กุ๊ดจัง
Location :
นนทบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 75 คน [?]




ไม่มีสาระ...จริงๆ นะ..

แต่ถ้าหลวมตัวมาแล้ว จะแอบอ่านก้อไม่ว่ากัน ถ้ารับแนวเถื่อนนิดๆ ถ่อยหน่อยๆ แต่จริงใจได้ ^_^

คิดถึง ถูกใจ ก้อเจิมกันสักนิดนุง แต่ถ้าไม่ถูกใจ มาทางไหนเชิญกลับไปทางนั้น ไม่ต้องเม้นไว้ให้เปลืองมือนะ ฮ่าๆๆ
HighStudio

สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์
บทความ โดย littlemiumiu.com อนุญาตให้ใช้ได้ตาม สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ต้นฉบับ.
อยู่บนพื้นฐานของงานที่ www.littlemiumiu.com.
การอนุญาตนอกเหนือจากที่ระบุไว้ในสัญญาอนุญาตนี้ อาจมีอยู่ที่ www.littlemiumiu.com
Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2554
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
1 ตุลาคม 2554
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add กุ๊ดจัง's blog to your web]
Links
 

 
ย่างเข้าวันที่ 3 ณ เกาหลี Ewha (Edae)/Kyobo /Myeong Dong

วันนี้ที่ 3 นี้เหมือนวันปล่อยผี หลังจากสาวๆ คับข้องใจกันมา 2 วัน เงินในกระเป๋าเต้นเร่าๆ อยากจะปลิวออกไปเต็มแก่ เพราะ 2 วันแรก ยังไม่ค่อยได้ช็อบกันเท่าไหร่นัก (Doota เสื้อผ้าแพงมว๊ากกก ซื้อไม่ลงจิงๆ)

ประเดิมอาหารเช้าโรงแรมแบบกระเดือกไม่ลง ของเก่าเอาไม่ออก ทั้งแต่หมูเกาหลี ไก่เกาหลี กิมจิ มาม่าอุด้ง...3 วันผ่านไป สะสมถึงคอหอยได้แล้ว ณ จุดนี้

สภาพอาหารเช้านิยามได้พอๆกับ facility โรงแรม สะอาดแบบแปลกๆ ประตูห้องน้ำเป็นกระจกใสงี๊ แอร์ไม่เย็นงี้ บรรยากาศหลอนเล็กน้อย ประตูเอี๊ยดอ๊าดดด ห้องติดกับทางรถไฟ รถไฟวิ่งที่ อย่าให้เซดดีกว่า) สรุปคือที่พอกินได้เห็นจะเป็นไข่ต้มกับแมกกี้ กับข้าวต้ม ใส่แมกกี้ (ข้าวผัดเค้าว่าจืดมากก แฮชบราวน์ ก็จืดด ขนมปังเหนียวหนึบเย็นชืดด ช่างมัน ไม่ใช่สาระสำคัญ กินไม่อิ่มบ้างก็ดี เผื่อเจอไรหร่อยๆข้างทาง จะได้ชิม)


กินเสร็จ ชาวคณะออกเดินทางไปแวะศูนย์โสมและอื่นๆตามนโยบายรัฐบาลเกาหลี (คล้ายๆจีน) ต้องมีบังคับเข้าร้าน โสมที่ขายในศูนย์นี้ เป็นโสมเกรดเอ 6 ปี กินได้กินดี สรรพคุณไฮโซ และเป็นเกรดที่ห้ามส่งออก ต้องมาซื้อที่เกาหลีเท่านั้น ราคาก็น่ะ....ตามสรรพคุณ

ออกจากศูนย์โสม เราไปเดินเล่นชีลๆ ทีย่าน Sinchon ซึ่งเป็นที่ตั้งของมหาลัยชื่อดัง 3 แห่งคือ Ewha Women University, Hongik University และ Yonsei University

Ewhayeodae คนเกาหลีเรียกสั้นๆว่า Edae เป็นมหาลัยหญิง อารมณ์คงเปรียบได้กับหน้ารามเวอร์ชั่นไฮโซ(กว่าเยอะ) หน้ามหาลัยรายล้อมไปด้วยร้านค้า ร้านอาหาร คาเฟ่ น่ารักๆที่พร้อมจะกระชากวิญญาณสาวไทยออกจากร่างไปได้อย่างง่ายดาย เสื้อผ้า ของใช้ ราคาจับต้องได้ อยู่ตามซอกเล็กซอกน้อย น่าเสียดายที่ไม่มีเวลานั่งอ้อยอิ่งตามร้านน่ารักๆ ถ้าใครไปเองแนะนำให้มีเวลาอย่างน้อยครึ่งวัน ณ จุดนี้จะฟินมาก


ยังเช้าอยู่ร้านรวงยังเปิดไม่เต็มที่ สักพักคนเริ่มคึกคัก เดินเข้าร้านโน้นออกร้านนี้ ร้านที่เราไปหมดตัว คือ Kosney (It's a must เช่นกัน) ขายของใช้ เครื่องเขียนน่ารักๆ ชั้นบนเป็นเสื้อผ้า local brand ชื่อ code connection ที่ดีไซน์สวยเก๋ แต่ราคาก็พอๆ กับ flynow บ้านเรา(ตอนยังไม่ลด)ดีๆ นี่เอง ถ่ายรูปมาไม่ค่อยสวยเน๊าะ แฮ่ๆๆ มัวแต่เดินตื่นตาตื่นใจ จริงๆ บรรยากาศดีม๊ากกกก สาวเกาหลีเดินกันให้รึ่ม



หน้ามหาลัย เขาว่าสวยมากแต่ไม่มีเวลาเดินเข้าไป T_T


ออกจากอีเดย์เมื่อได้เวลาอาหารกลางวัน มื้อกลางวัน เป็นเมนู Kimchi chigae (김치 찌개) หรือซุปกิมจิ รสชาติเหมือนแกงส้ม ออกเปรี้ยวเค็ม (ไม่กลมกล่อมเปรี้ยวหวานเหมือนแกงส้มบ้านเรา) กินพร้อมกับไข่เจียวม้วนเนื้อหนานุ่ม รสออกเค็มๆ กินกับข้าว ห่อสาหร่าย(ห่อเองนะ) เข้ากันม๊ากกกกกกกกกก จิ้นไปว่าเป็นแกงส้มชะอมไข่ทอดเวอร์ชั่นเกาหลี ยังไงยังงั้น! มีเครื่องเคียงเป็นกิมจิและอื่นๆ แก้เลี่ยน




อิ่มหนำหรรษา ก็ออกเดินทาง ตามโปรแกรมคือมุ่งหน้าไปเมียงดง แต่ ขอคั่นเวลา เนื่องจากเดอะแก๊งขาช็อบรีเควสขอไปโฉบร้านหนังสือขนาดใหญ่ของเกาหลีซะหน่อย ชื่อ KYOBO หนอนหนังสือ หรือสาวกบ้าของกุ๊กกิ๊ก เครื่องเขียนสารพัด ขอบอกว่า พลาดไม่ได้เด็ดขาดดดด!!!
ตึกอยู่แถวๆ หน้าพระราชวังเคียงบอก คลองชองเกชอน ตรงอนุเสาวรีย์รูปหอย แผนที่ในตอนที่ 1มีวงเอาไว้ให้แล้วจ้า

หน้าตาตึกเคียวโบเป็นแบบนี้ ไกด์บอกว่าแถวๆนี้เป็นหมู่ตึกที่เป็นสำนักพิมพ์ หนังสือพิมพ์ สิ่งพิมพ์ทั้งหลายแหล่ของเกาหลี ร้านจะอยู่ชั้นใต้ดิน ถ้านั่งรถไฟใต้ดินมาสถานนี Gwanghwamun ให้ออกทางออกที่ 4 จะถึงร้านเลย


แต่เสียใจๆๆ มีเวลาให้แค่ 40 นาที ยังไม่ทันได้เดินไปดูหนังสือตามซอกตามซอยของร้าน มัวแต่ลมปราณแตกซ่านอยู่ตรงชั้นขายของกระจุ๊กกระจิ๊ก จะเอาอันนี้ดี อันนั้นดีไม๊ อันนี้ก็อยากได้ อันโน้นก็น่ารัก ตัดสินใจไม่ได้ จะซื้อหมดก็อดตาย ต้มกินแทนข้าวคงไม่อร่อยเท่าไหร่ เค้าได้อะไรมาจากเคียวโบบ้างไว้ค่อยอวดทีหลังเนอะ ฮิฮิ

ต่อๆ ไฮไลท์ของทริป(สำหรับคนอื่น) คือ ย่านเมียงดง จะได้ปลดปล่อยกันให้รู้แล้วรู้รอด หน้าตาเมียงดง ก็เหมือนๆ กับที่คนอื่นที่เค้าไปเกาหลีแล้วถ่ายมาไปหารูปดูเอาเถอะ 55555 เค้าไม่ค่อยได้ถ่าย มัวแต่ช็อบเพลิน ก๊ากกกก

เดินเข้าเดินออก Forever21 ที่ใครๆบอกว่าถูก ซึ่งอันที่จริงราคาเต็มไม่ลด ก็ไม่ถูกซะทีเดียวนะ ถ้าไม่จำเป็นต้องตามติดเทรนขนาดนั้น โซนลดราคาที่เซนททรัลเวริล ของถูกกว่าตั้งเยอะ จังหวะดีๆ กางเกงยีนส์ตัวละ 4-5 ร้อย ขาสั้น 2 ร้อยก็ยังมี แต่ที่นี่ กางเกงยีนส์ตัวละ พันกว่า ขาสั้นตัวละ 600 บาท ถ้าไม่ชอบจิงๆ ก็ซื้อไม่ลงนะ

นี่ขนาดวันนี้ทั้งวันใส่กางเกงตัวใหม่ไฮโซที่ซื้อจาก doota ไม่ค่อยเห่อเลยเน๊าะ ดั๊นนนนทำอิท่าไหนไม่รู้ ตูดขาดยาวขึ้นมาถึงเอว (อุบาทว์ได้อีกกรู) ดีที่มาดามทรายสะกิดบอก อิชั้นก็ยังทุเรดไม่หยุดยั้ง พยายามหันตรูดไปส่องกระจกดูกางเกงตัวเองที่ไหนได้ อิกระจกนั่น มันมองทะลุไปด้านหลัง ไม่ใช่กระจกสะท้อน อาซิ่มอาม่าในศูนย์โสมที่อยู่อีกฝั่ง คงงงๆ แบบว่า อินี่ทำไร (ช่างประไร ชาตินี้คงเจอกันแค่ครั้งเดียวแหละวะ ปลอบใจตัวเอง )

ยังไม่พอๆ เจือกขี้เกียจเปิดรถโคช รื้อกระเป๋า เปลี่ยนกางเกง เลยเอาเสื้อคาดิแกนคาดเอวปิดตรูดไว้ก่อน กะว่า เอาวะวันนี้ ยังไงชั้นก็ต้องได้กางเกงแจ่มๆ สักตัวแหละวะ ที่ไหนได้ ซื้อไม่ลง ไอ่ที่ชอบ ก็โค่ดแพง อกหักช้ำใจ ใส่กางเกงตูดขาดต่อไปทั้งวัน นั่นแหละ สาสมแล้ว T-T
(ถ้าพูดถึงคุณภาพและราคาเสื้อผ้าแล้ว เมืองไทยไม่แพ้ชาติใดในโลกนะเคอะ แต่ดีไซน์นี่อีกเรื่อง 5555)

HM ZARA Uniqlo บอกเลยว่าแพงกว่าฮ่องกงมากกกกก ซื้อแทบไม่ลง จะมีแค่บางไอเท็มที่ถูกกว่า แถมช่วงนี้มีแต่แฟชั่นหน้าหนาว ซื้อกลับมาก็ไม่ค่อยได้ใช้ เซฟ กระเป๋าตังค์ไปมากโข (ไม่เหมือนตอนไปฮ่องกง โกยเอาๆ ได้กลับมา 2 กระเป๋าเลยง่ะ)
เสื้อผ้าไม่มียี่ห้อ ราคาจับต้องได้ คุณภาพดี บางร้านลดแล้วเหลือตัวละร้อยกว่าบาท ถูกม๊ากกก แต่ไซส์จะเล็กๆ หน่อยเพราะสาวเกาหลีตัวเล็ก ผอมเพรียวอะนะ


จะอีทูดี้ สกินฟู๊ด สารพัดเครื่องสำอางโลคอล หาได้ที่นี่ ผุดเป็นดอกเห็ด จากแผนที่ บริเวณรอบๆ เมียงดงยังมีสถานที่น่าสนใจน่าเที่ยวอย่างโบสถ์คริสต์ วัด และอื่นๆ ถ้ามีเวลา ก็ควรจัดไปสักยกเน๊าะ (ในส่วนของช็อปปิ้ง เดินๆไปสักพัก จะเริ่มมึน เพราะขายของคล้ายๆ กัน เครื่องสำอางและอื่นๆ เดินไปเดินมาเจออีกแล้ว)
แผนที่เวอร์ชั่นนี้ละเอียดดีชอบ....เดินๆในเมียงดง อาจจะมึนงงหลงได้ ให้มองตึกสูงๆ ด้านหน้า ด้านหลังเอาไว้เป็นจุดสังเกต จะได้ไม่หลง


มื้อเย็นหลังจากวกไปวนมาในเมียงดง 3 ชั่วโมง ไกด์พาชาวคณะมากิน เมนูที่เรียกว่า BUDAE CHIGAE 부대찌개 หน้าตาแบบนี้


บูเด ชิ่เก เป็นเมนูกำเนินในสมัยสงครามเกาหลี-สหรัฐ คนอดอยากยากไร้ มีอะไรของกินอะไรก็เอามาต้มรวมๆกันในน้ำซาวข้าว กิมจิ ไส้กรอกสารพัดแบบ (ซาลามี่ และอื่นๆ) เส้นมาม่า อุด้ง มักกะโรนี รสชาติเผ็ดนิดๆ แซ่บๆ คล้ายมาม่าต้มยำแต่รสอ่อนกว่า รวมๆ แล้วถูกปาก อร่อยดี ชอบบอีกแล้ว (มี๊กุ้งสะใภ้เกาหลีและไกด์อธิบายความเป็นมาให้ฟัง)

กินเสร็จ เดินมุ่งหน้าไปทางไปรษณีย์ใหญ่จะมี lotte mart อยู่ ตุนของฝากอีกพอประมาณ ซื้อองุ่นกลับบ้าน ถูกม๊ากกกกกก เบียร์อีก เกือบ 2 ลิตร เหล้าบ๊วยอีก 2 ขวด เปรมเลย..ฮิฮิฮิ

ขาลากกันเป็นแถวๆ ได้เวลาเดินทางจากเมียงดงไปพักที่ซูวอน ใช้เวลาเดินทาง ชม.กว่าๆ แต่รู้สึกเหมือนไม่ไกลมาก มีบัสเลนให้วิ่งฉิวๆ แจ่มม

La Vie Dor แอร์ไม่เย็น แต่ห้องกว้างมากกก นอนกันสองคน ได้เตียงเดียวมา 3 เตียง แถม อีก 1 เตียงในห้องลับ รวมเป็น 4 เตียง จะเยอะไปไหน
คืนนี้ เปิดหน้าต่างนอน อากาศดีสุดๆๆๆๆ ลมเย็นข้างนอกพัดโชยมา เริศมากกกกกกก ชอบกว่านอนในเมืองอีก


เก็บแรงเอาไว้ช็อบจนหยดสุดท้าย วันรุ่งขึ้นจะได้กลับบ้านแล้ววว


Create Date : 01 ตุลาคม 2554
Last Update : 2 ตุลาคม 2554 0:17:52 น. 2 comments
Counter : 9268 Pageviews.

 
เข้ามาอ่านตอนนี้ เจออาหารแอบหิวแหละ อยากไปช้อปจังเลย น่าเดินมากๆๆๆ


โดย: kizz_j IP: 125.27.53.242 วันที่: 2 ตุลาคม 2554 เวลา:0:36:03 น.  

 
ซุกิมจิเป็นเมนูที่ชอบมากเลยค่ะ แต่ยังไม่เคยลองชิมของเจ้าบ้านสักทีว่าจะถูกปปากไม๊


โดย: หนีแม่มาอาร์ซีเอ วันที่: 2 ตุลาคม 2554 เวลา:16:07:17 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.