กุ๊ดจัง
Location :
นนทบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 75 คน [?]




ไม่มีสาระ...จริงๆ นะ..

แต่ถ้าหลวมตัวมาแล้ว จะแอบอ่านก้อไม่ว่ากัน ถ้ารับแนวเถื่อนนิดๆ ถ่อยหน่อยๆ แต่จริงใจได้ ^_^

คิดถึง ถูกใจ ก้อเจิมกันสักนิดนุง แต่ถ้าไม่ถูกใจ มาทางไหนเชิญกลับไปทางนั้น ไม่ต้องเม้นไว้ให้เปลืองมือนะ ฮ่าๆๆ
HighStudio

สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์
บทความ โดย littlemiumiu.com อนุญาตให้ใช้ได้ตาม สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ต้นฉบับ.
อยู่บนพื้นฐานของงานที่ www.littlemiumiu.com.
การอนุญาตนอกเหนือจากที่ระบุไว้ในสัญญาอนุญาตนี้ อาจมีอยู่ที่ www.littlemiumiu.com
Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2553
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
12 พฤษภาคม 2553
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add กุ๊ดจัง's blog to your web]
Links
 

 
หนีลูกเที่ยว : ตอนที่ 1 แม่แอบไปเป็น Backpacker ณ Merlion land

...ก่อนหน้านี้ ป๊าเชี่ยว หนีเที่ยวไปแล้ว 10 วัน....ได้เวลาเอาคืนบ้างล่ะ..เอ้ยย ไม่ช่ายยยย...

เล็งๆว่าจะไปมาหลายที่แล้ว สิงค์โปร์เนี่ย หาข้อมูลมาเก็บๆๆ ไว้ หลายรอบมาก แห้วแล้วแห้วอีก ไม่ได้ไปสักที อยากจะตะลุยเที่ยวๆกินๆ ช็อปปิ้งมานานแระ ดั๊นน มีก้างมาขวางแล้วขวางอีก แห้วไปหลายรอบ ต่อไปนี้ล่ะ..ลูกโต ไปโรงเรียนพอจะฝากได้บ้างแล้ว หรือไม่ทริปไหนเด็กไปได้ ก็โดนเรียนไปด้วยกันโลดดดด โรงเรียนของหนู คือโลกกว้าง ชิมิ...ฮิฮิฮิ จนสุดท้าย โอกาสเหมาะ ป้านุชต้องไปมิตติ้งที่สิงค์โปร์ แล้วต่อด้วยเสาร์อาทิตย์พอดี

ทริปนี้ จะเป็นสมูทไรด์แอนด์ทราเวิล ไม่ได้ ถ้าปราศจากคำแนะนำดีๆ และความช่วยเหลือจากพี่แจง kiss_j สุดสวย...ที่ลิสต์ชื่อร้านช็อปปิ้งทั้งหลายแหล่มาให้ วงมาในแผนที่เสร็จสรรพ พร้อมทั้งให้ยืมซิม star hub ให้ใช้โทรกลับมาหาลูกน้อยหอยสังข์+ บัตร Ezy Link ด้วย...ต้องขอบคุณพี่แจงด้วยคร่าาาา...

แผนที่ประเทศสิงค์โปร มีแจกฟรี ที่ การท่องเที่ยงสิงค์โปร ตึกยูไนเต็ด สีลม..และ visitor center ต่างๆ หาข้อมูลกันเอาเองเด้อ...ละเอียดใช้ได้ มีเอกสารแจกฟรีเยอะมากๆๆ รีเควสทางเว็บไซท์แล้วให้ส่งมาที่บ้านก็ได้ ใช้เวลานิดนึง

การเดินทาง : จองค่อนข้างกระทันหัน 2 อาทิตย์ก่อนเดินทาง เพราะเพิ่งรู้วัน และเพิ่งตัดสินใจได้ ทางเลือกแบบประหยัดๆ ก็มี Tiger กับ Jetstar แต่ด้วยความที่ Tiger ต้องไปขึ้นลง Budget Terminal ลูกเมียน้อย กลัวอดช็อบปิ้ง (ทั้งที่หลายคนว่า Changi Airport ของไม่ได้ถูกเลย แต่ก็ขอหน่อยนะ นิดหน่อยก็ยังดี..ฮ่า)
เราเลยเลือกเดินทางกับ Jetstar ขาไป เลือกแบบ Jetsaver Light คือ ไม่โหลดกระเป๋าเดินทาง..สัมภาระ ขนได้ 10 โล จากในเว็บ Jetstar คือ รวมกระเป๋าทุกใบที่หิ้วขึ้นเครื่อง น้ำหนักรวมกันต้องไม่เกิน 10 โล เอาเข้าจิงๆ วันแพคของ กระเป๋าเดินทางอย่างเดียวหนัก 2-3 โล เจอของข้างในเข้าไป ขนาดว่าขนไปไม่เยอะนะ เอาออกไปเยอะแระ...รวมๆแล้วก็ 8 โล เป้หลัง ที่ใส่พวกเอกสารต่างๆ พาสปอร์ต หนังสือ กล้อง(G10 กับ A480) และจุกจิกนิดหน่อย รวมกันแล้ว 11 โลกว่าๆ
ตุ้มๆต่อมๆ เล็กน้อย ว่าเขาจะชั่งกระเป๋าทุกใบไหม..เพราะปรกติ handbag ไม่ค่อยโดนชั่ง (น้องเราบอกว่า ไม่ชัวร์เสมอไป แล้วแต่สายการบิน)
เอาเข้าจริงๆ ที่หน้าเค้าเตอร์ พนักงามถามว่า เอาอันไหนไปบ้างคะ..เราก็ยกใบใหญ่ขึ้นชั่งอันเดียว เนียนๆ ไป เขาก็ไม่ซีเรียสขอชั่งนะ..นน.เลยผ่านฉลุยสบายๆไป

แต่..ต้องอย่าลืมว่า พอไม่โหลดกระเป๋าเดินทางแล้ว ข้าวของใช้ พวกยาสระผม สบู่ และอื่นๆ ต้องมีขนาดไม่เกิน 100 ml/ชิ้น และใส่ถุงซิบให้เรียบร้อยนะ!!!!!!! ไม่งั้น จะต้องโยนทิ้งเหมือนเรา...ดันงก ซื้อสบูแบบพกพา คิดว่าขวดเล็กแล้ว ไม่ได้ดูปริมาณ ยี่ห้อแรก 90ml ราคา 20 กว่าบาท ไม่เอา..เอาอีกอัน 120ml ราคาเท่ากัน เพราะมันเยอะกว่า....
พอถึงคราวต้องโยนทิ้งล่ะร้องอ๋อเลย...โอ๊ยย รู้งี้ กรูเอาอิขวด 90ml ซะก้อดี..เป็นไงล่ะ งกนัก ไม่ได้ใช้เลยสักอัน
นอกจากนี้ โดนที่ตัดเล็บ ยี่ห้อ Trim รุ่นที่มันดันมีมีดอันจิ๋วๆๆ จิ๋วมากๆๆๆๆ อยู่ในเซ็ทเดียวกันด้วย เลยต้องโยนทิ้ง งัดออกมาแต่ที่ตัดเล็บก้อยังดี..แพง ลืมซะสนิทติดพันมาจากทริปภูเก็ตก่อนหน้านั้น แล้วมันติดอยู่ในกระเป๋าเดินทางซะงั้น..

จองตั๋วทางเว็บไซท์
จองที่พัก ทางเว็บไซท์ ใช้ paypal จ่ายตังค์ พิมพ์อีเมล์และแผนที่ออกมาไว้ เพื่อความชัวร์
จอง Universal Studio ทางเว็บไซท์ตรงแล้วพิมพ์ Ticket ออกมา ขี้เกียจซื้อผ่านโน่นนี่แร้ว ไม่มีเวลา เพราะ ติดทริปภูเก็ตก่อนหน้านั้นด้วย ต้องรีบจัดการทุกอย่างให้เสร็จก่อนสิ้นก่อนไป

แผนการณ์คร่าวๆ 6-9 พค. ยืดหยุ่นได้ตลอดอะเรา เพราะเที่ยวคนเดียว ไปคนเดียว สบายๆ อยู่ละ มีป้านุชมาแจมด้วยวันที่ 8 วันนึง

วันที่ 6 ถึงรร. Park Hotel Clarke Quay ประมาณบ่าย 2-3 จากนั้น ไปเดินเล่นหาไรกินแถวๆ Chinatown หรือ ห้าง Central ใกล้ๆ เพราะถึงตอนนั้น คงหิวหน้ามืด เพราะไม่ได้กินไรแต่เช้า
เดินเล่น Chinatown และบริเวณใกล้เคียง จากนั้น ไป IKEA Alexandrea (ประเด็นสำคัญ ไม่พลาดๆๆๆ) และกลับมาเดินเล่นต่อแถวๆ Clarke Quay
Check point ใกล้ๆ เช่น Mica building เห็นเขาถ่ายรูปมาสวยดี

วันที่ 7 เช็คเอ้า แล้วเอาของไปทิ้งไว้ รร. แถว little india เดินเล่นบริเวณใกล้เคียง เช่น Arab street/Bugis ก่อนไปปิดท้าย แถว Orchard ตกเย็นไป City Hall/Marina square/ Esplanade/Merlion อะไรแถวๆ นั้น
Check Point คือ Arab street/Merlion/Esplanade/Fountain of Wealth@suntec building

วันที่ 8 Universal Studio จากนั้น ตอนค่ำ เดินเล่น Vivo/Harbour front/ Henderson Wave bridge หรืออาจจะไปเก็บตก IKEA อีกรอบ


เอ้า.....เริ่มเดินทางกันเลย

ออกจากบ้านตั้งแต่ 6 โมงกว่าๆ นั่งแทกซี่ไปเอง เพราะเชี่ยวต้องไปส่งมิวมิวที่โรงเรียน...เจอค่าแทกซี่เข้าไปถึงกะปาดเหงื่อ เช็คอิน โน่นนี่ เรียบร้อย เดินเที่ยวเล่น นั่งอ่านหนังสือรอขึ้นเครื่อง
หน้าตาเครื่อง jetstar เป็น airbus something ไม่ได้ขี้เหร่อย่างที่คิดไว้ (อิเมจิ้นว่า โลว์คอสมันจะทุเรดกว่านี้)..มีงวงมาเทียบ เบาะหนังนั่งสบายตรู เรียกขึ้นทีละแถว เราเพิ่มเงิน 50 บาท ระบุที่นั่งเอง เลือกที่นั่งตามชอบใจได้ทั้งขาไปและกลับ สนนราคาค่าตั๋วไปกลับ รวมทุกสิ่งอย่าง 4 พันปลายๆ
บนเครื่องหนาวมาก..ทางที่ดี อย่าลืมเสื้อคลุมแบบเรา..-_-''


ใช้เวลาบิน 2 ชม. กว่าๆ ออกจากสุวรรณภูมิ 9.30 น. ไปถึงสิงคโปร์ เที่ยงกว่าๆ
ลงเครื่องเทอมินัล 1 ผ่านตม. ตม.โหดเล็กน้อย ถามว่ามาคนเดียวหรอ..ขอดูตั๋วขากลับหน่อย ให้ดูแล้วก็ผ่านๆไป รับกระเป๋า ตามสเต็บ
แผนที่สนามบินชางงี


ด้วยความงก..เราจะไม่ใช้แทกซี่กัน....เลยนั่ง skytrain ไป T2 เพื่อไปขึ้น MRT (อันนี้ถ่ายขากลับ ขาไปมัวแต่กะเหรี่ยง อ่านป้าย ลากกะเป๋า ไม่ได้ถ่ายไรเลย)
เดินตามป้ายไปโลดๆ ไหลตามคนไปเรื่อยๆ


หน้าตาเป็นแบบนี้ ไม่มีคนขับง่ะ พอสุดท้าย สับสวิตช์ วิ่งกลับไปกลับมาเอง(พอดีนั่งตรงหัวรถ ได้ยินเสียงมันสับสวิตช์ดังปั่กก ตกกะใจ)


จาก T2 อ่านป้ายมาเรื่อยๆ ลง MRT หน้าตาสถานนี MRT ที่ Changi


จากบันไดเลื่อน เดินกลับหลัง จะเป็นป้าย Ticket ก็เดินไป เพื่อเช็คเงินในบัตร ezy link และเติมเงินเพิ่ม จะมีเจ้าหน้าที่ใส่เสื้อสีเลือดหมู คอยช่วยเหลือ กรณีบ้านนอกแบบเรา เขาจะคอยบอกให้ว่าทำไงบ้าง
วิธีการคือ..เอาบัตรไปวาง ตรงที่วาง....กดปุ่มที่ต้องการ Add Money>>Cash>> ขั้นต่ำ 10$ สอดแบ้งเข้าไป
จากนั้น รอให้ไฟเขียวดับ เอาบัตรออก เป็นอันเสร็จ..(ลืมถ่ายรูปมา ยืมรูปมาจากกูเกิ้ลละก๊ะ)


แผนที่ MRT เส้นที่เราจะใช้ จากสนามบิน ไปโรงแรมคือสีเขียวและไปต่อสีม่วง แรกๆ ก็งงๆ เล็กน้อย ใช้ไปสักพัก จะเริ่มชิน สีม่วงสีเขียวสีแดง ที่ใช้หลักๆ
สายใหม่ คือ circle line ยังสร้างไม่เสร็จดี ในแผนที่ท่องเที่ยว ดูเหมือนจะไม่มี แต่ขอบอกว่าคนโล่งมากกกกกกกกก



จุดหมายของเราคือ clarke quay จึงขึ้น MRT ไปต่อ 3 ต่อ ณ บัดดล...


ก่อนจะมา..ก็แทบจะไม่ได้หาข้อมูลอะไร นอกจากหยิบแผนที่มากางๆ ดูๆ..งงๆ อยู่ว่า ทำไม ใครๆ ก็บอกว่า สิงค์โปรนี่มันไปง่าย เดินทางง่าย สะดวก เอาเข้าจริงๆ ก็เห็นจริงดังเขาว่า เพราะป้าย ค่อนข้างเคลียร์มาก การ transit ที่ Interchange ต่างๆ มีป้ายเยอะแยะไปหมด เสียงประกาศดังฟังชัด เตือนถ้าจะต้องไปต่อสายอื่นๆ ที่สถานนีก็มีป้ายบอกอีกว่าอยู่ไหนแล้ว ก่อนจะออกจากสถานนี ก็เช็คสักหน่อยว่าตัวเองอยู่จุดไหน แล้วต้องไปออกที่ exit ไหน...มิฉะนั้น อาจจะเบลอ ไหลตามคนไปเรื่อยๆ ไม่รู้ว่า ตัวเรานี้มาโผลแห่งหนตำบลใด ถนนสายไหน จะเสียเวลาเดินงมกลับไปใหม่

ทุกครั้ง ที่เราทำหน้าตาบ้านนอก...กางแผนที่ ยืนงม มักจะมีอากงบ้าง...แขกบ้าง อาเจ๊บ้าง เดินเข้ามาถาม ว่าเราหาอะไรอยู่หรือเปล่า เสมอๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ดูจากไม้ยมก คงไม่ต้องบอก ว่ากี่รอบ...ขนาดว่าเราว่า ตัวเองอ่านแผนที่เก่งล่ะนะ มีเซ้นส์ในเรื่องทิศทางพอประมาณ (ไม่ค่อยชมตัวเองเลยเนอะ) ก็มีบ้างที่แอบเอ๋อ..อยู่ดีๆ ก็เบลอขึ้นมา ว่า เราอยู่ที่ไหนหว่า บางทีเดินช็อปปิ้ง เข้าห้างโน้น ทะลุห้างนี่ แล้วมันชวนให้มึนอย่างแรง แถมพอตกเย็นๆ ค่ำๆ เดินจนขาชา ไม่อยากจะก้าวแล้ว การเดินวนอ้อมไปดู หรือเดินไปดูชื่อถนนที่เห็นอยู่ลิบๆ ก็เป็นเรื่องขี้เกียจไปซะแล้ว กางแผนที่ งมๆ ถามๆคนแถวนั้นเอาง่ายกว่าเยอะ (ถ้าไม่เจอคนช่วยมั่วน่ะ)


เมื่อถึงที่หมายลงที่สถานนี Clarke Quay เดินทะลุห้างเซ็นทรัล ออกมาเดินเลียบแม่น้ำสิงค์โปร ข้ามสะพานข้ามแม่น้ำ ตามที่พี่แจงลากเส้นไว้ในให้แผนที่ เดินๆๆๆๆ มุด underpass เป็นอันถึงโรงแรม..แฮ่กเล็กน้อยแต่พองาม ด้วยอากาศร้อนจัด และหญิงสาวบอบบางเช่นเรา จะสมบุกสมบันงกไปไหน...นึกถึง อิรถไฟ 4 ต่อ และเส้นทางที่เดินมาแล้ว แล้ว รู้งี้ กรูเรียกแทกซี่ดีกว่า โฮกกกกกกก

ข้ามสะพานมา มองกลับไปเห็นห้างเซนทั่น


กลางวันเงียบสนิท คนน้อยๆ ต่างกับกลางคืนลิบลับ




มุดใต้ถนน ไม่ต้องวิ่งๆๆ ข้ามเป็นกะเหรี่ยง ขวามือที่เห็นตึกขาวๆ หลังคาส้มๆ คือ โรงแรม ดูจากแผนที่ ไม่ไกลมาก พอเดินได้...วัดๆแล้ว แค่นิ้วกว่าๆ แต่เอาเข้าจิงๆ ดูเดะ นี่เดินมาแล้วครึ่งทางนะ


ทางเดินลอดใต้สะพาน..ถ้ารมณ์เมืองไทย นี่จะเหม็นฉี่ ที่เยี่ยวหมา สกปรก ซกมก เดินผ่านต้องกลั้นหายใจไรงี้ แถมด้วยมีมอไซค์ขี่สวนทางมาอีก(ไม่เคยตายรึไง) อันนี้ คนละเรื่อง


ป้ายรถเมล์หน้าโรงแรม


ห้องพัก..อืมมม แพงแต่ใช่ว่าจะใหญ่ จำได้ว่า เคยไปพัก park hotel บน orchard ตอนมาเทรน หลายปีมาแล้ว..ได้ห้องใหญ่มากกกกกก วิ่งเล่นได้หลายตลบเลยง่ะ มีโซฟา มีโต๊ะทำงาน แต่อันนี้ แคบอย่างที่เห็น




พักผ่อน พอหายเหนื่อย ก็ได้เวลา หาไรใส่ท้อง..รมณ์นี้ หิวหน้ามืดแล้ว ไม่อยากไปเดิน Chinatown ร้อนๆ (เพราะเคยไปแล้ว เลยเฉยๆ) นั่งรถไฟ ไป ลง Harbourfront หาข้าวกินที่ Vivo แล้วไป IKEA เลยดีก่า จัดไป

Food Republic ที่ Vivo...หน้าตา น่ากินหมดทุกสิ่งอย่าง เลือกไม่ถูก..อ่า


นี่ก้อน่ากิน


มาลงเอยที่ร้านนี้


ไม่ชอบลองของแปลกพร่ำเพรื่อ ประกอบกับ ไม่ถูกกับอาหารแขก เลยได้นี่มา รมณ์ประมาณ เนื้อผัดพริกไทยดำ+พริกเผาง่ะ..5$ กว่าๆ โค๊กอีกแก้ว แก้เหนื่อย 2$ มั้ง


นั่งกินไป ก็เห็นร้านนี้ คนมาซื้อเยอะแยะ..ขายไรหว่า กินข้าวเสร็จเดี๋ยวลองดู ฮิฮิ





หน้าตาแบบนี้..ถามคนขาย เขาบอกว่า ทำจากแป้งข้าวเจ้า คล้ายๆ ขนมโก๋ แต่เอาไปนึ่งให้มันนิ่มๆ อุ่นๆ เกาะกันเป็นก้อน มีให้เลือกสองไส้ คือ ถั่ว (คล้ายๆตุ๊บตั่บป่นๆ) กะ ไส้มะพร้าวกวน(เหมือนขนมใส่ไส้)


ก็หร่อยดีเหมือนกันแฮะ อันละ 0.6$ ซื้ออันเดียว คนขายงงๆ เล็กน้อย เลยบอกว่าอยากลองชิม เขาก็ยิ้มๆ ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ยิ้มอยู่ได้ เดี๋ยวคนซื้อละลายนะ ฮ่า


กินเสร็จ ผึ่งพุงเดินเล่นนิดหน่อยก่อนดีกว่า ด้านนอก ชั้นบน มีบ่อน้ำตื้นๆ แค่ตาตุ่ม-เข่า คือดูรูปใครๆ ถ่ายมาก็รู้สึกว่า น่าเล่นตงไหนวะ..น้ำมันดูดำๆ แต่อันที่จิง คือ มันเป็นหินล้างง่ะ...สีน้ำตาล ถ่ายรูปมาเลยดูน้ำดำๆ แต่จิงๆ ใสนะ กลิ่นคลอรีนลอยมาแตะจมูก สะอาดง่ะ เด็กๆ เล่นน้ำกันเพลินเลย



อันนี้ เดินมาตรงลานที่เป็นของเด็กๆ อีกที่นึง จะมีร้านขายของเด็ก พวกเสื้อผ้า รองเท้าและอื่นๆล้อมรอบ


ใน Vivo ดูแค่คร่าวๆ ก่อน เพราะยังไม่ได้กะจะซื้อ


อันนี้ของฝากปั๋ว....ดูเฉยๆ น่ะ อุอุอุอุอุ


จาก ViVo เราเก๊าะ เดินทางต่อ...เข้าไปเว็บ Ikea สิงค์โปร์ พิมพ์แผนที่ และวิธีการเดินทาง พกมาด้วย
โหลดแผนที่และวิธีการเดินทาง สายรถเมล์ไป IKEA by Gade .doc


เลือกนั่งรถไฟมาลง Redhill (คิดว่ามันน่าจะอยู่ระหว่าง Queensway กะ Redhill นี่แหละมั้ง สืบเนื่องมาจาก มันตกแผนที่(แจกฟรี) ไปแล้ว เลยไม่ได้มาร์คไว้

ถ่ายจากตรงข้ามสถานนี MRT มีทางเดินข้ามและสัญญาณไฟให้ คนเยอะแยะ มิต้องกลัว

ข้ามถนนมาฝั่งตรงข้าม ทีแรกก็กลัวๆ ว่า ใช่อันนี้ป่าวฟะ ที่เรียกว่าตรงข้ามสถานที เพราะมองจากข้างบนสถานนี มันเหมือนมีถนนอีกฝั่งนึงด้วย แต่พอเห็นชื่อที่ป้ายรถเมล์ โอเค opp. Redhill Stn. เคลียร์มาก กะเหรี่ยงใจชื้นเลยตรู
จากนั้นขึ้นรถเมล์สาย 33 ไรก็ว่าไป...เอาบัตรแปะๆ ตอนขึ้น กะตอนลง จำนวนเงินในบัตรก็จะโดนตัดไป

กะเหรี่ยงกลัวหลงทาง ลงผิดป้าย เลยถามคนข้างๆ พอดีเขาจะไป IKEA พอดี เลยรอดไป..ลงพร้อมเขาน่ะแหละ ขากลับเลยถามทางกลับ เพราะคิดว่า มันน่าจะไม่ต้องอ้อมไปขึ้นรถไฟ เผื่อจะมีรถเมล์สายที่ผ่าน รร.หรือใกล้ๆ Clarke Quay จะได้ไม่ต้องต่อหลายรอบมาก สรุปคือ มีสายที่ผ่านตรง คือ สาย 123......

เดินเล่นๆ..ของทุกอย่าง ก็มีเหมือนในเว็บ เพื่อประหยัดเวลาการช็อปปิ้ง เพราะมันจะละลานตามาก ลองนั่งดูคร่าวๆ ไปว่าอยากได้อะไรบ้าง แล้วมุ่งมุ่นไม่วอกแวก 55555

เรานี่หยิบเข้าหยิบออกหยิบออกหยิบเข้าอยู่หลายรอบทีเดียว เพราะ พื้นที่กระเป๋ามีจำกัด กลัวว่าจะขนไม่หมด แต่ละอย่าง หนักๆ ทั้งนั้น ส่วนใหญ่จะมีแต่ของลูกน่ะแหละ อย่าสงอื่นไม่ได้ซื้อ เพราะบ้านรก ไม่รู้จะแต่งอะไร


ก็เหมือนๆ ในแคตตาล็อคที่เห็น












จ่ายตังค์ เสียค่าถุงพลาสติกไป 0.1$ ถ้าใครไม่อยากเสีย ก็พกถุงไปเองเด้อ แต่เราไม่ไหวอะ ของหนักมาก ใหญ่มาก...รถเมล์ก็ไม่ไหวแล้น..แทกซี่แล้วกัน
ชวนลุงแทกซี่คุย...แทกซี่คิดว่าเราเป็นคนสิงค์โปร์ แต่พอคุยๆๆ บอกไปว่าที่ขึ้นแทกซี่เนี่ย จิงๆ หลงทางว่ะค่ะ กัวนั่งรถเมล์แล้วต้องเดินไกล ปวดขาไปหมดแล้ว เขาเลยงงๆ ว่าคนสิงค์โปรไรวะ หลงทาง ประเทศก็มีอยู่แค่นี้ ขับรถวันเดียวก็ทั่วประเทศแล้ว..ฮ่า

ถามเขาว่า ปรกติต้องเรียกแทกซี่ที่ taxi stand หรือเปล่า เพราะบางที เราเห็นบางคนก็โบกเอาเลย บางคนก็ยืนรอ เขาบอกแล้วแต่ ถ้าในเมือง ไม่มีที่จอด ก็ต้องเรียกตามป้ายอย่างเดียว ถ้าออกมาข้างนอก ก็โบกเรียกได้ ถ้าโทรเรียก ก็มีชาร์จเพิ่มอีก
ถามว่า เดินกลางคืนปลอดภัยปะ..เขาก็หัวเราะ ก็พอจะรู้อยู่ล่ะนะ ว่าปลอดภัย แต่ถามไว้ก่อน หลายๆความเห็น เพื่อความชัวร์ คำตอบก็แบบที่รู้ๆ อยู่แล้วน่ะแหละ ว่า ปลอดภัยม๊ากกกกกกกกกก (หนูกัวแขกตัวดำๆ อะ...กัวจิงๆ เหม็นมากกกกก)

พอถึงโรงแรม (ลืมไปว่าเป็นช่วง peak ตอนเย็น โดนชาร์จค่าแทกซี่เลย..จาก 6$ กว่า ปาเข้าไป 9 กว่าๆ ) แค่กลับมาลองยัดของใส่กระเป๋าดู ก็ค้นพบความจริงอันน่าตกใจว่า...กระเป๋าปิดไม่ได้..อ๊ากกกกก
(ไม่เป็นไรๆ เรามีแผนสำรอง..ทั้งขยายขนาดกระเป๋า และกระเป๋าผ้าขนาดใหญ่ที่พับได้ ยังไม่ได้งัดมาใช้ สบมยห.)


นั่งพักเหนื่อยให้หายเมื่อยขา ก่อนจะออกไปหาไรกิน Check point ต่อไป คือ ซูชิ ใต้ Central Market ที่ลดราคาตอนเย็นๆ ไปจนถึงค่ำ

ตอนเราไปถึง...ลดจากราคาหน้ากล่อง 1$ คนขายถามว่า...เราเป็นคนสิงค์โปรหรอ...หืมม..หน้าเหมือนเรอะ หรือคนปรกติ เค้าไม่ซื้อกินกัน ฮ่า

อาหย่อยดี แต่บางอัน ชืดไปหน่อย ข้าวแข็งโป๊กอะ แต่ก็โอเชล่ะ...กล่องนี้ 5$


เดินๆ ข้างใต้ห้างเซ็นทรัล จิงๆ มีของกินเยอะแยะเหมือนกัน ก๋วยเตี๋ยว ราคา 4$ เอง ไม่แพงมาก น่ากินด้วย

เจอร้านนี้ ไม่แน่ใจว่าเพิ่งมาเปิดที่นี่หรือเปล่า เพราะคนมุงเยอะมาก แต่จำได้ว่า เพื่อนเคยซื้อไรแนวๆนี้มาฝากจากออส อย่อยๆ เลยแวะไปช่วยมุง



ถุงเล็กแบบธรรมดา 70g ถ้าจำไม่ผิด 2.9$ ถ้าแบบแปลกๆ หรือแบบเฉพาะกิจ เช่น i love mom เข้ากับเทศกาล ก็ถุงละ 3.9$ ได้มา 2 ถุง...ฝากลูก(ข้ออ้าง)


ออกมาเจอ Clarke Quay ยามค่ำคืน สวยมากก..คืนวันพฤใกล้จะหยุดสุดสัปดาห์ มีเวทีเพลงแจ๊สมาบรรเลงกลางลาน ร้านรวง คนเยอะแยะไปหมด



จากนั้น นัดเจอกะป้านุช ไปเดิน orchard ต่อ...ถึงตอนนี้ เมื่อยมากกกกกกกก แต่ก็นะ เวลามีน้อย ทรมานสังขารสักหน่อยจะเป็นไร

นั่ง MRT มาลง orchard ชั้นใต้ดิน ติดกับห้าง ION เลย




MRT หน้า ION


อย่า..อย่า..อย่าาาาาา..ไม่เข้าปายยยยยยยยยยยยยย เราต้องมีหิริโอตัปปะ แพ้เป็นพระ ชนะเป็นมาร ความพยายามอยู่ตรงไหน ความพยายามอยู่ตรงนั้น เราต้องอดทน


แต่ความอดทนคนเรามันก็มีจำกัด..เจอป้ายอะไรแบบนี้เข้าไป ก็เลยนะ...ขอสักหน่อย เข้าร้านนี้ทีไร เจอคนไทยทุกที เดินห้างไหนๆ ถ้าเจอมากันเป็นกลุ่มๆ หิ้วถุง charles&Keith กันล่ะก้อ..ไม่พ้น คนไทย 5555




เดินห้างไม่ทันไร ห้างจะปิดแระ เลยออกมาเดินที่ถนน ได้ไอติมรถเข็น 1$ มากินแก้เซ็ง....หร่อยดี...รมณ์ประมาณไอติมตราลูกเสือ ไอติมไผ่ทอง ไรงี้ ฮ่า


ปิดท้ายด้วยของกินวันแรก ก่อนจะลากขา(ที่ไร้ความรู้สึกไปแล้ว) นั่ง MRT กลับมานอนสลบที่โรงแรม

วันที่ 2 ขอบิ้วรมณ์ก่อน


Create Date : 12 พฤษภาคม 2553
Last Update : 13 พฤษภาคม 2553 18:10:05 น. 14 comments
Counter : 5089 Pageviews.

 


โดย: หาแฟนตัวเป็นเกลียว วันที่: 12 พฤษภาคม 2553 เวลา:18:16:09 น.  

 
ว๊ายเจอข้าวแข็งงี้ไม่อร่อยเลยสิ


โดย: kizz_j วันที่: 12 พฤษภาคม 2553 เวลา:18:39:59 น.  

 
สวัสดีค่ะ...แวะมาทักทายค่ะ


โดย: nootikky วันที่: 12 พฤษภาคม 2553 เวลา:18:46:59 น.  

 
น่าตามไปเที่ยวมากเลยค่ะ
ยังคิดอยู่ว่าจะจองตั๋วเครื่องบินเวลามีโปรถูกๆ
แล้ววางแผนเที่ยวเองจะดีมั้ย

อ่านตรงนี้แล้วได้ข้อมูลเพียบเลยค่ะ



โดย: รุ่นป้าหน้าใส วันที่: 12 พฤษภาคม 2553 เวลา:18:48:03 น.  

 
ได้อารมณ์มากกกกกกกกกกกกกกกกก...

อ่านไป คิด นึก ตาม จินตนาการตามไปด้วย...

เหมือนไปเที่ยว ตปท. ด้วยเรยอ่ะ...

บรรยาย ได้ละเอียด เห็นภาพเลยนะ...

มี๊เกด รู้ป่ะ อย่างมี๊เกด เนี่ย เพิ่มอีกอาชีพเป็นไกด์ได้เรย...

ถ้าพี่เอ ได้ไปเที่ยว สิงคโปร์ น่ะ พี่เอไม่ต้องหาข้อมูลมากเรย มี๊เกด...

ตามรอย มี๊เกด ได้เลยอ่ะ...

นั่งเฝ้าหน้าจอ รอตอนต่อไป อิอิ...


โดย: บ้านสามออ วันที่: 12 พฤษภาคม 2553 เวลา:19:20:18 น.  

 
เหมือนได้ตามไปเที่ยวด้วยเลย
ปล.ชอบรองเท้าสวยมากๆเลยคร่าาาา


โดย: Chic_Angel วันที่: 12 พฤษภาคม 2553 เวลา:21:22:18 น.  

 
แวะมาอ่าน น่าหนุกจิงๆ :)


โดย: O_o IP: 115.67.255.56 วันที่: 12 พฤษภาคม 2553 เวลา:23:18:44 น.  

 
หนีเที่ยวไม่บอกกล่าวเลย เผื่อจะได้ลาลูก ลาปรั๋วไปเที่ยวโตย อิอิอิ รอของฝากดีกว่า ลูกอมน่ากินดี แบ่งมามั่งเร้วว


โดย: แม่ปลาวาฬ IP: 58.9.64.26 วันที่: 12 พฤษภาคม 2553 เวลา:23:37:17 น.  

 
อ่านไปจินตนการไป

เขียนได้สนุกมากเลยค่ะ

การช้อปปิ้งคนเดียวมันเป็นอะไรที่สุดยอดจริง ๆ เลย

อิอิ


โดย: ญา(แม่นูฮา) IP: 58.10.6.87 วันที่: 13 พฤษภาคม 2553 เวลา:0:01:58 น.  

 
เล่าเรื่องสนุก แอบยิ้มตอนอ่าน


โดย: marzo วันที่: 13 พฤษภาคม 2553 เวลา:4:36:36 น.  

 
คิดถึงสิงคโปร์
ตอนไป Clark quey นี่ ไดเจอแขกขายไอติมตูรกีหรือเปล่าคะ เค้าชอบแกล้งคนซื้ออ่ะ


โดย: piterek IP: 124.122.7.159 วันที่: 16 พฤษภาคม 2553 เวลา:22:45:30 น.  

 
เจอค่า....ใจนึงก้ออยากลองกินไอติมอะ แต่กัวโดนแกล้ง เลยยืนดูอยู่ห่างๆ 55555


โดย: กุ๊ดจัง วันที่: 16 พฤษภาคม 2553 เวลา:23:06:24 น.  

 
เขียนดี สนุกสนาน ให้คะแนน 8 จาก 10


โดย: miss universe IP: 58.8.2.15 วันที่: 9 กันยายน 2555 เวลา:9:29:08 น.  

 
เขียนฮาดี อิจฉาคุณพ่อกะคุณลูก ^__^


โดย: กะลังจะไป IP: 210.86.182.238 วันที่: 17 ตุลาคม 2555 เวลา:12:45:57 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.