ดาวน์โหลดโปรแกรม ดูละครย้อนหลัง อ่านเรื่องราวของความรู้รอบตัว วิทยาศาสตร์ ท่องเที่ยว สุขภาพ อาหาร รถยนต์ต่างๆ ไม่ทิ้งเรื่องราวความบันเทิงและเรื่องส่วนตัวอีกด้วย
Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2553
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930 
 
17 พฤศจิกายน 2553
 
All Blogs
 
รู้ได้อย่างไรว่า “ลูกน้อย เริ่มเครียด” ?!

รู้ได้อย่างไรว่า “ลูกน้อย เริ่มเครียด” ?!



ถ้าคุณพ่อคุณแม่ต้องเจอกับปัญหาแบบนี้...

ลูกรักมักจะปวดท้องทุกเช้าก่อนไปโรงเรียน บางคนก็อาเจียนหลังอาหารทุก ๆ เช้า บางคนก็งอแงกันตรง ๆ ว่า หนูไม่อยากไปโรงเรียน หรือเริ่มมีนิสัยก้าวร้าวขึ้น นี่แหละค่ะเป็นสัญญาณว่า ลูกน้อยของคุณกำลังเครียด

เด็กเครียดได้เหมือนผู้ใหญ่ค่ะ มาจากหลายสาเหตุ คือทั้งจากตัวเด็กเอง เช่น มีปัญหาสุขภาพ หรือปัญหาจากผู้เลี้ยงดู เช่น ถูกผู้ใหญ่เลี้ยงดูแบบย้ำคิดย้ำทำ เข้มงวดเกินไป หรือถูกตามใจมากเกินไป แต่เด็กบางคนก็มีปัญหาไม่ชอบสภาพแวดล้อมที่เด็กอยู่ก็เป็นได้ เช่น โรงเรียน ฯลฯ

เด็กเล็ก ๆ เวลาเครียด เขาบอกเราไม่เป็น แต่มักจะแสดงออกด้วยอาการและพฤติกรรมต่าง ๆ แทน คุณพ่อคุณแม่ต้องหมั่นสังเกตว่าลูกคุณเป็นแบบนี้บ้างหรือเปล่า เช่น

+ ร้องไห้งอแง ไม่เชื่อฟัง จนดูเหมือนเป็นเด็กดื้อ

+ มีพฤติกรรมแปลก ๆ ไปจากเดิม อย่างเริ่มดูดนิ้วมือ ดึงผม ถูจมูกบ่อย ๆ

+ ปวดท้อง ปวดหัว อาเจียน แบบไม่ทราบสาเหตุบ่อย ๆ

+ นอนไม่หลับ ตื่นตอนกลางคืน บางคนละเมอออกมาเดิน หรือปัสสาวะรดที่นอน
+ บางคนไม่กล้าแสดงออก บางคนเอาแต่ใจตนเอง

+ เด็กบางคนเข้ากับคนอื่นไม่ได้ ชอบเล่นคนเดียว เก็บตัว ซึมเศร้า

+ บางคนก็อาละวาดไม่หยุด แบบไม่มีเหตุผล

+ ก้าวร้าว หรือเริ่มพูดโกหก

+ เด็กบางคนสมาธิสั้นอยู่แล้วก็จะยิ่งเป็นมากขึ้น

เมื่อเด็กเครียดจะขัดขวางต่อพัฒนาการการเรียนรู้ของเด็ก และจะมีปัญญาบุคลิกภาพเมื่อโตขึ้นด้วย ดังนั้นต้องแก้ไขค่ะ ขอแนะนำ วิธีง่าย ๆ ลดความเครียดให้แก่คุณลูกดังนี้

ชวนเด็กออกกำลังกายที่ได้เคลื่อนไหวร่างกาย เช่น ว่ายน้ำ ขี่จักรยาน เพราะเมื่อเหนื่อยฮอร์โมนเอ็นโดฟินส์หรือฮอร์โมนแห่งความสุขจะหลั่งออกมาทำ ให้มีความสุขขึ้น

+ เพิ่มกิจกรรมที่เพลิดเพลินมีความสุขในครอบครัว เช่น อ่านนิทานให้ลูกฟัง เลี้ยงสุนัข

+ ชื่นชม และให้กำลังใจในทางบวกและสุภาพกับลูกรักเสมอ ๆ เช่น "หนูเก่งมาก" "หนูเป็นเด็กดี"

+ ปล่อยให้ลูกได้แสดงออกแต่ไม่ตามใจเกินไป เช่น ปล่อยลูกได้ร้องไห้ เด็กจะได้ไม่เก็บความเครียดไว้เมื่อเด็กหยุดร้องไห้ ก็อธิบายเหตุผลให้เด็กรู้ถึงข้อดีข้อเสียในเรื่องที่เด็กมีปัญหา

+ ยอมรับในความสามารถของเด็กไม่บังคับให้เด็กทำในสิ่งที่ยังไม่พร้อม เช่น สอนให้เขียนหนังสือก่อนวัย

+ พ่อแม่ต้องมีเหตุผล ไม่ลงโทษเด็กโดยไม่ถามหรืออธิบายเหตุผลให้เด็กเข้าใจ

+ อย่ากังวลเมื่อเด็กทำผิดพลาด เพราะเป็นการเรียนรู้ของเด็ก ซึ่งเด็กจะรู้จักปรับตัวและแก้ไขปัญหาได้ต่อไป

อย่าลืมนะคะว่าถ้าลูกของคุณมีความสุข เขาก็จะเป็นเด็กอารมณ์ดี และจะมีพัฒนาการที่ดีในทุก ๆ ด้านค่ะ

ที่มา
//women.kapook.com/view18772.html


Create Date : 17 พฤศจิกายน 2553
Last Update : 17 พฤศจิกายน 2553 16:29:14 น. 0 comments
Counter : 863 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

scimovie
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 108 คน [?]




แหล่งรวบรวมความรู้ โปรแกรม เพลง หนัง เกมส์ วิทยาศาสตร์ ดูละคร เรื่องย่อ ภาพยนตร์ การเงิน และอื่นๆ อีกมากมาย สุดท้ายขอกำลังใจให้มีแรงอัพเดทตลอดๆ ครับ ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมเยียนกันครับ
Friends' blogs
[Add scimovie's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.