กุ๊ดจัง
Location :
นนทบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 75 คน [?]




ไม่มีสาระ...จริงๆ นะ..

แต่ถ้าหลวมตัวมาแล้ว จะแอบอ่านก้อไม่ว่ากัน ถ้ารับแนวเถื่อนนิดๆ ถ่อยหน่อยๆ แต่จริงใจได้ ^_^

คิดถึง ถูกใจ ก้อเจิมกันสักนิดนุง แต่ถ้าไม่ถูกใจ มาทางไหนเชิญกลับไปทางนั้น ไม่ต้องเม้นไว้ให้เปลืองมือนะ ฮ่าๆๆ
HighStudio

สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์
บทความ โดย littlemiumiu.com อนุญาตให้ใช้ได้ตาม สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ต้นฉบับ.
อยู่บนพื้นฐานของงานที่ www.littlemiumiu.com.
การอนุญาตนอกเหนือจากที่ระบุไว้ในสัญญาอนุญาตนี้ อาจมีอยู่ที่ www.littlemiumiu.com
Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2554
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
17 พฤศจิกายน 2554
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add กุ๊ดจัง's blog to your web]
Links
 

 
บันทึกหนีน้ำตอน 2 : มิวมิวพาเที่ยวไฮไลท์กระบี่ค่าา@ ท่าปอม คลองสองน้ำ และสระมรกต

จากทริปหนีน้ำภูเก็ตต่อด้วยกระบี่ จากคำแนะนำพี่นิดเจ้าถิ่นอีกแล้น

ตามเส้นทาง จากตัวเมืองกระบี่ ใช้เส้นทางกระบี่ - อ่าวลึก ทางหลวงหมายเลข 4 เลี้ยวซ้ายกิโลเมตรที่ 127 แยกป้อมเขาคราม ไปประมาณ 5 กม. ตามป้ายบอกทาง ผ่านวัดหนองจิก จนถึงป่าพรุท่าปอมคลองสองน้ำ มีป้ายบอกทางไปเรื่อยๆ
ตอนไปก็ดุ่มๆ ไปเรื่อยๆ เพิ่งกลับมาหาข้อมูลอ่านทีหลัง อะเมซซิ่งมาก

"ท่าปอม คลองสองนน้ำ อยู่ที่ ต.เขาคราม อ. เมือง เป็นแหล่งศึกษา เชิง นิเวศวิทยา เพื่อเรียนรู้ความสมบูรณ์ของธรรมชาติทั้งในแง่ของทางน้ำใต้ดิน และพืชพรรณที่สามารถเติบโต ได้ทั้ง ในน้ำและบนดิน คลองสองสายน้ำมีลักษณะพิเศษ ของระบบนิเวศ ที่ในช่วงขึ้น 12 ค่ำไปจนถึง แรม 5 ค่ำที่ น้ำทะเลหนุนขึ้นสูงซึ่งชาวบ้านในพื้นที่เรียกกันว่า“น้ำใหญ่”นั้น น้ำทะเลจะหนุนสูงลึกเข้ามา ใน คลองท่าปอม ถึง ศาลาเล่นน้ำและผสม กับน้ำจืดในคลองท่าปอมกลายเป็นคลองน้ำกร่อยที่มีสีฟ้าค่อน ข้างขุ่นแต่ว่า ก็เป็นช่วงเวลา ไม่นานเพราะหลังจากนั้นน้ำทะเล ก็จะลงและถูกแทนที่ด้วยน้ำจืดที่ใสแจ๋วเกิดจากการที่ลำธารสายนมีต้นกำเนิด จากเขาหินปูนที่มีี้สารแคลเซียมคาร์บอเนตที่มีคุณสมบัติในการจับตะกอนและสารแขวนลอยให้จมตัวเมื่อ สายน้ำ ไหลผ่านหินปูน เจ้าสารตัวนี้ก็จะละลายปนมาพร้อมกับจับสารแขวนลอยไหลไปจมตัวในน้ำนิ่งน้ำใน ลำ คลองท่าปอม จึงใสไหลเย็นมองเห็น ตัวปลาและพืชใต้น้ำได้อย่างชัดเจน"
ที่มา: //www.paiduaykan.com/76_province/south/krabi/tapom.html

"คลองท่าปอม เป็นลำธารสายสั้นๆ ยาวประมาณ 5 กิโลเมตร กำเนิดจากแอ่งน้ำผุดบนเขาช่องพระแก้ว ไหลผ่านสระน้ำกลางป่าก่อนที่ไหลลงสู่ทะเลอันดามัน โดยคลองท่าปอมอยู่บริเวณรอยต่อของน้ำจืดกับน้ำเค็มพอดี ยามน้ำทะเลหนุนสูง น้ำในคลองที่จืดสนิทจะกลายเป็นน้ำกร่อย ครั้นพอน้ำลง น้ำจืดจากป่าต้นน้ำก็จะดันน้ำทะเลออกหมด ทำให้พื้นที่ธารน้ำท่าปอมเป็นป่าพรุ ที่มีลักษณะพิเศษคือ มีน้ำเค็มและน้ำจืดไหลมาบรรจบกัน มีพื้นที่ราว 300 ไร่ กลายเป็นระบบนิเวศเล็กๆ อันชวนพิศวง เพราะนอกจากจะเป็นรอยต่อ 2 น้ำแล้ว ยังทำให้เกิดจุดบรรจบของ 3 ป่าอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน มีป่าโกงกาง พังกาหัวสุม ไม้พืชป่าชายเลน อยู่ร่วมกับชมพู่น้ำ ไม้ป่าพรุอย่างกลมกลืน โดยมีหลาวชะโอน ไม้ป่าดิบชื้น"

"ท่าปอม" ดินแดนพิศวง เต็มไปด้วยเรื่องราวอาถรรพณ์ ตามความเชื่อของชาวบ้านหนองจิก ต.เขาคราม อ.เมือง จ.กระบี่ ท่าปอมตั้งชื่อตามท่านโต๊ะครูปอม ผู้มาตั้งถิ่นฐานที่นี่เป็นครอบครัวแรกเมื่อ 130 กว่าปีที่แล้ว แต่เพราะผืนป่าพรุรอบบริเวณนี้รกทึบ พื้นล่างเต็มไปด้วยรากไม้ พูพอน ยากแก่การเดิน ทั้งยังเชื่อกันว่าบริเวณต้นน้ำคลองท่าปอมใกล้กับสระน้ำกลางป่า มีจระเข้เผือก ซึ่งเป็นสัตว์ของเจ้าที่เจ้าป่าคอยปกปักรักษาไว้ หากใครล่วงละเมิด ฝ่าฝืนจะเกิดอาเพศ กระทั่งต้องมีอันเป็นไป และหากไม่จำเป็นจริงๆแล้ว ชาวหนองจิกจะห้ามลูกหลานว่าอย่าเข้าไปใกล้ แต่หากต้องไปตักน้ำจืดมาบริโภคในหน้าแล้ง หรือไปลงเรือหาปลา หาอาหารในที่แห่งนี้ ก็อย่าเอาอาหารที่มีเนื้อหมูเข้าไปใกล้ และหากจะลงอาบน้ำ ก็ต้องเว้นวันเสาร์และวันอังคาร แม้จะไม่มีใครอธิบายเหตุผลได้ว่าทำไม แต่ก็ดูเหมือนไม่มีใครอยากฝ่าฝืน จะมีก็แต่พวกวัยรุ่นบางกลุ่มเท่านั้น ที่หาญกล้าอาศัยความรกเรื้อของป่าพรุท่าปอมเป็นแหล่งมั่วสุม แต่เดิมชาวบ้านถือเป็นพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ ไม่ค่อยมีใครเข้าไปในพื้นที่ป่า จนมีชาวบ้านที่เก่งกล้าและมีอาคมเข้าไปบุกเบิกพื้นที่และทำไร่ทำสวน จากนั้นมีชาวบ้านเข้ามาอยู่อาศัยกันมากขึ้น แต่ด้วยความเชื่อในความศักดิ์สิทธิ์ จึงได้ช่วยกันดูแลปกปักรักษาป่าไว้ อบต. เขาครามโดยการสนับสนุนงบประมาณจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ได้จัดทำเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติเป็นสะพานไม้ยกระดับ 2 เมตรจากพื้นดิน ทำเป็นวงรอบพื้นที่ป่า ระยะทาง 700 เมตร และจัดเจ้าหน้าที่ดูแล รากไม้คดเคี้ยว แตกแขนงแผ่กว้าง และปลาน้ำจืดปลาน้ำเค็ม ที่สลับกันมาว่ายเวียนหาอาหาร เป็นที่งดงามและหาดูได้ยาก หากเดินทวนกระแสน้ำท่าปอมขึ้นไป จนถึงเขตหวงห้าม จะพบสระน้ำสีไพลินกลางป่าเขียว เรียกว่าแอ่งท่าปอม หากเดินต่อไปอีก 500 เมตร จะพบแอ่งน้ำลักษณะเดียวกัน เรียกว่า สระน้ำช่องพระแก้ว สามารถเที่ยวชมคลองสองน้ำได้ตลอดทั้งปี ควรเที่ยวชมในเวลาที่น้ำลงน้ำจะสวยใสมาก
ที่มา: //www.oceansmile.com/S/Krabri/KlongTapom.htm

มิน่า พืชพรรณต้นไม้ ลำธาร สวยงามแปลกตามาก อุดมสมบูรณ์


เสียค่าบริการเข้าชมนิดหน่อย พร้อมกับกฏข้อบังคับแปะไว้ตัวโตๆ


(อุปกรณ์เตรียมเล่นน้ำเต็มที่ แต่จิงๆแล้วเค้าไม่ให้เล่นน้ำแล้วอะ เหลือให้เล่นแค่ตรงปลายๆน้ำนิดเดียว ซึ่งตอนที่น้ำลง สะพานก็สูงกว่าระดับน้ำสัก เกือบเมตร ต้องโดดลงไป และน้ำระดับประมาณเอว บางช่วงเป็นน้ำนิ่ง บางช่วงไหลแรง อันตรายเหมือนกัน เหมาะกับผู้ใหญ่และเด็กโตที่ดูแลตัวเองได้)

ป่าดิบชื้นแบบภาคใต้...ชักจะหลงรักมากกว่าป่าเบญจพรรณ แห้งๆ ภาคเหนือซะแล้ว


เดินวกไปวนมาไม่นาน เจอท่าน้ำ พร้อมกับอุทานออกมาเบาๆ...









เดินด็อกแด๊กไปตามสะพานไม้....อูวววว สวยง่ะ นึกว่าตายไปแล้วอยู่บนสวรรค์






รูปสุดท้ายนี้ เลยจุดที่ให้ลงเล่นน้ำได้ มีเด็กๆมาเล่นเหมือนกัน แต่น้ำไหลแรงพอดู ลึกประมาณเอวผู้ใหญ่ เจ้ามิวเลยอดเล่น เก็บของม้วนเสื่อไปที่อื่นต่อ


ต่อด้วยอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตของกระบี่ที่พลาดไม่ได้
สระมรกต อ.คลองท่อม ห่างออกไปจากอ่าวนางประมาณ 70 โล ใช้เวลาขับรถประมาณ 1.30 ชม. ระหว่างทางมีสถานที่ให้แวะเที่ยวหลายที่เลย แนะนำว่าควรออกเช้านิดนึง แวะไหว้พระวัดถ้ำเสือ แวะกินขนมจีนป้าจ้อยเป็นอาหารกลางวัน ก่อนไปต่อน้ำตกร้อน และจบที่ สระมรกต บ่ายๆ จะได้มีเวลาเล่นน้ำ

แต่ทริปนี้ ไปแต่สระมรกต เพราะกว่าจะตื่น กว่าจะออกจากโรงแรม เกือบเที่ยง ไปถึงสระมรกตอยู่ได้พักใหญ่ๆ ฟ้าครึ้มเหมือนฝนจะตก เลยไม่ได้แวะเที่ยวที่อื่นต่อ ตรงดิ่งกลับนคร แค่ร้อยกว่าโล จาก คลองท่อม ใกล้มาก

จากลานจอดรถ ต้องเดินประมาณกิโลกว่า (รึสองโลไม่แน่ใจ) ด้านหน้ามีขายของกิน ควรกินให้เสร็จเรียบร้อยก่อนเข้าไป
อุปกรณ์ที่ควรพก เสื่อ อุปกรณ์เล่นน้ำ (ไม่มีที่เปลี่ยนเสื้อผ้า ต้องกลับมาอาบน้ำแถวๆลานจอดรถ) ห้ามนำของกินเข้าไปแบบโจ่งแจ้ง (ต้องบอกแบบนี้ เพราะที่ประตูห้ามเอาเข้า แปะไว้ตัวโตๆ ถ้าใครหิ้วของกินผ่านด่านไป ก็จะโดนให้แขวนไว้ที่ประตูนั่นแหละ แต่ด้านในมีขายน้ำซะงั้น) เราแอบพกน้ำเข้าไป และขนมเด็กนิดหน่อยเพราะเด็กเล่นน้ำก็หิวอะ กว่าจะเดินกลับออกมาลิงทนหิวไม่ไหวแน่ แต่ถ้าพี่เล่นยกหม้อข้าว กับข้าว ขนมกรุบกริบไปนั่งปิ๊กนิ๊ก ก๊งเหล้าแบบนี้ไม่แนะนำ..อุบาทว์ ทำลายธรรมชาติ เสียงดัง หนวกหู กินแล้วควรเก็บเศษขยะ เศษขนมออกมาทิ้งด้วย กินร่วงเรี่ยราด มดจะถามหา เวลาไปเที่ยวน้ำตก ชอบมีมดยุบยั่บ นั่งไม่ได้เลยเพราะ คนเอาของเข้าไปกินเนี่ยแหละ แต่ที่นี่ไม่เท่าไหร่


กะเหรี่ยงนำหน้า


กะเหรี่ยงมุ่งมั่น 555555


ลำบากก็จำทน


แม่เดินช้า..หงิกอีก จะรีบไปเล่นน้ำ


ก็เดินไปทำงานไปนี่หว่า..


เดินไปจะเจอสระมรกตอันแรก แต่จะมีทางขึ้นไปอีกเป็นสระน้ำผุด เราลองเดินขึ้นไประยะนึง แวดล้อมไปด้วยทางน้ำไหล และคราบหินปูน สะพานไม้ทางเดิน ไม่สมประกอบ ผุ โบ๋เป็นระยะๆ ทำให้เด็กเดินเองลำบากต้องอุ้ม แดดร้อนมากกก จึงตัดสินใจเดินกลับไปเล่นน้ำที่สระมรกตดีกว่า


มรกตสมชื่อจิงๆ ถ้าคนไม่เยอะขนาดนี้ จะสวยมากกกก เห็นแล้วคิดถึงถ่ำมรกตที่เมืองตรัง นั่นก็สวย พอมุดถ้ำไปเจอแอ่งน้ำ ทรายละเอียดๆ โคดดดสวยยยยยย


เดินมาเหี่ยวๆ เจอน้ำ มิวฟื้นคืนชีพเลย 555555


เล่นน้ำสักพัก ฝนตั้งเค้า น่ากลัวมากก ท่าไม่ดี เก็บของ เผ่น!! เด็กหมดแรงเดินซะแล้วต้องจับแบกขึ้นหลัง คลุมหัววิ่งหนีฝน ถือเป็นการซ้อมแม่ลูกไว้ขึ้นดอย เก็บกาแฟตอนปีใหม่ ทริปหน้า


ดิ เอ็นนนนนน


Create Date : 17 พฤศจิกายน 2554
Last Update : 17 พฤศจิกายน 2554 23:53:34 น. 6 comments
Counter : 1618 Pageviews.

 
คนแนะนำเองยังไม่เคยไปเลยอ่ะ เห็นรูปแล้วกิเลสขึ้น อยากไปๆๆ ดีดดิ้น

ปล.กระเหรี่ยงสะพายเสื่อน่าร๊ากกกก.....


โดย: NiDnid IP: 203.156.10.200, 203.147.0.48 วันที่: 17 พฤศจิกายน 2554 เวลา:16:13:06 น.  

 
ตามมิวมิวมาเที่ยว มิวมิวชอบเล่นน้ำจังน๊าาาา


โดย: TOToTaNG วันที่: 17 พฤศจิกายน 2554 เวลา:16:16:55 น.  

 
กะเหรี่ยง ม้วนเสื่อ เอ้ย! หอบเสื่อ น่าฮักวะ 555

รักมิวมิว


โดย: KiKi IP: 171.4.187.51 วันที่: 17 พฤศจิกายน 2554 เวลา:16:32:15 น.  

 
น่ารักจัง ป้าอ้วนน้อยฯ ก็เพิ่งไปมาเมื่อ 9-11 พย สนุกมาก


โดย: อ้วนน้อยศิษย์เจ้าแม่ IP: 124.121.62.244 วันที่: 17 พฤศจิกายน 2554 เวลา:21:02:55 น.  

 
เค้าชอบรูปแบกมิวอ่ะ



ขามิวเล้กกกกกกก เล็ก อ่ะ อิอิ


โดย: มี๊ตู่ (Red plate Mom ) วันที่: 26 พฤศจิกายน 2554 เวลา:22:17:28 น.  

 
รูปสวยมากกกกกก
น้ำสีฟ้าใสเหมือนผสมสีลงไปเลยอ่ะ
เด็กกระเหรี่ยงน่ารักน่าเตะ


โดย: Mrs. Krinch วันที่: 27 พฤศจิกายน 2554 เวลา:18:01:31 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.