ชีวิตที่มึความสวยงามนั้น อาจไม่ได้หมายถึงชีวิตที่มีความ "เต็ม" ในทุกๆด้าน แต่มันเป็นเพียงการที่เรารู้จัก "เติม" สิ่งที่สร้างสรรค์ให้กับชีวิตวันละนิดละหน่อย เหมือนการสร้างประโยคเล็กๆที่ดีๆให้กับชีวิต จนกลายเป็นเรื่องราวที่มีคุณค่าและน่าอ่านในท้ายที่สุด
Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2551
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
3 ตุลาคม 2551
 
All Blogs
 
California trip # 25 : Universal studio & 3 rd street ( ภาค 2 )

ช่วงสองเดือนที่ผ่านมาดูเหมือนว่ามรสุมชีทโหมกระหน่ำเข้ามาในชีวิตเราอย่างตั้งตัวแทบไม่ทัน
แต่ในที่สุดเราก็ผ่านพ้นมาได้
แต่โดยสวัสดิภาพหรือไม่นั่นคงต้องรอดูกันอีกที


ช่วงนี้เริ่มมีเวลาว่างๆมาเปิดบล็อก
พึ่งเห็นว่าเขียนมาถึงวันที่ 15 เอง ประมาณครึ่งทริปได้นะเนี่ย
(( ก่อนหน้านี้เข้าใจว่าใกล้จบแล้ว แหะๆ ))
เอาเป็นว่าช่วยกันลุ้นให้เราอัพได้จนจบด้วยก็แล้วกัน
สาธุ ๆๆ …. ( จริงๆ ตอนสุดท้ายเขียนไว้แล้วนะ ต้องตั้งใจเขียนและอัพเพื่อให้สิ่งที่เขียนไว้ไม่สูญเปล่า แหะๆ )


16 เมษา 2008

หลังจากอาจุ้ยเบี้ยวไปเมื่อวาน
วันนี้พวกเราก็ได้ไป universal studio เสียที
เป็นสถานที่เที่ยว prototype ของ LA มากๆ
ประมาณว่าใครมาก็ต้องมาเที่ยวอ่ะ

เรียกว่าต้องผืนสังขารตื่นกันอีกครั้ง
เพราะเมื่อวานกลับมาดึกแสนดึก (( สมัครใจไปตีแบดเองนี่เนอะ รู้สึก )

ระหว่างทางจากลานจอดรถไปประตูเข้าพวกเราก็เดินดูร้านรวงต่างๆไปเรื่อยๆ
ที่นี่ร้านค้าน่ารักมากเลยอ่ะ
ถือเป็น Jumba juice กะ Starbuck สาขาที่สวยที่สุดที่ได้เห็นในทริปนี้แล้วเนี่ย



เดินกันมาเรื่อยๆก็ถึงด้านหน้าของ universal
เราแวะถ่ายรูปกับลูกโลกเพื่อยืนยันการมาถึง 55
คนยังไม่ค่อยเยอะเท่าไรอ่ะ เพราะเช้าอยู่มั้ง


เสร็จแล้วก็ต้องไปยืนรอคิวซื้อบัตรกันตามปกติ
ต้องรอนานเหมือนกันเพราะคนขายตั๋วโฆษณาบัตรอาหารกับทุกคนเลย
ประมาณว่าเค้ามีบัตรที่จ่ายเหมาแล้วกินอะไรก็ได้ในนั้นทั้งวันอ่ะ
ตลกดี
เพราะจิงๆถ้าเค้าไม่ซื้อส่วนมากก็จะไม่ซื้อทั้งกรุ๊ปอ่ะแหละ
น่าจะเหนื่อยนะ ต้องพูดเพิ่มขึ้นตั้งหลายประโยค 55



หลังจากหลุดจากแถวหน้าประตูเข้าไปได้
อาจุ้ยก็เริ่มวางเล่นเครื่องเล่นต่างๆ
เครื่องเล่นในนี้เค้าจะเปิดให้เข้าเป็นรอบๆไปอ่ะ
พวกเราก็เดินตามอาจุ้ยไปเรื่อยๆ



ไปถึงก็ประเดิมเครื่องแรกด้วยบ้านผีสิงกันเลยทีเดียว
บ้านผีสิงที่เมืองไทยนี่ไม่กล้าเข้า ต้องหัวสูงเล่นที่อเมริกา อิๆ
แต่ผลสุดท้ายก็เล่นได้ไม่จบอยู่ดี ออกกันมาก่อน แหะๆ
สรุปไม่ว่าจะเป็นผีไทยหรือผีนอกก็น่ากลัวอยู่ดี



หลังจากประเดิมด้วยเรื่องน่ากลัวๆเราก็มาเล่น Mummy กันต่อ
พวกเรามีเรื่องตื่นเต้นกันตั้งแต่ยังไม่ต้องขึ้นไปเล่น
กับล็อกเกอร์ฝากของอัตโนมัติด้านหน้าเนี่ยแหละ วุ่นวายมาก
เพราะพวกเรามีคนลืมของ เลยต้องเปิดเข้าเปิดออกหลายรอบ
เล่นเอาใจหายใจคว่ำเพราะตอนแรกเปิดกันไม่เป็น
( แล้วไปว่าเค้าใช่มะ แหะๆ )











บันไดเลื่อนยาวเหยียดเพื่อลงไปเล่นเครื่องเล่นข้างล่าง



แค่เครื่องแรกก็เล่นเอาน้ำในหูเราสะเทือนไปไม่น้อย
ลงมาก็เกิดอาการมึนๆ เวียนหัวได้ที่
เราว่าเป็นเครื่องเล่นที่หวาดเสียวที่สุดในนี้แล้วแหละ
เราตกใจตอนที่จอดอยู่นิ่งๆแล้วมีภาพแมลงไต่ออกมาเต็มไปหมดเลยอ่ะ
ไม่ทันคิดว่าจะมีแบบนี้ด้วย
นึกว่าจะมีแต่เหวี่ยงไปเหวี่ยงมา











ออกจาก Mummy เดินมาก็เจอ Jurassic park
คราวนี้แอบเสียวแล้ว นึกว่าจะเหมือนกัน
แต่ก็ไม่ได้มีอะไรให้ตกใจเท่าไรนะ
ประทับใจที่ทางเข้าตื่นตาตื่นใจดี
เค้าทำเป็นประตูเปิดเหมือนเปิดเข้าไปในดินแดนมหัศจรรย์สักอย่าง
ระหว่างทางก็มีเสียงประกอบไปเรื่อยๆ ช่วยเสริมให้ดูอลังดี
แต่ไดโนเสาร์ไม่น่ากลัวเท่าไร 55







รูปนี้ขโมยถ่ายมาแบบใช้กล้องตัวเอง
จริงๆเค้ามีกล้องอัตโนมัติอยู่แล้วขายรูปอ่ะ
รูปนึงแพงเหมือนกัน 7-8 เหรียญ พวกเราก็เลย ถ่ายเอาดีกว่า แหะๆ







เล่นกันพอเป็นพิธี ก็ขึ้นมานั่ง minibus ดูไปรอบๆ studio อ่ะ
เราเข้าใจว่าคงเป็นฉากที่เค้าใช้ถ่ายทำหนังเรื่องต่างๆอ่ะแหละ
ด้วยความที่ไม่ค่อยจะได้ดูหนังเท่าไรเราก็เลยนั่งฟังที่เค้าบรรยายไปเรื่อยๆ
ถ้าเคยเห็นฉากพวกนี้ในหนังมาก่อนก็น่าตื่นเต้นดีนะ









รูปนี้รู้สึกจะเป็นฉากของเรื่องคิงคอง มั้งงง









อันนี้เค้าบอกเป็นฉากใช้ถ่ายหนังอ่ะ แต่จะเรื่องอะไรก็มิรู้เหมือนกัน



ลงจากรถก็ได้เวลากินข้าวกลางวันของพวกเรา
เป็น panda express อาหารจานด่วนแบบจีนๆอ่ะ อร่อยดี แต่ให้เยอะอีกตามเคย

ช่วงบ่ายเราก็ไปเล่นนู่นเล่นนี่กันต่อ
เราได้แก้วลาย mummy มาฝากเพื่อนสนิทใบนึง
เป็นแก้วที่ก่อวิบากกรรมให้เราไม่น้อย เพราะต้องหอบหิ้วไปนู่นไปนี่มากมาย
กลับมาแล้วค่อยเห็นว่าก้นแก้วเขียนว่า made in china
มันยังแซวเรื่อยๆอยู่เลยว่าหาซื้อเอาแถวนี้รึเปล่าวะ



พวกเราเดินเตร็ดเตร่ถ่ายรูปอยู่ใน studio จนเค้าประกาศว่าจะปิดแล้ว
เรียกว่าถ่ายกันให้คุ้ม








รูปนี้เป็นร้านขายหมวก อยู่บริเวณทางออกจาก universal studio
มีหมวกลายสวยๆเยอะแยะ แต่แพงไปหน่อยง่ะ



ออกจากที่นี่เราก็มีแผนไปเดิน 3 rd street กันต่อ
วันนี้คงไปถึงเร็วหน่อย พอได้เห็นบรรยากาศบ้าง
ไม่เหมือนเมื่อวานไปถึงช้าเกิน เค้าเก็บกันหมดแล้ว



ช่วงหัวค่ำที่ 3 rd street นี่บรรยากาศครึกครื้นไม่น้อยเลยทีเดียว
พวกเราเดินดูตามร้านขายของที่เรียงรายอยู่ริมถนนไปเรื่อยๆ
มีร้านขายของแปลกๆ แหวกแนวอยู่ไม่น้อย
ฟางได้กล้อง “ โลโม” มาอันนึง
ประมาณว่ายังเป็นกล้องใช้ฟิล์ม ดูแนวๆอ่ะ
แต่ก็ตลกดีเหมือนกัน ไม่รู้เจ้าตัวลองถ่ายแล้วเป็นยังไงบ้าง


มีร้านหนึ่งขายหนังสือทะลึ่งๆด้วย
แต่หน้าปกไม่ค่อยสื่อเท่าไรนะ
ด้วยความที่แปลชี่อหนังสือออกแต่ไม่หมด
เราเลยลองเปิดดูไปเรื่อยๆ เห็นแล้วก็ตกใจเหมือนกัน 55



วันนี้ตามข้างมีนักดนตรีอิสระเล่นดนตรีอยู่ประปราย
ช่วยทำให้ถนนสายนี้ดูมีชีวิตชีวาขึ้นเยอะเลย
พวกเราติดใจนักดนตรีคนหนึ่ง เป่าแซ็คโซโฟนอยู่ข้างๆร้านอาหารบรรยากาศหน้านั่ง
อาจุ้ยก็เลยนำทีมพาหลานๆเดินเข้าร้านอย่างไม่ต้องลังเล
แต่ปรากฏว่าฟางซึ่งเดินนำหน้าเราโดนดึงแขน กักไว้หน้าร้านเสียก่อน
ประกอบกับขอ ID card อย่างจิงจัง
สรุปว่าร้านนี้น่าจะเป็นร้านอาหารกึ่งผับ พวกเราสองคนเข้าไปไม่ได้นั่นเอง
ที่นี่เค้า strict จริงๆนะเนี่ย ดึงซะตัวปลิวตามแรงเค้าออกมาเลยง่ะ
พวกเราเลยอดอีกแร้ว ตามระเบียบ น่าจะอายุมากกว่านี้อีกสักปีสองปีเนอะ



พวกเราเดินเตร็ดเตร่ดูของไปเรื่อยๆ จนร้านรวงเค้าเริ่มปิดกันไปบ้างเลยขับรถออกมาหาร้านอาหารกัน
วันนี้อาหารมื้อดึกของฟางเป็นอาหารไทยตามระเบียบ เป็นร้านเดิมที่พวกเราเคยมากินกันแล้วนี่แหละ
อาหารประจำโต๊ะคือส้มตำ และ คอหมูย่าง ข้าวเหนียว อิๆ
กินเสร็จก็กลับบ้าน เลยเที่ยงคืนกันอีกแล้ว
เที่ยวกันคุ้มจิงๆ




ปล . เจอ thumb ที่ใส่รูปมาแล้วเจ้าค่ะ
เลย up รูปเพิ่มให้เลยก็แล้วกัน แหะๆ


Create Date : 03 ตุลาคม 2551
Last Update : 3 มกราคม 2552 0:11:52 น. 8 comments
Counter : 921 Pageviews.

 
ชอบหัวข้อข้างบนค่ะ ชีวิตที่สวยงามคือชีวิตที่รู้จักเติมให้เต็มค่ะ


โดย: รัชชี่ IP: 58.10.161.98 วันที่: 4 ตุลาคม 2551 เวลา:21:53:32 น.  

 
เย้ยยยย ยังไม่กลับจาก California อีกหรอ


โดย: คนนั้นแหละ IP: 124.121.8.27 วันที่: 6 ตุลาคม 2551 เวลา:23:49:46 น.  

 
อยากไปเที่ยวอีกจังเห็นแล้วนึกถึงตอนที่เจ๊หลีไป


ว่าแต่ เจ๊หลีเบื่อ นั่งเครื่อง ยาว ๆ มากเลยค่ะ


โดย: กิน ๆ เที่ยว ๆ วันที่: 11 ตุลาคม 2551 เวลา:20:49:41 น.  

 
สนุกดีนะ

รูปประกอบน้อยปายนิดส์


โดย: แวะเวียน IP: 161.200.255.162 วันที่: 11 พฤศจิกายน 2551 เวลา:14:32:49 น.  

 
อ่า ยังไม่อัพเลย....

รออ่านอยู่นะคร้าบบบบ


โดย: แวะเวียน IP: 161.200.255.162 วันที่: 20 พฤศจิกายน 2551 เวลา:21:51:44 น.  

 
คนรออ่านก็รอต่อไป ^^


โดย: mancunian วันที่: 10 ธันวาคม 2551 เวลา:22:33:49 น.  

 
ภาคต่อรอนานเหมือน หนังพระนเรศวรเลย


โดย: เรื่อยเปื่อย IP: 161.200.255.162 วันที่: 11 ธันวาคม 2551 เวลา:4:32:09 น.  

 
มาอ่านต่อ

เกไปเจอหนังสืออย่างว่าไม่เหนเล่าให้เราฟัง อิอิ

เขียนสนุกตามเคย

คิดถึงความหลัง

แกเราไปหาชื่อ edwin jeng ในกูเกิ้ลมา อ่านบลอกเเกเเล้วคิดได้

อิอิ


โดย: ฟางข้าว IP: 58.8.97.57 วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:21:31:35 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

MsBrenda
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




blog นี้ดูจะเกิดขึ้นมาได้เนื่องด้วยเจ้าของบล็อกเกิดอยากจะเขียน
แล้วอยากให้คนอื่นๆอ่านเรื่องที่ตัวเองเขียนด้วย
การมีบล็อกเป็นของตัวเองก็เลยดูจะลงตัวดี
และแม้ว่าช่วงนี้ถึงชีวิตการเรียนที่เป็นอยู่ไม่ค่อยเอื้อให้เรามานั่งเขียนบล็อกสักเท่าไร
แต่การที่ได้พักจากชีวิตที่วุ่นวายมาทำอะไรที่ชอบสักพัก ก็เป็นเรื่องที่ดีเหมือนกัน


บางเรื่องที่เราเขียนก็ดูจะบ้าๆบอๆไร้สาระไปหน่อย
จนเหมือนยึดเป็นที่ระบายอารมณ์ในบางครั้ง
อย่างไรก็ตาม
เราต้องขอขอบคุณทุกคนมากๆนะคะที่เข้ามาอ่าน


ปล .
เราใช้ชื่อ N3K เป็นชื่อ blog เนื่องจากชื่อนี้เป็นชื่อกลุ่มเราสมัย ม.ต้น
แล้วเราสมัครพันธุ์ทิพย์ช่วงมอต้นพอดี ก็เลยใช้ login เป็นชื่อนี้แล (( ง่ายดีมั้ย ))

((( ปล จริงๆแร้ว )))

ตอนนี้เรากำลังจิตตกกับการเข้าสู่แผนกทำคลอดเป็นวันแรก

แอบกลัวอยู่อ่ะ เราไม่อยากทำคลอดเรย

ทำไงดีอ่ะ??




Friends' blogs
[Add MsBrenda's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.