กุ๊ดจัง
Location :
นนทบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 75 คน [?]




ไม่มีสาระ...จริงๆ นะ..

แต่ถ้าหลวมตัวมาแล้ว จะแอบอ่านก้อไม่ว่ากัน ถ้ารับแนวเถื่อนนิดๆ ถ่อยหน่อยๆ แต่จริงใจได้ ^_^

คิดถึง ถูกใจ ก้อเจิมกันสักนิดนุง แต่ถ้าไม่ถูกใจ มาทางไหนเชิญกลับไปทางนั้น ไม่ต้องเม้นไว้ให้เปลืองมือนะ ฮ่าๆๆ
HighStudio

สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์
บทความ โดย littlemiumiu.com อนุญาตให้ใช้ได้ตาม สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ต้นฉบับ.
อยู่บนพื้นฐานของงานที่ www.littlemiumiu.com.
การอนุญาตนอกเหนือจากที่ระบุไว้ในสัญญาอนุญาตนี้ อาจมีอยู่ที่ www.littlemiumiu.com
Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2555
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
252627282930 
 
11 พฤศจิกายน 2555
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add กุ๊ดจัง's blog to your web]
Links
 

 
mY Heart at my Seoul: อีกหนึ่งมุมมองจาก Nami-Korea Folk Village-Ehwa-Hongik ที่จะทำให้รักเกาหลีมากขึ้น

อ่า.....ดองไว้นาน ไม่จบซะที อยากเขียนให้จบๆ จะแย่ แต่พระศุกร์เข้า พระเสาร์แทรก ลูกน้อยหอยขมเปื่อย ตัวเองป่วย คุณยายนอน รพ. สรุป เป็นกันทั้งบ้าน เบลอๆ อัพบล็อคแบบมึนๆ กระโดดไปมา Smiley

ตอนที่ 1: Backpack Alone in korea
ตอนที่ 2: Art and Seoul of Korea
ตอนที่ 3: Buchon Hanok

ว่ากันไปถึงเกาะนามิ ประชากรส่วนใหญ่ในประเทศไทยคงเคยไปกันมาหมดแล้ว (เวอร์มะ...) เกาะนี้ ที่อยู่ไปทางทิศทางตะวันออกเฉียงเหนือจากโซล อยู่จ. Gangwon เราออกเดินทางประมาณบ่ายโมง(หลังจากกลับจาก Heyri Art Village แล้ว)  ถ้าไม่ได้ไปกับทัวร์ ก็จัดว่า เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่อยู่ออกไปรอบนอก ใช้เวลานั่งรถไฟ ต่อแทกซี่ และขึ้นเรือ หลายต่อ แต่เป็นสถานที่ที่คนไปเที่ยวคนเดียวสามารถไปเองได้แบบชีลๆ นะ ไม่ต้องกลัว แต่วันนี้เรานัดจะเที่ยวกะน้องนีแอนด์เดอะแก๊ง เจอกันที่ ซิตี้ฮอลล์ ได้มาแวะโฉมหน้าถ็อกซูกุงอะเกน ประหนึ่ง บุพเพ (จะมาทำไมกันหลายรอบไม่ทราบ)

นั่งรถไฟไปลงสถานนี Gapyeong ออกจากสถานนี แล้วต่อแทกซี่ ไปไม่ไกล บางจังหวะมิเตอร์ยังไม่ทันขึ้นด้วยซ้ำ 2300 - 3000 วอน ไปลงที่ท่าเรือไปเกาะนามิ ซื้อตั๋วเรือ Ferry ข้ามไป

รถไฟระหว่างทาง นั่งประมาณ ชม. ได้มั้ง วิวข้างทาง งามแงะ




บริเวณท่าเรือมีของกินหลายร้าน ด้วยความหิวโหยยยยย join กับน้องนีแอนด์เดอะแก๊ง ซัดเมนูที่เรียกว่า ทักคาลบี (ไก่ผัดซอส) เผ็ดๆ ร้อนๆ แกล้มกับผักสด หมดเกลี้ยงชนิดที่เรียกว่า ขูดกะทะกันเลย  ร้านแบบนี้ ถึงจะดูหม้อใหญ่ แต่เค้าคิดเงินรายหัว เป็นเซ็ท ต่อคน ต่อหัว มากี่คนก็ต้องสั่งจำนวนเซ็ทเท่าคนที่มา


ท่าเรือ เวลา 4 โมงเย็น >_<


รอเรือไม่นานนัก

ช่วงนี้อากาศดี ถึงฟ้าจะมีเมฆครึ้มแต่ยังพอมีแสงแดดบ้าง ไม่หนาวมากจนเกินไป แต่ก็ไม่ร้อน (ถ้าอุ่นกว่านี้นิดนึง จะเพอเฟคมากนะ ฮิฮิ)

อันที่จริงแล้ว เราสามารถใช้เวลาชีลๆ บนเกาะนามิ ได้ ครึ่งวัน ถึงหนึ่งวันก็ยังได้ สำหรับคนที่อยากมานั่งเล่น ปูเสื่อ เตรียมอาหารมา หรือจะกินบนเกาะก็มีร้านอาหาร มีที่ให้เด็กๆ วิ่งเล่น 
แดดเริ่มหุบแล้ว 


สวยเน้ออ

เหมือนใครแกล้งเอาสีมาระบายแบบไม่เสร็จ เขียว เหลือง แดง น้ำตาล






อ่อ แต่เสียใจด้วยนะ แบยองจุนอะไร ดิชั้นไม่รู้จัก ไม่ได้ถ่ายมา รู้แต่รูปปั้นมันสึกหมดแล้วล่ะ ไม่ต้องเดาว่าชาติไหนนะ ที่บ้าถ่ายรูปกับป้าย กะหุ่น กะรูปปั้นอะ  55555

เดินจากต้นเกาะไปท้ายเกาะ ชีลๆจนมืดค่ำหกโมงกว่า  กลัวต้องไปแย่งเรือข้ามฟากกลับ เอาเข้าจริง ตอนค่ำแบบนี้คนไม่เยอะมาก เหมือนช่วงบ่าย ที่สวนทางกลับกับตอนที่เรามา  กังวลเรื่องแทกซี่จากลับมากกว่า ว่าจะทำยังไงดี แต่พอข้ามกลับมาถึง เดินๆ ออกมาปากทาง จะมีป้ายรถเมล์ คนรอรถแทกซี่กันตรีม คนขับตีรถเปล่าวิ่งไปมา เพื่อมารับผู้โดยสาร เห็นแถวยาวแบบนี้เอาเข้าจริง ยืนตากลมตากน้ำค้างไม่เกินครึ่ง ชม. รถก็มาจ้า ขากลับชีลๆ ถึงสถานีโดยมิเตอร์ไม่กระดิก เสียตังค์ไป 2300 วอน ฮิฮิ

แบกท้องหิวๆ ที่ถึงแม้จะกินอาหารกลางวันตรงท่าเรือกันไปตอนบ่ายแก่ๆ เดินเที่ยวไปรอบๆ นั่งรถกลับมาถึงโซล แบบมึนๆ ง่วงงุน ซัดอาหารเย็นในเมียงดงกับน้องๆ น้ำซุปกิมจิอุ่นๆ เผ็ดๆ เส้นมาม่า ไส้กรอก บุเดชิเก อ๊า...ฟิน


เดินเล่นเมียงดงยามดึก ก่อนแยกย้ายกันไปนอน นัดแนะจะไปกันทุ่งหน้าลงใต้ เที่ยวซูวอน กันในวันรุ่งขึ้น 
เป้าหมายหลักที่จะไปซูวอน คือ Korea Folk Village รองลงมาคือเที่ยวป้อมฮวาซอง แล้วก็ พระราชวัง (ถ่ายหนังเรื่องไหนสักเรื่องดั้ว) ในหนังสือเที่ยวบอกว่า จะมี shutter bus ที่ด้านหน้า tourist information center หน้าสถานนีซูวอน โดยรอบแรกออกเวลา  10.30 น.   ถ้านั่งรถไฟจากโซล จะใช้เวลาประมาณ 1.20 นาที เผื่อเหลือ เผื่อขาดเดินชีล ก็ควรออกก่อนหน้านั้นนะ จะได้ไม่ต้องรีบมาก เพราะถ้าพลาด รถเที่ยวต่อไป น่าจะ 11.30  หรือไม่งั้น ก็ขึ้นรถเมล์ (สาย 37) ขึ้นตรงไหนไม่รู้ เดาว่า เป็นป้ายที่ขากลับรถนั่งรถมาลงนั่นเอง ถ้าเราออกมาจากห้างซึ่งต่อจากสถานนีซูวอน หันหน้าออกจากห้าง เจอวงเวียน ป้ายนี้ อยู่ไปทางตะวันตกเฉียงเหนือ (มีไดโซะ) ต้องข้ามถนนหรือใช้ทางเชื่อมใต้ดินไป 


เดินเข้าไปเอาตั๋วขึ้นรถฟรี ได้ที่นี่ ตามแผนที่เราคิดไว้มั่วๆ คือ เที่ยว folk village  สักครึ่งวันน่าจะพอ แล้วค่อยกลับมาที่สถานนี นั่งรถเมล์ไปป้อมฮวาซองต่อ เที่ยวสักบ่ายๆ กลับเข้าโซลไปทำอะไรๆ ต่อได้อีก แต่ว่า เจ้าหน้าที่บอกว่า  shuttle bus กลับมาที่นี่ จะมีรอบ บ่ายสองโมงนะ แป่วววว.....อะลองดู ว่าเราจะใช้เวลาอยู๋ที่ Folk Village นานแค่ไหน เลยถามเจ้าหน้าที่เผื่อไว้ ถ้าเราไม่รอรถฟรี จะนั่งสายอะไรได้บ้าง เค้าบอกว่า สาย 37  นะ

แต่จะบอกว่า ถ้ารู้ก่อนล่วงหน้า ดิชั้นจะให้เวลากับสถานที่นี้ 1 วันเต็ม ในฤดูใบไม้เปลี่ยนสีที่สวยงามแบบนี้ จะซื้อข้าวห่อสาหร่ายอร่อยๆ พกใส่กล่อง มาปูเสื่อนั่งกิน จิบชาระหว่างดูใบไม้ร่วง รอดูช่วงแดดอ่อนๆ พระอาทิตย์ตก ว่าจะสวยแค่ไหนน๊า ถ้าชีลมากหน่อย พกเสื้อผ้ามาสักชุดจะได้ ค่อยๆเดินละเลียดทุกซอกทุกมุม แล้วอาจจะหาที่นอนง่ายๆในซูวอน ตื่นเช้ามา เที่ยวป้อมฮวาซอง ละเลียดพระราชวังสักครึ่งวัน ค่อยกลับเข้าโซล (รึจะขยันนั่งรถไฟ ไปกลับก็ได้นะ แต่ลองเปลี่ยนที่นอนบ้างจะเป็นไร)

มีเวลาหลับต่ออีกหน่อย 20-30 นาที เพราะรถวิ่งตรงไม่จอดที่ไหน สุดสายที่ folk village

ถึงแย้ววว....ใบไม้รอบนอกโซล เปลี่ยนสี กำลังสวยมากกกกก

ต้องซื้อตั๋วเข้าชม 15000  วอน...มีการแสดงต่างๆ เป็นรอบๆ ตามเวลา

หมู่บ้านวัฒนธรรมนี้ เค้ายกบ้านเก่าสมัยก่อนมาจัดแสดง display ดีมากกก และได้รับการดูแลดีมากกกกกก พนักงานที่ดูแล ดีมากกกกกก แบบว่า ดุรู้ว่าใส่ใจ และทำหน้าที่ตัวเองดีอะ ทำด้วยใจ (ต่างกับสถานที่ท่องเที่ยวของไทยบางที ที่มันรู้สึกว่า จัดฉาก เฟคๆ ยังไงก็ไม่รู้ รึเพราะเราเป็นคนไทยวะ เลยดูออกว่าเฟค ทำมาหาเลี้ยงชีพ เลี้ยงปากเลี้ยงท้องไปวันวัน คนเลี้ยงช้าง สอนช้างวาดรูป แลดูเบๆ ไปเยย  ที่เกาหลี อย่างช่างตีมีด ช่างปั้น เขาก็ทำจริงจังนะ ดูมีความสุขอะที่ได้ทำ)  
สถานที่นี้เป็นที่ที่ใช้ถ่ายละครน้ำเน่า ประวัติศาสตร์ ย้อนยุคมากมายหลายต่อหลายเรื่อง....(ตรงไหนใช้ถ่ายหนังเข้าก็จะแปะป้ายบอกไว้)

พอดีชอบดูหนังย้อนยุคเกาหลี อย่างทงอีงี้...(แดจังกึมไม่เคยดูว่ะ) ใช้เวลาไปมากมายกับการเดินอ่านป้าย
เสาไม้แกะสลักทำหน้าตาน่ากลัว จากที่สังเกตุ มีเหมือนกันหมดทุกซีกโลก ถ่ายทอดกันมาได้อย่างไรหว่า  ประหนึ่งลอก Totem pole อินเดียนแดงมา หรือแม้แต่ ตอนไปบ้านอาข่าของน้องลี ก็มีเสา หรืออะไรคล้ายๆ แบบนี้ อยู่ที่หน้าประตูหมู่บ้าน ไม่ต้องบอกก็พอเดาได้ว่า ไว้ไล่สิ่งชั้วร้าย ปกป้องหมู่บ้านนั่นเอง  

หลังคาบ้านเกาหลีในสมัยโบราณ มีหลายแบบมากกกก ขึ้นอยู่การสภาพภูมิประเทศและการใช้สอย วัสดุที่ใช้มุงหลังคา อย่างยุ้งฉาง เก็บพืชผล จะใช้ฟางมุง เพราะ ช่วยถ่ายเทความชื้นและความร้อนได้ดี

ถ้าในพื้นที่หนาวๆ หลังคาบ้านอาจจะทำด้วยหินสะกัด หรือ ถ้าบ้านคนรวย ก็อาจจะเป็นกระเบื้องแผ่นๆ หรือบางที่ ใช้เปลือกไม้ ลอกออกมาเป็นแผ่นหนา มุงหลังคา (ถ้าใครดูละคร อย่าลืมสังเกตลักษณะหลังคานะ พอดีเวลาดู เคยสังเกตเหมือนกันว่าบ้านมันมีหลายแบบ plan หลายแบบ พอมาที่นี่ ได้อ่านแล้วหายสงสัยไปหลายเปราะ)

ต้นไม้อธิษฐาน



พร็อบได้รับการดูแลอย่างดี ถึงดีเทลของสถานที่ จะเยอะมากกก บ้านเก่าไม่รู้กี่สิบ หรืออาจจะถึงร้อยหลังไม๊ ทุกที่ ปราศจากฝุ่น มีถังดับเพลิง ไม่มีรอยขีดเขียน ดูเหมือนมีคนอยู่ ใช้งานจริงตลอดเว 


บางมุม ผักที่เอามาวางที่ลานบ้าน ยังสดๆ เลยอ่ะ

ความน่ารักกระจุ๋มกระจิ๋มของเครื่องปั้นดินเผาเกาหลี ฮิฮิ

เดาว่า โค้งแสนสวยนี้ ถ่ายหนังมาหลายเรื่องแล้ว  องศากำลังดี๊

ตามรอยเท้าพระเอก ฮิฮิ

มุมนี้สวยมากกกกกกกกกก เสียดาย เที่ยงพอดี เด็กๆที่มาทัศนศึกษา ยึดหัวหาด ปูเสื่อนั่งกินข้าวกลางวันกัน ถ้าไม่รีบก็อยากจะกลับมาอีกทีหลังเวลาอาหารกลางวันหรอก มันสวยมากกกกก

เดินไล่ๆ ไป จากบ้าน ชาวนาธรรมดา  ชาวนามีฐานะหน่อย บ้านชาวบ้าน บ้านขุนนาง สถานที่ราชการ อย่างศาลแบบนี้

ติดกับศาล เป็นคุก มีที่ลงโทษนักโทษ  อิตอนถ่าย ดิชั้นเดินเข้าไปคนเดียว เงียบมากกกกก 
ในใจก็ คิดว่า จะเหมือนไปไหน "อย่าขยับนะมรึง.." 


มีพิพิธภัณฑ์ย่อยๆ อีกหลายแห่งให้เดินดู

แดดลงหลังบ้านหลังนี้ กับใบไม้เปลี่ยนสี สวยจนถ่ายมาไม่ได้อ่ะ >_<




มีแม่น้ำไหลผ่ากลางสองฝากของ  Folk Village ด้วยวิวอย่างเน้...แงงงงงงงงง...สวยน้ำตาไหลพราก

ตอนยืนอยู่ตรงนี้นะ มองไปด้านขวา จะเห็นวิวนี้ พร้อมกับลมพัด แสงแดด เสียงน้ำตกจากกังหันข้างบ้าน ใบไม้ปลิวร่วงหล่นจากต้น..โฮววววว...

มองไปทางซ้าย เจอวิวเน้...

ฟินละ...กลับดีกั่ว...เพิ่งบ่ายโมง จริงๆ เดินอ้อยอิ่งต่อ รอรถฟรีกลับก็ได้ แต่ด้วยเวลาที่เหลือน้อยลงในโซล มีสถานที่อีกเยอะแยะที่อยากไปจึงต้องตัดใจอำลา   Korea Folk Village ไปก่อน ถ้ามีเด็กมาด้วย ด้านใน มีสวนสนุกขนาดย่อม ได้ยินเสียงเด็กเจี้ยวจ๊าวเลยเชียวล่ะคงจะสนุกกันน่าดู
เดินจากด้านหน้าของโฟลควิลเลจขึ้นมา เลียบฝั่งขวามือ(เมื่อหันหลังให้ประตูทางเข้า)  สักประมาณ 5 นาที จะมีป้ายรถเมล์อยู่ใกล้กับเซเว่น ให้ยืนรอรถสาย 37  นั่งไปจนสุดสาย ใช้เวลาประมาณ 40 กว่านาทีได้ เพราะรถเมล์ขับๆ จอดๆ รับผู้โดยสาร ถือว่าได้นั่งดูวิวชมเมืองกันไป

หลังจากลงรถเมล์แล้ว จะมีไดโซะ อยู่ แอบแวะนิดนุง ของบางอย่างถูกกว่าในโซล (แต่ค้นพบว่าไดโซะขนาดใหญ่จริงจัง 3  ชั้นซ้อน อยู่แถวฮงอิกนะเธอว์...)  ถูกกว่าไดโซะญี่ปุ่น เพราะของเบสิก จะเริ่มต้นที่ 1000 วอน แน่นอน...สามสิบบาท ของบางอย่างที่คล้ายไดโซะ ญป ก็จะเริ่มที่ 2000  วอน เดินเจิมพอเป็นพิธี ก็เดินทางกลับเข้าโซล

บ่ายสามกว่าๆ จากซูวอนมาโซล  เลือกที่จะไปเดินเล่นแถวมหาลัยสตรีอีฮวาก่อน ส่วนค่ำๆ ไปเดินฮงอิก


กราบงามๆ คนออกแบบมหาวิทยาลัยแห่งนี้ so fascinating 

เจาะภูเขาเข้าไป เดินลึกเข้าไปแล้วเป็นห้องเรียน

นับว่าเป็นทริปที่โชคดีมากที่ดิชั้นมักจะมาอยู่ถูกที่ ถูกเวลา ถูกทิศทาง พระอาทิตย์กำลังจะตกดินส่องแสงมากระทบโครงสร้างโลหะและกระจกของตัวอาคาร.....เฮ่ออออ ฟินนนนน 


อุโมงค์ช่องนี้ลาดลงไปถึงจุดที่ต่ำที่สุด และวงกลับสูงขึ้นด้วยบันไดเป็นชั้นๆๆ ด้วยความเมื่อย เลยทิ้งตัวลงบนขั้นบันไดนั่งดูพระอาทิตย์ตก ลับขอบฟ้า แบบอ้อยอิ่ง 
มองย้อนกลับไปทางที่เดินมาเมื่อกี้

สูงขึ้นมาบนยอดเนิน

มองเห็นส่วนอื่นของโซลอยู่ลิบๆ

ทอดน่องเดินช็อปปิ้ง และย้อนกลับมาขึ้นรถไฟไปลงมหาลัยศิลปะ ฮงอิก บรรยากาศยามค่ำคืนจะเป็นยังไงบ้างนะ.....
งิ๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดด.....แสงสียามค่ำคืน ทำให้ผู้ชายหล่อขึ้นอีก 30% ชั้นน่าจะมาเจอสถานที่แห่งนี้เร็วกว่านี้สัก 10 ปี ได้เสื้อผ้าน่ารักๆ จากแถวฮงอิกมาถุงโต (ทำไมแถวอีฮวาไม่ได้ไรเลยวะ)

ถ้าจะเดินแบบสนุกๆ ควรออมแรงไว้ตั้งแต่กลางวัน ทำกิจกรรมอะไรที่ไม่ต้องเดินเยอะมาก แล้วมาปล่อยพลังแถวนี้นะ เพราะร้านเยอะ ซอกซอยเยอะ ผู้ชายเยอะ หันซ้ายทีขวาที เหนื่อยมากอะ เลยได้แต่เดินลากขาโฉบๆ เนื่องจากหมดแรงสุดๆ แล้ว  ต้องมีซ้ำอีกแน่นอนนนนนนนน โดยเฉพาะเสาร์อาทิตย์ ที่มี Flea market ขายของทำมือ ดิชั้นคงสิ้นลมอยู่แถวนี้แง๋

อาหารเย็นแบบง่ายๆ ไวๆ ก่อนอำลาไปนอนเลื้อยเหยียดยาว เดินเยอะมว๊ากกกกกกกกกกกก

คร่อกกกกกก...หวังว่า บล็อคนี้ จะทำให้หลายคนหันมาสนใจและหลงรักประเทศเล็กๆ ที่มีแต่ภูเขาสูงนี้มากขึ้นนะคะ แล้วพบกันใหม่กับตอนสุดท้ายจริงๆ






Create Date : 11 พฤศจิกายน 2555
Last Update : 11 พฤศจิกายน 2555 14:07:57 น. 3 comments
Counter : 3440 Pageviews.

 
เป็นทริปที่สนุกมาก


โดย: กระต่ายน้อย IP: 180.180.143.56 วันที่: 11 พฤศจิกายน 2555 เวลา:14:25:34 น.  

 
ถ่ายภาพสวย เทพมากๆ


โดย: แฟนขับมิว มิว IP: 182.53.106.125 วันที่: 11 พฤศจิกายน 2555 เวลา:16:58:42 น.  

 
คุณเกดถ่ายรูปสวยยยยม๊ากกก

อยากร้องให้ฟังเป็นเพลงว่า....

"แล้ว ชั้น จะ ตาม ปาย..ย"



โดย: หมวยตุ่ย IP: 125.24.241.242 วันที่: 14 พฤศจิกายน 2555 เวลา:18:45:05 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.