โลกกำลังแพ้ภัยตัวเองมนุษย์ก็เช่นกัน
มนุษย์คือ สิ่งมีชีวิตและไม่มีชีวิตในเวลาเดียวกันที่โลกสร้างขึ้นมาเพื่อช่วยทำให้โลกเกิดความสมบูรณ์พูนสุข แต่มนุษย์กำลังนำพาโลกเข้าสู่ความหายนะด้วยความรู้และไม่รู้ในสิ่งเดียวกันในเวลาเดียวกันของตัวเองเหมือนกับที่โลกรู้และไม่รู้ในสิ่งเดียวกันในเวลาเดียวกัน, เป็นและไม่เป็นในสิ่งเดียวกันในเวลาเดียวกัน ความคิดที่ว่า "สิ่งนี้คือตัวเราคือ ความหลง" และ ความคิดที่ว่า "สิ่งนี้ไม่ใช่ตัวเราก็คือ ความหลงเช่นกัน"
"ปฏิวัติโลก ปฏิวัติความคิด ปฏิวัติความรู้สึกและปฏิวัติการกระทำ ทุกสิ่งที่ทุกคนคิดและทำหรือรู้สึกและทำคือ ถูกทั้งหมดและผิดทั้งหมดในสิ่งเดียวกันในเวลาเดียวกัน" มนุษย์เป็นและไม่เป็นในแบบที่โลกเป็นและไม่เป็น สิ่งที่มนุษย์ต้องทำคือ เป็นและไม่เป็นในแบบที่โลกเป็นและไม่เป็น ทั้งสองประโยคเขียนเหมือนกันแต่ทั้งความคิดความรู้สึกและการกระทำแตกต่างกัน
รหัสลับของชีวิตคือ "ความเป็นหนึ่งเดียวที่ใช่และไม่ใช่หนึ่งเดียวในสิ่งเดียวกันในเวลาเดียวกัน" " All in one และไม่ใช่ All in one ในสิ่งเดียวกันในเวลาเดียวกัน" คือ "ความมีที่สิ้นสุดและไม่มีที่สิ้นสุดในสิ่งเดียวกันในเวลาเดียวกัน" คือ "ความจริงและไม่จริงในสิ่งเดียวกันในเวลาเดียวกัน" "เป็นและไม่เป็นในสิ่งเดียวกันในเวลาเดียวกัน" "มีและไม่มีในสิ่งเดียวกันในเวลาเดียวกัน" เราและคนอื่นคือ วัฏจักรของกันและกัน และไม่ใช่วัฏจักรของกันและกันในเวลาเดียวกัน ทั้งหมดนี้คือ "การยึดติดและไม่ยึดติดในสิ่งเดียวกันในเวลาเดียวกัน" "การปล่อยวางและไม่ปล่อยวางในสิ่งเดียวกันในเวลาเดียวกัน" "การทำตัวเป็นน้ำเต็มแก้วและอย่าทำตัวเป็นน้ำเต็มแก้วในสิ่งเดียวกันในเวลาเดียวกัน" มนุษย์พยายามมองหาสัจจะในทุกที่ แต่มนุษย์ไม่พบสัจจะที่ใดเลยนั่นเพราะทุกสิ่งบนโลกนี้คือ สัจจะและไม่ใช่สัจจะในสิ่งเดียวกันในเวลาเดียวกัน ทุกอย่างรวมอยู่ในตัวเราสิ่งที่เราต้องทำคือ การแยกเพื่อรวม การรวมเพื่อแยกในสิ่งเดียวกันในเวลาเดียวกัน เราคือ เราและไม่ใช่เรา ในเวลาเดียวกัน คนอื่นคือ คนอื่นและไม่ใช่คนอื่น ในเวลาเดียวกัน เงาในกระจกคือ เราและไม่ใช่เรา ในเวลาเดียวกัน
ในโลกนี้ไม่มีคนฉลาดและไม่มีคนโง่เพราะมนุษย์คือ คนฉลาดและคนโง่ในสิ่งเดียวกัในเวลาเดียวกัน นี่คือสิ่งที่โลกเป็น "ใช่และไม่ใช่ในสิ่งเดียวกันในเวลาเดียวกัน" มนุษย์จำเป็นและไม่จำเป็นต้องเป็นในสิ่งเดียวกันในเวลาเดียวกันเหมือนกับที่โลกเป็น มนุษย์มีและไม่มีในสิ่งเดียวกันในเวลาเดียวกันเหมือนกับที่โลกมีและไม่มีในสิ่งเดียวกันในเวลาเดียวกัน ดังนั้นมนุษย์จึงสามารถเลือกที่จะเป็นคนฉลาดที่ยืนอยู่บนความโง่ของตัวเองหรือเลือกที่จะเป็นคนโง่ที่ยืนอยู่บนความฉลาดของตัวเองหรือเลือกที่จะยืนอยู่เหนือความฉลาดและความโง่ของตัวเองได้เหมือนกับที่พระพุทธเจ้าสามารถยืนอยู่เหนือความดีและความชั่วของตัวเอง จงเรียนรู้การใช้ความฉลาดและความโง่ในสิ่งเดียวกันในเวลาเดียวกันของตัวเองให้เป็นประโยชน์ต่อตัวเองและต่อโลกที่เราอาศัยอยู่ จงมีความเห็นแก่ตัวและไม่มีความเห็นแก่ตัวในเรื่องเดียวกันในเวลาเดียวกัน จงเป็นผู้ให้และไม่เป็นผู้ให้ตัวเองในเรื่องเดียวกันในเวลาเดียวกัน จงเป็นผู้ให้ให้ผู้อื่นและไม่เป็นผู้ให้ให้ผู้อื่นในเรื่องเดียวกันในเวลาเดียวกัน จงเป็นผู้รับและไม่เป็นผู้รับให้ตัวเองในเรื่องเดียวกันในเวลาเดียวกัน จงเป็นผู้รับและไม่เป็นผู้รับให้ผู้อื่นในเรื่องเดียวกันในเวลาเดียวกัน
*ปัจจุบันนี้มีผู้ออกบวชอยู่สองประเภทคือ ผู้ออกบวชที่ปฏิบัติโดยใช้ทางสายกลางเพื่อการละทิ้งความคิดความรู้สึกและการกระทำของตัวเอง กับ ผู้ออกบวชที่ใช้ทั้งทางสายกลางและทางสายตรงเพื่อเติมเต็มความสมบูรณ์ให้กับความคิดความรู้สึกและการกระทำของตัวเอง
*เราคือ มนุษย์ที่เกิดมาเพื่อละทิ้งและไม่ละทิ้งในสิ่งเดียวกันในเวลาเดียวกัน = การเติมเต็มความสมบูรณ์ให้กับความคิดความรู้สึกและการกระทำของตัวเองโดยใช้ทั้งทางสายกลางและทางสายตรง = การแยกเพื่อรวม การรวมเพื่อแยกในสิ่งเดียวกันในเวลาเดียวกัน = การเป็น All in one และไม่ใช่ All in one ในสิ่งเดียวกันในเวลาเดียวกันให้กับตัวเอง อย่าทำตัวเป็นโลกครึ่งใบให้กับตัวเอง แต่จงทำตัวเป็นโลกทั้งใบให้กับตัวเอง เราคือทุกสิ่งของตัวเราเองและเราก็ไม่ใช่ทุกสิ่งของตัวเราเอ