ดาวน์โหลดโปรแกรม ดูละครย้อนหลัง อ่านเรื่องราวของความรู้รอบตัว วิทยาศาสตร์ ท่องเที่ยว สุขภาพ อาหาร รถยนต์ต่างๆ ไม่ทิ้งเรื่องราวความบันเทิงและเรื่องส่วนตัวอีกด้วย
Group Blog
 
<<
มีนาคม 2554
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
17 มีนาคม 2554
 
All Blogs
 
อ่านสักนิด ถ้าไม่อยากให้ลูก "สมาธิสั้น"

อ่านสักนิด ถ้าไม่อยากให้ลูก "สมาธิสั้น"


นพ.ยงยุทธ วงศ์ภิรมย์ศานติ์



กลายเป็นเรื่องที่พ่อแม่จะนิ่งนอนใจไม่ได้อีกต่อไป เมื่อมีงานวิจัย ตลอดจนนักวิชาการ และจิตแพทย์ด้านเด็กออกมาให้ความเห็นตรงกันว่า ปัญหาสมาธิสั้น และอยู่ไม่นิ่ง เป็นอีกหนึ่งปัญหาที่น่าเป็นห่วง โดยเฉพาะเด็กในยุคไฮเทคที่เติบโตมาพร้อมกับความเจริญทางเทคโนโลยี

เกี่ยวข้องกันอย่างไรนั้น นพ.ยงยุทธ วงศ์ภิรมย์ศานติ์ จิตแพทย์เด็ก กรมสุขภาพจิต อธิบายว่า ธรรมชาติของเทคโนโลยีจะเปลี่ยนแปลงความสนใจเด็กไปอย่างรวดเร็ว ทำให้ความสามารถ หรือสมาธิในการแยกแยะข้อมูลลดน้อยลง เนื่องจากสมองเชื่อมโยง คิดวิเคราะห์ ตลอดจนกระบวนการตอบโต้ไม่เป็นระบบ

"พ่อแม่ปล่อยให้ลูกใช้สื่อไอซีทีมากเกินไป เล็ก ๆ ก็ซื้อเกมให้ลูกเล่นแล้ว ตรงนี้อาจทำให้ลูกไม่สามารถพัฒนาสมาธิได้ตามวัย เนื่องจากเกม รวมถึงโทรทัศน์ เป็นตัวทำลายการเรียนรู้ของเด็กให้หายไป"

ยืนยันได้จากงานวิจัยจากประเทศอังกฤษที่มีการศึกษาเด็กจำนวน 1,323 ราย อายุระหว่าง 7-10 ขวบ และได้รับความร่วมมือจากคุณพ่อคุณแม่ และคุณครูในการจดบันทึกพฤติกรรมของเด็ก ๆ เกี่ยวกับการเล่นวิดีโอเกม และการดูโทรทัศน์นาน 13 เดือน โดยทางคุณครูของเด็ก ๆ ได้ช่วยบันทึกพฤติกรรมที่มีปัญหาเอาไว้ให้ด้วย

โดยการศึกษาพบว่า ทั้งโทรทัศน์ และวิดีโอเกมต่างมีผลเสียต่อเด็กทั้งสิ้น โดยพฤติกรรมที่มีปัญหานั้นจะเริ่มแสดงผลภายใน 1 ปี (เฉพาะเด็กที่รับชมรายการโทรทัศน์ หรือเล่นเกมนานกว่า 2 ชั่วโมงต่อวัน) ซึ่งพบว่าเด็กไม่มีสมาธิในห้องเรียน ความสามารถในการเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ ด้อยกว่าเด็กที่ไม่ได้เล่นเกมอย่างเห็นได้ชัด

ดังนั้นในยุคที่เทคโนโลยีก้าวหน้า และเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา จิตแพทย์แนะนำว่า คุณพ่อคุณแม่ควรลดเวลาให้ลูกเล่นทั้งเกม และการดูโทรทัศน์ ลง วันละครึ่งชั่วโมงถึง 1 ชั่วโมงก็เพียงพอแล้ว และไปเพิ่มกิจกรรมให้เด็กได้สัมผัสกับโลกที่เป็นความจริงมากขึ้น เช่น หากิจกรรมสนุก ๆ ทำด้วยกัน เด็กจะมีพัฒนาการ และมีสมาธิที่ดีขึ้น

"ถ้าคุณพ่อคุณแม่ไม่รู้จะใช้ไอซีทีอย่างไรให้เกิดประโยชน์ ไม่ควรซื้อให้ลูกเล่น เพราะจะทำให้เกิดโทษตามมาได้ ซึ่งสมาธิสั้นมีทั้งเป็นมาตั้งแต่แรก และเป็นได้เองหากลูกอยู่กับเกม หรือโทรทัศน์มากเกินไป ฉะนั้นเด็กเล็ก หรือเด็กอนุบาลต้องเสริมสร้างสมาธิด้วยการเล่น และสัมผัสจากของจริงมากกว่า" จิตแพทย์เผยพร้อมกับให้แนวทาง

ช่วงปิดเทอมแบบนี้ เด็ก ๆ มีโอกาสใกล้ชิดกับโลกอินเทอร์เน็ต เกม และโทรทัศน์มากขึ้น การชวนกันไปออกกำลังกาย หรือทำกิจกรรมสนุก ๆ ถือเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดในการเสริมสร้างพัฒนาการ และฝึกสมาธิให้ลูกครับ



ข้อมูลประกอบข่าว

โรคสมาธิสั้น หรือ ADHD ย่อมาจากคำว่า Attention Deficit Hyperactivity Disorder เป็นโรคที่พบได้ บ่อยในวัยเด็ก โดยที่เด็กจะไม่สามารถควบคุมสมาธิและการเคลื่อนไหวของตนเองได้ จึงก่อให้เกิดปัญหาต่างๆ ตามมา เช่น ผลการเรียนตกต่ำ แม้ระดับสติปัญญาจะปกติ มีปัญหาด้านความสัมพันธ์กับผู้อื่น ถึงแม้จะเข้าสู่วัยผู้ใหญ่ ยังพบว่าหนึ่งในสามของเด็กยังคงมีอาการอยู่บ้างหรือบางคนเป็นผู้ใหญ่แล้ว ยังอาจมีอาการเต็มรูปแบบอีกด้วย ซึ่งยังเพิ่มโอกาสการเกิดพยาธิ สภาพทางจิตอื่นๆ ตามมา




ที่มา
//www.manager.co.th/Family/ViewNews.aspx?NewsID=9540000033733


Create Date : 17 มีนาคม 2554
Last Update : 17 มีนาคม 2554 15:10:29 น. 2 comments
Counter : 903 Pageviews.

 
ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆนะคะ


โดย: usagimom วันที่: 17 มีนาคม 2554 เวลา:18:39:22 น.  

 
เป็นประโยชน์มากเลยค่ะ


โดย: nuboonme วันที่: 19 มีนาคม 2554 เวลา:21:01:03 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

scimovie
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 108 คน [?]




แหล่งรวบรวมความรู้ โปรแกรม เพลง หนัง เกมส์ วิทยาศาสตร์ ดูละคร เรื่องย่อ ภาพยนตร์ การเงิน และอื่นๆ อีกมากมาย สุดท้ายขอกำลังใจให้มีแรงอัพเดทตลอดๆ ครับ ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมเยียนกันครับ
Friends' blogs
[Add scimovie's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.