เพลงศึกอยุธยา (๑๗)
กล่าวฝ่ายนายฉัตรแก้วขบกัดกราม
ลูกน้องสามถูกเข่นกลายเป็นผี
ว่าอ้ายเจ้าโจรป่าวิชาดี
เหล็กน้ำพี้หักสิ้นไม่กินมัน
อ้ายโจรใครไหนเอ่ยไม่เคยเห็น
เพลงดาบเด่นรุกรับกระชับมั่น
ทั้งแคล่วคล่องว่องไวตามไม่ทัน
กราดฟาดฟันหันเลี้ยวดูเชี่ยวชาญ
ถามบรรดาลูกน้องแล้วร้องหือ
ว่ามันหรือโจรโหดที่โจษขาน
เออสิมิน่าเล่าเก่งเอาการ
อ๋อเป็นหลานเสือไผ่ผู้ชรา
อ๋อเป็นลูกครูชุ่มชื่ออ้ายช้าง
บ้านอยู่รางขุนแผนแดนคนกล้า
สำนักดาบสองมือเขาลือชา
เออถึงว่ามันเก่งในเพลงรบ
กูต้องกลับไปบอกท่านออกพระ
วางแผนฉะโจรไพรให้สยบ
ถึงเมืองไม่รีรอเข้าขอพบ
นอบน้อมนบออกพระสุนทรชัย
ออกพระเจ้าเมืองสุพรรณบุรี
ฟังวจียกกระบัตรฉัตรแก้วไข
จึงกล่าวว่าเรื่องโจรทโมนไพร
นั้นจะให้พันแคล้วเขาจัดการ
ส่วนนายยกกระบัตรฉัตรแก้วนี้
ทางกรุงศรีมีมาซึ่งตราสาร
สั่งให้กลับกรมพระอัยการ
แห่งพระราชฐานอยุธยา
แล้วเจ้าเมืองออกพระสุนทรชัย
ร้องเรียกให้พันแคล้วนั้นเข้าหา
ให้ฟังนายฉัตรแก้วแจ้ววาจา
เรื่องโจรป่าเขตสุพรรณบุรี
ยกกระบัตรจัดแจงแถลงกล่าว
ถึงเรื่องราวอ้ายช้างอย่างถ้วนถี่
ว่าอยู่ยงคงกระพันชาตรี
อีกทั้งมีฝีมือบันลือนัก
นับเวลาจากนั้นหัวพันแคล้ว
นำทแกล้วล่าไล่ทุกแหล่งหลัก
แต่มิอาจเข้าย่ำถิ่นถ้ำพัก
โดนโจรดักรบราหลายคราครั้ง
เนื่องด้วยไม่ชำนาญทางด่านรก
ไม่อาจยกพลโหมเข้าโถมถั่ง
พันแคล้วจึงซุ่มกองมองระวัง
พาพลยั้งตั้งขวางช่องทางไพร
เมืองสุพรรณบุรีมีลายสือ
ส่งเป็นสื่อสารกล่าวบอกข่าวไข
ถึงเมืองเขตมรรคาพนาลัย
อาทิชัยนาทและสิงห์บุรี
อีกวิเศษไชยชาญถึงย่านสรรค์
ให้ช่วยกันสอดส่องทุกท้องที่
กักอ้ายพวกโจรไว้ในพงพี
อย่าให้มีเพ่นพ่านตามบ้านเรือน
เมื่อมันอยากอยู่ดงพฤกษ์พงรก
เมื่ออยากหมกซ่อนองค์ในพงเถื่อน
ก็ให้อยู่ไปซีเป็นปีเดือน
ให้อยู่เหมือนสัตว์ในไพรพนา
ควายเฒ่า
ผู้ติดตามบล็อก : 10 คน [
