ดาวน์โหลดโปรแกรม ดูละครย้อนหลัง อ่านเรื่องราวของความรู้รอบตัว วิทยาศาสตร์ ท่องเที่ยว สุขภาพ อาหาร รถยนต์ต่างๆ ไม่ทิ้งเรื่องราวความบันเทิงและเรื่องส่วนตัวอีกด้วย
Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2553
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930 
 
14 พฤศจิกายน 2553
 
All Blogs
 

อุทาหรณ์พ่อแม่ เมื่อลูกตกเป็นเป้าหมายแก๊งขโมยเด็ก

อุทาหรณ์พ่อแม่ เมื่อลูกตกเป็นเป้าหมายแก๊งขโมยเด็ก



ถือเป็นอีกหนึ่งภัยครอบครัวที่คุณพ่อคุณแม่ยุคนี้ต้องให้ความสำคัญ กับพฤติกรรมของแก๊งขโมยเด็กที่อัปเกรดวิธีการให้แยบยลขึ้นไปอีกระดับหนึ่ง ด้วยการส่ง "นางโจร" เข้ามาดำเนินการ แถมมิจฉาชีพเหล่านี้ยังไม่เลือกเวลา เช้าสายบ่ายค่ำ ขอเพียงคุณเผลอ เขาก็พร้อมจะขโมยลูกหายวับไปกับตาได้ทันใด

ครอบครัวที่มาเปิดเผยประสบการณ์สะเทือนใจในครั้งนี้คือครอบครัว "ศิริภรรค์" ที่เกือบสูญเสีย "น้องดิน" - ด.ช.ถิร ศิริภรรค์ ลูกชายคนเดียววัย 1 ขวบกว่าไปกับแก๊งมิจฉาชีพ โดยคุณบี - เนตรนภา ศิริภรรค์ คุณแม่ของน้องดินเป็นผู้เล่าถึงเหตุการณ์ในวันนั้นว่า

"วันนั้นเราไปทำความสะอาดร้านขายเสื้อผ้าเด็กที่อยู่ในตลาดรวงทรัพย์ย่านอโศก ก็ไปกันหมดสามคนพ่อแม่ลูก บีก็ทำความสะอาดร้าน ซึ่งปกติจะมาดูดฝุ่น ฯลฯ กันเดือนละครั้ง ส่วนลูกก็ให้มีสามีดูแล ช่วงที่เกิดเหตุเป็นช่วงที่บีกำลังไปเข้าห้องน้ำพอดี สามีก็โทรศัพท์มาตามว่า รีบออกมาหน่อย มีคนขโมยลูกไปแล้ว"

สถานที่เกิดเหตุเป็นศูนย์อาหารที่อยู่ติด ๆ กันนั่นเอง ซึ่งคุณพ่อของน้องดิน หรือคุณชนม์ ศิริภรรค์ (พ่อปี๊ม) บอกว่า เห็นบริเวณนั้นโปร่งดี จึงพาน้องดินไปทานนมที่นั่นระหว่างรอคุณแม่

"ตอนที่สามีให้นมลูก ลูกก็นอนอยู่บนตัก พอทานเสร็จเขาก็พลิกตัวลงมาแล้วผู้หญิงคนนั้นก็เดินมาอุ้มไปเลย"

ครอบครัวศิริภรรค์เล่าว่า ผู้หญิงรายนี้มายืนมองน้องดินอยู่สักพักหนึ่งแล้ว แต่ก็ไม่ได้ให้ความสนใจมากนัก ประกอบกับน้องดินเป็นเด็กเข้ากับคนง่าย ใครเห็นก็ชอบมาเล่นด้วย จึงไม่ได้ระวังในจุดนี้ไป

"ตอนที่เขาเข้ามาอุ้มไป เป็นช่วงที่สามีกำลังเก็บขวดนมพอดี ซึ่งทันทีที่เห็น สามีก็รีบวิ่งตามไปพร้อมตะโกนว่า คุณเอาลูกผมไปไหน ขณะที่ผู้หญิงคนนั้นก็วิ่งหนีเช่นกัน แต่สุดท้ายก็ไปทันกันบริเวณร้านนวดในตลาด และเกิดการฉุดกระชากตัวเด็กจนน้องดินร้องไห้"

"คุณพ่อไปแย่งตัวลูกกลับมา แล้วผู้หญิงคนนั้นมากระชากกลับ แล้วเขาก็ตะโกนว่า ผู้ชายคนนี้มาแย่งลูกเขาไป ตอนนั้นคนไม่ค่อยกล้าเข้ามายุ่งเพราะคิดว่าเป็นเรื่องสามีภรรยา" คุณบีเล่า

"ตอนที่บีไปถึง มีคนมุงไม่ต่ำกว่า 10 คน แล้วก็มีคนมาช่วยอุ้มลูกเอาไว้ เพราะพอเกิดเหตุการณ์แบบนี้ เขาก็ไม่แน่ใจว่าเป็นลูกใคร ก็เลยอุ้มแยกออกไปให้ ตอนนั้นตำรวจก็มาแล้ว พอบีเห็นลูกก็รีบไปอุ้มลูกกลับมา คนแถวนั้นยังบอกเลยว่านี่สิถึงจะเป็นแม่แท้ ๆ เพราะก่อนหน้าที่มีการแย่งลูกกัน เขากระชากลูกเราแรงมากจนลูกร้องไห้ คนที่เห็นเหตุการณ์ยังบอกเลยว่า ถ้าแม่แท้ ๆ ไม่กระชากแรงแบบนี้หรอก"



ภาพครอบครัวที่เกือบไม่ได้อยู่กันพร้อมหน้าพ่อแม่ลูกอีก



พลเมืองดีอีกคนหนึ่งที่เขามาช่วยครอบครัวศิริภรรค์ยืนยันว่าเป็น ผู้หญิงคนนั้นเป็นมิจฉาชีพคือ แม่ค้าส้มตำที่ขายของอยู่บริเวณนั้นนั่นเอง โดยแม่ค้าท่านนี้ออกมายืนยันว่า เห็นคุณพ่อกับน้องดินเล่นกันตั้งแต่ช่วงเที่ยงแล้ว

"พอเขาจนมุม ผู้หญิงคนนั้นก็เริ่มแสดงอาการเหมือนคนไม่ปกติ ทั้งอาเจียน ลงไปนั่งกับพื้น แต่ตายังมองลูกเราเขม็ง จนเราไม่อยากเอาเรื่อง แต่คนแถวนั้นบอกว่าอย่ายอมนะ บางคนก็บอกรุมประชาทัณฑ์เลยไหม ตำรวจเลยบอกจะพาไปโรงพัก ก็รอรถตำรวจ สุดท้ายรถตำรวจไม่มา เขาก็เลยพาผู้หญิงคนนั้นนั่งแท็กซี่ไป สน. แล้วเราก็ขับรถตามไป"

แต่สุดท้ายเรื่องนี้เมื่อไปถึงโรงพักที่ สน.ทองหล่อ ก็จบลงแบบงง ๆ โดยที่ไม่ได้แจ้งความหรือดำเนินการใด ๆ แต่ทางครอบครัวก็ไม่ได้ติดใจในจุดนี้ เพราะทุกคนเหนื่อย และสะเทือนใจกับเหตุการณ์ดังกล่าวมามากแล้ว

"พอไปถึง ร้อยเวรบอกว่า ถ้าไม่มีอะไรก็กลับ เราก็สงสารลูก เพราะลูกเหนื่อยมากแล้ว ก็เลยตัดสินใจกลับ"

แต่เมื่อถึงบ้าน เธอเล่าว่า คืนนั้นนอนไม่หลับ น้ำตาไหลตลอดเวลา พร้อม ๆ กับความคิดที่ว่า ถ้าเขาขโมยลูกไปได้ ถ้าสามีไปไม่ทัน จะทำอย่างไร

"คิดว่าเราอาจจะตายได้เลยนะ ถ้าเขาทำสำเร็จ" คุณแม่ท่านนี้กล่าว "ตอนแรกก็โมโหสามี ว่าทำไมปล่อยให้เขามาเอาลูกไปได้ แต่คิดอีกทีก็ใจหายยิ่งกว่า เพราะว่าถ้าคนที่อยู่กับลูกคือเรา เราอาจจะสู้เขาไม่ไหวก็ได้"

"จากเหตุการณ์นี้รู้สึกขอบคุณทุกคนที่ตลาดอย่างมาก ทั้งคนที่มาช่วยอยู่รอบ ๆ ทั้งคนที่อุ้มลูกบีไว้ แม้เราจะไม่รู้จักกัน ขอบคุณแม่ค้าส้มตำที่ช่วยยืนยันให้เรา ขอบคุณเพื่อน ๆ ในตลาดสำหรับกำลังใจ และอยากฝากว่า เวลาเห็นเหตุการณ์แบบนี้ อย่าพึ่งเดินผ่านไป ขอให้หยุดฟังกันสักนิด เผื่อเราอาจช่วยอะไรเขาได้บ้างน่ะค่ะ"

ที่สำคัญ นอกจากขอบคุณทุกคนที่เข้าร่วมในเหตุการณ์วันนั้นแล้ว เธอยังรู้สึกขอบคุณอย่างมากที่คนรอบข้างไม่เชื่อไปกับคำโกหกของหญิงมิจฉาชีพที่อ้างว่าเด็กเป็นลูกตัวเองอีกด้วย ซึ่งก็ถือเป็นความโชคดีที่คำโกหกนี้ยังใช้ไม่ได้ผลในเมืองไทย เพราะนั่นเป็นการยืนยันว่า

ในสังคมแห่งนี้ยังมีความใส่ใจในทุกข์สุขของผู้อื่นหลงเหลืออยู่...
ยังมีความเอาใจใส่ในความเป็นไปของผู้อื่นหลงเหลืออยู่...
และยังอาจมีมิตรภาพดี ๆ ที่งอกงามบนความสะเทือนใจหลงเหลืออยู่นั่นเอง


ที่มา
//www.manager.co.th/Family/ViewNews.aspx?NewsID=9530000159283




 

Create Date : 14 พฤศจิกายน 2553
3 comments
Last Update : 14 พฤศจิกายน 2553 12:35:29 น.
Counter : 905 Pageviews.

 

สวัสดีค่ะ

ขอบคุณสำหรับการแบ่งปันข้อมูลที่มีประโยชน์มากๆค่ะ

 

โดย: LoveTurJang 15 พฤศจิกายน 2553 16:11:56 น.  

 

ขอบคุณค่ะ

 

โดย: Jub_ka_Jib 16 พฤศจิกายน 2553 16:12:57 น.  

 

แฟมิลี่โชว์โป้ 087-1175856

 

โดย: คุณบอย IP: 223.207.154.76 7 มิถุนายน 2554 14:15:06 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


scimovie
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 108 คน [?]




แหล่งรวบรวมความรู้ โปรแกรม เพลง หนัง เกมส์ วิทยาศาสตร์ ดูละคร เรื่องย่อ ภาพยนตร์ การเงิน และอื่นๆ อีกมากมาย สุดท้ายขอกำลังใจให้มีแรงอัพเดทตลอดๆ ครับ ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมเยียนกันครับ
Friends' blogs
[Add scimovie's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.