ดาวน์โหลดโปรแกรม ดูละครย้อนหลัง อ่านเรื่องราวของความรู้รอบตัว วิทยาศาสตร์ ท่องเที่ยว สุขภาพ อาหาร รถยนต์ต่างๆ ไม่ทิ้งเรื่องราวความบันเทิงและเรื่องส่วนตัวอีกด้วย
Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2553
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
24 ตุลาคม 2553
 
All Blogs
 
พ่อแม่ควรฟัง "ลูกวัยโจ๋" เพื่อจะได้เข้าใจกัน

ถึงยุคที่พ่อแม่ควรฟัง! ถ้าไม่อยากกริ้วกับ "ลูกวัยโจ๋"



นับเป็นเรื่องท้าทายพ่อแม่ยุคนี้ไม่น้อย เมื่อเด็กยุคใหม่มีการเปลี่ยนแปลงร่างกายเร็วกว่ากระบวนการรองรับทางสังคมทั้งจากพ่อแม่ และสังคมโดยรวม ทำให้พ่อแม่หลายคนตั้งรับไม่ทัน ขาดความรู้ความเข้าใจต่อการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น ส่งผลให้เด็กไม่มีความพร้อมทางด้านจิตใจ หรือวุฒิภาวะเพียงพอเมื่อเข้าสู่วัยรุ่น

เมื่อเป็นเช่นนี้ นพ.พงษ์ศักดิ์ น้อยพยัคฆ์ กุมารแพทย์ด้านพัฒนาการเด็ก และวัยรุ่น วิทยาลัยแพทศาสตร์กรุงเทพมหานคร และวชิรพยาบาล บอกผ่านทีมข่าว Life and Family ว่า เด็กจะมีความเสี่ยงสูงต่อการเกิดพฤติกรรมในทางไม่ดีได้ง่าย หากขาดทักษะชีวิต และสังคมที่ดี เช่น ตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควร การใช้ความรุนแรงในเด็กผู้ชาย เป็นต้น

ปัญหาข้างต้น กุมารแพทย์ด้านพัฒนาการเด็กและวัยรุ่นท่านนี้ ให้ข้อเท็จจริงว่า เด็กยุคนี้ เมื่อเปรียบเทียบกับ 100 ปีที่ผ่านมา เด็กเข้าสู่วัยรุ่นเร็วกว่าปกติ โดยเด็กผู้ชาย เป็นวัยรุ่นเร็วกว่า 2-3 ปี ส่วนเด็กผู้หญิง 3-4 ปี แต่พัฒนาการทางด้านอารมณ์ และวุฒิภาวะกลับสวนทางกับการพัฒนาการทางด้านร่างกาย โดยมีพัฒนาการที่ช้าลงมาก เช่น คิด หรือมองแต่ในมุมตัวเอง ไม่เข้าใจมุมมองของคนอื่น กลายเป็นวัยรุ่นที่ควบคุมตัวเองได้น้อยลง

ดังนั้น ก่อนที่พ่อแม่จะเจอกับโจทย์ยากเมื่อลูกเข้าสู่วัยรุ่น การเตรียมความพร้อมลูกสู่การเป็นวัยโจ๋ที่ดีนั้นถือเป็นตัวตัดไฟตั้งแต่ต้นลม โดยเฉพาะพัฒนาการทางด้านอารมณ์ และวุฒิภาวะของเด็ก โดย นพ.พงษ์ศักดิ์ บอกว่า การแก้ปัญหาวัยรุ่นไม่ใช่แก้เฉพาะช่วงวัยรุ่นเท่านั้น แต่พ่อแม่ต้องค่อย ๆ ปลูกฝังลูกตั้งแต่เด็ก โดยเฉพาะในช่วงก่อนวัยรุ่น นับเป็นพื้นฐานที่พ่อแม่ต้องเข้าใจ และใส่ใจเป็นพิเศษ

"เด็กในช่วงวัย 10-13 ปี เขากำลังเริ่มเข้าสู่การเป็นวัยรุ่นตอนกลาง ดังนั้นอารมณ์เด็กจึงไม่นิ่ง พ่อแม่พูดไม่เข้าหูก็หงุดหงิดง่าย โกรธง่าย รำคาญง่าย มีความพัฒนาความเป็นตัวของตัวเองค่อนข้างสูง ซึ่งแต่เดิมลูกจะพึ่งพ่อแม่ พอเข้าสู่ช่วงวัยรุ่น เด็กจะเริ่มออกห่าง ส่วนใหญ่จะไม่ลงรอยกับพ่อแม่เพราะจู้จี้มากเกินไป หรือบางคนรู้สึกน้อยใจ เพราะพ่อแม่ไม่สนใจเหมือนเดิม ดังนั้นพ่อแม่ต้องเรียนรู้จากลักษณะนิสัยของลูกว่า ควรจะให้ความสนใจลูกในระดับใดถึงจะเหมาะสม โดยไม่ทำให้เด็กรู้สึกอึดอัด" กุมารแพทย์ด้านพัฒนาการเด็ก และวัยรุ่นกล่าว

เตรียมพร้อมลูกสู่การเป็น "วัยโจ๋" ที่ดี

อย่างไรก็ดี พัฒนาการทางด้านอารมณ์และวุฒิภาวะของเด็ก พ่อแม่ต้องเตรียมความพร้อมให้ลูกตั้งแต่เนิ่น ๆ เพื่อให้ลูกรับมือกับความเปลี่ยนแปลงของพัฒนาการทางด้านร่างกาย จิตใจ และมีทักษะทางสังคมในช่วงวัยรุ่น เช่น การพึ่งพาตัวเอง เอกลักษณ์ในตัวตน พัฒนาการทางด้านเพศ ความสัมพันธ์กับผู้อื่น ตลอดจนความคิดในเชิงนามธรรม คุณธรรม และค่านิยม ซึ่งความพร้อมที่จำเป็นในด้านต่าง ๆ มีอยู่ 3 ด้านหลักดังนี้





- ความสามารถในการควบคุมตัวเอง ถือเป็นตัวสำคัญที่พ่อแม่เริ่มปลูกฝังได้จากการฝึกวินัย และความรับผิดชอบง่าย ๆ เช่น รับผิดชอบในงานของตัวเอง และงานส่วนรวม เช่น งานบ้าน เมื่อลูกมีวินัยเบื้องต้น เด็กจะมีขอบเขตของความเหมาะสม และรู้จักควบคุมตัวเองได้ดี แต่ทั้งนี้ต้องใช้วิธีการพูดคุยที่เป็นมิตรกับลูกด้วย ในขณะที่เรื่องเพศ ต้องค่อย ๆ สอน แนะนำ หรือให้ความรู้ที่เหมาะสม ไม่ว่าจากสื่อ หรือสิ่งแวดล้อมรอบตัว เช่น การวางตัว การแต่งตัว หรือการประพฤติตัวต่อเพื่อนต่างเพศ

- ความมั่นใจในความสามารถและรู้คุณค่าของตัวเอง ในส่วนนี้ ควรเปิดโอกาสให้ลูกได้ใช้ความพยายามของตัวเองในเรื่องต่าง ๆ เช่น ความพยายามในการเก็บเงินซื้อของ ซึ่งไม่ควรใช้คำพูด หรือแสดงท่าทีในทางไม่ดี หรือไม่เชื่อใจลูก หากลูกทำไม่ได้ ควรเข้าไปช่วย พร้อมกับแนะนำวิธีที่ถูกต้องด้วยการสื่อสารที่เป็นมิตร เมื่อเด็กมีสิ่งเหล่านี้ พวกเขาจะไม่ทำตัวเพื่อลดคุณค่าของตัวเองด้วยการแก่งแย่ง หรืออิจฉาคนอื่น

"เด็กที่ไม่ได้ถูกสอนให้ช่วยเหลือตัวเองตั้งแต่เด็ก พอถึงช่วงหนึ่งที่พ่อแม่ปล่อยให้ทำ จะทำได้ไม่ดี เกิดเป็นความรู้สึกเสียความมั่นใจ และไม่อยากให้ความร่วมมือ เนื่องจากจะถูกพ่อแม่ตำหนิอยู่ตลอด ก็เพราะคุณไม่ได้สอนให้เขาทำตั้งแต่เด็ก เวลาลูกจะทำก็ทำให้ตลอด ดังนั้นพ่อแม่ต้องเข้าใจลูก และเปิดโอกาสให้ลูกได้ถาม หรือทำอะไรด้วยตัวเองบ้าง" กุมารแพทย์ด้านพัฒนาการเด็ก และวัยรุ่นรายนี้กล่าว

- ส่งเสริมให้มีแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์ พ่อแม่ควรส่งเสริมกิจกรรมให้เด็กมีแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์อย่างเหมาะสมตามวัยตั้งแต่ก่อนเข้าวัยรุ่น เช่น ให้ลูกทำในสิ่งที่ชอบ ไม่บังคับให้ทำอะไรที่ยากเกินไป และยากเกินวัย เพราะเด็กจะเบื่อ และไม่มีแรงจูงใจในการทำสิ่งต่าง ๆ แต่ทั้งนี้ต้องไม่ตามใจลูกมากเกินไป ควรดูความเหมาะสมของกิจกรรมนั้น ๆ ด้วย

การที่พ่อแม่เข้าใจลูกด้วยการให้เวลาในการอบรมสั่งสอนอย่างสร้างสรรค์ เด็กจะเกิดความเข้าใจตัวเองผ่านความเข้าใจของพ่อแม่ และจะพัฒนาวิธีคิด รวมทั้งการตัดสินใจในทางที่เหมาะสม เมื่อลูกโตเป็นวัยรุ่น เขาจะสามารถพึ่งพา และเห็นคุณค่าในตัวเอง ไม่พาชีวิตไปสู่วิถีทางที่สุ่มเสี่ยง ตลอดจนมีความคิดในเชิงนามธรรม คุณธรรม และค่านิยมบนพื้นฐานของความถูกต้อง


ที่มา
//www.manager.co.th/Family/ViewNews.aspx?NewsID=9530000149661


Create Date : 24 ตุลาคม 2553
Last Update : 24 ตุลาคม 2553 20:35:44 น. 0 comments
Counter : 573 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

scimovie
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 108 คน [?]




แหล่งรวบรวมความรู้ โปรแกรม เพลง หนัง เกมส์ วิทยาศาสตร์ ดูละคร เรื่องย่อ ภาพยนตร์ การเงิน และอื่นๆ อีกมากมาย สุดท้ายขอกำลังใจให้มีแรงอัพเดทตลอดๆ ครับ ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมเยียนกันครับ
Friends' blogs
[Add scimovie's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.