ชาสมุนไพรเพื่อแม่หลังคลอด
ชาสมุนไพรเพื่อแม่หลังคลอด
พลังแห่งสมุนไพรบำบัด ช่วยคุณแม่ในช่วงพักฟื้นหลังคลอดในการขับของเสีย (และลม) ออกจากระบบทางเดินอาหาร และมดลูก เพื่อให้มดลูกสะอาดและหดตัวกลับสู่ความเป็นปกติ นอกจากนี้มีสมุนไพรและเครื่องเทศบางชนิดที่ช่วยขับพิษให้แก่ร่างกายได้อย่างน่าอัศจรรย์ ช่วยเร่งน้ำนม ช่วยให้มดลูกหดตัวเข้าอู่ และช่วยย่อยอาหาร ซึ่งเราสามารถเติมสมุนไพร และเครื่องเทศลงไปในอาหาร และเครื่องดื่ม เช่น น้ำ ชา หรือนมก็ได้ สมุนไพรช่วยพักฟื้น สมุนไพรพื้นฐานสำหรับการฟื้นฟูร่างกายของคุณแม่ในช่วงพักฟื้นหลังคลอด ได้แก่ ขิง กระเทียม เฟนเนลหรือเทียนข้าวเปลือก กระวาน ยี่หร่า เมล็ดเซเลอรี่ป่า เฟนูกรีกหรือลูกชัค พริกไทยดำ ขมิ้น ตะไคร้ โหระพา ผงผักชี อบเชย หญ้าฝรั่น พาสลีย์ ผักชี ว่านหางจระเข้ เป็นต้น เมล็ดเฟนเนลหรือเทียนข้าวเปลือก และเมล็ดเฟนูกรีกหรือลูกชัค ถือเป็นสมุนไพรหลักสำหรับการเร่ง น้ำนม แต่ความขมของเฟนูกรีกหรือลูกชัค อาจทำให้กินได้ยาก ดังนั้น จึงควรเติมเฟนูกรีกลงไปในอาหาร หรือในชาสมุนไพรจะดีกว่า นอกจากนั้นยังมีสมุนไพรทางตะวันตกอื่น ๆ ที่มีสรรพคุณในการเร่งน้ำนมได้ เช่น แดนดีไลออน (Dandelion) หรือเนส เทิลส์ (Nestles) และสมุนไพรอื่น ๆ เช่น หญ้าฝรั่น เมอรร์ พาสลีย์ และว่านหางจระเข้ เป็นสมุนไพรที่มีสรรพคุณในการขับให้ประจำ เดือนออกมาเป็นปกติ เช่น การกินน้ำพาสลีย์คั้น หรือวุ้นว่านหางจระเข้ วันละ 2 ช้อนชา จะช่วยให้มดลูกคืนความแข็งแรงได้ ส่วนสมุนไพรทางอายุรเวทอื่น ๆ ที่ช่วยเพิ่มน้ำนมได้ อย่างเช่น รากสามสิบ (Shatavari) และ อัชวากานฮา (Ashwagandha) กับหญ้าขัดมอญ (Bala) ตลอดจนสมุนไพรอื่น ๆ เช่น ชะเอมเทศ และมาร์ชเมลโลนำมาผสมกับนม ด้วยการนำ ผงสมุนไพรเหล่านี้ชนิดใดชนิดหนึ่งมาผสมกับนมที่ต้มเดือด และนำมาดื่มตอนอุ่น ๆ รากสามสิบ และอัชวากานฮา มีสรรพคุณในการบำรุงมดลูกโดยตรง และช่วยให้กล้ามเนื้อมดลูกแข็งแรง อัชวากานฮามีคุณสมบัติใกล้เคียงกับโสม สามารถนำมากินควบคู่กับสมุนไพรบางชนิด เช่น ตังกุย และโกฐขี้แมว (Rehmannia) ได้ในช่วงพัก ฟื้นหลังคลอด นอกจากนี้ยังมีสมุนไพรทางอายุรเวทอีกชนิดหนึ่ง เรียกว่า ดีปลี (Pippali) ซึ่งมีสรรพคุณในการเยียวยาอวัยวะภายใน และทำให้มดลูกสะอาดหลังจากคลอดได้ ด้วยการนำผงดีปลี 1 ช้อนชามาผสมกับน้ำผึ้งและน้ำเปล่า ดื่มเป็นประจำทุกวัน สมุนไพรเหล่านี้ สามารถหาได้จากร้านที่ขายยาด้านอายุรเวท ส่วนโสมกับสมุนไพรจีนอื่น ๆ ก็สามารถหาซื้อได้จากร้าน ขายยาจีนแผนโบราณ ส่วนยาแผนโบราณของไทยที่มักนิยมใช้ในช่วงพักฟื้นหลังคลอด เช่น ยาประสะไพล ยาไฟห้ากอง หรือไฟประลัยกัลป์ ซึ่งเป็นยาที่สามารถหาได้ตามร้านขายยาทั่วไปค่ะ ชวนดื่มชาสมุนไพร การต้มเป็นวิธีการหนึ่งที่สามารถนำสรรพคุณของสมุนไพรออกมาใช้อย่างได้ผล อย่างการทำเป็นสมุนไพรต่าง ๆ และเนื่องจากผู้หญิงในช่วงให้นมลูก ควรจะดื่มน้ำให้ได้มากกว่าปกติทั่วไป ดังนั้น การดื่มชาสมุนไพรจึงเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการ เยียวยาฟื้นฟูร่างกายหลังคลอด และช่วยให้ร่างกายเกิดความชุ่มชื้น ช่วยขับพิษต่าง ๆ ออกจากร่างกาย ทำให้ร่างกายอบอุ่นนำไปสู่การสร้างน้ำนม - ทำชาสมุนไพรทุกวัน เพื่อความสดใหม่ และไม่นำชาสมุนไพรไปแช่ในตู้เย็น - สมุนไพรที่นำมาชงชา ควรเป็นสมุนไพรที่มีสรรพคุณให้ความอุ่น และช่วยย่อยอาหาร ตลอดจนหาได้ง่ายในท้องถิ่น - หากรู้สึกว่าร้อนภายในตัว หรือเกิดผลข้างเคียงอื่น ๆ เช่น เกิดผื่น มีไข้ ท้องเสีย เกิดการอักเสบ เป็นต้น ให้จำกัดการดื่มลง หรือชงชาให้บางลงโดยใส่สมุนไพรน้อยลง เพราะฤทธิ์ของสมุนไพรอาจจะทำให้ร่างกายร้อนเกินไป - คุณแม่ควรหมั่นสังเกตตัวเอง และใช้วิจารณญาณในการบริโภคเสมอ เพราะในบางครั้งอะไรดี ๆ ที่มากเกินไปก็อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพได้ ชาสมุนไพรสามารถดื่มได้เป็นประจำ ก็จะช่วยคุณแม่หลังคลอดให้ได้เยียวยาร่างกายภายใน และยังช่วยเร่งให้มีน้ำนมให้แก่ลูกน้อยอีกด้วยค่ะ
สูตรชาสมุนไพรง่าย ๆ ชาขิง ส่วนผสม - ขิงผง 1 ช้อนชา (ถ้าเป็นขิงหั่นแว่น ใช้ 3-4 แว่นบาง ๆ หรือขิงขูด 1 ช้อนชา) - เมล็ดเซเลอรี่ป่า 1 ช้อนชา - เมล็ดเฟนเนลหรือเทียนข้าวเปลือก 2 ช้อนชา - กระวาน 2-3 กลีบ (ให้นำมาทุบ) - เมล็ดยี่หร่า 1 ช้อนชา - น้ำผึ้ง (เพื่อความหวานอาจจะใส่หรือไม่ก็ได้) 2 ช้อนชา *** ส่วนผสมนี้จะได้ชา 2 ถ้วย (สามารถปรับปริมาณของแต่ละส่วนผสมได้ตามชอบ) วิธีทำ 1. ต้มสมุนไพรทั้งหมด (ยกเว้นน้ำผึ้ง) ลงในน้ำประมาณ 4 ถ้วย โดยใช้ไฟอ่อน ๆ จนสมุนไพรออกสีและส่งกลิ่น 2. ต้มจนกระทั่งน้ำงวดลดลงเหลือราว 2 ถ้วย แล้วนำมากรอง (จะเติมน้ำผึ้งลงไปก็ได้ในช่วงนี้) และนำมาดื่มตอนอุ่น สามารถดื่มได้เรื่อย ๆ ตลอดวัน และเพิ่มปริมาณในการต้มเผื่อเก็บไว้ในกระติกก็ได้ แต่ต้องไม่เก็บไว้ข้ามคืน
ที่มา //www.manager.co.th/Family/ViewNews.aspx?NewsID=9540000163275
Create Date : 25 ธันวาคม 2554 |
|
0 comments |
Last Update : 25 ธันวาคม 2554 14:40:39 น. |
Counter : 1128 Pageviews. |
|
|
|