คืนวันพุธ ขึ้นรถด่วนนครพิงค์ ที่เก่าเวลาเดิม รอบนี้มีเด็กๆ 4 คนเอ๊ง แต่ว่าแค่ 4 คน เสียงบนรถไฟ เดซิเบลก็ไม่ได้ลดลงสักเท่าไหร่เลยนะ T_T
คุณครูโกะลงมารับที่กรุงเทพเหมือนเคย.......ปีนขึ้นไปป่วนอีกแหนะ
เจอกันคืนเดียว ตีซี้ เดินจูงมือกันไปแล้ว สาวๆ ส่วนพี่โม ถึงปีนี้ จะมาพร้อมอ็อพชั่นเสริม ไม้ค้ำ
ใจสู้มากๆ ติดใจค่ายจากปีที่แล้ว ขาเจ็บก็อดทนมั่กๆ แม่มดก็ลุยสุดๆๆ
ต่อรถไฟ ขึ้นรถแดง ยานพาหนะสุดโปรดของมิวมิว
ชอบสองแถวมากเท่าความยาวลิ้นที่แพลมออกมา
ชิมลมแล้วบอกว่า รสชาติหวานดีนะแม่!!
จากสถานนีรถไฟเชียงใหม่ เราแวะเที่ยววัด ในตัวเมืองกันก่อน ในช่วงครึ่งวันเช้าค่ะ...ถึงแม้แดดจะร้อนนนน เด็กๆ ไม่มีทีท่าว่าจะเหนื่อย อะรัยยยของมันนนนนนนน ต้นคิดอะหรอ จะคร๊ายยย ชวนเพื่อนแกล้งแม่ตัวเอง (นิยังไม่นับว่าสมัยก่อน ชวนเพื่อนมาจับนมแม่ตัวเองด้วยน่ะ....เด็กคนเน้ เอื้อเฟื้อมาก มีไรดีๆ หนุกๆ ต้องแบ่งปันหมด)
ละคิดหรอคะว่าอิชั้นจะจำได้ว่าวัดชื่ออะไรบ้างด้วยสภาพเยี่ยงนี้...ครูโอ๋เป็นไกด์ คนเมือง อธิบายอะไรสักอย่าง(หลายอย่างเลยล่ะ !) จำไม่ได้เรย
พาไหว้ศาลหลักเมือง กะ พ่อยักษ์ จำได้แค่นี้ 5555
จากนั้น เดินทางมาอีกไม่ไกลมากอยู่ในเมืองค่ะ ศูนย์เกษตร แม่เหี๊ยะ เด็กๆ พักผ่อนตามอัธยาศัย ก่อนบ่ายๆ เราค่อยออกเดินทางไปพระธาตุดอยคำ ไหว้ปู่แสะย่าแสะกัน....
แต่ละคนมันพักที่ไหนล่ะนั่น ผู้ สว หลับคร่อกกเป็นพักๆ เนื่องจากนอนในรถไฟหลับๆ ตื่นๆ
เด็กๆ หาของเล่นจากสิ่งรอบตัวได้เสมอๆ ค่ายลูกนก ตามความตั้งใจของคุณครู คือ เป็นค่ายที่ไม่ได้มี ตารางเวลาแน่นเป๊ะๆ ปล่อยให้เด็กๆ ได้เล่นอิสระกับธรรมชาติ สะดุดกับประโยคนี้เข้าพอดี เห็นจริงดังว่า ดูสิ เด็กๆ เบื่อไม่ทันไร วิ่งไปหาของเล่น เก็บยางรถ กลิ้งขึ้นเนินไปแล้วปล่อยลงมา แค่นี้ก็สนุก ขำกันกลิ้ง เล่นกันอยู่นานสองนาน
ธรรมชาติที่ไหนๆ ก็มี เพื่อนที่ไหนๆ ก็มี แต่จะมีสักกี่ที่มีทั้งธรรมชาติ อิสระ และเพื่อน อยู่รวมตัวกันในที่เดียว
ไม่มีผู้ใหญ่คอยบ่น 555555
คุณนายมิวหัวโจก เริ่มการละเล่นชนิดนี้ โดยการขึ้นไปนั่งบนผ้าห่ม แล้วใช้ชาวบ้านลากให้จ้า...พี่ๆ ก็ใจดีผลัดกันลาก วันแรกๆ ก็งี้แหละ แรงยังเหลือ 55555
แล้วกิจกรรมนี้ ก็กลายเป็นกิจกรรมสามัญประจำค่าย ที่พี่ๆ ต้องผลัดกันมาลากให้มิว บางทีพี่ไม่ลาก ลิงสองตัว มิวมิวกะพอลก้าก็ผลัดกันลากเอง....
ความหัวหมอของเจ้ามิว คือ....เอาขนมขาไก่มาแลกให้พี่ๆ ลากผ้าห่มให้ 1 รอบ ต่อ ขาไก่ 1 ชิ้น ลาก 5 รอบ ได้ 5 ชิ้น...โถถถถ..พี่ก็ยอมแลกด้วยนะ!!
บ่ายคล้อย ตะวันเริ่มหด (แต่ก็ยังร้อนมว๊ากกก) ยานพาหนะประจำค่าย คราวนี้ เป็นจักรยานจ้าา
ปั่นจักรยานกันไปประมาณ 4 กิโลค่ะ ขึ้นเนิน ขึ้นเขา ลงเขา เข็นบ้าง ปั่นบ้าง ตามสภาพสังขาร เด็กๆ ปั่นกันฉิว
ปั่นกันมาจนถึงตีนดอย ต้องจอดจักรยานไว้ เนื่องจากทางชัน แล้วเดินเท้าต่อ ไกลพอสมควร เด็กจิ๋ว สบายสุด ได้ซ้อนมอไซค์คุณครูโอ๋ไป ส่วนพี่ๆ โต ก็แข็งแกร่งไม่เบา เดินจนเกือบถึงยอดดอย มีรถตู้คุณป้าใจดีจอดรับพวกเราทั้งหมด...เอริ่มม....7 ชีวิต ยัดกันเข้าไป ขึ้นไปส่งด้านบนดอย...โชคดีมากๆ
ขาลง ป้าๆ สองคนนี้รั้งท้าย ตามสภาพฮ่ะ
กลับถึงที่พัก กินข้าว อาบน้ำ ตามด้วยกิจกรรมค่ำคืนให้สลายพลังพอหอมปากหอมคอ
วันต่อมา
มิวมิวหัวหน้าแก๊ง ซ้อนมอไซค์ครูโอ๋ ยืนข้างหน้าไม่พอ ยืนไปส่ายตูดไป โคดสงสารครูโอ๋เลย ต้องคอยเอาขาเกี่ยวเอาไว้ 55555
แวะสวนปาล์ม ส่วนหนึ่งของคณะเกษตร มช. เค้าเอาพันธุ์ปาล์มจากภาคใต้มาทดลองปลูกที่ภาคเหนือ ได้ผลผลิตดีพอประมาณ ถึงจะไม่มากเท่าภาคใต้ เพราะปาล์มเป็นต้นไม้ชอบน้ำมากๆๆ ผลผลิตนำส่งโรงงานสกัดที่ลำปาง (เดาว่าเอาไปทอดเลย์แหง๋มๆ)
โรงงานทำปุ๋ย โดยใช้ซากพืช ซากใบไม้ และ ขั้นตอนการทำปุ๋ย ปั้นเม็ด
เนียนไม๊ล่ะ เอาตรูดไปแปะพี่ซัน 55555555
มันกินฝักจามจุรีอะ เค้าเพิ่งรู้ว่าฝักจามจุรี เนื้อด้านใน คนก็กินได้ เห็นมาตั้งแต่เด็ก ไม่เคยลองกิน ถ้ารู้งี้ทีแรกนะ ตอนเด็กๆ ไม่อดอยาก กินฝักก้ามปูแทน รสชาติหวานๆ หอมๆ เหมือนน้ำผึ้งเลย!
บ้านกระต่าย พันธุ์เนื้อ T_T
บ้านวัว
น่ะ เด็กคนเน้!!!
ยามบ่ายของพวกเรา ตามแผนคือ ปั่นจักรยานไปร้านกาแฟ ริมน้ำตกกัน ถ้าน้ำไม่แห้ง เด็กๆ จะได้เล่นน้ำกัน แต่ว่า หน้าแล้งอย่างนี้ แห้งขอดๆ เอาปืนฉีดน้ำไปเล่นกันแทน แม่ๆ หมดแรงกว่าจะปั่นไปถึง ลิ้นห้อย ระยะทางไปร้านแม้ไม่ไกลมากพอรวมปั่นไปสูบลมจักรยานด้วย ก็เป็นสิบโลอยู่เหมือนกัน แฮ่กๆๆ แก้มพวงเก่งสุดๆๆ ปั่นไปกะพวกป้าๆ ไม่มีบ่นเลย
หมดสภาพฮ่ะ
คลานกับที่พัก ด้วยความเปลี้ย เพลีย ปวดขาของผปค จ้า นี่มันค่ายเด็กรึค่ายแม่เนี่ย เริ่มสงสัย วันหลังต้องแจ้งล่วงหน้า จะได้ฟิต ซ้อมอยู่บ้านล่วงหน้าสัก 3 เดือน 555555
ยามเย็นๆ อาบน้ำอาบท่า ออกไปเดินเล่น ดูวิว อากาศดีมากๆ เลิฟฟฟฟฟสุดๆ
กิจกรรมยามค่ำคืน......เจ้าตัวอาจจะยังไม่รู้ว่ามีคลิป
ครูแอ๋ม entertain เด็กๆ สุดๆ ฮ่ะ เรามีโชว์เลเซอร์ พร้อมแดนซ์เซอร์....
อืมมมม ใส่ผ้าถุงเตรียมไปอาบน้ำ ก็อย่าได้แคร์จ้า กร๊ากกกกกกก
ส่วนอันนี้ โชว์โดยมิวมิวค่ะ ลีลาควงไฟฉาย อิชั้นนึกว่าอยู่หาดป่าตอง 5555
เช้าวันเสาร์ โปรแกรมวันนี้ สบายๆ
ที่ ศูนย์เกษตร มีชาวบ้าน พ่อค้าแม่ค้า เอา อาหารออแกนิกส์มาขาย เดินจากที่พักไปนิดเดียว ไปช็อบ ชิม กัน อิ่มๆ หลังอาหารเช้า หย่อย ฟิน
กินข้าวกลางวันที่ร้านพราวพรีน ถนนเส้นนี้ จากแม่เหี๊ยะเข้ามา มีร้านกาแฟเรียงราย ทางแยกเข้าไปดอยค่ำ ก็มีร้านนึงมีแทมโปลีนให้เด็กๆ เล่นด้วย ส่วนอันนี้ ทางไปวันสวนพริก ใกล้ ที่ขี่ม้า ก็มีอีกหลายร้าน ถ้ามีโอกาส แวะมาเที่ยวเล่นแถวนี้นะคะ แต่ละร้านตกแต่งไม่เหมือนกัน ได้บรรยากาศธรรมชาติๆ ทุกร้านเลยค่า
ขี่ม้าที่ชมรมอนุรักษ์ม้าไทย แม่เหี๊ยะ
รูปตอนช่วงเย็นวันเสาร์ จนถึงวันอาทิตย์ไฟล์ใช้ไม่ได้เยย เพราะให้มิวยืมกล้องไปถ่ายเล่น มือนางคงไปโดนโหมดซอฟท์....ถ่ายมานัวๆ หมดทุกรูป ซึ่งตอนถ่ายมันชัดนะ ถ่ายเสร็จกล้อง process ต่อ ไม่ทันได้สังเกต เซ็งเยย อุตส่าพาเด็กไปเดินเล่นที่ไร่ทานตะวัน ตอนเย็น แสงสวยม๊ากกก
ถ้ารูปมันชัดนะ...ฮึ่มมม
รูปตอนแคมป์ไฟก็โคดนัว ขุดมาได้เท่านี้ 5555
ครูโอ๋ เจ้าหน้าที่เผามัน
วันจันทร์ เป็นวันสุดท้ายของค่ายลูกนก ตอนเย็นเราต้องเดินทางกลับกรุงเทพ เด็ก ขอกลับไปขี่ม้าอีกรอบ แทนที่จะเข้าไปเที่ยวในเมือง ก็จัดปายยย...ระหว่างรอคิวขี่ม้า แวะกินข้าว วิ่งเล่นร้านกาแฟ เปลี่ยนมาอีกร้านนึง ให้ครบทุกร้าน 55555
หน้าตาน่าหมั่นไส้ 5555
ถึงคิวขี่ม้าแล้วจ้า ชอบมากกกก
ถ่ายจากโกโปร รร.สอนขี่ม้าอ๊ะอันนี้
เด็กๆชอบม้ามากมาย ไม่ว่าจะตัวไหนๆ จำชื่อได้หมด อำลากันก่อนกลับบ้าน ลูบแล้วลูบอีก สั่งเสียว่าจะกลับมาเยี่ยมใหม่ถ้ามีโอกาส
ขึ้นรถไฟแล่ววววววว...คุณครูโกะ กะครูโอ๋ ครูแอ๋ม ขึ้นมาส่งบนรถ ลิงมันสนใจกันซะที่ไหนล่ะ
คุณครูก็ทำหน้าเศร้าไป
ลิงสองตัวนี้ ก็ไม่สนใจ 555555 เพราะยังไง เดี๋ยว ก็ได้เจอกันใหม่อยู่ดี ที่กรุงเทพ
จบค่ายไป้วยความประทับใจกับสัมพันธภาพ ทั้งเก่าและใหม่ พี่ๆ น้องๆ แม่ๆ ครูๆ สนุกสนานเฮฮาเช่นเดิม ปีหน้า เจอกันอีกทีจ้า จุ๊บๆๆๆๆๆ