ส่วนหนึ่งของธรรมดา...ที่สบตาได้อย่างสบายใจ
Group Blog
 
<<
กุมภาพันธ์ 2550
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728 
 
27 กุมภาพันธ์ 2550
 
All Blogs
 
ลูกสาวพิพิธภัณฑ์

หัวหน้าคนงามยื่นหนังสือให้เล่มหนึ่ง พร้อมกับบอกว่า
"พี่ว่าเป้ต้องชอบ อ่านแล้วพี่นึกถึงเป้เลย"
เอ่อ... พี่คงไม่ได้นึกถึงหนูในแง่ของความคล้ายคลึงกับพิพิธภัณฑ์หรอกนะคะ



ลูกสาวพิพิธภัณฑ์ เขียนโดยคุณพรศิริ บูรณเขตต์
ลูกสาวของ "ลุงจ่า" หรือจ่าทวี... ผู้ก่อตั้งพิพิธภัณฑ์พื้นบ้าน จ่าทวี จ.พิษณุโลก
เป็นพิพิธภัณฑ์พื้นบ้านที่ได้รับการยกย่องจากนักวิชาการสายโบราณคดี และมานุษยวิทยาว่า... ดีที่สุดแห่งหนึ่งของไทยค่ะ ^_^

คุณพรศิริเขียนหนังสือเล่มนี้ขึ้นมาเพื่อบอกกล่าวเล่าถึงเบื้องหลังการก่อเกิดพิพิธภัณฑ์แห่งนี้
ที่ "จ่าทวี" พ่อของเธอเริ่มทำแต่เพียงลำพังเมื่อกว่า ๒๐ ปีก่อน
ด้วยมองเห็นคุณค่าของภูมิปัญญาบรรพบุรุษ... ที่นับวันจะเลือนหายไปด้วยการเข้ามาของเทคโนโลยี

จ่าทวีไม่ได้ออกเดินซื้อหาสะสมของเหล่านี้ในแง่ของเก่าที่ในอนาคตจะหาดูยาก
ไม่ได้มองพิพิธภัณฑ์ว่าเป็นเมืองลับแลที่คนจะแห่มาดูของแปลก... ที่แปลกหน้า แปลกตา และแปลกจากชีวิต
แต่ต้องการให้สิ่งของเหล่านี้บอกเล่าถึงวิถีชีวิตของท้องถิ่นที่ดำเนินมาแต่อดีตอย่างเชื่อมโยงถึงปัจจุบัน

อย่างเครื่องดักสัตว์ที่เรียกว่า "จั่น"... ซึ่งเป็นที่มาของสำนวน "หนูติดจั่น"
หรือ "สุ่มสี่สุ่มห้า"... "เดาสุ่ม"... อันมีที่มาจากเครื่องมือจับปลาที่เรียกว่า "สุ่ม"


แต่กว่าจะมาเป็นพิพิธภัณฑ์ให้ใครต่อใครได้ศึกษาเรียนรู้ในทุกวันนี้
จ่าทวีเมื่อยี่สิบกว่าปีก่อนคือคนบ้าของเก่า... บ้าหอบฟางในสายตาคนรอบข้าง
ลูกเมียมองด้วยสายตาไม่เข้าใจว่าทำไมพ่อต้องเอาเงินมากมายไปซื้อของเก่าใกล้ผุพังมาเก็บไว้ล้นบ้าน... เต็มโกดัง
ทั้งๆ ที่บ้านก็ไม่ได้ร่ำรวยมากมายอะไรนัก

จนกระทั่งสำเร็จเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ให้ใครต่อใครมาเรียนรู้ มาดูฟรี
โดยมีจ่าทวีและคุณพรศิริคอยนำชม พร้อมอธิบายให้ความรู้ถึงของแต่ละชิ้น
ทั้งชื่อ... ประโยชน์ใช้สอย... วิธีการทำ... รวมไปถึงเกร็ดต่างๆ อย่างเรื่อง "สุ่ม" หรือ "หนูติดจั่น"

แต่ถึงกระนั้นก็ยังไม่วายต้องผจญกับผู้ชมฟรีที่ไม่เห็นคุณค่า... บ่อยครั้งยังพูดจาให้คนทำงานเสียกำลังใจ
ครั้นเมื่ออยู่ไม่ไหว... เพราะพิพิธภัณฑ์ต้องใช้คนดูแล... และต้องใช้เงิน
จึงเริ่มเก็บค่าเข้าชมเมื่อปี ๒๕๔๖... หลังจากเปิดให้ชมฟรีมากว่าสิบปี

ผลคือ... คำต่อว่าต่อขานว่า "ขายอุดมการณ์ หากินกับงานพิพิธภัณฑ์"

คุณพรศิริเขียน "ลูกสาวพิพิธภัณฑ์" ด้วยลายมือในรูปแบบจดหมายปรับทุกข์เรื่องราวในใจกับใครต่อใครที่คุ้นเคย
ไล่ไปตั้งแต่ลุงจ่า (พ่อ)... คุณพิมพ์ (แม่)... น้านก (พี่สาว)... อาห้อย (ฝาแฝด)... ฯลฯ
เลยเหมือนได้อ่านจดหมายของใครคนหนึ่ง... ที่มีสำนวนภาษาง่ายๆ แบบคุยกับคนกันเอง... โดยเจืออารมณ์ขันๆ ขื่นๆ ไว้ตลอดเล่ม

ตัวอย่างจดหมายในเล่ม
ฉบับนี้เขียนถึงเพื่อนสมัยมัธยม...
"...โลกส่วนตัวของฉันมันกว้าง โลกข้างๆ ก็เลยถูกกินพื้นที่จนแคบลง เพราะอย่างนี้หรือเปล่า ฉันจึงไม่รู้จักนายอำเภอคนหนึ่งที่ขอสมุดเซ็นเยี่ยมเป็นส่วนตัว ผู้ว่าการคนหนึ่งมีลูกน้องสวมรองเท้าให้ภายหลังการเยี่ยมชม ลิ่วล้อคนหนึ่งเดินมาบอกให้ฉันขึ้นไปถอนสายบัวบนรถโดยสารแสดงความเคาระอย่างสูงแก่นายของเขา ซึ่งเป็นข้าราชการกลุ่มหนึ่ง...
ฉันเลยบอกเขาว่า "หนูคงถอนสายบัวไม่ได้นะคะ กระดูกเข่าไม่ดี หนูเป็นโรคเกาต์"



อีกฉบับเขียนถึงแม่... เป็นเรื่องเกี่ยวกับอาจารย์มหาลัยท่านหนึ่งที่เคยมาดูฟรีอยู่หลายปี
คราวนี้พาเพื่อนฝรั่งมาด้วย พอรู้ว่าเสียตังค์ก็โวยวาย ร่ำๆ จะไม่ดู
แต่ฝรั่งอยากดู เลยเกิดเหตุการณ์แบบนี้ค่ะ

"...นักศึกษาเล่าว่าอาจารย์บี๋ (นามสมมติ) เอาเท้าชี้ของอย่างเครื่องสังคโลก แล้วถามว่าของเก่าหรือของใหม่ แล้วบอกว่า พูดไปสิ มาฝึกงานไม่ใช่เหรอ ต๊าย ภาษาอ่อนมาก เรียนอะไรมา เรียนเอกท่องเที่ยวปี ๔ ได้แค่นี้หรือ อาจารย์อะไรสอน ไม่ได้จากสถาบันมาเลย
สงสารเด็กฝึกงานจังเลยแม่ พ่อก็ตอบแบบเดิม แม่ตอบเหมือนหนูคิดเลยว่า อาจารย์คะ ถ้าลำบากยากเย็นก็อย่ามาเลยค่ะ จริงๆ หนูคิดแย่กว่านั้นอีก เวลาเจอคนคอแข็งๆ คนใหญ่คนโต นักวิชาการผู้มาดมั่น เด็กๆ ที่โตพอจะรู้เรื่อง แต่ทำเหมือนเด็กหย่อนการอบรม กลุ่มคนพวกที่ทำเหมือนเราเป็นขี้ข้า บางอารมณ์ที่ชั่ววูบมากๆ หนูอยากกระโดดถีบคนพวกนี้..."



คาดว่าใครได้อ่านหนังสือเล่มนี้
คงมองเห็นคุณค่าของพิพิธภัณฑ์... เห็นถึงหัวจิตหัวใจของคนทำพิพิธภัณฑ์พื้นบ้านกันมากขึ้น
และคงอยากอาสาเป็นฝ่ายบู๊ช่วยคุณพรศิริโดดถีบอีกแรง (แบบเรา) แน่เลยค่ะ




Create Date : 27 กุมภาพันธ์ 2550
Last Update : 28 กุมภาพันธ์ 2550 8:39:22 น. 9 comments
Counter : 677 Pageviews.

 
เป็นหนังสือที่น่าสนใจจังเลยค่ะพี่

เวลาปุ๊กไปพิพิธภัณฑ์ปุ๊กชอบไปคนเดียวนะ เพราะสามารถจมกับมันนานๆได้ทั้งวัน รู้สึกเหมือนได้ท่องอดีตน่ะค่ะ ยิ่งเดินทางเข้าไปในอดีตมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งรู้สึกว่าตัวเองตัวเล็กลง อีโก้เหือดหายทุกที เพราะที่เราคิดว่าเราเจ๋ง เราทันสมัย มันเทียบอะไรไม่ได้เลยกับภูมิปัญญาของคนสมัยก่อน

เวลาเราคิดว่าเราเก่งกว่า ดีกว่า หรืออยากวิพากษ์วิจารณ์ พอลองคิดว่า "ไปทำเองแล้วจะเป็นไง" บางทีให้ความรู้สึกเหล่านั้นก็หายวับไปกับตาเลย


โดย: Hobbit วันที่: 13 มีนาคม 2550 เวลา:10:17:07 น.  

 
บางทีไอ้ความรู้สึกเหล่านั้นก็หายวับไปกับตาเลย

สงสัยเมารถเมื่อเช้ายังไม่หายดีค่ะ พิมพ์เผิดพิมพ์ถืกตลอดเลยเรา


โดย: Hobbit วันที่: 13 มีนาคม 2550 เวลา:10:18:50 น.  

 
น่าอ่านครับเป้
คาดว่าต้องไปขวนขวายหาอ่านสิครับเนี่ย
งานหนังสือปีนี้ จะได้เจอกันไหมหว่า


โดย: Marvellous Boy วันที่: 13 มีนาคม 2550 เวลา:16:57:12 น.  

 
เคยเม้นท์ไปแล้วครั้งนึงว่าจะไปหามาอ่าน..


ไปเดินดูหลายที่แล้วยังไม่เจอเลยอ่า..


โดย: smartman หล่อสุดๆ วันที่: 14 มีนาคม 2550 เวลา:20:17:33 น.  

 
เหมือนเคยได้ยินหนังสือเล่มนี้มาก่อน
น่าไปดูนะ


โดย: Oakyman วันที่: 16 มีนาคม 2550 เวลา:13:43:51 น.  

 
พี่กาน้ำชาฯ อ่านหนังสือเยอะดีจังเลยอ่ะครับ ผมอ่านไม่ค่อยเยอะเลย ต้องไปซื้ออ่านเพิ่มซะหน่อยแล้วว


โดย: Due_n วันที่: 16 มีนาคม 2550 เวลา:21:16:45 น.  

 

โอว หนังสือดี น่าอ่านอีกแล้ว

งานหนังสือจ๋า อยากไปๆๆ

อิอิ แต่พอถึงเวลาไม่รู้จะได้ไปป่าวว



โดย: izak kiataz วันที่: 17 มีนาคม 2550 เวลา:17:41:50 น.  

 
หวัดดีค่ะ พี่เป้
สมัยเรียนอยู่พิษณุโลก
เบิร์ดก็ไปพิพิธภัณฑ์จ่าทวีมาล่ะ
ชอบอ่ะ เข้าไปในนั้นแล้วเหมือนหลุดไปอยู่อีกโลกนึง
มีของโบราณแบบที่ไม่เคยเห็น
แล้วก็ของเล่นสมัยเด็กๆที่ไม่ได้เห็นมานานมาก
บางทีก็คิดไปว่ามันคงไม่มีเหลือให้เห็นสมัยนี้แล้ว
แต่ก็มาเห็น มาเจอที่พิพิธภัณฑ์จ่าทวีนี่ล่ะค่ะ


โดย: SnowPatrol วันที่: 21 มีนาคม 2550 เวลา:16:36:02 น.  

 
แวะเข้ามาเยี่ยมหาค่ะ สบายดีไม๊ค่ะ


โดย: opleee วันที่: 23 มีนาคม 2550 เวลา:13:02:47 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

กาน้ำชากะเชี่ยนหมาก
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add กาน้ำชากะเชี่ยนหมาก's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.