Group Blog All Blog
|
จงเชื่อในความเป็นวิทยาศาสตร์และอย่าเชื่อในความเป็นวิทยาศาสตร์ในสิ่งเดียวกันในเวลาเดียวกัน วิทยาศาสตร์สร้างและไม่ได้สร้างวิทยาศาสตร์ในสิ่งเดียวกันในเวลาเดียวกัน วิทยาศาสตร์สร้างและไม่ได้สร้างโลกในสิ่งเดียวกันในเวลาเดียวกัน วิทยาศาสตร์สร้างและไม่ได้สร้างคนในสิ่งเดียวกันในเวลาเดียวกัน วิทยาศาสตร์สร้างและไม่ได้สร้างสิ่งประดิษฐ์ในสิ่งเดียวกันในเวลาเดียวกัน วิทยาศาสตร์สร้างและไม่ได้สร้างนวัตกรรมในสิ่งเดียวกันในเวลาเดียวกัน ฉะนั้นจงเชื่อในความเป็นวิทยาศาสตร์และอย่าเชื่อในความเป็นวิทยาศาสตร์ในสิ่งเดียวกันในเวลาเดียวกัน การเชื่อในความเป็นวิทยาศาสตร์จะทำให้เราจมลึกลงไปในความเป็นวิทยาศาสตร์ การจมลึกลงไปในความเป็นวิทยาศาสตร์จะทำให้เกิดความเป็นไปได้สองทางคือ 1. การจมลึกลงไปเพื่อจมลงไป/คิดว่าศาสตร์ของวิทยาศาสตร์ดีกว่าศาสตร์สาขาอื่นและทำให้เกิดการปฏิเสธการยอมรับหรือต่อต้านศาสตร์สาขาอื่นโดยอัตโนมัติโดยรู้และไม่รู้ตัวในเวลาเดียวกัน 2. การจมลึกลงไปเพื่อลอยตัวอยู่เหนือสิ่งที่ทำให้จมลงไป/ทำให้เกิดการเคลื่อนที่ทางความคิดความรู้สึกและการกระทำที่เชื่อมต่อไปสู่ศาสตร์แขนงอื่น การเชื่อและไม่เชื่อในความเป็นวิทยาศาสตร์ในสิ่งเดียวกันในเวลาเดียวกันจะทำให้ความรู้ความเข้าใจในความเป็นวิทยาศาสตร์เกิดการยกระดับและขยายขอบเขตแบบไร้ขีดจำกัด หรือในอีกความหมายหนึ่งคือ เกิดเป็นวงจร/วัฏจักร/ค่าอนันต์ของความรู้ความเข้าใจในความเป็นวิทยาศาสตร์ที่เป็นมากกว่าความเป็นวิทยาศาสตร์ เมื่อเราเดินเข้าไปในความเป็นวิทยาศาสตร์เราจะค้นพบความใช่และไม่ใช่ที่อยู่ภายในวิทยาศาสตร์ ถ้าเราเดินตามความใช่และไม่ใช่ที่อยู่ภายในวิทยาศาสตร์ไปเราจะค้นพบความใช่และไม่ใช่ที่อยู่อีกด้านหนึ่งของความเป็นวิทยาศาสตร์และในขณะเดียวกันหรือในทางกลับกันเมื่อเราเดินเข้าไปในความเป็นโลกเราจะค้นพบความใช่และไม่ใช่ที่อยู่ภายในโลก ถ้าเราเดินตามความใช่และไม่ใช่ที่อยู่ภายในโลกไปเราจะค้นพบความใช่และไม่ใช่ที่อยู่อีกด้านหนึ่งของความเป็นโลกและในขณะเดียวกันหรือในทางกลับกันเมื่อเราเดินเข้าไปในความเป็นมนุษย์จะค้นพบความใช่และไม่ใช่ที่อยู่ภายในมนุษย์ เราเดินตามความใช่และไม่ใช่ที่อยู่ภายในมนุษย์ไปเราจะค้นพบความใช่และไม่ใช่ที่อยู่อีกด้านหนึ่งของความเป็นมนุษย์ ในขณะเดียวกันกับที่เราค้นพบความใช่และไม่ใช่ที่อยู่อีกด้านหนึ่งเราก็จะค้นพบทางเดินหรือสิ่งที่ทำให้เกิดการเชื่อมต่อและไม่เชื่อมต่อระหว่างความเป็นมนุษย์ ความเป็นโลกและความเป็นวิทยาศาสตร์ ซึ่งจะทำให้มนุษย์และโลกเดินออกจากความมี/เป็น/อยู่และไม่มี/ไม่เป็น/ไม่อยู่ของความสมดุลย์หนึ่งที่มีทั้งความสมดุลย์และความไม่สมดุลย์ในสิ่งเดียวกันในเวลาเดียวกันไปสู่ความมี/เป็น/อยู่และไม่มี/ไม่เป็น/ไม่อยู่ของอีกความสมดุลย์หนึ่งที่มีทั้งความสมดุลย์และความไม่สมดุลย์ในสิ่งเดียวกันในเวลาเดียวกัน วิทยาศาสตร์ถูกสร้างขึ้นจากความเป็นวิทยาศาสตร์และไม่ได้ถูกสร้างขึ้นจากความเป็นวิทยาศาสตร์ในสิ่งเดียวกันในเวลาเดียวกันและในขณะเดียวกันและหรือในทางกลับกันโลกถูกสร้างขึ้นจากความเป็นโลกและไม่ได้ถูกสร้างขึ้นจากความเป็นโลกในสิ่งเดียวกันในเวลาเดียวกันและในขณะเดียวกันและหรือในทางกลับกันมนุษย์ถูกสร้างขึ้นจากความเป็นมนุษย์และไม่ได้ถูกสร้างขึ้นจากความเป็นมนุษย์ในสิ่งเดียวกันในเวลาเดียวกัน ทุกสิ่งบนโลกนี้ถูกสร้างขึ้นจากตัวเองและไม่ได้ถูกสร้างขึ้นจากตัวเองในสิ่งเดียวกันในเวลาเดียวกัน เราสร้างตัวเองและกันและกันจากความมี/เป็น/อยู่และไม่มี/ไม่เป็น/ไม่อยู่ในสิ่งเดียวกันในเวลาเดียวกันที่อยู่ภายในโลกและภายในตัวเอง หรือในอีกความหมายหนึ่งคือ มนุษย์เกิดจากการมีเพศสัมพันธ์ร่วมกันระหว่างพ่อและแม่+การมีเพศสัมพันธ์ร่วมกันระหว่างมนุษย์กับสิ่งที่เราเรียกรวมกันว่า ธรรมชาติของโลก คำว่า "การมีเพศสัมพันธ์ร่วมกัน" มีสองความหมายในตัวเองคือ การร่วมเพศและการไม่ร่วมเพศในสิ่งเดียวกันในเวลาเดียวกัน ทั้งสองความหมายมีความหมายที่ซ่อนอยู่ภายในตัวเองและภายในกันและกันแยกออกเป็นดังนี้คือ การร่วมเพศคือการร่วมเพศ การไม่ร่วมเพศคือการไม่ร่วมเพศ การร่วมเพศคือการไม่ร่วมเพศและการไม่ร่วมเพศคือการร่วมเพศ มนุษย์และโลกคือ สิ่งเดียวกันที่ใช่และไม่ใช่สิ่งเดียวกันในเวลาเดียวกัน มนุษย์และโลกจะมีปฏิสัมพันธ์/มีชีวมณฑลร่วมกันในสิ่งเดียวกันในเวลาเดียวกัน คำว่า "โลก" มีสองความหมายในตัวเองคือ โลกและธรรมชาติที่อยู่ภายในของโลก มนุษย์คือหนึ่งในธรรมชาติที่อยู่ภายในของโลก คำว่า "มนุษย์" มีสองความหมายในตัวเองคือ มนุษย์และธรรมชาติที่อยู่ภายในของมนุษย์ คำว่า "ธรรมชาติที่อยู่ภายในของโลกและมนุษย์" มีสองความหมายในตัวเองคือ ธรรมชาติของสิ่งมีชีวิตและธรรมชาติของสิ่งไม่มีชีวิตแต่มีชีวิต โดยธรรมชาติของสิ่งใดก็ตามจะมีกระบวนการทำงานเป็นของตัวเองและเป็นของกันและกัน+มีกระบวนการทำงานที่เชื่อมต่อและไม่เชื่อมต่อถึงกันอยู่ภายในสิ่งเดียวกันในเวลาเดียวกัน ซึ่งการมีทั้งกระบวนการทำงานที่เป็นของตัวเองและเป็นของกันและกัน+การมีกระบวนการทำงานที่เชื่อมต่อและไม่เชื่อมต่อถึงกันที่อยู่ภายในสิ่งเดียวกันในเวลาเดียวกัน สิ่งเดียวกันใช่และไม่ใช่สิ่งเดียวกันในเวลาเดียวกันและเวลาเดียวกันที่ใช่และไม่ใช่เวลาเดียวกันในเวลาเดียวกันของมนุษย์และโลก และหรือระหว่างมนุษย์กับโลก ทำให้มนุษย์คือชีวมณฑลของโลกและโลกคือชีวมณฑลของมนุษย์ คำว่า "ชีวมณฑล" หมายถึง ชีวิตและหรือระบบนิเวศทั้งหมด การมีปฏิสัมพันธ์/มีชีวมณฑลร่วมกันในสิ่งเดียวกันในเวลาเดียวกันระหว่างมนุษย์และโลก มนุษย์กับมนุษย์ มนุษย์กับสิ่งมีชีวิตและสิ่งไม่มีชีวิตแต่มีชีวิต โลกกับสิ่งมีชีวิตและสิ่งไม่มีชีวิตแต่มีชีวิต ทั้งหมดทำให้เกิดเป็นวงจร/วัฏจักร/ค่าอนันต์ของตัวเองและของกันและกันในสิ่งเดียวกันในเวลาเดียวกัน สิ่งเดียวกันใช่และไม่ใช่สิ่งเดียวกันในเวลาเดียวกันและในเวลาเดียวกันใช่และไม่ใช่ในเวลาเดียวกันในเวลาเดียวกัน ความหมายคือ วงจร/วัฏจักร/ค่าอนันต์ของตัวเองและของกันและกันเกิดจากความมี/เป็น/อยู่และไม่มี/ไม่เป็น/ไม่อยู่ในสิ่งเดียวกันในเวลาเดียวกันของโลกและธรรมชาติที่อยู่ภายในโลก วงจร/วัฏจักร/ค่าอนันต์ของตัวเองและของกันและกันเกิดจากความมี/เป็น/อยู่และไม่มี/ไม่เป็น/ไม่อยู่ในสิ่งเดียวกันในเวลาเดียวกันของมนุษย์และธรรมชาติที่อยู่ภายในของมนุษย์ ซึ่งเป็นสิ่งเดียวกันที่ใช่และไม่ใช่สิ่งเดียวกันในเวลาเดียวกันและในเวลาเดียวกันใช่และไม่ใช่ในเวลาเดียวกันในเวลาเดียวกัน วิทยาศาสตร์และมนุษย์และโลกคือ สิ่งเดียวกันที่ใช่และไม่ใช่สิ่งเดียวกันในเวลาเดียวกัน หรือในอีกความหมายหนึ่งคือ ทุกสิ่งที่อยู่ภายในโลกคือ สิ่งเดียวกันที่ใช่และไม่ใช่สิ่งเดียวกันในเวลาเดียวกัน ทุกสิ่งคือ พลังงานเหมือนกัน แต่เป็นพลังงานเหมือนกันที่มีทั้งความเหมือนและมีความแตกต่างกันอยู่ภายในตัวเองและภายในกันและกัน ทั้งที่อยู่ในรูปแบบที่เหมือนกันและไม่เหมือนกันจะมีทั้งความเหมือนและความแตกต่างกันอยู่ภายในตัวเองและภายในกันและกัน ในความเหมือนมีความเหมือนและความต่างและในความต่างมีความต่างและมีความเหมือน ยกตัวอย่างเช่นคำว่า "ปฏิรูป" หมายถึง ปรับปรุง,แก้ไข,เปลี่ยนแปลง,ปฏิวัติ พลังงาน/สิ่งที่มีความสามารถทำให้เกิดการปฏิรูปได้มีสองสิ่งที่ใช่และไม่ใช่สองสิ่งในสิ่งเดียวกันในเวลาเดียวกันคือ มนุษย์และโลก ซึ่งหมายรวมถึง ทุกพลังงาน/ทุกสิ่งที่อยู่ภายในของมนุษย์และของโลก ทุกพลังงาน/ทุกสิ่งจะมีกระบวนการทำงานเป็นของตัวเองและเป็นของกันและกันในสิ่งเดียวกันในเวลาเดียวกัน ดังนั้นการปฏิรูปจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อมีการเชื่อมต่อระหว่างกระบวนการทำงานของตัวเองและกระบวนการทำงานของกันและกันในสิ่งเดียวกันในเวลาเดียวกันของมนุษย์และธรรมชาติที่อยู่ภายในของมนุษย์ และระหว่างมนุษย์กับมนุษย์ มนุษย์และโลก หัวใจของการปฏิรูปคือ จงเชื่อในสิ่งที่เชื่อและอย่าเชื่อในสิ่งที่เชื่อในสิ่งเดียวกันในเวลาเดียวกัน จงนำเอาพลังงาน/สิ่งที่มีอยู่มาใช้และอย่านำเอาพลังงาน/สิ่งที่มีอยู่มาใช้ในสิ่งเดียวกันในเวลาเดียวกัน สิ่งเดียวกันใช่และไม่ใช่สิ่งเดียวกันในเวลาเดียวกันและในเวลาเดียวกันใช่และไม่ใช่ในเวลาเดียวกันในเวลาเดียวกัน |
สมาชิกหมายเลข 3784113
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?] จุกมุ่งหมายคือ การรู้แจ้งเห็นจริงในฐานะมนุษย์ปุถุชนคนธรรมดาคนหนึ่ง There is no way to happiness, happiness is the way. การปิดทองหลังพระ ถ้าเราไม่หยุดปิด วันหนึ่งทองก็จะล้นมาด้านหน้าพระเอง คำพูดที่ปราศจากการกระทำนั้นได้ตายไปแล้ว Link |