากำลังแสดงการต่อต้านการสืบทอดอำนาจของผู้อื่นอยู่เราก็กำลังแสดงการสืบทอดอำนาจของตัวเองอยู่เช่นกัน
ดังนั้นการสืบทอดอำนาจจึงเป็นเรื่องปกติ แต่การไม่สืบทอดอำนาจเป็นเรื่องไม่ปกติ การสืบทอดอำนาจเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นและเป็นไปตามธรรมชาติและโดยธรรมชาติ แต่การไม่สืบทอดอำนาจเป็นสิ่งที่จะเกิดขึ้นได้จากการเปลี่ยนแปลงโดยการลงมือทำเพื่อทำให่เกิดการเปลี่ยนแปลงท่านั้นไม่สามารถเกิดขึ้นเองโดยธรรมชาติได้
คำถาม: อะไรคือเหตุผลที่แท้จริงของความพยายามในการแสดงการยุติหรือต่อต้านการสืบทอดอำนาจของผู้อื่น?
คำตอบ: ต้องการเป็นผู้สืบทอดอำนาจของตัวเองด้วยการมุ่งความพยายามไปที่ความพยายามในการยุติการสืบทอดอำนาจของผู้อื่น มนุษย์ไม่เพียงแต่มีความต้องการที่จะเป็นผู้สืบทอดอำนาจของตัวเองเท่านั้น มนุษย์ยังมีความต้องการที่จะยึดติดอยู่กับอำนาจหรือสิ่งที่ตัวเองมีอยู่ซึ่งเป็นธรรมชาติของมนุษย์และโลก

การสืบทอดอำนาจ" มีความหมายที่มากกว่าการสืบทอดอำนาจที่อยู่ภายในตัวเองและอยู่ภายในกันและกันระหว่างคำว่า สืบทอดและอำนาจ แยกออกเป็นดังนี้คือ การสืบทอดคือการสืบทอด การไม่สืบทอดคือการไม่สืบทอด การไม่สืบทอดคือการสืบทอดและการสืบทอดคือการไม่สืบทอด อำนาจคืออำนาจ ไม่ใช่อำนาจคือไม่ใช่อำนาจ ใช่อำนาจคือไม่ใช่อำนาจและไม่ใช่อำนาจคือใช่อำนาจ

จงมองที่สถานการณ์ที่เกิดขึ้นและอย่ามองที่สถานการณ์ที่เกิดขึ้นในสิ่งเดียวกันในเวลาเดียวกัน ความหมายคือ จงมองที่สถานการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งภายในและภายนอกของตัวเองอย่ามองเฉพาะสถานการณ์ที่เกิดขึ้นภายนอกเพียงด้านเดียวโดยละเลยสถานการณ์ที่เกิดขึ้นภายในเพราะสถานการณ์ภายนอกคือภาพสะท้อนของสถานการณ์ภายในและในขณะเดียวกันและหรือในทางกลับกันสถานการณ์ภายในก็คือภาพสะท้อนของสถานการณ์ภายนอก

จงใช้ความคิดและอย่าใช้ความคิดในสิ่งเดียวกันในเวลาเดียวกัน การไม่ใช้ความคิดไม่ได้หมายความว่าไม่ใช้ความคิดและในขณะเดียวกันและหรือในทางกลับกันการใช้ความคิดก็ไม่ได้หมายความว่าใช้ความคิด ความหมายคือ เราต้องใช้ทั้งความคิดความรู้สึกและการกระทำไปพร้อมๆกันและไปในทิศทางเดียวกัน ความคิดและความรู้สึกคือ สิ่งเดียวกันที่ใช่และไม่ใช่สิ่งเดียวกันในเวลาเดียวกัน ฉะนั้นจงอย่าให้ความสำคัญกับความคิดที่อยู่ภายในความคิดเท่านั้น แต่จงให้ความสำคัญกับความรู้สึกที่อยู่ภายในความคิดและความรู้สึกที่ไม่ได้อยู่ภายในความคิดของตัวเราเองด้วยเนื่องจากทั้งความคิดและความรู้สึกคือ สิ่งที่เราใช้ในการสร้างและทำลายตัวเราในเวลาเดียวกัน มนุษย์คือ ผู้สร้างและทำลายให้กับตัวเองโดยมีธรรมชาติที่เป็นผู้ช่วยที่ซื่อสัตย์ มนุษย์คือ ผู้ประสบภัยและฮีโร่ของตัวเองโดยมีธรรมชาติเป็นผู้ช่วยที่ซื่อสัตย์ มนุษย์และโลกคือ สิ่งเดียวกันที่ใช่และไม่ใช่สิ่งเดียวกันในเวลาเดียวกัน เช่นเดียวกันกับความคิดและความรู้สึกที่เป็นสิ่งเดียวกันที่ใช่และไม่ใช่สิ่งเดียวกันในเวลาเดียวกัน

มนุษย์และโลกมีความพยายามในการสืบทอดอำนาจซึ่งเป็นเรื่องปกติ ไม่เช่นนั้นมนุษย์และโลกคงไม่เดินทางมาถึงจุดนี้ จุดที่เราไม่ได้เคลื่อนย้ายตัวเองและโลกไปจากจุดเริ่มต้นซึ่งหมายถึง ยุคแห่งอารยะธรรม มนุษย์คงทำให้ทั้งตัวเองและโลกเเดินเข้าสู่ยุคแห่งอารยะธรรมที่สมบูรณ์แบบนานแล้ว และเมื่อเราอยู่ในยุคแห่งอารยะธรรมที่สมบูรณ์แบบเราก็จะมีความพยายามในการสืบทอดอำนาจเพื่อให้เราได้อยู่ในยุคแห่งอารยะธรรมที่สมบูรณ์แบบต่อไปเรื่อยๆ ดังนั้นการสืบทอดอำนาจจึงเป็นเรื่องปกติ แต่การไม่สืบทอดอำนาจเป็นเรื่องไม่ปกติ ซึ่งการจะนำพาตัวเองและโลกไปสู่ยุคแห่งอารยะธรรมที่สมบูรณ์แบบได้เราทุกคนจะต้องเดินออกจากจุดที่ตัวเราเองยืนอยู่ ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร ทำอะไร อยู่ที่ไหน จงอยู่ในที่ที่คุณอยู่และอย่าอยู่ในที่ที่คุณอยู่ในสิ่งเดียวกันในเวลาเดียวกัน ความคิดที่ว่า นี่แหละคือฉัน นี่คือสิ่งที่บ่งบอกความเป็นฉัน นี่คือตัวตนของฉันฉะนั้นฉันจะไม่ยอมเปลี่ยนแปลงความเป็นตัวตนของฉันเพื่อใครหรือเพื่ออะไรทั้งนั้น นี่คือรูปแบบของการสืบทอดอำนาจที่เรารับเข้าสู่ความคิดความรู้สึกและการกระทำของเราด้วยความยินยอมพร้อมใจของเราเอง ซึ่งทำให้เรามีความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนว่าคือสิ่งที่ถูกต้อง ซึ่งมีความถูกต้องและไม่ถูกต้องในสิ่งเดียวกันในเวลาเดียวกัน มนุษย์มีสิ่งที่บ่งบอกความมี/เป็น/อยู่และไม่มี/ไม่เป็น/ไม่อยู่ของตัวตนอยู่สองส่วนคือ ในส่วนของความเป็นมนุษย์และในส่วนของความเป็นจิตวิญญาณ ซึ่งทั้งสองส่วนต่างก็มีความพยายามที่จะอยู่ภายในความมี/เป็น/อยู่ของตัวเองด้วยกันทั้งสิ้นเช่นเดียวกันกับมนุษย์และมนุษย์ โลกกับมนุษย์ โลกกับธรรมชาติที่อยู่ภายในโลก

มนุษย์ทุกคนไม่มีใครต้องการอยู่ในที่ที่อยู่แล้วไม่มีความสุขไม่มีความสบายด้วยกันทั้งสิ้น ทุกคนอยากอยู่ในที่ที่อยู่แล้วมีความสุขมีความสบายทั้งนั้นซึ่งนี่คืออีกรูปแบบหนึ่งของการสืบทอดอำนาจและไม่สืบทอดอำนาจที่เราทุกคนทำเหมือนกันและทำแตกต่างกัน ในความเหมือนมีความต่างและในความต่างมีความเหมือน

รูปแบบในการขับเคลื่อนโลกและชีวิตไปข้างหน้าจะมีทั้งความเหมือนและความแตกต่างกัน ในความเหมือนมีความต่างในความต่างมีความเหมือน ไม่ว่าจะเป็นพลังงานบวกหรือพลังงานลบทั้งสองพลังงานมีความสำคัญเหมือนกันแต่มีความสำคัญแตกต่างกัน พลังงานทั้งสองขั้วต่างก็ทำหน้าที่ผลักดันตัวเองและผลักดันกันและกันเพื่อทำให้ตัวเองและโลกเคลื่อนที่ออกจากจุดเริ่มต้นไปสู่จุดหมายปลายทาง ซึ่งพลังงานแต่ละชนิดจะมีรูปแบบในการขับเคลื่อนเพื่อผลักดันตัวเองและผลักดันกันและกันเป็นของตัวเอง ซึ่งไม่ใช่ปัญหาสำหรับโลกเนื่องจากโลกยอมรับการผลักดันตัวเองและผลักดันกันและกันจากพลังงานต่างขั้วกันด้วยความยินยอมพร้อมใจ แต่ใช่ปัญหาสำหรับมนุษย์เนื่องจากมนุษย์ทุกคนมีความต้องการที่จะใช้ชีวิตที่มีแต่ความสุขความสบาย ทุกคนพยายามปฏิเสธสิ่งที่จะทำให้ตัวเองประสบกับความทุกข์ยากลำบาก ซึ่งยิ่งเรามีความพยายามที่จะปฏิเสธสิ่งที่จะทำให้ตัวเองประสบกับความทุกข์ยากลำบากมากเท่าไหร่ก็ยิ่งทำให้ตัวเราเองประสบกับความทุกข์ยากลำบากมากขึ้นเท่านั้นเพราะนั่นคือจุดที่เรายืนอยู่ เราไม่สามารถเดินออกจากจุดที่เราไม่ได้ยืนอยู่ไม่ได้ และการที่เราจะเปลี่ยนจุดยืนของตัวเราเองก็มีเพียงการนำเอาสิ่งที่เรามีอยู่มาลงมือทำเพื่อให้เกิดผล ซึ่งผลที่ได้จะเป็นสิ่งที่บอกกับเราว่าเรามีและไม่มีอะไร เราทำและไม่ได้ทำอะไร เราเป็นอะไรและไม่ได้เป็นอะไร เราอยู่ในอะไรและไม่ได้อยู่ในอะไร และเราจะต้องทำอย่างไรเพื่อนำพาตัวเราเองเดินออกจากจุดที่เรายืนอยู่ การกล่าวหา การแสดงความคิดเห็น การวิพากษ์วิจารณ์และการโทษผู้อื่น การทำความดี การทำความเลวและอื่นๆอีกมากมายล้วนเป็นรูปแบบหนึ่งของความพยายามในการสืบทอดอำนาจของตัวเองทั้งสิ้น

*จงเป็นคนรุ่นใหม่ที่ยืนอยู่บนโลกใบใหม่ของตัวเองอย่าเป็นคนรุ่นใหม่ที่ยืนอยู่บนโลกใบเก่าของตัวเอง
*จงเป็นคนรุ่นเก่าที่ยืนอยู่บนโลกใบใหม่ของตัวเองอย่าเป็นคนรุ่นเก่าที่ยืนอยู่บนโลกใบเก่าของตัวเอง

มนุษย์ทุกคนจะมีทั้งโลกใบเก่าและโลกใบใหม่รวมกันอยู่ภายในตัวเองและภายในกันและกัน สิ่งที่เราต้องทำคือ แยกโลกใบเก่าออกจากโลกใบใหม่โดยไม่แยกออกจากกัน เช่นเดียวกันกับโลกที่มีทั้งโลกใบเก่าและโลกใบใหม่รวมกันอยู่ภายในตัวเอง และสิ่งที่โลกทำตามธรรมชาติและโดยธรรมชาติคือ แยกโลกใบเก่าออกจากโลกใบใหม่โดยไม่แยกออกจากกัน ยกตัวอย่างเช่น โลกมีกลางวันและกลางคืน โลกแยกกลางวันและกลางคืนออกจากกันโดยไม่แยกโลกออกจากกัน

ภาวะโลกร้อนคือ ความพยายามในการเปลี่ยนถ่ายขั้วอำนาจของโลก ซึ่งมนุษย์มีทางเลือกสองทางคือ 1. ปล่อยให้โลกทำให้เกิดการเปลี่ยนถ่ายขั้วอำนาจของโลกด้วยตัวของโลกเองซึ่งอาจหมายถึง
การนำมาซึ่งการสูญพันธิ์ของหมู่มวลมนุษย์ชาติ 2. มนุษย์ทั้งโลกจะต้องร่วมมือร่วมใจกันทำให้โลกเกิดการเปลี่ยนถ่ายขั้วอำนาจของโลกด้วยการเปลี่ยนถ่ายขั้วอำนาจที่อยู่ภายในตัวเองเพื่อทำให้โลกเกิดการสลับขั้วแม่เหล็กโลกด้วยตัวของมนุษย์ ซึ่งการเปลี่ยนถ่ายขั้วอำนาจที่อยู่ภายในตัวเองก็คือ การสลับขั้วแม่เหล็กที่อยู่ภายในตัวเอง เหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นทั่วโลกคือ สัญญาณที่โลกและมนุษย์ส่งถึงกันว่าเวลาแห่งการเปลี่ยนถ่ายขั้วอำนาจได้เดินทางมาถึงแล้วและขั้วอำนาจเก่าของโลกก็มีความพร้อมที่จะสละขั้วอำนาจแล้วจากการสละราชสมบัติของสมเด็จพระจักรพรรดิองค์อากิฮิโตะและการขึ้นครองราชของกษัตริย์ไทยและญี่ปุ่นที่มีความเหมือนและมีความแตกต่างกัน

สถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นกับคนไทยที่มีความเกี่ยวเนื่องกับการสืบทอดอำนาจ กับ ภาวะโลกร้อน คือ สิ่งเดียวกันที่ใช่และไม่ใช่สิ่งเดียวกันในเวลาเดียวกัน ความหมายของความใช่และไม่ใช่แยกออกเป็นดังนี้คือ ใช่คือใช่ ไม่ใช่คือไม่ใช่ ใช่คือไม่ใช่ ไม่ใช่คือใช่ การสืบทอดอำนาจคือ การสืบทอดอำนาจ การไม่สืบทอดอำนาจคือการไม่สืบทอดอำนาจ การไม่สืบทอดอำนาจคือการสืบทอดอำนาจ การสืบทอดอำนาจคือการไม่สืบทอดอำนาจ



Create Date : 14 พฤษภาคม 2562
Last Update : 14 พฤษภาคม 2562 12:13:00 น.
Counter : 468 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

สมาชิกหมายเลข 3784113
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]



จุกมุ่งหมายคือ การรู้แจ้งเห็นจริงในฐานะมนุษย์ปุถุชนคนธรรมดาคนหนึ่ง

There is no way to happiness, happiness is the way.

การปิดทองหลังพระ ถ้าเราไม่หยุดปิด วันหนึ่งทองก็จะล้นมาด้านหน้าพระเอง

คำพูดที่ปราศจากการกระทำนั้นได้ตายไปแล้ว