ดาวน์โหลดโปรแกรม ดูละครย้อนหลัง อ่านเรื่องราวของความรู้รอบตัว วิทยาศาสตร์ ท่องเที่ยว สุขภาพ อาหาร รถยนต์ต่างๆ ไม่ทิ้งเรื่องราวความบันเทิงและเรื่องส่วนตัวอีกด้วย
Group Blog
 
<<
มกราคม 2554
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
5 มกราคม 2554
 
All Blogs
 
แม้ผิดหวัง..แต่ลูกของแม่ก็ยังยิ้มได้



บ่อยครั้งที่พบเห็นเด็กๆ ร้องไห้ฟูมฟาย บ้างก็ลงไปชักดิ้นชักงอกับพื้นโดยไม่สนใจใคร เพราะผิดหวังและเสียใจที่ไม่ได้ในสิ่งที่ต้องการ ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ เช่น อยากได้ของเล่น อยากไปเที่ยว อยากนอน อยากกิน ฯลฯ แต่บางคนก็รู้สึกผิดหวังโดยที่คุณพ่อคุณแม่ไม่ทราบสาเหตุ เนื่องจากยังไม่เข้าใจความต้องการของลูก

กับเรื่องนี้ พญ.ปริชวัน จันทร์ศิริ จิตแพทย์เด็กและอาจารย์ประจำภาควิชาจิตเวช โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ กล่าวให้ความรู้ว่า โดยส่วนใหญ่ความผิดหวัง จะเกิดขึ้นจากการเรามุ่งมั่นตั้งใจทำสิ่งใดสิ่งหนึ่ง แต่กลับเกิดความผิดพลาดขึ้นและไม่ได้ดั่งใจ ในเด็กเล็กความต้องการนี้จะเรียกว่า "ความคาดหวัง" ซึ่งอยู่ในพื้นฐานของความจำเป็นต่อการใช้ชีวิต เช่น ความคาดหวังทางด้านร่างกาย เพราะเด็กทุกคนต้องการอาหาร ความเป็นอยู่ที่ปลอดภัย เสื้อผ้าสวมใส่ที่ให้ความอบอุ่นและสบายตัวแก่ร่างกาย รวมถึงความคาดหวังทางด้านจิตใจ เด็กๆ ต้องการการดูแลเอาใจใส่ที่อ่อนโยน ได้การยอมรับจากกลุ่มเพื่อนหรือพี่น้อง มีความรู้สึกว่าปลอดภัยและได้รับการปกป้องดูแลเป็นอย่างดี

อย่างที่บอกว่า สิ่งเหล่านี้เป็นความต้องการพื้นฐานที่จำเป็นต่อการใช้ชีวิต และเป็นสิ่งที่เด็กๆ คาดหวังเป็นอันดับแรกๆ ว่าจะได้รับ แต่ถ้าหากว่าเด็กไม่ได้รับสิ่งเหล่านี้ อาจจะส่งผลกระทบทั้งทางร่างกายและจิตใจ เพราะเด็กจะให้ความสำคัญกับความคาดหวังพื้นฐานมาก

ยกตัวอย่าง เช่น เด็กเล็กสมควรได้รับการดูแลให้ปลอดภัย แต่กลับไม่มีใครสนใจ ก็อาจจะทำให้เด็กๆ เกิดความหวาดระแวง หรือเด็กควรได้รับอาหารที่ครบ 3 มื้อ แต่กลับไม่เป็นอย่างนั้น เด็กๆ จึงรู้สึกว่าถูกทอดทิ้ง ไม่ได้รับการดูแลเอาใจใส่ หรือเด็กบางคนอาจจะถูกใช้ความรุนแรง ทั้งการทุบตีและคำพูด เช่น ถูกตำหนิจนทำให้รู้สึกว่าตัวเองไม่เป็นที่รักของคนอื่น ก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้เด็กรู้สึกผิดหวังได้

ทั้งนี้ พญ.ปริชวันยังบอกอีกว่า ยังมีความคาดหวังที่อยากได้อยากมี ซึ่งเป็นความต้องการที่เพิ่มเติมจากความต้องการพื้นฐานในการใช้ชีวิต เช่น เด็กบางคนเห็นเพื่อนเรียนเก่งสอบได้คะแนนมาก ก็อยากได้อยากเป็นอย่างเขาบ้าง ทั้งๆ ที่ตัวเองก็ไม่ได้มีผลการเรียนที่แย่เลย หรือการเล่นเกมก็อยากจะเอาชนะเพื่อนๆ ในกลุ่ม พอชนะมันก็เกิดความภูมิใจว่า "ฉันเก่งและมีความสามารถมากกว่าคนอื่น" หรือเด็กบางคนอยากได้ของเล่นชิ้นนั้นมาก ทั้งๆ ที่บ้านก็มีของเล่นอยู่หลายชิ้น หากไม่ได้ก็กลับไปเล่นของเล่นชิ้นเดิมได้

ขณะเดียวกัน ถ้าความคาดหวังอยากได้อยากมีบางอย่างได้รับการตอบสนองจะไม่ส่งผลกระทบกับเด็กมากมาย หากเด็กๆ มีพื้นฐานที่ดีจากความคาดหวังหรือความต้องการพื้นฐานในการใช้ชีวิตแล้ว เขาจะเข้าใจและสามารถยอมรับได้ แต่ในทางตรงกันข้ามถ้าเขาไม่ได้รับการตอบสนองหรือผิดหวังกับความต้องการทั้ง 2 แบบที่กล่าวมา เด็กคนนั้นอาจจะกลายเป็นคนขี้ระแวง รู้สึกกังวล กลัว ไม่มั่นคง รู้สึกไม่ปลอดภัย รู้สึกว่าไม่อยากเป็นมิตรกับคนรอบข้าง ไม่ไว้ใจใคร ไม่เชื่อมั่นในตัวเอง รู้สึกเศร้าและท้อแท้เมื่อเกิดความผิดหวัง บางคนถึงขึ้นคิดฆ่าตัวตาย



ขอบคุณภาพประกอบจาก //google.co.th


จิตแพทย์เด็กท่านนี้ บอกว่า ความผิดหวังจะรุนแรงมากหรือน้อย ขึ้นอยู่กับความกดดันของสังคมและสิ่งแวดล้อมรอบตัว เช่น เมื่อเด็กพยายามทำคะแนนให้ได้มาก แต่ด้วยความที่เรียนไม่เก่ง จึงถูกปฏิเสธจากกลุ่มเพื่อน หรือถูกตำหนิจากพ่อแม่ เด็กก็จะกดดันและคิดว่าไม่มีใครรัก ไม่มีใครสนใจ

"การผิดหวังซ้ำแล้วซ้ำอีก เป็นสาเหตุที่ทำให้เด็กได้รับกระทบกระเทือนจิตใจอย่างรุนแรง ทำให้เขาใช้ชีวิตไม่มีความสุข พัฒนาการก็ไม่เจริญเติบโตไปตามวัย และเขาจะไม่สามารถปรับอารมณ์และประคับประคองชีวิตให้มีความสุขได้ เพราะมีปัญหาด้านพฤติกรรมและอารมณ์ ไม่สามารถเชื่อมความสัมพันธ์กับคนอื่นได้ ส่งผลให้เกิดปัญหาอื่นๆ ตามมา ซึ่งไม่แตกต่างจากคนที่ถูกทอดทิ้งตั้งแต่เด็กๆ เพราะต้องดิ้นรนสู้ชีวิตด้วยตัวเอง เติบโตมาด้วยตัวเอง ซึ่งอาจจะมีท่าทีไม่เป็นมิตรกับคนอื่น ไม่ไว้วางใจคนอื่น หวาดระแวงตลอดเวลา ไม่เห็นอกเห็นใจผู้อื่น ไม่มีความรู้สึกว่าอยากทำอะไรเพื่อคนอื่น เพราะไม่เคยมีใครทำอะไรให้รู้สึกดี บางคนกลายเป็นเด้กก้าวร้าวในสายตาคนอื่น" พญ.ปริชวันอธิบาย

อย่างไรก็ดี คุณหมอแนะนำว่า คุณพ่อคุณแม่ควรตอบสนองความต้องการพื้นฐานของลูกให้ดีก่อน เพราะถ้าเด็กมีความสุข ได้รับความรักความอบอุ่นจากพ่อแม่ที่คอยมอบให้เขา ถ้าเขาผิดหวัง เขาก็จะไม่เสียใจหรือท้อแท้มากนัก หากเด็กยังไม่เข้าใจ คุณพ่อคุณแม่ควรบอกลูกว่า "พ่อกับแม่ไม่สามารถซื้อของเล่นชิ้นนี้ให้ลูกได้ แต่พ่อกับแม่ยังรักลูกเสมอ" หรือบอกเขาว่า "อันนี้เล่นไม่ได้ เพราะว่ามันไม่ใช่ของที่ทำมาเพื่อให้เด็กเล่น" แล้วก็บอกเขาด้วยว่า "แม่รู้ว่าลูกเสียใจและอยากจะได้มัน แต่มันไม่ได้จริงๆ " หลังจากนั้นคุณพ่อคุณแม่ก็กอดให้กำลังใจกับเขาว่า "ไม่เป็นไรนะลูก"

ถึงตอนนั้น ถ้าเด็กๆ รู้ว่าเขาอาจจะไม่ได้ของเล่น แต่เขาจะรู้ได้ว่าเขายังมีความรักอยู่ ซึ่งวิธีดังกล่าวจะช่วยให้เด็กๆ เป็นคนที่มีเหตุมีผลมากขึ้น ไม่เอาแต่ใจ และเขาจะยอบรับกับความผิดหวังอย่างเข้าใจและมีความสุข

"สิ่งที่สำคัญที่สุดที่คุณพ่อคุณแม่ควรสอนลูก เมื่อเขาเจอกับความผิดหวังและเสียใจ สอนให้เขารู้จักแยกแยะว่าสิ่งไหนเป็นความต้องการที่จำเป็น และสิ่งไหนเป็นความต้องการที่ได้มาเพื่อทำให้เกิดความสบายใจ ถ้าไม่มีหรือไม่ได้ครอบครองก็ไม่ได้ทำให้สิ่งเลวร้ายเกิดขึ้น เราก็ยังสามารถใช้ชีวิตอยู่อย่างเหมือนปกติ เด็กๆ ก็จะเข้าใจและยอมรับกับความผิดหวังที่เกิดขึ้นได้ อีกอย่างต้องบอกว่า สิ่งที่จะได้มานอกเหนือจากความต้องการที่จำเป็นมันอาจจะไม่มีคุณค่าเลย ถ้าเราได้มาโดยสร้างความเดือดร้อนให้กับคนอื่น ฉะนั้นคุณค่าที่แท้จริงของเราคือ การเป็นคนดี มีจิตใจที่อ่อนโยน เห็นอกเห็นใจผู้อื่นมากกว่า" พญ.ปริชวันทิ้งท้าย


ที่มา
//www.manager.co.th/Family/ViewNews.aspx?NewsID=9540000000108


Create Date : 05 มกราคม 2554
Last Update : 5 มกราคม 2554 15:55:49 น. 0 comments
Counter : 622 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

scimovie
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 108 คน [?]




แหล่งรวบรวมความรู้ โปรแกรม เพลง หนัง เกมส์ วิทยาศาสตร์ ดูละคร เรื่องย่อ ภาพยนตร์ การเงิน และอื่นๆ อีกมากมาย สุดท้ายขอกำลังใจให้มีแรงอัพเดทตลอดๆ ครับ ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมเยียนกันครับ
Friends' blogs
[Add scimovie's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.