ดาวน์โหลดโปรแกรม ดูละครย้อนหลัง อ่านเรื่องราวของความรู้รอบตัว วิทยาศาสตร์ ท่องเที่ยว สุขภาพ อาหาร รถยนต์ต่างๆ ไม่ทิ้งเรื่องราวความบันเทิงและเรื่องส่วนตัวอีกด้วย
Group Blog
 
<<
มีนาคม 2554
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
18 มีนาคม 2554
 
All Blogs
 

"ผ่าตัดคลอด" ทางเลือกนี้เสี่ยงจริงหรือ


"ผ่าตัดคลอด" ทางเลือกนี้เสี่ยงจริงหรือ

ผ่านมาแล้วหลายหัวข้อกับการเปิดพื้นที่แสดงความคิดเห็นในคอลัมน์ Parent's Opinion ซึ่งบางเรื่องมีท่านผู้อ่านเข้ามาแลกเปลี่ยนกันเป็นจำนวนมาก ทางทีมงานต้องขอขอบคุณทุก ๆ ความเห็นที่แสดงทัศนะกันอย่างสร้างสรรค์ และเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะครับ

และต้องขออภัยอย่างยิ่งสำหรับบางท่านที่ตั้งใจเข้ามาแสดงความคิดเห็นแต่ระบบไม่แสดงข้อความของท่านบนหน้าเว็บ ซึ่งในจุดนี้ ทางทีมงานจะพยายามหาทางแก้ไขให้ดีขึ้นต่อไป

สำหรับหัวข้อในสัปดาห์นี้ ทีมงานขอหยิบยกประเด็นเรื่องคุณแม่มาพูดถึงกันบ้าง เป็นเรื่องเกี่ยวกับ "วิธีการคลอดลูก" ที่แต่ละท่านมีความเชื่อ และความคิดเกี่ยวการคลอดที่แตกต่างกัน บางท่านเลือกที่จะคลอดเองตามธรรมชาติ เพราะเชื่อว่าทารกที่เกิดจากการเบ่งคลอดจะสมบูรณ์ แข็งแรง และมีภูมิคุ้มกันที่ดี

ในขณะที่บางท่านเลือกใช้วิธีผ่าตัดคลอด เพราะไม่อยากเจ็บ และทรมานในการเบ่งคลอด ถึงแม้จะต้องเสียเงินแพงกว่าก็ยอม แถมยังเลือกให้เด็กเกิดตรงกับฤกษ์งามยามดีตามที่หมอดูกำหนดไว้ได้อีกด้วย แต่วิธีการคลอดแบบนี้ก็ไม่ได้ยืนยันว่า ปลอดภัยร้อยเปอร์เซ็นต์ อาจเสี่ยงอันตรายต่อตัวคุณแม่ และเด็กได้ เช่น เกิดผลข้างเคียงจากการใช้ยาสลบ ติดเชื้อจากการผ่าตัด ผลกระทบต่อระบบทางเดินหายใจ และระบบลำไส้ เป็นต้น

หรือบางคนอาจมองอีกแง่หนึ่งว่า การคลอดเองก็ไม่ได้ปลอดภัยร้อยเปอร์เซ็นต์เช่นกัน โอกาสเกิดอันตรายขณะคลอดก็มีไม่น้อยแถมยังเจ็บอีกต่างหาก เช่น ปัญหาการคลอดที่เนิ่นนาน เด็กคลอดยาก หัวไม่กลับบ้าง ติดไหล่บ้าง ซึ่งอาจเกิดอันตรายต่ออวัยวะต่าง ๆ ของทารกได้

ดังนั้น จะเห็นได้ว่าวิธีการคลอดทั้งสองแบบมีทั้งข้อดี และข้อเสีย จึงเกิดเป็นพื้นที่แลกเปลี่ยนความคิดเห็นในครั้งนี้ว่า แล้วทางเลือกแบบไหนดีกว่ากัน? ผลดี และผลเสียที่ตามมาหลังการคลอดเป็นอย่างไร

หากคุณแม่ หรือผู้อ่านท่านใดพอมีประสบการณ์เกี่ยวกับวิธีการคลอดแบบใดแบบหนึ่งแล้วอยากจะบอกเล่า และแลกเปลี่ยนความรู้ที่เป็นประโยชน์ ทางเรายินดีน้อมรับด้วยความขอบคุณครับ โดยทีมงานหวังเป็นอย่างยิ่งว่า พื้นที่แห่งนี้จะเป็นอีกหนึ่งช่องทางให้คุณแม่มือใหม่ที่กำลังตั้งครรภ์มีข้อมูลในการตัดสินใจไม่มากก็น้อยนะครับ

ความคิดเห็นของคนที่เข้ามาอ่านเขาบอกว่า เคยตั้งครรภ์ครั้งแรก ตอนนั้นคุณแม่อายุ 33 ปี แล้วทารกหยุดหายใจตอนตั้งครรภ์ได้ 4 เดือน เสียใจกันทั้งครอบครัวเลยค่ะ รอมาอีก 3 ปี จึงตั้งครรภ์อีกครั้ง

ครั้งที่ 2 นี้ คุณหมอซักถามประวัติอย่างละเอียด แล้วก็ให้ข้อมูลข้อดี-ข้อเสีย ของการคลอดธรรมชาติ-ผ่าคลอด ครั้งแรกยังสองจิตสองใจว่าจะคลอดอย่างไรดี คลอดเองก็กลัวเจ็บ สุดท้ายต้องผ่าคลอดค่ะ ด้วยเหตุผลดังนี้

1. เด็กไม่กลับหัว
2. คุณแม่อายุมากขึ้น คือ 36 ปี
3. มีภาวะเบาหวานระหว่างตั้งครรภ์
4. คุณแม่มีเลือดเป็น RH Negative ซึ่งหากเกิดอุบัติเหตุขณะคลอดธรรมชาติแล้ว จะหาเลือดสำรองได้ยาก
5. โรงพยาบาลที่ฝากท้องอยู้ใกล้ที่ทำงาน (สาธร) แต่ไกลบ้าน (รังสิต) เพราะแต่ละวันใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ที่ทำงาน ถ้ามีเหตุฉุกเฉินจะเข้าโรงพยาบาลได้ง่าย รวมทั้งถ้ารอปวดท้องคลอดแล้วค่อยมาโรงพยาบาล คงลำบากพอสมควรทีเดียว
6. คุณหมอให้ตัดสินใจเองค่ะ ส่วนหนึ่งของคำพูดคุณหมอที่ทำให้ฉุกคิด คือ เราเคยเสียลูกคนแรกไปแล้ว และตั้งความหวังกับลูกคนนี้มาก การผ่าคลอดจะช่วยให้ทั้งแม่และหมอเตรียมตัวเตรียมใจเตรียมความพร้อมได้อย่างดี และมีความปลอดภัยในการคลอดมากกว่าเสี่ยงคลอดเอง

หลังคลอดไม่ต้องพูดถึงเรื่องเจ็บแผลผ่าตัดหรอกค่ะ คนเคยรับการผ่าตัดคงรู้ดี เจ็บจนน้ำตาร่วง แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ทนไหวค่ะ เมื่อเห็นหน้าลูก มันคุ้มเสียยิ่งกว่าคุ้ม

อีก 4 ปีต่อมาคลอดลูกคนที่ 2 คุณแม่อายุ 40 ปีแล้ว ก็เลยผ่าคลอดเช่นเดียวกัน (ถึงแม้ว่าวิทยาการสมัยใหม่จะสามารถคลอดเองก็ได้) ก็ปลอดภัยดีค่ะ

ที่มา
//www.manager.co.th/Family/ViewNews.aspx?NewsID=9540000034155




 

Create Date : 18 มีนาคม 2554
0 comments
Last Update : 18 มีนาคม 2554 12:12:38 น.
Counter : 884 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


scimovie
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 108 คน [?]




แหล่งรวบรวมความรู้ โปรแกรม เพลง หนัง เกมส์ วิทยาศาสตร์ ดูละคร เรื่องย่อ ภาพยนตร์ การเงิน และอื่นๆ อีกมากมาย สุดท้ายขอกำลังใจให้มีแรงอัพเดทตลอดๆ ครับ ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมเยียนกันครับ
Friends' blogs
[Add scimovie's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.