BlogGang.com : : scimovie : เซิร์น ทดลอง ต้นกำเนิดจักรวาล

เซิร์น ทดลอง ต้นกำเนิดจักรวาล

แม้ว่าตอนนี้(พฤศจิกายน 2551)ผลการทดลองของเซิร์นจะยังไม่ปรากฏแต่ก็ยังเป็นสิ่งที่หลายคนเฝ้าจับตาดูอยู่ตลอด เรามาทำความรู้จักกับเซิร์นและการทดลองของเขาดีกว่า

CERN อ่านว่า เซิร์น มาจากภาษาฝรั่งเศสว่า Conseil Europeen pour la Recherche Nucleaire หรือแปลว่า สภายุโรปเพื่อการวิจัยนิวเคลียร์ ก่อตั้งเมื่อ คศ. 1954 ซึ่งต่อมาเปลี่ยนเป็น European Organization for Nuclear Research ปัจจุบันมีประเทศสมาชิก 20 ประเทศในยุโรปและประเทศที่สังเกตการณ์ได้แก่ ญี่ปุ่น อินเดีย สหรัฐอเมริกา รัสเซีย ตุรกี อิสราเอล รวมทั้งสหภาพยุโรปและยูเนสโก ไทยก็เป็นหนึ่งประเทศในการเข้าร่วมการทดลอง

ที่เซิร์นมีนักวิทยาศาสตร์ทำงานอยู่ราวๆ 2,500 คน ที่ทำงานแบบอยู่ประจำ แต่มีอีกประมาณ 8,000 คนที่เป็นประเภท "ไป-กลับ" องค์กรเซิร์นตั้งอยู่ระหว่างชายแดนสวิตเซอร์แลนด์และฝรั่งเศส

จุดเด่นที่เรากล่าวขวัญถึงก็คือห้องทดลองขนาดใหญ่และ LHC หรือ Large Hadron Collider ซึ่งเป็นอุโมงค์ยุกษ์ที่ยาวถึง 27 กิโลเมตร มีตำแหน่งอยู่ลึกลงไปใต้ดินราวๆ 100 เมตรเชียว โดยเครื่อง LHC นี้ทำหน้าที่เป็นเครื่องเร่งอนุภาค (particle accelerator) ที่ก้าวหน้าและใหญ่ที่สุดในโลก

เครื่อง LHC นี้นี่แหละที่สำคัญเพราะเป็นเครื่องเร่งอนุภาคให้มีความเร็วเกือบเท่ากับความเร็วแสง เพื่อใช้ในการทดลองการชนกันของอนุภาคฟิสิกส์ หรือบางคนเรียกอนุภาคฮิกส์ หรืออนุภาคพระเจ้า และศึกษาความลับของอนุภาคอะตอม ที่เราอาจจะยังไม่รู้ ซึ่งจะนำไปสู่การค้นพบปริศนาการกำเนิดจักรวาลตามทฤษฎี "บิกแบง" (Big Bang)

LHC เป็นเครื่องชนฮาดรอนขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นอนุภาคที่ขนาดเล็กกว่านิวเคลียสของอะตอมและมีควาร์ก เป็นองค์ประกอบ โดยจะเร่งให้อนุภาคฮาดรอนนี้ไปตามเครื่องยิงอนุภาคในทิศทางตรงกันข้ามในอุโมงค์และเร่งอนุภาคให้วิ่งเร็วขึ้นอย่างมหาศาลที่ความเร็วเกือบเท่ากับความเร็วของแสง(เพราะยังไม่สามารถทำให้เท่าความเร็วของแสงได้) และจะให้ชนกันในที่สุด ซึ่งกำลังเป็นที่จับตาของนักฟิสิกส์ทัั่วโลก เพื่อจะได้นำข้อมูลจากการทดลองนี้ไปอธิบายการกำเนิดเอกภาพต่อไป

ตามทฤษฎี บิกแบง ประกอบด้วย สสาร (matter) ซึ่งเกิดจากการรวมกันของควาร์กและเล็บตรอน รวมกันเป็นอะตอมก่อให้เกิดเป็นสิ่งต่างๆที่อยู่ในจักรวาลทุกวันนี้ แต่รวมแล้วคำนวณได้แค่ 4% ของสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมด ส่วนที่เหลือจะเป็นสสารมืดหรือพลังงานมืด(ส่วนที่ตรงข้ามกับสสารและพลังงานนั่นเอง) สาเหตุที่ต้องมีการทำการทดลองก็เพราะว่า นักฟิสิกส์มีความเชื่อว่า ที่จุดกำเนิดของจักรวาลนั้น เอกภพเคยมีสิ่งที่เรียกว่า ปฏิสาร(สิ่งที่ตรงข้ามกับสสาร) มีลักษณะตรงข้ามกับสสารแต่มีขนาดและจำนวนเท่ากันทุกอย่าง แต่เมื่อสสารและปฏิสารมาพบกันจะเกิดการสลายไปเป็นพลังงาน และทำไมธรรมชาติให้มีสสารมากกว่าปฏิสารล่ะ เพื่อหาคำตอบก็เลยเกิดโครงการนี้

นักฟิสิกส์เชื่อว่า เมื่ออนุภาคของสารชนกันแล้วจะได้ข่้อมูลที่เกิดขึ้น ไปอธิบายปรากฏการณ์ต่างๆได้มากและชัดเจนขึ้น แต่ก็ไม่มีใครสามารถให้คำตอบได้จริงๆ ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกันแน่ คงต้องรอไปจนกว่าผลการทดลองจะออกมา

อ้างอิง
หนังสือส่งเสริมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ Go Genius ฉบับที่ 36 และ 37
//www.wikipidia.com

จาก
//sanookdee.th.gs/web-s/anookdee/article/cern.htm

Create Date : 07 พฤศจิกายน 2551

Last Update : 7 พฤศจิกายน 2551 7:45:37 น.

0 comments

Counter : 1126 Pageviews.