ความพิศวงของหินเดินได้!
เมื่อดูจากหัวข้อแล้วหลายคนอาจจะแปลกใจใช่มั้ยครับ ผมไม่ได้เขียนหัวข้อผิดแต่อย่างใด เพราะผมจะพาคุณไปดูหินก้อนโตมันเดินได้จริงๆ ซึ่งเรื่องที่ผมกำลังจะเสนอนี้เป็นเรื่องลี้ลับที่น่าสนใจที่สุดของอุทยานแห่งชาติเดท วัลลี่ย์ (Death Valley National Park) เลยทีเดียว หินก้อนโตเคลื่อนที่แบบลื่นไถลไปตามพื้นราบใน เรซแทรค พลาย่า (แอ่งทะเลสาบที่แห้งแล้ว) มันเป็นไปได้อย่างไร โดยมีร่องรอยของการเคลื่อนที่ปรากฎไว้บนพื้นเป็นแนวยาว บ่งบอกได้ว่ามันไม่ได้อยู่กับที่แน่นอน หินบางก้อนหนักเป็นหลายร้อยกิโลกรัม ทำให้เกิดคำถามที่น่าคิดว่า "หินมันเคลื่อนที่ได้อย่างไร?"
ความจริงก็คือ ยังไม่มีใครรู้คำตอบที่แน่นอนได้ว่าหินเหล่านี้มันเคลื่อนที่ไปได้อย่างไร แม้ว่าหลายคนจะมีคำอธิบายที่ดี แต่เหตุผลที่ว่าทำไมการเคลื่อนที่ของหินเหล่านี้ยังคงเป็นเรื่องลี้ลับก็คือ ยังไม่มีใครเห็นมันในขณะเคลื่อนที่น่ะสิ! ทีนี้เรามาดูกันว่าเขาได้ให้คำอธิบายไว้ว่าอย่างไรกัน
ข้อมูลเกี่ยวกับเรซแทรค พลาย่า (Racetrack Playa) เรซแทรค พลาย่าเป็นแอ่งทะเลสาบที่ค่อนข้างราบและแห้งแล้ง มีความยาวในแนวเหนือ-ใต้ประมาณ 4 กิโลเมตร และกว้างในแนวตะวันออก-ตะวันตกประมาณ 2 กิโลเมตร มีลักษณะพื้นผิวเป็นระแหงโคลน (mud cracks) ส่วนมากประกอบด้วยตะกอนขนาดทรายแป้ง (silt) และดินเหนียว (clay)
สภาพภูมิอากาศค่อนข้างแห้งแล้ง มีปริมาณน้ำฝนเพียงสองนิ้วต่อปี แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่ฝนตก น้ำปริมาณมากจะไหลจากภูเขาสูงชันที่อยู่ล้อมรอบเรซแทรค พลาย่าลงมาปกคลุมพื้นที่แอ่งจนกลายเป็นทะเลสาบตื้น ครอบคลุมเป็นบริเวณกว้าง ซึ่งขณะนั้นบริเวณพื้นแอ่งจะเต็มไปด้วยดินเหนียวที่เหลวและอ่อนนุ่ม
หินเคลื่อนที่โดยฝีมือมนุษย์หรือสัตว์หรือไม่? จากลักษณะรูปร่างของร่องรอยการไถลของหินนั้นบ่งบอกได้ว่าหินก้อนนั้นต้องเคลื่อนที่ในช่วงที่พื้นของเรซแทรค พลาย่านั้นถูกปกคลุมด้วยดินเหนียวอ่อนนุ่ม ถ้าเป็นฝีมือของคนหรือสัตว์จะต้องมีร่องรอยของการเหยียบย่ำรบกวนชั้นดินเหนียวด้วย แต่ในบริเวณดังกล่าวไม่ปรากฏหลักฐานร่องรอยจากคนหรือสัตว์ที่จะช่วยให้หินเคลื่อนที่เลย มีเพียงร่องรอยการไถลของหินเท่านั้น หินเคลื่อนที่โดยลมหรือไม่? ตัวการที่นิยมนำมาใช้อธิบายปรากฎการณ์นี้ก็คือ ลม โดยส่วนมากลมที่พัดผ่านบริเวณนี้จะมีทิศทางพัดจากทิศตะวันตกเฉียงใต้ไปยังทิศตะวันออกเฉียงเหนือ และร่องรอยการไถลของหินก็มีทิศทางขนาดกับทิศทางของลมนี้ด้วย ซึ่งเป็นหลักฐานที่ดีที่สนับสนุนว่าลมเป็นตัวการทำให้หินเคลื่อนที่หรืออย่างน้อยก็เกี่ยวข้องกับการเคลื่อนที่ของหิน
เนื่องจากลมแรงที่พัดขึ้นอย่างกระทันหันนั้นได้พลักให้หินเกิดการเคลื่อนที่ และเมื่อหินเริ่มเคลื่อนที่แล้ว ความเร็วลมเพียงเล็กน้อยก็จะสามารถทำให้หินไถลตัวต่อไปอีกเรื่อยๆ ได้บนพื้นดินเหนี่ยวที่อ่อนนุ่มและลื่นเหลว แนวโค้งของรอยไถลนั้นอธิบายได้ว่าเกิดจากการเปลี่ยนทิศทางของลม หรือเกิดจากกรณีที่ลมปะทะกับหินที่มีรูปร่างไม่สม่ำเสมอทำให้หินไถลเป็นแนวโค้งได้
หินเคลื่อนที่โดยน้ำแข็งหรือไม่? มีคนกลุ่มหนึ่งให้ข้อมูลว่าเคยเห็นเรซแทรค พลาย่าถูกปกคลุมด้วยน้ำแข็งชั้นบางๆ แนวคิดหนึ่งอธิบายว่าเมื่อน้ำรอบก้อนหินแข็งตัวและแต่ต่อมามีลมพัดผ่านผิวด้านบนของน้ำแข็ง ทำให้แผ่นน้ำแข็งได้ลากก้อนหินนั้นไปด้วย จึงเกิดรอยครูดไถลบนพื้นผิวแอ่ง นักวิจัยบางคนพบร่องรอยไถลของหินหลายก้อนที่สอดคล้องกับแนวคิดนี้ด้วย แต่อย่างไรก็ตามการเคลื่อนย้ายแผ่นน้ำแข็งขนาดใหญ่นั้นคาดว่าจะต้องมีการทิ้งร่องรอยบนพื้นผิวแอ่งในทิศทางอื่นๆ ด้วย แต่ก็ยังไม่พบร่องรอยนั้น
ลม..ตัวการของการเคลื่อนที่! จากคำอธิบายทั้งหลายพบว่า ลม เป็นตัวการที่อยู่เบื้องหลังของการเคลื่อนที่ของหิน แต่ยังคงมีคำถามอยู่ว่าหินเหล่านั้นไถลไปในขณะที่ถูกล้อมรอบด้วยแผ่นน้ำแข็งหรือขณะที่อยู่บนชั้นดินเหนียว หรือแต่ละวิธีอาจจะเป็นผลให้เกิดการเคลื่อนที่กับหินบางก้อน?
อาจกล่าวได้ว่า ปรากฏการณ์มหัศจรรย์นี้จะยังคงเป็นที่น่าสนใจมากยิ่งขึ้น ตราบเท่าที่ยังไม่มีใครหาคำตอบที่แท้จริงได้..!
ที่มา //geothai.net/2009/index.php?option=com_content&view=article&id=73:2009-01-27-19-33-56&catid=56:rocks&Itemid=100006
Create Date : 20 พฤษภาคม 2552 |
Last Update : 20 พฤษภาคม 2552 13:13:58 น. |
|
2 comments
|
Counter : 1395 Pageviews. |
|
|
|
ผมลองเดาเล่นๆ นะคับ
เป็นไปได้หรือป่าวว่าอิทธิพลของสนามแม่เหล็กบริเวณนั้นส่งปรงกระทำไปยังก้อนหินก้อนนั้นอ่ะคับ
ก็ลองคาดเดาดูนะคับ เพราะไม่รู้ว่า สปก. ของหินนั้นมีอะไรบ้างอ่าคับ