Bloggang.com : กุ๊ดจัง : ทริปแม่ค้าพาเพลิน ตอน ขับรถเที่ยวฮอกไกโดกันเต๊อะ

ทริปแม่ค้าพาเพลิน ตอน ขับรถเที่ยวฮอกไกโดกันเต๊อะ

ไฮไลท์ของทริป ก็มาถึงแย้ววว......ขับรถเที่ยวฮอกไกโด กัน 5 คน เช่ารถ Toyota โดยจองผ่าน Website ของ Nippon Rent A Car ค่ะ

ลังเล หาข้อมูล เลือกผู้ให้บริการอยู่หลายเจ้า ราคาอาจจะไม่ได้แตกต่างกันมาก แต่สิ่งที่ทำให้ตัดสินใจเลือกนิปปอนเพราะ
1. เว็บดูง่าย เลือกรถง่าย //www.nrh.co.jp/foreign/ หลายๆ เว็บ ดูยากมากต้องมานั่งเช็ครถว่า available อีกหรือเปล่า รีเฟรชแล้ว รีเฟรชอีก จุผู้โดยสารได้กี่คน กระเป๋ากี่ใบ อันนี้ เว็บ ดูได้เลย เรา 5 คน กระเป๋าใบเล็กคนละใบ มาลงตัวที่เครื่อง 1,500 CC เติมเบนซินธรรมดา ขนาดกำลังดี (ทีแรกลังเลอยากได้ Impreza แต่กัวกินน้ำมันและไม่คุ้นมือ โตโยต้านี่แหละ คุ้นสุดละ) TOYOTA COROLLA FIELDER

//www.nrh.co.jp/foreign/carguide.php

อย่างเว็บที่คนไทยแนะนำกันเยอะๆ ราคาถูกกว่านิดหน่อย เช่น //www2.tocoo.jp/

เราว่า ดูยากง่ะ

2. มี Multi Language GPS และ มีให้บริการ ETC Card (คล้าย Easy Pass ของบ้านเราซึ่งเฉพาะคนญี่ปุ่นเท่านั้นถึงจะสามารถมีครอบครองได้) จะได้ไม่ต้องมาจ่ายเงินสดให้ยุ่งยากค่ะ จ่ายค่าเช่า ETC เพิ่มนิดหน่อย

3. ศูนย์รับส่งรถ สะดวก (ทีแรกพยายามเช็ค บริษัทที่สามารถคืนรถคนละที่ได้ เช่นรับรถที่ Asahikawa หรือคืนที่ Asahikawa เพราะขี้เกียจขับทางไกล นั่งรถไฟไปกลับเอา สุดท้าย คำนวณแล้วไม่คุ้ม เช่ารถจากซัปโปโรไปเลยดีกว่า) Nippon Rent A Car ที่รับส่งรถอยู่ตรงข้ามโรงแรม Route Inn ที่เราพักในซัปโปโร คือ ตอนเช้าแค่ข้ามถนนก็ถึง ขากลับมาส่งรถเสร็จ เดินข้ามถนนถึงโรงแรม เที่ยวแบบสบายๆ
ศูนย์นี้ เป็นศูนย์ใหญ่ที่ปิดดึก ประมาณ 5 ทุ่ม(เช็คเวลาเปิดปิดศูนย์แต่ละแห่งจากในเว็บได้ค่ะ) ทำให้การเที่ยววันสุดท้ายไม่ต้องรีบมาก ใช้รถให้คุ้มสุดๆ แล้วนำกลับมาคืน

4. มีคนขับมากกว่า 1 คนไม่ชาร์จเพิ่ม อันนี้ไม่รู้ปกติที่อื่นชาร์จหรือเปล่านะ แต่คิดว่ามันน่าจะมีผลกับประกันอุบัติเหตุ
เจ้าหน้าที่ ขอแค่ คนขับทั้งสองแสดงใบขับขี่สากล และพาสปอร์ตให้ตอนไปรับรถ เพื่อบันทึกรายละเอียดต่างๆ

เจ้าหน้าที่ ผู้หญิงพูดอังกฤษไม่ได้เลย แต่มีผู้ชายอีกคน เหมือนเป็นหัวหน้า สื่อสารได้ดีทีเดียว

เส้นทางการเดินทาง สำหรับ 3 วัน มุ่งหน้า ขึ้นเหนือ คือ
วันแรก จาก Sapporo เที่ยว ทุ่งดอกไม้ Furano โซนใต้ Blue Pond และน้ำตก Shirohige
นอนใน ฟุราโนะ (ความพลาดอยู่ตรงนี้ ที่รีบของโรงแรมใน Booking แบบ Cancle ไม่ได้ เนื่องจากเป็นช่วงพีคของการท่องเที่ยว กลัว รร.เต็ม แล้วมาพบว่า จริงๆ สามารถหาที่พักแบบ local /pension ญี่ปุ๊น ญี่ปุ่น นอนกลางทุ่ง กินลม ชมวิว ในช่วงระหว่างทางFurano มา Biei จะดีกว่า ไม่ต้องขับรถกลับไป Furano ค่ะ แต่ข้อดีของความพลาดคือ ได้แวะ Ningle Terrace ตอนกลางคืน)

วันที่ 2 เที่ยว Biei โซนเหนือ ฝนตกพรำๆ ทั้งวัน ทำให้มีเวลาเหลือ ได้แวะไป Asahikawa Zoo ด้วย ย้ายโรงแรมไปนอน Asahidake Onzen
วันที่ 3 ขึ้นกระเช้า ปีนภูเขาไฟ กันพอกรุบกริบ ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง วันนี้ แดดดี ฟ้าสวยมากกกก แทนที่จะใช้เส้นทางใหม่ๆ กลับซัปโปโรทาง Asahikawa เราเลือกใช้เส้นทางเดิม ฺBiei Furano ขับย้อนรอยวันที่ 2 แวะจุดเดิมบ้าง จุดใหม่บ้าง ฟินกันไป ขากลับแวะ Furano Cheese Factory /Furano Winery ด้วยค่ะ สรุปว่า แพลนที่ทำไว้ เก็บตกที่เที่ยวได้หมด

การเช่ารถเที่ยว คุ้มสุดๆ เป็นทางออกที่ดีสำหรับการเดินทางเป็นกลุ่ม
ค่าเช่ารถ ประมาณวันละ 10,000 เยน =3000 บาท นั่ง 5 คน ตกละ 600 บาทต่อวัน
(นั่ง JR ไปกลับซัปโปโร อาซาฮิคาว่า ยังตกคนละ 2500-4600 เยน เกินค่าเช่ารถต่อวันแย้ว)

อัตราการกินน้ำมัน ตอนน้ำมันเหลือครึ่งถึง เติมน้ำมันถึงนึงประมาณ 2200-2500 กว่าเยน วิ่งไป สัก 200 โล ถึงนึงก็ ประมาณ 1600 บาทไทย ตกกิโลละ 3-4 บาท พอๆ กับเติมน้ำมันเมืองไทยค่ะ
เติมน้ำมันไปทั้งหมด 3 ครั้ง 3 วัน ตกค่าน้ำมันวันละ 600 บาท หาร 5 คน คนละ 125 บาท

ค่าทางด่วน
มีแบบ Unlimited กี่วันๆ ให้เลือกด้วย สามารถแจ้งที่ศูนย์ Nippon ตอนไปรับรถได้ เราไม่รู้มาก่อนว่ามีบริการแบบนี้ (ถ้าจำไม่ผิด 3 วันประมาณ4-5 พันเยน)

เจ้าหน้าที่บอกว่าให้ซื้อไปเถอะ คุ้มกว่า แต่เราแย้งว่า เส้นทางเรา ใช้ทางด่วนแค่ 2 วันคือขาไป ขากลับนะ ระหว่างทางต้องใช้ไหม ก็เอาแพลนให้เค้าดู เค้าดูแล้ว ช่วยคำนวนคร่าวๆ บอกว่า สูสี แต่ด้วยความที่วันนี้ (วันที่ไปรับรถ) วันอาทิตย์ ค่าทางด่วนลดครึ่งราคา เพราะ เค้ารณรงค์ให้คนออกนอกบ้านมาเที่ยว เดินทางกัน ดังนั้น ของเรา ไม่จ่ายค่าทางด่วน Unlimit จะถูกกว่านิดหน่อย จ่ายไป 3800 โดยประมาณ

รับรถ ตรวจเช็ครถ เจ้าหน้าที่พาเดินวนรอบๆ สอนวิธีการใช้ GPS ซึ่ง GPS ที่นี่ บอกเลยว่า ไม่ได้ใช้ lat/long แบบทั่วๆ ไปค่ะ ใช้ MAP CODE หรือเบอร์โทรศัพท์ ถ้าใครจะไปฮอกไกโด ขอให้เตรียมข้อมูลพวกนี้ไว้ล่วงหน้าก็ดี หรือไม่ Nippon เค้ามีสมุดคู่มือที่มี MAP CODE สำคัญๆ ของแหล่งท่องเที่ยวฮอกไกโดเอาไว้ให้ แต่บางที่ที่เราจะไป ก็อาจจะไม่มีนะ

GPS ของที่นี่ เป๊ะมากกกก ชนิดที่ว่า 0 m ก็คือ หักเลี้ยว ณ ตรงนั้นพอดี บอกทางออก จุดพัก ต่างๆ โชคดีที่เราไม่ได้หวังพึ่งสัญญาณเน็ท Google map อย่างเดียว ลืมคิดไปว่า ไปเที่ยวป่าเขา บางทีมันก็ไม่มีเน็ทมะ

รายละเอียดอื่นๆ เกี่ยวกับการขับรถในญี่ปุ่น อ่านได้ในนี้ค่ะ //backpackbuddy.net/recommended/driving-japan/

ออกเดินทางจากซัปโปร 8.30 น. สบายๆ ตอนเช้า รถไม่ติด

ถนนหนทาง....พอลงจากทางด่วน ก็เป็น 2 เลนแบบนี้ค่ะ ขับกันมารยาทงามมาก 60-80-100 กม/ ชั่วโมง กะเหรี่ยงอย่างเราสงสัยตลอดว่า ลูกศรด้านบนคืออะไร......

ถามผู้รู้ ได้ความว่า ไว้บอกชี้ระยะถนน เวลาหิมะตกหนาๆ มองไม่เห็นถนน จะได้รู้ว่าห้ามขับออกนอกแนวนี้นะจ๊ะ

พอผ่านเมืองฟุราโนะมา สถานที่แรกที่เราเดินทางไป คือฟาร์มยอดฮิต แหล่งที่เที่ยวชื่อดังของฟุราโนะ นั่นคือ Tomita Farm เหมือนเป็นที่เช็คอินของบรรดาคนที่มาเที่ยว

คหสต คิดว่า โทมิตะ เป็นฟาร์มที่ พื้นที่ไม่ได้ใหญ่มาก โลเคชั่นไม่ได้ดี(เทียบกับอันที่ไปดูหลังจากนี้ ชอบอันทีเป็นธรรมชาติมากกว่า) แต่ที่นี่จะมีร้านขายของที่ระลึกหลายจุด มีร้านอาหารให้บริการ ก็ถือว่าดีที่มาแวะ แม้ลาเวนเดอร์ที่นี่จะเริ่มร่วงโรย ไปบ้าง มีดอกไม้อื่นๆ สีสันสดใสขึ้นมาแทนที่

11 โมง ได้ จัดไป ไอติมลาเวนเดอร์....ใครๆ มาถึงก็ต้องถ่ายรูปก่อนกิน

เอามาลองก่อน 2 รส เมลอน กะลาเวนเดอร์ แบ่งกันจก ไม่ต้องซื้อคนละอัน..
พอกิ๊บมันบอกว่า รสชาติเหมือนสบู่!! เท่านั้นแหละ แม่ม สบู่ทันที......ดีละ ที่ซื้ออันเดียว 555555

ด้านในร้านขายของที่ระลึก ประดับด้วยดอกไม้แห้ง สวยมากกกกกกกกก

แวะกินอาหารกลางวัน ร้านตรงลานจอดรถโทมิตะฟาร์ม มีหลายร้าน หลายเมนู ให้กินแบบง่ายๆ ไวๆ ค่ะ พร้อมข้าวโพดหวานฝักละ 400 เยน แม่เจ้า แพงที่สุดในชีวิต แต่หวานมากกกกกกกกกกกก กรอบ สด อร่อยฝุดๆ

เราเที่ยวลัดเลาะ แวะฟาร์มต่างๆ อีก 3-4 แห่ง ที่ประทับใจเห็นจะเป็น Shikisai-no-Oka (ถ่ายรูปมาน้อยเพราะฝนตก) โลเคชั่นจะเป็นทุ่ง ไล่ระดับเหมือนเป็นลอนคลื่น สวยงาม มีฟาร์มอัลปาก้า เล็กๆ เสียค่าเข้าชมเพิ่ม

และที่ฟินสุดคือ Flower Land Kamifurano ค่ะ อันนี้ ชอบมากกกกก เพราะทุ่งกว้างสุดลูกหูลูกตา ถ่ายเก็บมาไม่หมด วิวดอกไม้ขนานไปกับแนวภูเขาสูงตระหง่านด้านหน้า และมีจุดชมวิวเป็นศาลายกสูงขึ้นมาอีก ขอเทความประทับใจให้ที่นี่ //flower-land.co.jp/

ข้าวโพดถูกกว่าโทมิตะด้วย 200-250 เยน 55555555

ดูเสะ

จากสวนดอกไม้ เราแยกขวาขับเพื่อจะไป Blue pond ค่ะ ไม่ไกลมาก แต่ พอใกล้ๆ รถติด!!! ติดมาก ติดจนจะหลับ ติดตรงทางเข้าที่จอด นานเหมือนกัน เกือบครึ่ง ชม.

ทำให้เราอดไปน้ำตกต่อ เพราะเย็นมากแล้ว ต้องขับย้อนกลับไป Furano เพื่อเช็คอินโรงแรม

มีน้ำตกไหลผ่านข้างๆ Blue Pond ด้วย ก็มาจากน้ำตกน่ะแหละ

ขับกลับมาเช็คอิน รร. 5 โมงกำลังดี แล้วออกไปหาข้าวกินค่ะ โชคดีมากที่ เป็นฤดูร้อน ยังไม่มืดเร็ว พอจะมองเห็นถนนหนทาง จุดสังเกตว่ามีร้านอะไรกินบ้าง มีร้านบ้านๆ น่ารักๆ ซุกตัวอยู่ในชุมชน แต่พอดีพวกเรามีโปรแกรมจะต้องซื้อเสบียงตุนเอาไว้ ก่อน ออกเดินทางไปป่าเขาลำเนาไพร ในวันรุ่งขึ้น เลือกแวะเข้าซุปเปอร์ ขนาดใหญ่ ประจำอำเภอ กินข้าว และซื้อของใช้ ของกินจำเป็น ไว้เป็นอาหารเช้ (เพราะดูวี่แววแล้วว่า ระหว่างทางหาของกินยาก)

ที่พักคืนนี้ งบน้อย เลือกเป็น Pension เล็กๆ ไม่แพง เพราะที่พักแถบนี้ สวยๆ กระท่อมน้อยในป่าใหญ่ ราคาเอาเรื่องเหมือนกัน มีห้องอาบน้ำรวม แบ่งเป็น ห้อง 3 กับ 2 คน....แต่ปรากฏว่า ไอ่ห้อง 2 คน ไกลห้องน้ำมากๆ แยกไปอยู่อีกซีกของตึก และห้อง 3 คน มีที่(บนพื้น) เหลือ สรุปคือ หอบผ้าหอบผ่อน มานอนกระจุกกันอยู่ห้องเดียว

กินข้าวเย็นเสร็จ ขับเลยไป Ningle Terrace ใกล้ที่พัก จงใจไปตอนโพล้เพล้ให้ได้บรรยากาศตอนกลางคืนเพราะดูรูปจากในเน็ทไปละสวย ฟรุ้งฟริ้งมาก (ถ้ามีหิมะด้วยนะ สุดๆ) มีร้านกาแฟ และอื่นๆ แต่มืดและฝนปรอย ทำให้ไม่ได้เดินไป ใช้เวลาเดินดูของ Handmade ตามร้านต่างๆ เพลินนน.....คนพวกนี้ดำรงค์ชีพอยู่กันด้วยงานฝีมือ อยู่ได้ไงไม่รู้ง่ะ (คนญี่ปุ่นคงเห็นคุณค่า) แต่เชื่อว่า ขายคนไทยไม่ได้ แน่ๆ

ออกจาก Ningle Terrace กลับที่พัก นอนนนนน......เป็นวันที่เที่ยวคุ้มมั่กๆ อีกหนึ่งวัน ฟินกันไป

Create Date : 17 ตุลาคม 2557

Last Update : 23 ตุลาคม 2557 21:59:38 น.

0 comments

Counter : 5355 Pageviews.