กุ๊ดจัง
Location :
นนทบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 75 คน [?]




ไม่มีสาระ...จริงๆ นะ..

แต่ถ้าหลวมตัวมาแล้ว จะแอบอ่านก้อไม่ว่ากัน ถ้ารับแนวเถื่อนนิดๆ ถ่อยหน่อยๆ แต่จริงใจได้ ^_^

คิดถึง ถูกใจ ก้อเจิมกันสักนิดนุง แต่ถ้าไม่ถูกใจ มาทางไหนเชิญกลับไปทางนั้น ไม่ต้องเม้นไว้ให้เปลืองมือนะ ฮ่าๆๆ
HighStudio

สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์
บทความ โดย littlemiumiu.com อนุญาตให้ใช้ได้ตาม สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ต้นฉบับ.
อยู่บนพื้นฐานของงานที่ www.littlemiumiu.com.
การอนุญาตนอกเหนือจากที่ระบุไว้ในสัญญาอนุญาตนี้ อาจมีอยู่ที่ www.littlemiumiu.com
Group Blog
 
<<
มกราคม 2556
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
18 มกราคม 2556
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add กุ๊ดจัง's blog to your web]
Links
 

 
MMade-in-China ทัวร์มั่วมั่ว ช็อบ กินไปทั่ว ณ กวางโจว ตอน 2

วันแรก

วันที่ 2-3 ในกวางโจวของเรา เป็นการปฏิบัติภาระกิจ ช็อบกระจาย เราเลือกใช้บริการไกด์ เพื่อจะได้ซื้อของได้อย่างสบายใจ
ข้อแนะนำเล็กน้อย สำหรับการเที่ยวและช็อบนะคะ
1. ถ้าเป็นไปได้ ศึกษาภาษาจีนเบื้องต้น ท่องๆ ประโยคพื้นฐานเอาไว้บ้างก็ดี เช่น เท่าไหร่ ลดได้ไหม  ที่สำคัญ ตัวเลข ราคา ถ้าฟังได้ จะดีไม่น้อย 
2.  ถ้าหากจะช็อบเยอะๆ แนะนำให้จ้างไกด์ ไกด์ที่ดี จะช่วยเราต่อสินค้าที่จะซื้อ แนะนำว่าควรซื้อที่ไหน ยังไง ถ้าซื้อเยอะจริงๆ จำนวนเงินที่ไกด์ต่อของให้เรา เท่ากับเราประหยัดไปได้เยอะเลยค่ะ ถึงแม้จะเสียค่าตัวไกด์ก็ตาม 
3. พูดจีนไม่ได้ ไม่ใช่ปัญหา หน้าด้านเข้าไว้ อย่าได้ยอม อาซิ่มอาม่า 
4. ย่านค้าส่ง ตึกทั้งหลาย ปิด  6 โมง
5.. การเดินทางในกวางโจว ไม่ลำบากอย่างที่คิด รถไฟใต้ดิน สบายๆ หรือไม่ก็แทกซี่เลย วิ่งจากที่นึงไปที่นึง ย่านแหล่งช็อบปิ้ง อยู่ราวๆ 10+ - 20 กว่าหยวน คิดเป็นเงินก็ร้อยกว่าบาท ซื้อความสบาย แต่ ควรเตรียมแผนที่ หรือชื่อสถานที่ที่จะไป เป็นภาษาจีน พิมพ์ใส่กระดาษ หรือไรไว้นะคะ เพื่อความสะดวก  หลีกเลี่ยงการยื่นมือถือให้ดู เพราะ อาจจะแจ๊กพอต เจอเชิดมือถือหนีได้ใครจะไปรู้ ชิมิ 
ช่วงเวลาเร่งด่วน แทกซี่จะหายากมาก คิวยาววววว...ใช้บริการรถไฟใต้ดินสะดวกสุด 

ว่าแล้วเราก็มาตะลุยกันได้เร้ยยยยยย......เริ่มจากเรื่องกินก่อนเลย อย่างที่บอกไปว่า ข้างรร.เรามีร้านอาหารจีนชื่อดังขนาดใหญ่ ถือโอกาสรีวิวซะหน่อย ฝากท้องไว้หลายมื้อ อาหารถือว่า ราคาค่อนข้างสูง แต่สมราคา ขายเช้ายันดึก

ติ่มซำเข่งละ 70-80 บาท ราคาพอๆ กับฮ่องกง (ในขณะที่ ถ้ากินข้างนอก หรือกินข้างทาง จะถูกกว่ากันเยอะมาก กินในห้าง นี่แพงพอๆ กับกินในห้างเมืองไทยเช่นกัน ค่าครองชีพเรื่องกินสูสี) 
ร้านอยู่ริมแม่น้ำ เห็นวิว ฝนตกเปาะแปะๆ ทีแรก ไม่รู้ เรานั่งชั้นล่าง และสั่งเอาจากเมนู ของบางอย่าง ต้องรอนานมากกกกกกกก ไกด์แนะนำว่า ให้เดินขึ้นไปชั้น 2  เค้าจะมีเป็นเคาเตอร์ ทำสำเร็จไว้แล้ว ไปยืนชี้ๆ สั่งๆ ได้เลย เร็วกว่ามาก พอว่างแล้วเค้าถึงจะทำออเดอร์ให้โต๊ะข้างล่าง ป๊าดดดโถ่ มื้อแรก

สะใจมากกกกกกกกกกก ชาจีนอร่อยโฮกกกกกกกกก

มีหลายอย่างในเมนู ที่อยากกินทั้งหมดเยยย...งั่มๆๆๆๆแต่สั่งมาแค่เนี๊ย 


ไส้ผักอันนี้ อร่อยสุดๆ น้ำซุปชุ่มๆ หอมผักอะไรไม่รู้ กวางตุ้งหรอ หรือคึ่นช่าย หมูกรุบๆ แป้งบาง นุ่มเหนียว หอมมมมมมมมมมมมม

ส่วนซาลาเปานี่ ทำให้เค้าคิดถึงกวางโจวตลอดเวลา เคยอ่านรีวิวหลายคนบอกว่า ซาลาเปาที่นี่ไม่ว่าร้านไหน มักจะอร่อยหมด แค่แป้งเปล่าๆก็อร่อยแล้ว สำหรับเมนูที่เราสั่งมา เป็นแป้งผสมโฮลวีท ไส้เป็นไส้หวาน เป็นน้ำตาลคล้ายๆ น้ำตาลทรายแดง ผสมน้ำตาลมะพร้าวหรือไรไม่รู้ แต่ มันหอมมากกก ไม่หวานเวอร์ คือหวานน้ำตาลธรรมชาติ ที่กำลังละลาย ไม่ถึงกับละลายจนเหลว แต่แบบ...น่ะ...นั่นแหละ 

มื้อเช้าอีกวันนึง คราวนี้ลองตามคำแนะนำไกด์บ้าง นี่คือ หน้าตาบนชั้น 2 เป็นติ่มซำทำสดๆ ซวยละ เห็นแบบนี้ อยากกินทุกอย่าง

ตัดอกตัดใจ..เปลี่ยนเมนู คราวนี้สั่งเบาๆ ไม่จุกมากจะได้มีแรงเดิน ถ้าเหมือนเมื่อวันก่อน พกใส่กล่องกลับไปไว้โรงแรม สุดท้าย ไม่ได้กิน 

ขนมผักกาดอร่อยยยยย  ละลายในปาก ด้านนอกเกรียมนิดๆ เนื้อขนมผักกาดเนียน หอมม 

มื้อเย็น ไม่วายกลับมากิน เพราะถือของเยอะมาก หมดเรี่ยวแรง แบกกลับมาเก็บให้เสร็จๆ แล้วลากสังขารลงมากิน -_-''

ตอนเย็นคักคักมากกกกกก อลังการงานสร้าง สารพัดสารพันเมนู ถูกขนออกมา งู แพะ เม่น ปลาไหล กุ้ง หอย ปู ปลา บางอย่างก็ไม่คิดว่าจะกินได้...บางอย่างก็เห็นในพิพิธฑภัณฑ์สัตว์น้ำ แหลกกันได้ด้วยหรอออ

เราสั่งเมนูธรรมดาๆ มาละกัน ถึงจะธรรมดา ก็อร่อยใช้ได้ พวกหมูกรอบ ห่าน มันย่องไปหน่อย ปลาเก๋าสดมากกกก กุ้งสดเช่นกัน (ไม่สดได้ไง ว่ายอยู่ในตู้)

ผักฮ่องเต้ หวาน นิ่มๆ กินง่าย เพราะผักสด ไม่ต้องทำอะไรมาก เหมือนเอามาต้มซุบก็อร่อยแล้ว  ไกด์เล่าให้ฟังว่า ที่ชื่อว่าผักฮ่องเต้ เพราะสมัยก่อน ฮ่องเต้สมัยราชวงศ์ไหนสักคนนี่ล่ะ โดนเนรเทศออกมาอยู่บ้านนอก "อดอยากไม่มีจะแดก" พี่ไกด์เราเล่าแบบนี้เลย 555 ไปเจอผักนี่เข้า เลยเอามาทำอาหาร ปรากฏว่าอร่อยมากก ติดใจ เจ้าผักชนิดนี้ เลยได้ชื่อว่า ผักฮ่องเต้....

ไข่ดำๆ หน้าตาเหมือนพะโล้ แต่ม่ายช่ายยย ไกด์สั่งมาให้ลองกิน บอกว่า ดีต่อสุขภาพ โดยเฉพาะผู้หญิง เป็นเหมือนไข่ต้มน้ำตาลทรายแดง แบบเข้มข้นมากกก น่าจะต้มกับสมุนไพร ปกติ น้ำตาลก็จัดเป็นของร้อนอยู่แล้ว นี่ต้มซะเข้มข้นมากๆๆๆๆ เขาว่า ดีกับอวัยวะภายใน เห็นกินกันซดโฮกๆ เรากินแล้ว อ้วกจะแตกอะ หวานปะแล่มๆ ปนยาๆ ไงมะรู้ T_T

กินอิ่ม ก็ต้องทำงาน
ตึก Onelink เดินจาก รร. ไปประมาณ 15 นาที สบายๆ ขายของกิฟช็อบ กระจุกกระจิกทั้งตึก เครื่องเขียน ของใช้ในบ้านชิ้นเล็กๆ ของที่ระลึกจากหลายมุมโลก ของพรีเมียม ที่ถูกปั้มว่า Made in China ถึงแม้จะส่งไปขายต่างประเทศ แต่ก็ดูเหมือนจะถูกมารวมอยู่ที่นี่ที่เดียว  

ไม่ค่อยได้ถ่ายรูปอะไรมากนัก เพราะ ต้องเดิน เดิน เดิน หิ้วของ หิ้วของ...เข้าร้านโน้นออกร้านนี้




ขอให้ไกด์ พามาดูตลาดขายเสื้อผ้าเด็ก เยอะมากกกกกกกก ใหญ่มากกกกกกก เดินกัน 3-5 วันล่ะค่ะ ถึงจะหมด แล้วเกือบทุกร้าน ขายส่ง ยกล็อต ครบสี ครบไซส์ ถึงจะยอมขาย แบบก็น่ารักมากกกกกกกกกกกก แฟชั่นหน้าหนาวกระชากวิญญาณจริงๆ ได้แต่ยืนมองตาละห้อย บอกไกด์ว่า งั้น ย้ายไปซื้อเสื้อผ้าผู้ใหญ่ละกันวุ้ย ของลูกช่างมัน

ฝ่าการจราจรยามเย็น ด้วยเวลาเหลือน้อยนิด ก่อนจะปิด 
ตึกฮุ่ยเหม่ย เป็นตึกขายเสื้อผ้าสไตล์เกาหลีที่ฟะร้าแนะนำมา ละลานตามากกกกกกก....เดาว่า นอกจากเสื้อผ้าคนจีนทำแล้ว คนเกาหลีที่มาตั้งโรงงานในจีน ก็มาขายในตึกนี้ด้วย เพราะบางร้าน เห็นคนเกาหลีมาเฝ้าร้านเอง เสื้อผ้าน่ารักมากกกกกกก ใส่ได้บ้างไม่ได้บ้าง ย่างเข้าหน้าหนาว มีแต่เสื้อผ้าหนาๆ 
ฮุ่ยเหม่ย รถใต้ดินสถานนีนี้นะ ออกจากสถานี เดินตรงไปเรื่อยๆๆ

ผลงานของสองนางช็อบกันกระจุย ใน 2 วัน ไม่มีอะไรที่เป็นสาระสำคัญของชีวิตเลย 5555555



นอกจากช็อปปิ้งแล้ว เราก็ใช้เวลาอันน้อยนิดที่พอจะมีไปเดินเที่ยว สถานที่ท่องเที่ยวฮ็อตฮิตประจำกวางโจวอีกตั้ง 1 ที่ (ถึงจะอดไปอนุเสาวรีย์ ดร. ซุนยัดเซ็น และบ้านตระกูลเฉินเพราะนอนตื่นสายก็เถอะ)

ถนนเลียบแม่น้ำตอนกลางคืน 


ถนนเป่ยจิงลู่  มีร้านรวงมากมาย เปิดจนถึงดึก คนครึกครื้นมากกก 

กิมมิกของถนนนี้ คือ เป็นถนนที่สร้างขึ้นมาทับถนนเก่าสมัยราชวงศ์ซ่ง จะมีช่วงนึง เค้าทำเป็นถนนกระจก ให้สามารถมองลงไปทะลุด้านล่างได้ เห็นพื้นถนนเดิม 

ถนนกระจก ตรงกลาง เป่ยจิงลู่ Beijing Lu นั่นแล

เมืองจำลองในสมัยนั้น เจริญมากเลยเนอะ

โค้กครองประเทศจีนฮร่ะ 

จริงๆ มีวีรกรรม ที่เป่ยจิงลู่ดั้ว...(ไม่รู้จะเล่าเพื่ออะไร  55555)
ก่อนจะออกมาเดินตะลุยราตรี พวกเรากินข้าวกันอิมื้อจัดหนัก ที่กินล้างบางกันไปทั้งกุ้ง หอย ปลา กินเยอะมากกกกกกก ผู้หญิง 3 คน แต่สั่งกับข้าวมาอย่างเยอะ....พ้อยท์สำคัญคือ เราคิดว่า มันมีเครื่องดื่มอันนึง ที่ไกด์บอกว่า เนี่ย!! กินแล้วดีต่อสุขภาพ เห็นคนจีนเค้ากินกันเยอะๆ แบบนี้นะ เค้ามีตัวช่วย ไม่ให้ท้องอืด หรือไม่สบายท้อง นี่เลย.......ทะด๊า....แล้วชีก็พราวลี่พรีเซ้นท์มาก ว่า แฟนคนไทยมา กินแล้วติดใจ...เหมือนน้ำอัดลมเลยยยย....แต่จริงๆ เป็นสมุนไพร ผสมจิ๊กโฉ่ว..(ใช่ ฟังไม่ผิด จิ๊กโฉ่วววววว) อ่า....ลองดูก็ด่ะ.....อึกแรก....อืมมม เอ่ออออออออ....เมิงแปลกมากกกกกกก เหม็นคาววววววววววว จะอ้วกกก สงสัยลิ้นเพียน...เอาวะ กินอีกที กลั้นใจกิน ก็ พอโอเคนะ ถ้าไม่นับกลิ่นแล้วล่ะก็ รสชาติเมิงก็ดีทีเดียว สีเหมือนโค้ก ซ่าๆ เค็มปะแล่มๆ ด้วยความเสียดาย กลั้นใจกินแล้วกัน....ดิชั้นก็กลั้นใจกินไปหมดแก้ว แล้วก็กินอาหารต่อไป.....เริ่มรู้สึกแปลกๆ นิดนุง

กินเสร็จไปเดินเป่ยจิงลู่ ก็ชิลๆ แต่อึดอัด แน่นท้องมากกกกกก กินเยอะเกิ้น เดินเรื่อยเปื่อยดูของไปสุดถนน แวะร้านหนังสือ อูวววอ่าว์ หนังสือเจ๋งสวดๆ ทำไมหนังสือจีนเจ๋งอย่างนี้ ราคาไม่แพงด้วย แต่แม่มมม มะ มะ มะ ไม่ไหวแล้ว ปวดท้องมากกกก..บากหน้าไปถามพนักงาน...ภาษาไรดีวะๆๆ อังกิตแล้วกัน โชคดี ที่เป็นร้านหนังสือไฮโซ มีห้องน้ำ ณ เวลา สามทุ่มครึ่ง คนก็น้อยๆ แค่นี้พนักงานมันก็มองหน้าแล้วใช่ป่ะ เข้าไปรอบแรก....อืมมม ห้องน้ำสะอาดนะ แต่บรรยากาศไม่ให้ ไม่สำเร็จ  เดินลงมาข้างล่าง.....ดูหนังสือต่ออีกรอบ....เฮ่ออออออ ในหัวสมองคิดถึงแต่อิจิ๊กโฉ่วพะอึดพะอมนั่น ลอยมา เข้าห้องน้ำอีกรอบดีกว่าตรู..... ณ เวลาเท่าไหร่ไม่รู้ กำลังอยู๋ในห้องน้ำเพิ่งเข้ามาแป๊บเดียวเองนะ แป๊บเดียวจริงๆๆ พนักงานเคาะประตู ปั้งๆๆๆๆๆ "Store Closeeeeeee"  Smiley อยากฆ่ามัน ณ จุดนี้.....สุดท้ายก็ได้แต่เดินเจี๋ยมเจี้ยมออกมา ทำไงได้....ไปวะ กลับ โรงแรม แต่กุไม่เดินกลับแล้วนะ แทกซี่โลด...

ข้ามฝั่งไปรอแทกซี่...คันแล้ว..คันเล่า โดนตัดหน้าบ้างไรบ้าง สุดท้าย เจอสามล้อรับจ้าง คล้ายๆ มอไซค์วินบ้านเรา แต่เป็นสามล้อด้านหลัง ซึ่งจริงๆ เป็นรถของคนพิการ แต่คนเอามาดัดแปลงวิ่งรับจ้างโดยต่อเติมให้นั่งได้สองคนคู่กันหรือไว้ขนของ(จะว่าตุ๊กตุ๊กก็ไม่ใช่ เล็กกว่ามาก เอาเป็นว่า มอไซค์มีสามล้ออะ)  อืมมม....กุไปละน๊าาาา อันนี้แหละ  โดดขึ้นกันมา อิคนขับ บอก เอ้อ (สือ)  สือข้างหลัง เสียงเมิงเบาอยู่ในคอมาก...ด้วยสภาพรถ ทีแรก คิดว่าสองหยวน  แต่ณ จุดนั้น ยี่สิบก็ต้องเอาปะวะ.....สะกิดบอกคนข้างๆ....ชั้นว่า ชั้นได้ยินลุงมันพูดว่า เอ้อสือ...ยี่สิบว่ะ ไม่ใช่  2 หยวนที่เราได้ยินทีแรกนะ มันถูกรึแพงวะน่ะ ใกล้ๆ แค่นี้ สามล้อนั่งหัวปลิวอีกตะหาก.....เอาไว้ถึงที่หมายค่อยว่ากัน นะ...

ไม่ผิดหวังคับท่านผู้ชม....แม่ง พาผ่าทุกไฟแดงที่มี....ถึงจะไม่ได้บอกลุงแกว่าปวดขรี้ แต่ทำไมแกเหมือนจะรู้ใจยังไงพิกล   แต่ถึงจะพาฝ่าไฟแดง ไม่รู้ว่า ด้วยรถขนาดมอเตอร์ไซค์ที่ต้องแบกภาระบรรทุกป้าตัวกลมๆ สองคน ร้อยกว่าโล กำลังของรถไม่พอหรือไร....เมิงชีลมากกกกกกกกกก..(แต่ผ่าไฟแดง เพื่อ?)  ลัดเลาะๆ ไม่รู้อ้อม หรือเปล่า เข้าตรอกซอกซอย วกไปวนมา....กว่าจะถึงที่หมาย
พอจอดหน้าโรงแรมปุ๊บ....ยอมทิ้งเพื่อน ก็ได้แต่บอกคนข้างๆ ว่า "กุไปก่อนละนะ เมิงคุยตกลงกะแป๊ะเอาเองแล้วกัน ว่าจะ 2 หยวน รึ 20 หยวน"  อย่าตีกันล่ะ....อย่ายอมแพ้มันด้วย  ละพุ่งปรู๊ดดดด ปานสายฟ้าแล่บ ไปกดลิฟท์...รร. จะสูงไปไหนวะคะ

สายรายงานว่า พี่ไทยชนะไป 1-0 ด้วยการตีหน้ามึน ถึงแม้แปะจะบอก 20 หยวน พี่ไทยก็หน้ามึนให้ไป  2 หยวน จนในที่สุด แปะยอมแพ้ เอาแค่ 10 หยวนพอ...ขี้เกียจเถียงกะอิเจ้หน้ามึน  วันรุ่งขึ้นคับข้องใจ กลับมาถามไกด์ ไกด์บอกว่า ส่วนใหญ่ ก็จะประมาณ 20  หยวนแหละ แพงกว่าแทกซี่  คนเค้าใช้ขนของกัน แล้วนั่งไปด้วย (รมณ์ประมาณ เวสป้าสำเพ็ง) แต่ มันอันตรายมากกกกกกกกกกก ไม่มีใครเค้านั่งกัน คนที่นี่ก็ไม่ค่อยนั่งกันหรอก ถ้าไม่จำเป็น เพราะมันซิ่งมากกกกกกกกกก (หรออออออออออออ)  โอเค 10 หยวน ถือว่า เป็นค่าประกันความเสี่ยงแล้วกันนะแปะ....แหะ แหะ แหะ


ตอนเช้า....ระหว่างทางเดินไปเป่ยจิงลู่ มีอาหารเช้าเปิดขายหลายร้าน ราคาไม่น่าแพง  ดูดิ มีทางเท้า จักรยาน และคนพิการ......เจริญกว่าไทยเห็นๆ 

แวะไหว้พระนิดนุง ไหนๆ ก็เดินผ่านแล้ว

วัดอะไรไม่รู้เบยยย

เช้าๆ คนโล่ง

ได้เที่ยวแค่เนี๊ยย ก็ต้องรีบหอบข้าวของไปหนามบินละ....
เอา  facility หนามบินมาฝาก ดูสิ รถเข็น ต่อไวไฟได้ เอาบาร์โคทที่ตั๋วมาสแกน แล้วบอกไฟล์ บอกรายละเอียด มีแจ้งเตือนเวลา  อย่างของเรา เกทที่ตั๋วบอกอย่างถึง แต่เอาเข้าจริงย้ายเกท อิเครื่องนี่ บอกตรงกว่าตั๋ว มีหนังให้ดู มีรูให้เสียหูฟัง เริดป่ะล่ะ ประเทศไทยถ้าไม่กินอิฐหินปูนทรายเป็นอาหารกัน คงได้เทคโนโลยีแบบนี้มาใช้บ้างแหละนะ 

จบทริประลึกความหลังแบบห้วนๆ  ไว้เจอกันใหม่เมื่อชาติต้องการ...ที่ไหนดีน๊า






Create Date : 18 มกราคม 2556
Last Update : 19 มกราคม 2556 0:54:01 น. 3 comments
Counter : 6504 Pageviews.

 
นั่นกิ ไปไหนดีน๊าาา


โดย: ตัวแรก IP: 27.55.2.66 วันที่: 19 มกราคม 2556 เวลา:9:20:22 น.  

 
จบทริปด้วยการ คุยให้คนที่บ้านฟังว่า รถเข็นกระเป๋าที่สนามบิน เจ๋ง อ่ะนะ อยากให้ที่ไทยมีแบบนี้บ้าง


โดย: มี๊เอ สามออ IP: 182.53.99.40 วันที่: 19 มกราคม 2556 เวลา:19:29:23 น.  

 
ขอเมล์ติดต่อได้ป่าวค่ะ อยากถามเรื่องไกด์ค่ะ


โดย: Boobee IP: 223.205.107.168 วันที่: 28 พฤษภาคม 2556 เวลา:23:17:48 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.