Bloggang.com : MsBrenda : Californiatrip # 19 : Las Vegas ( 2 )

Californiatrip # 19 : Las Vegas ( 2 )

17.30 น.

พอโชว์น้ำจบพวกเราก็ได้ฤกษ์ move ไปที่อื่นซะที
แค่โรงแรมเดียวเราก็เสียเวลาชั่วโมงกว่าแล้วนะเนี่ย
จาก bellagio พวกเราข้ามสะพานลอยมาอีกฟากนึง ของ the strip

ยังไม่ทันจะลงไปในโรงแรมก็เห็นเสาเรียงกันเป็นแถวๆ
มีเทวดาเป่าทรัมเป็ตอยู่ข้างบนอีกตะหาก อารมณ์อิตาลีสุดๆ
พอเดินลงสะพานลอยไปก็จะมีลาน ( แต่อยู่บนชั้นสองของตึกนะ )
แล้วก็มีร้านอาหารด้วย ให้อารมณ์บริเวณจัตุรัสกลางเมืองมากๆ

พวกเราเดินเลยร้านกันมาสักหน่อย
มองไปมองมาก็เห็นป้ายว่าเป็นโรงแรม ceasar palace อืมม
สรุปว่าคงเป็นโรมันมากกว่าอิตาลีนะเนี่ย
(( หมายเหตุ : สมัยมอปลายไม่ค่อยจะได้เข้าเรียนสังคมซะด้วย
ข้าพเจ้าจึงไม่สามารถอธิบายสถาปัตยกรรมที่เห็นอยู่ได้ดีไปกว่านี้อ่ะ ))

เราเดินเข้ามาในโรงแรมเพื่อมาถ่ายรูปกันต่อ
เราเห็นข้างในแล้วรู้สึกว่าไอ้เทวดาข้างนอกนี่เป็นของเด็กเล่นไปเลยอ่ะ บริเวณ lobby ที่นี่แต่งได้สวยมากอ่ะ
แบบพรม สีเพดาน แล้วก็รูปวาดที่กำแพงดูเข้ากันได้ลงตัวไปซะหมด

ด้านหลัง counter check in ก็มีรูปเทพบุตรกรีกขี่ม้าขาวอยู่ด้วยอ่ะ
ถ้าเดินไปเดินมาแถวนี้แล้วได้เทพบุตรกลับไปสักคนก็คงจะดีสิ อิๆ

ตรงกลาง lobby ของโรงแรมยังมีรูปปั้นด้วย
คิดว่ารูปปั้นนี้คงมีชื่ออ่ะแต่เราสุดที่จะรู้ได้
เห็นแบบนี้แล้วเซ็งตัวเองที่ไม่เคยสนใจเรื่องพวกนี้มาตั้งแต่ไหนแต่ไร
ถ้ามีความรู้มากกว่านี้คงเดินเที่ยวได้สนุกขึ้นอ่ะ

ตอนนี้พวกเราสองคนก็เลยไปถ่ายรูปกับรูปปั้นตามเคย 555
ได้ยินเสียงอาแหววแว่วๆเข้ามาว่าข้างในมันสวยกว่านี้อีก
อย่ามัวแต่ถ่ายกันนาน อิๆ

พอเดินเข้ามาบริเวณ The forum shop
เราก็เห็นว่าจริงของอาแหววแฮะ
เค้าทาสีเพดานเป็นสีท้องฟ้าด้วยอ่ะ
แล้วก็มีรูปปั้นอีกแต่คราวนี้เป็นเทพเติมเอส 55
คือมีเทพถือคทาหลายๆองค์อ่ะแล้วก็มีน้ำตกด้วย
ดูเป็นมุมยอดฮิตที่คนถ่ายรูปกันเต็ม (อีกแล้ว)

ที่เด็ดกว่าคือ มีร้านขายเสื้อผ้าร้านนึง
มีการจ้างนางแบบมายืนเป็นหุ่นใส่ชุดโชว์หน้าร้านด้วยอ่ะ
แต่ผู้หญิงคนนั้นก็สวยจริงๆนะ
ถ้ายืนนิ่งๆก็อาจจะคิดว่าเป็นหุ่นโชว์ได้
แต่นี่พี่แกเล่นโพสท่าให้คนไปถ่ายรูปตลอดเลยอ่ะ
เค้าเลยรู้กันหมดเลยว่าเป็นคน

ฟางชอบเจ๊คนนี้มากอ่ะ ถ่ายรูปเยอะแยะเลย
แต่เราน่ะชอบม้าไม้ จิงๆเป็นแค่หัวกับขาหน้าของม้าเอง
ไม่ใช่ทั้งตัวหรอก แต่ม้าไม้นี่ใหญ่มากๆเลยนะ
แค่นี้ก็คงต้องตัดต้นไม้ไปหลายต้นแล้ว
เราอ่ะสูงอยู่แค่ข้อเท้าม้าเองมั้งง

อาจุ้ยบอกว่าเมื่อก่อนมันขยับได้ด้วย
เราก็เห็นเฟืองอยู่ที่ฐานของม้านะ แต่ว่าวันนี้มันไม่ขยับแฮะ
เลยไม่รู้ว่าตกลงมันขยับได้หรือไม่ได้

พวกเราเดินวนไปวนมาถ่ายรูปอยู่ในโรงแรม ceasar palace อยู่สักพักก็เริ่มหาทางออกกันไม่เจอ
อาจุ้ยบอกว่าเป็นกลยุทธ์ของลาสเวกัสที่ทำให้ทางออกหายากๆ
พอคนเดินวนไปวนมาก็จะต้องเสียเงินโยกสล็อต หุหุ
แต่เราก็ออกมาจนได้แหละ ไม่เสียเงินเลยด้วยยยย
เพราะว่าเราอายุไม่ถึงไง 55

คาสิโนในโรงแรม ceasar palace
คนแจกไพ่ใส่ชุดได้ใจมากอ่ะ

พอออกมาได้ก็มาถ่ายรูปข้างหน้ากันต่อ
ด้านหน้าโรงแรมก็ยังมีรูปปั้นเทพกรีกให้ถ่ายรูปอีกแหละ
บรรยากาศเหมือนไปเดินอยู่ในยุโรปเลย

หลังจากถ่ายรูปกับรูปปั้นกันจนหนำใจแล้ว
อาแหววก็พาพวกเราข้ามถนน Las vegus strip
มาโรงแรม The Venetian กันต่อ

โรงแรมนี้เราแอบเห็นตั้งแต่อยู่บ่นรถแล้วอ่ะว่าเค้ามีคลองกะเรือ Gondolar ให้นั่งด้วย
บรรยากาศคล้ายๆใน Venice นะ
( อันนี้คิดว่า เพราะเราไม่เคยไปเวนิซ เดาเอาจากชื่อโรงแรม อิๆ)

18..... น

เราเดินมาถึงคลองด้านหน้าโรงแรมกันตอนหกโมงหน่อยๆ
แดดยังเปรี้ยงอยู่เลยอ่ะ ที่อเมริกานี่มืดช้านะเนี่ย

อาแหววพาพวกเราเข้าไปในโรงแรมกันก่อน
โรงแรมนี้เพดานทำเป็นท้องฟ้าจำลองเหมือนกับ ceasar palace เลย
แต่สีฟ้าดูสว่างกว่านะ ให้บรรยากาศเหมือนวันฟ้าใส
มีเมฆสีขาวๆแต้มอยู่บนฟ้านิดหน่อย
เสียแต่โคมไฟตามทางเดินดันเปิดสว่างจ้า เลยขัดลูกตานิดหน่อย
เพราะจิงๆถ้าฟ้าใสขนาดนี้ไม่น่าต้องเปิดไฟนะ หุหุ

ข้างๆทางเดินก็เป็นร้านเล็กร้านน้อยขายของเหมือนโรงแรมทั่วไป
แต่ว่าตัวร้านทำสวยมากอ่ะ
เป็นตึกสูงประมาณสองชั้นสามชั้น
เป็นตึกสไตล์ยุโรปดี
คืออออ สไตล์ตึกของเรามีแค่ สไตล์ยุโรป กะ เอเชียซึ่งแยกประเทศได้นิดหน่อย
เท่านั้นแหละ อย่างหวังว่าวิเคราะห์ได้ว่าเป็นยุคมืด หรือ ยุคสว่าง เอ้ย ไม่ใช่
คืออย่าหวังว่าจะได้เรอเนซซองก์ หรือ ยุคอะไรต่างๆนาๆเลย
เราคงสรุปได้แค่ว่า ตึกหน้าตาไม่เหมือนตึกเมืองไทย แล้วก็สวยดี จบ แหะๆ

ทางเดินเค้าก็ปูกระเบื้องรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสสีน้ำตาลเข้มๆอ่ะ
เลยยิ่งทำให้ตัวตึกดูสว่างขึ้น
บรรยากาศต่างประเทศดีอ่ะ

เราเดินวนไปวนมาอยู่ในนี้นานเหมือนกัน
เลยพึ่งรู้ว่าอาแหววตั้งใจจะพามาดูการแสดง
แต่ว่าหาไม่เจอ เลยต้องหากันต่อไป

อ่อออ ขอเปิดประเด็นหน่อย
เราว่าเราเดินวนเกือบทั่วโรงแรมแล้วนะ แต่ก็ไม่เห็นร้าน Starbucks ซะทีอ่ะ
ถือว่าเป็นเรื่องแปลกพอดูเลยนะ
เห็นแต่ร้าน The coffee bean & Tea leaf อ่ะ
หรือว่าร้านนี้เป็นของอิตาลีหว่า อันนี้ก็ไม่รู้เหมือนกันแฮธ

อ่อ อีกเรื่องที่เราติดใจคือ chefกะพนักงาน ของร้าน Johney Rocket Hamberger
เค้าออกมาเต้นโชว์ตรงหน้า counter ใน foodcourt อ่ะ
ทำคล้ายๆ MK สุกี้บ้านเราเลย
ก็ถือว่าเรียกความสนใจได้ดี
แต่ไม่รู้จะมีใครซื้อแฮมเบอร์เกอร์เค้ากินมั้ยนะ
เห็นมีแต่คนถ่ายรูปอ่ะ หุหุ

พวกเราเดินมาเจอลานแสดงโชว์อยู่ตรงใกล้ๆคลองแหละ
ตอนที่เรามาเค้าบอกว่าเป็นการแสดงชุดสุดท้ายของวันพอดี
เห็นมีคนแต่งชุดสมัยเก่าของยุโรป
แบบผู้หญิงก็จะเป็นกระโปรงสุ่มบานๆ
เสื้อผู้ชายก็พองๆตรงปกเสื้อแล้วก็มีผ้าคลุมอ่ะ
อนุมานความเอง ( อีกแล้ว ) ว่าเป็นชุดสมัยโบราณของยุโรปมั้ง
น่าจะคล้ายๆชุดไทยของเรานี่แหละ

นักแสดงกำลังเต้นรำโชว์อ่ะ
อ่ออ มีคนแต่งชุดสวยๆเหมือนกันเล่นดนตรีอยู่ข้างๆด้วย
แล้วก็มีตัวตลกต่อขามาโยนลูกบอลให้ดู
สวยดีเหมือนกันถ้าได้ดูนานๆน่าจะมีอะไรที่สนุกๆกว่านี้
จบการแสดงแล้วเราก็เดินเล่นกันต่อ
จุดเด่นของโรงแรมนี้คงอยู่ที่ Canaletto Ristorante Veneto
คาดว่า เป็นภาษาอิตาลี

ถ้าในเราแปลแบบคนไม่เคยเรียนภาษาอิตาลีมาก่อนเราจะแปลว่า
คลองที่คล้ายๆ Venice canal 555
มานก็คือไอ้คลองแบบที่เราเห็นหน้าโรงแรมอ่ะแหละ
แต่ข้างในนีก็มีเหมือนกัน

เค้าใช้อิฐสีส้มเรียงกันเป็นริมคลองอ่ะ
เท่าที่ดูน่าจะกว้างไม่เกินสิบเมตรนะ

แล้วก็มีสะพานข้ามคลองที่ทำด้วยอิฐเหมือนกันอยู่เป็นระยะๆ
ถี่เหมือนกัน สะพานนี่เอื้อต่อการถ่ายรูปมากๆอ่ะ
ถ่ายรูปมาเห็นคลอง เห็นสะพานข้าม ฟ้าใสๆ
มีเรือกอนโดลากับคนพายหน้าตาหล่อๆ ก็เหมือนอยู่ในเวนิซแล้ว หุหุ

คู่แต่งงานนิยมมาทำพิธีกันบน Gondolar ride นี่เยอะนะ
เห็นหลายคู่แล้วอ่ะ
เค้าจะจัดเรือเฉพาะไว้ลำนึงเลยเป็นเรือสีขาว ทำขอบทองๆ ดูสวยดี
เวลาฝรั่งเค้าจัดงานแต่งงานนี่ดูมีญาติน้อยมากเลยอ่ะ
บางคู่มีญาติสองสามคนเองอ่ะ
ก็ดูส่วนตัวดีแต่ก็ออกจะน้อยไปสักหน่อย
ไม่รู้จะเหงากันมั้ยเนี่ย

อาแหววบอกว่าอาแหววก็มาทำพิธีที่นี่เหมือนกัน
Romantic ดีแฮะ

เดินไปเดินมาอีกสักพักอาแหววก็บอกว่าจะไปซื้อตั๋ว
Gondolar ride อืม
ตื่นเต้นๆ ตอนแรกไม่คิดว่าจะได้นั่งหรอก ท่าทางจะแพง

อาแหววซื้อตั๋วได้รอบ ทุ่มครึ่งอ่ะ อีกประมาณชั่วโมงนึง
พวกเราเลยจะไปดูของที่ระลึกกันก่อน
เราซื้อได้โปสการ์ด ( ตามระเบียบ )
กะป้ายทะเบียนรถจักรยานเขียนว่า Nevada – Las Vegus #1 KIDS
แบบคล้ายๆทะเบียนรถของรัฐ Nevada อ่ะ

ถือเป็นของฝากน้องให้เอามาติดรถจักรยานที่บ้าน …..
เราจะได้ขี่ด้วย อิๆ

สุดท้ายนี้ จะบอกว่า อย่าลืมกลับมานั่งเรือ Gondolar กับเราในวันพรุ่งนี้นะคะ
เพราะว่าเจ้าของบล็อกง่วงมากแล้ว
เด๊ยวพรุ่งนี้จะไปนั่งหลับในห้องเลคเชอร์เสียก่อน

แอปเปิ้ลชุบช็อคโกแล็ต
ขายอยู่ในโรงแรมนี้แล
น่ากินมากๆ

Create Date : 16 มิถุนายน 2551

Last Update : 16 มิถุนายน 2551 2:11:19 น.

7 comments

Counter : 502 Pageviews.

ตามมาเที่ยวเวกัสค่ะ ดูภาพแล้วคิดถึงอยากไปอีก
ได้บรรยากาศเมืองที่ไม่เคยหลับจริงๆค่ะ

โดย: kaajibjib

วันที่: 16 มิถุนายน 2551 เวลา:11:58:37 น.

นั่งเรือร่องแม่น้ำดูโรแมนติคมากเลย

จขบ รักษาสุขภาพด้วยจ้า
เที่ยวจนเหนื่อยเลย

สุดท้ายนี้แอ๊ปเปิ้ลชุบช็อคโกแลตน่าหม่ำมากกกกก

โดย: บ้านอุ่นรัก

วันที่: 16 มิถุนายน 2551 เวลา:16:25:44 น.

เก็บรายละเอียดได้เก่งมากนะคะ จำได้หมดเลย

โดย: prapasri IP: 202.57.169.254 วันที่: 16 มิถุนายน 2551 เวลา:20:53:18 น.

วันไปเวกัสนี่เขียนไว้ตั้งแต่ตอนอยู่ที่โน่นแล้วค่ะ
กลับมาไม่กี่วันก็เขียนเลย
เพราะมันดูมึนๆมากเลยอ่ะค่ะ
ต้องกางแผนที่ไปเขียนไป
ตอนเดินนั่นก็เดินตามอาแหววไปเรื่อยๆ ไม่รู้ทิศรู้ทางเหมือนกัน

รู้แต่จำเวลาได้เพราะแอบง่วงนอน และ หิว

โดย: N3K

วันที่: 16 มิถุนายน 2551 เวลา:22:12:44 น.

ตามมาเที่ยวด้วยคนนะครับ....เห็นแล้วอยากไปเที่ยวบ้างจัง..

ขอบคุณนะครับที่แวะไปเที่ยวบ้านดอย..ยิ้ม ยิ้ม

โดย: doyngam

วันที่: 16 มิถุนายน 2551 เวลา:22:50:49 น.

โดย: บ้านอุ่นรัก

วันที่: 19 มิถุนายน 2551 เวลา:12:25:57 น.

งืมๆ พักนี้วันไม่ค่อยสบายเท่าไรเลยอ่ะค่ะ
รู้สึกทั้งเรียน ทั้งกิจกรรม เยอะๆยังไงไม่รู้
อยากให้วันนึงมีสัก 48 ชั่วโมงจริงๆ

โดย: N3K

วันที่: 21 มิถุนายน 2551 เวลา:1:46:03 น.