DR.MOO CAN DO
Group Blog
 
<<
กุมภาพันธ์ 2553
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28 
 
4 กุมภาพันธ์ 2553
 
All Blogs
 

แฉความจริง เหตุวิศวะ มหาลัยดัง แข่งกินเหล้า! แล้วเข้าโรงพยาบาล จนกลายเป็นเจ้าชายนิทรา

          ความคืบหน้าเหตุสลดใจ นายพีร์ กฤตยะพงษ์ นิสิตคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ชั้นปีที่ 1 ที่เป็นศิษย์เก่าโรงเรียนเซนต์คาเบรียล ไปร่วมงานเลี้ยงรับน้องที่รุ่นพี่ร่วมโรงเรียนเดิม ที่มาเรียนในคณะวิศวกรรมศาสตร์เหมือนกัน จัดขึ้นที่โรงแรมนารายณ์ ย่านสีลม เมื่อคืนวันที่ 25 มิ.ย. แล้วเกิดอาเจียนจนสำลักเศษอาหารติดคอ จนหมดสติ รุ่นพี่ช่วยกันนำส่ง รพ.กรุงเทพคริสเตียน ต่อมาถูกส่งต่อไปรักษาที่ รพ.เซนต์หลุยส์ อาการเป็นเจ้าชายนิทรานั้น 


            เมื่อวันที่ 29 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวไปเยี่ยมดูอาการของนายพีร์ ที่ห้องไอซียู ชั้น 6 อาคารร้อยปีบารมีบุญ รพ. เซนต์หลุยส์ พบว่าหลังตกเป็นข่าวโรงพยาบาลได้ปลดป้ายชื่อนายพีร์ ที่ติดอยู่หน้าประตูห้องไอซียูออก แล้วนำป้ายเขียนข้อความว่างดเยี่ยมมาติดไว้แทน 


            ต่อมาเวลา 15.00น. ศ.น.พ.วิโรจน์ สืบหลินวงศ์ ผอ.รพ.เซนต์หลุยส์และทีมแพทย์ที่ให้การรักษานายพีร์ เปิดแถลงข่าวถึงอาการและผลการรักษาล่าสุดว่า ได้รับผู้ป่วยมารักษาเมื่อวันที่ 25 มิ.ย. ด้วยภาวะการหายใจล้มเหลวและมีอาการชัก อาการหัวใจล้มเหลว ทำให้สมองมีปัญหา เพราะภาวะขาดออกซิเจน แพทย์ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจตลอดเวลา แต่หลังจากรักษามา 4 วัน อาการเริ่มดีขึ้นตามลำดับ ไข้ลดลง ระบบการหายใจดีขึ้น อยู่ที่ 95% ความดันดีขึ้น หัวใจดี สมองค่อยๆฟื้นตัว แต่ยังต้องรอดูอาการไปอีกระยะ ตอนนี้สมองอยู่ที่ 50% คนไข้สามารถลืมตาและขยับตัวได้บ้าง เมื่อเรียกชื่อพอจะรับรู้ได้ แต่ยังไม่รู้สึกตัว คิดว่าคนไข้จะกลับคืนสู่อาการที่ดีขึ้นและน่าจะปลอดภัย แต่ยังบอกไม่ได้ว่าจะฟื้นคืนเป็นปกติได้ แค่ไหน และอาจจะต้องใช้เวลานานเป็นเดือนในการรักษาจนกว่าจะกลับบ้านได้


          ผู้สื่อข่าวถามว่า อะไรเป็นสาเหตุให้คนไข้ขาดอากาศ ศ.น.พ.วิโรจน์กล่าวว่า เกิดจากการสำลักเศษอาหารอุดหลอดลม ทำให้ขาดออกซิเจนทันที อาการแบบนี้สามารถเกิดขึ้นได้หากไม่ระวัง เมื่อมีอะไรอุดเข้าหลอดลมหายใจ ร่างกายขาดออกซิเจน ทำให้หัวใจปั๊มเลือดไปที่ปอดไม่ได้ เมื่อหัวใจขาดเลือดจึงหยุดเต้น ตอนที่ส่งเข้ามารักษาพบว่ามีเศษอาหารในหลอดลม ปกติคนเราขาดอากาศได้นานที่สุด 4 นาที แต่ของคนไข้รายนี้ ไม่ทราบเวลาที่หยุดหายใจที่แน่นอนได้ เพราะเหตุการณ์ฉุกละหุก ส่วนจะมีการดื่มเหล้าเข้าไปในร่างกายมากแค่ไหนนั้น วัดผลไม่ได้เนื่อง จากได้ส่งไปรักษาตัวที่ รพ.อื่นก่อน ต่อข้อถามว่า สมองของคนไข้มีโอกาสฟื้นคืนปกติได้แค่ไหน ศ.น.พ.วิโรจน์ ตอบว่า อาการทางสมองยังน่าเป็นห่วง เพราะการสำลัก จะมีเชื้อจากเศษอาหารเข้าไปสู่สมองด้วย แพทย์ได้ให้ยาฆ่าเชื้อและควบคุมอยู่ ตอนนี้เชื้อลดลงแล้ว เชื้อที่เข้าไปในสมองเป็นเชื้อจากเศษอาหาร ไม่ได้เป็นเชื้อราเหมือนกรณีของบิ๊ก ดีทูบี นักร้องชื่อดัง


            ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า หลังมีการเสนอข่าวออกไปได้สร้างความตกใจให้กับทันตแพทย์ชุมพล และนางช่อแก้ว กฤตยะพงษ์ พ่อแม่นายพีร์อย่างมาก และได้ขอให้ รพ.เข้มงวดมากขึ้น ต่อมา รพ.เซนต์หลุยส์ ได้ให้นายอภิรัฐ สุรเชษฐ หัวหน้าฝ่ายประชาสัมพันธ์ มาชี้แจงสื่อมวลชน ที่มารอทำข่าวว่า การเข้ามาแออัดอยู่ที่หน้าห้องไอซียูมากๆอาจทำให้เกิดการติดเชื้อกับคนไข้ได้ และเป็นเขตหวงห้าม สร้างความลำบากใจแก่ญาติพี่น้องของผู้ป่วยรายอื่น เพราะทำให้เข้าไปเยี่ยมญาติในห้องไอซียูไม่ สะดวก นายอภิรัฐยังแจ้งด้วยว่า พ่อแม่ของคนไข้ไม่ต้อง การให้ใครรบกวนและจะไม่ให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องที่เกิดขึ้น เพราะยังเศร้าเสียใจกับการป่วยของลูก


            ส่วนบรรยากาศที่หน้าห้องไอซียู ตลอดทั้งวันมีญาติพี่น้องและเพื่อนนิสิตจุฬาฯ พากันมาลงชื่อในสมุดเยี่ยมนายพีร์จำนวนมาก เมื่อถูกสื่อมวลชนถ่ายรูป บางคนได้แสดงอาการหงุดหงิดไม่พอใจและต่อว่าสื่อมวลชนทันที โดยมีรุ่นพี่วิศวะรายหนึ่งซึ่งลงชื่อในสมุดเยี่ยมว่าชื่อ “แมค” ได้เขียนคำขอโทษในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไว้ในสมุดเยี่ยมความว่า “พีร์ กูขอโทษ ไม่มีใครอยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ ถึงกูจะเป็นรุ่นพี่ที่ไม่ดี แต่กูเชื่อว่าเรายังเป็นเพื่อนกัน” 


            วันเดียวกัน นายสุรัช พาชู ผจก.ทั่วไปโรงแรมนารายณ์ ได้พาผู้สื่อข่าวไปดูห้องจัดเลี้ยงที่มีการจัดงานรับน้องของศิษย์เก่า ร.ร.เซนต์คาเบรียล เมื่อคืนวันที่ 25 มิ.ย. พร้อมเผยว่า ในคืนดังกล่าวมีศิษย์ ร.ร.เซนต์คาเบรียลประมาณ 150 คนมาจัดงาน เป็นการจัดเลี้ยงแบบโต๊ะจีนจำนวน 15 โต๊ะ จากการสอบถามพนักงานบอกว่าหลังจากรับประทานอาหาร รุ่นพี่และรุ่นน้องได้แข่งดื่มเหล้ากัน โดยรุ่นพี่บางคนใช้น้ำชาที่สีเหมือนเหล้ามาดื่มร่วมกับรุ่นน้อง ขณะรุ่นน้องบางคนดื่มเหล้า จนเวลาประมาณ 23.00 น. มีคนเห็นว่าน้องพีร์หน้ามืดเหมือนจะเป็นลมและเดินออกมานอกห้องจัดเลี้ยงแล้วล้มฟุบไป จนมีรุ่นพี่มาพบเข้า และเห็นตัวเขียวเลยหามส่ง รพ.


            ขณะที่นายมารุต สระงาม อายุ 21 ปี พนักงานฝ่ายจัดเลี้ยง เผยว่า งานดังกล่าวใช้ชื่องานว่า “โต๊ะเซนต์” ตอนแรกเป็นการกินเลี้ยงธรรมดา แต่ตอนหลังมีรุ่นพี่มาสั่งให้พนักงานรินน้ำชาจีนที่ทำเหมือนเหล้า และเหล้าผสมน้ำกับโซดา อย่างละ 1 ถาดไปวางไว้ที่บาร์น้ำ โดยรุ่นพี่บางคนเป็นคนเสิร์ฟเอง และมีรุ่นน้องหลายคนที่เมา เดินเข้าเดินออกห้องจัดเลี้ยง ส่วนน้องพีร์ไม่ทันเห็นว่ามีใครนำเหล้าไปให้ดื่มและฟุบไปตอนไหน มาเห็นอีกทีตอนรุ่นพี่ช่วยกันนำตัวส่ง รพ.แล้ว


            นายจุมพล รอดคำดี รองอธิการบดีฝ่ายวิชาการ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า ขอยืนยันว่าไม่มีการสั่งพักการเรียน หรือสั่งตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงกับนิสิตที่เกี่ยวข้องกับกรณีของนายพีร์ กฤตยะพงษ์ นิสิตปี 1 คณะวิศวกรรมศาสตร์ ที่สำลักเศษอาหารจนหมดสติเพราะกิจกรรมที่จัดขึ้นถือว่าเป็นเรื่องส่วนตัว ไม่เกี่ยวกับมหาวิทยาลัย หรือกิจกรรมรับน้อง มหาวิทยาลัยทำเพียงสอบถามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น เพื่อที่จะได้ตอบคำถามสื่อมวลชนได้ ที่มีข่าวว่ามีการกรอกเหล้าก็พูดกันไปเรื่อยเปือยผิดไปจากเรื่องจริงมาก ทำให้คนที่เกี่ยวข้อง เดือดร้อนได้รับผลกระทบไปหมด


            น.พ.ชาตรี บานชื่น อธิบดีกรมการแพทย์ เผยถึงกรณีของนายพีร์ว่า การสำลักอาหารเกิดขึ้นได้แม้พบไม่บ่อยนัก ทั้งนี้ เมื่อเกิดการสำลักอาหารที่มีก้อนขนาดใหญ่ ผู้ป่วยมีโอกาสเสียชีวิตได้ เพราะก้อนอาหารจะไปอุดตันหลอดลม ทำให้หายใจไม่ออก และขาดอากาศหายใจภายใน 3 นาที จะทำให้หัวใจหยุดเต้น เลือดไปเลี้ยงสมองน้อยลง ทำให้สมองขาดออกซิเจน หากไม่ได้รับการช่วยเหลืออย่างทันท่วงที มีโอกาสเสียชีวิตสูง ถ้าช่วยเหลือผู้ป่วยช้า 5 นาที แม้จะปัšมหัวใจกลับมาได้ แต่โอกาสที่เนื้อสมองจะตาย กลายเป็นเจ้าหญิงเจ้าชายนิทรามีสูงมาก นอกจากนี้ ผู้ที่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ในปริมาณมาก แอลกอฮอล์จะไปกดการทำงานของระบบประสาท หากเมาจนหมดสติอาจทำให้สำลักได้ง่าย


            ด้านอาการของ น.ส.สุพัตรา มหาอุดม หรือน้องหญิง นิสิตชั้นปี 1 มหาวิทยาลัยบูรพา จ.ชลบุรีที่ยังนอนเป็นเจ้าหญิงนิทรามากว่า 7 วันแล้ว มีนางสุมาลี มหาอุดม มารดา เฝ้าอยู่ไม่ห่าง ตอนสายวันเดียวกัน แพทย์ได้นำตัวน้องหญิงออกจากห้องไอซียูไปผ่าตัดอีกครั้ง ใช้เวลาเกือบ 2 ชั่วโมง หลังจากนั้นคณะแพทย์ได้แถลงว่า น้องหญิงก้านสมองไม่มีปฏิกิริยาตอบสนอง แต่ขยับแขนได้เล็กน้อยเมื่อถูกกระตุ้น และยังต้องใช้เครื่องช่วยหายใจตลอดเวลา แพทย์ได้เจาะคอตรวจดูไม่มีภาวะแทรกซ้อน แผลไม่ติดเชื้อ ส่วนชีพจร ความดันโลหิต เกลือแร่ และสมดุลของน้ำยังปกติ แต่มีไข้เล็กน้อย และในวันเดียวกันนี้มีเพื่อนนิสิตร่วมมหา วิทยาลัย 2-3 คน มาเยี่ยมให้กำลังใจ


ข้อมูลจากหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ




 

Create Date : 04 กุมภาพันธ์ 2553
0 comments
Last Update : 7 กุมภาพันธ์ 2553 10:07:37 น.
Counter : 4440 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


DR.MOO CAN DO
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 42 คน [?]




ผมเป็น นิติพยาธิแพทย์ หรือ จะเรียกว่า หมอนิติเวช ก็ได้ครับ นิติพยาธิแพทย์ เป็นแพทย์เฉพาะทางสาขาหนึ่ง ซึ่งเมื่อเรียนจบแพทย์ทั่วไป 6 ปีแล้ว ก็ต้องเรียนต่อเฉพาะทาง นิติพยาธิอีก 3 ปี และเมื่อสอบผ่าน ก็จะได้รับวุฒิบัตรเป็นผู้เชี่ยวชาญสาขานิติเวชศาสตร์ และได้เป็นนิติพยาธิแพทย์ โดยสมบูรณ์
หน้าที่ของหมอนิติเวช แบ่งออกเป็น 2 ส่วนใหญ่ๆ
ส่วนแรก จะเกี่ยวข้องกับผู้ป่วยคดี โดยในผู้ป่วยคดีนั้นแพทย์นิติเวชจะมีหน้าที่ในการตรวจ และให้ความเห็นกับพนักงานสอบสวนเกี่ยวกับบาดแผลที่ตรวจพบ ซึ่งตำรวจจะนำไปใช้ในการตั้งข้อกล่าวหากับคู่กรณี และหน้าที่ต่อมาของแพทย์นิติเวชคือการเป็นพยานในชั้นศาลในคดีดังกล่าว
ส่วนที่สอง จะเกี่ยวข้องกับผู้เสียชีวิต โดยในกรณีผู้เสียชีวิตนั้นแพทย์นิติเวชมีหน้าที่ในการตรวจสถานที่เกิดเหตุในกรณีตายผิดธรรมชาติตามที่กฎหมายกำหนด และหากมีความจำเป็นต้องผ่าชันสูตร ก็จะต้องมีการทำรายงาน และให้ความเห็นเกี่ยวกับสาเหตุของการเสียชีวิต ส่งให้พนักงานสอบสวน สุดท้ายหน้าที่หลักที่สำคัญโดยหลีกเลี่ยงไม่ได้คือการเป็นพยานในชั้นศาลในคดีนั้นๆครับ
ประวัติการศึกษา
1.แพทยศาสตร์บัณฑิต คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล
2.วุฒิบัตรผู้เชี่ยวชาญสาขานิติเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
3.ประกาศนียบัตร “Crime Scene Investigation” โครงการร่วมระหว่าง International Law Enforcement Academy กับ Federal Bureau of Investigation Academy
4.ประกาศนียบัตร “การบริหารงานโรงพยาบาล” คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล
ผลงาน
1.อาจารย์ประจำภาควิชานิติเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มศว.
2.อาจารย์พิเศษ สอนนักศึกษาชั้นปีที่ 3 โรงเรียนนายร้อยตำรวจ
3.อาจารย์พิเศษ สอนนักศึกษาปริญญาโท สาขานิติวิทยาศาสตร์ โรงเรียนนายร้อยตำรวจ
4.อาจารย์พิเศษ สอนนักศึกษาปริญญาโท สาขานิติวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร
5.วิทยากร หัวข้อ "ICD-10" ของกระทรวงสาธารณสุข
6.วิทยากร หัวข้อ "การตรวจสถานที่เกิดเหตุ" ของมูลนิธิร่วมกตัญญู และกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
7.วิทยากรอบรมหลักสูตรนายร้อยตำรวจอบรม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
8.วิทยากร หัวข้อ "KPI รายบุคคล" ให้กับโรงพยาบาลและมหาลัยวิทยาลัย ในภาครัฐ
9.วิทยากร หัวข้อ "Living will" ให้กับโรงพยาบาลในภาครัฐและเอกชน10.วิทยากร หัวข้อ "นิติเวชศาสตร์กับงานด้านโบราณคดี" ให้กับคณะโบราณคดี มหาวิทยาลัยศิลปากร
11.ร่วมเขียนหนังสือ "KPI รายบุคคล"
12.ร่วมเขียนหนังสือ "มาตรฐาน ICD-10, ICD-9"
13.ที่ปรึกษารายการ "เรื่องจริงผ่านจอ" และ "Redline"
14.บทความทางวิชาการและผลงานวิจัยทั้งในและต่างประเทศ 15 เรื่อง
15.ปัจจุบันดำรงตำแหน่งผู้ช่วยศาสตราจารย์ ตั้งแต่ ปี พศ.2553
16.ปัจจุบันดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการศูนย์การแพทย์สมเด็จพระเทพ ฯ คณะแพทยศาสตร์ มศว. ตั้งแต่ปี พศ.2551
ผศ.นพ.วีระศักดิ์ จรัสชัยศรี (DR.MOO CAN DO)
New Comments
Friends' blogs
[Add DR.MOO CAN DO's blog to your web]
Links
 
MY VIP Friend


 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.