แหะๆๆ ภาษาจีนข้างบนแปลว่าอะไรไม่รู้หรอกค่ะ แต่น่าจะแปลว่าสวัสดีปีใหม่ นะคะ...55555...ก็ขอให้พี่น้องชาวไทย-จีนทุกคนมีความสุข คิดเงินได้เงิน คิดทองได้ทองมีเงินใช้ตลอดปีตลอดไป ขอให้สินค้าแพงๆ กลายเป็นสินค้าถูกๆ ข้าวไม่ยาก (ขัน)หมากไม่แพง ประเทศชาติมีสินค้า(โอท๊อป)แข่งกับนานาชาติ ขายดิบขายดี ให้รวยๆ ใช้เงินกู้ที่ รบ.นี้ไปกู้มาหมดนะคะ...55555...
เมื่อเช้าได้ฟังข่าวม๊อบที่อียิปต์ ประธานาธิบดีได้ออกมาประกาศว่าจะไม่ลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีอีกสมัยในเดือนกันยายนนี้ พร้อมสัญญาจะปฏิรูปรัฐธรรมนูญ ได้ข้อคิดอย่างหนึ่งว่า..ผู้นำที่ขึ้นสู่อำนาจมักจะไม่ยอมลงจากอำนาจง่ายๆ ต้องหาทางกระเสือกกระสน ที่จะให้ตัวเองอยู่ในอำนาจตราบนานเท่านานเท่าที่จะอยู่ได้ หรือจะเป็นเหตุผลที่ว่า เพราะในอำนาจนั้นหอมหวน ทำให้ตัวเองและพรรคพวกมีกินมีใช้และมีอำนาจ ทำอะไรก็สะดวกที่สำคัญไม่ผิด ถึงแม้ว่าจะผิดก็ผ่านฉลุยประหนึ่งผิดก็เป็นถูกอะไรแบบนั้น ที่สำคัญที่สุด คือ ไม่ถูกขุดคุ้ย ถ้าหากถูกขุดคุ้ยมีความเสี่ยงที่จะไม่มีอะไรรองรับความผิดที่เคยกระทำ เพราะถ้าหากเป็นผู้นำที่ดีแล้ว เมื่อมีคนมาเรียกร้องนับหมื่นนับพัน ย่อมมีความละอายและคิดได้ว่า เมื่อเค้าไม่ชอบเราๆ ก็ไม่ควรอยู่ในตำแหน่ง ศัพท์ภาษาชาวบ้าน คือ ไม่ด้านหน้า หรือหน้าด้านอยู่ต่อ ถ้าใครอยู่ต่อให้สันนิษฐานว่า อาจทำอะไรเลวๆ ไว้เบื้องหลังกลัวถูกเปิดโปงเลยไม่กล้าลงจากอำนาจ ไม่รู้ว่าความคิดนี้จะมีใครเห็นด้วยหรือเปล่าคะเนี่ย...
จากบล๊อกก่อนหน้าได้บอกไว้ว่าจะเขียนอะไรๆ ที่เกี่ยวกับผู้หญิงเราที่เกี่ยวกับความรัก ทุกวันได้พบได้เห็นได้ยินเรื่องราวความรักของแต่ละคน บางคนก็มีรักที่ดีถือเป็นโชคดี แต่ส่วนมากที่เห็นจะรู้สึกเป็นห่วงโดยเฉพาะหนุ่มสาวสมัยนี้ ที่รักเร็วเลิกเร็วจนงง มีรักกันตั้งแต่วัยกระเตาะ บางคนยังผูกคอซองด้วยซ้ำไป อย่างเมื่อเช้าเห็นเด็กผู้หญิงน่าจะอยู่มัธยมต้นยืนจับมือถือแขนยืนแทบจะเบียดเป็นเนื้อเดียวกันกับเด็กผู้ชาย อืมมม..ไม่หวงเนื้อหวงตัวกันแล้วดูไม่เหมือนเพื่อน ผู้หญิงทาปากแดงแช๊ด ผมบรรจงทำยีใส่เยลให้ตั้งฟู ทำมาให้ดูว่าสวยที่สุดทั้งที่เป็นผมสั้นแบบนักเรียน หน้าก็ขาวผิดปกติของนักเรียน อันนี้ยังไม่เท่าไหร่กระโปรงที่น้องหนูใส่สั้นเต่อเลยเข่าไปเป็นฝ่ามือ ให้คิดว่าเธอพับเอวกระโปรงขึ้นใช่หรือไม่ เพราะสั้นขนาดนี้ไม่น่าผ่านสายตาครูผู้ปกครองที่โรงเรียนได้ เธอน่าจะมีวิธีทำให้กระโปรงสั้นและยาว สวยไหม..ตอบได้ว่าไม่สวยเลยไม่ว่าการแต่งตัว หน้าตา รูปร่างก็ยังไม่สมส่วน ไม่สมวัยที่ควรคือจะใสๆ..ทำให้คิดต่อว่าผู้ปกครองที่บ้านจะเห็นลูกสาวตัวเองแบบนี้ไหมนะ...นึกถึงเด็กมัธยมสมัยก่อนไม่มีแบบนี้กระโปรงถึงจะพอดีตัวแต่ก็ยาวเลยเข่า หน้าตาก็ปล่อยแบบธรรมชาติ จะปรุงแต่งก็แค่ติดกิฟท์เก๋ๆ ผูกโบว์สีอื่นๆ ที่โรงเรียนไม่อนุญาตสำหรับเด็กมัธยมนะ แค่นี้ก็กลัวครูจับได้จะแย่แล้ว ถ้ายิ่งเป็นมัธยมปลายที่เป็นโรงเรียนรัฐบาลแล้วล่ะก็ไม่มีสิทธิ์ผิดระเบียบ ยกเว้นเด็กพาณิชย์ โดยเฉพาะเด็กพาณิชย์เอกชนจะใส่เสื้อนักเรียนรัดรูป กระโปรงต่ำกว่าเอว สั้นแค่เข่า แต่งแค่นี้ก็ถือว่าผิดระเบียบอย่างมากแล้ว แต่ดูแล้วก็ยังน่ารักกว่าสมัยนี้ที่ใส่กระโปรงทั้งสั้น ทั้งลาย (บางโรงเรียน) และโบ๊ะหน้าตากันซะ กระเป๋าที่ถือก็หลากสีสรร ถ้าดูผ่านๆ นึกว่าไปทำงานมากกว่าไปโรงเรียน ก็ไม่ว่ากันถ้าหากว่าแต่งแบบนี้ แต่ก็ตั้งใจเรียนหนังสือกันนะ แต่เท่าที่เห็น ก็เห็นเดินกันเป็นคู่ๆ ตามท้องถนน ตามห้าง แม้กระทั่งในโรงหนัง วันก่อนเจอนักเรียนหญิงชายเป็นกลุ่มใหญ่ ก็คงนัดกันไปดูหนัง อยู่นอกโรงหนังไม่เท่าไรแต่พอเธอๆ เข้าไปในโรงหนังก็แยกย้ายนั่งกันเป็นคู่ๆ ยิ่งหนังบางรอบไม่มีคนเธอจะแยกกันไปนั่งห่างไกลกัน
สรุปได้ว่าเพราะสมัยเปลี่ยนไป สังคมเปลี่ยน นอกจากการแต่งตัวแล้ว ความประพฤติของเด็กสมัยนี้กับสมัยก่อนก็แตกต่างกันโดยเฉพาะเด็กผู้หญิงและผู้ชาย สมัยก่อนถ้าผู้หญิงผู้ชายเดินไปด้วยกันเป็นคู่ดูออกว่าเป็นแฟน สมัยนี้ดูไม่ออกว่าผู้หญิงผู้ชายที่เดินกันเป็นคู่เป็นแฟนหรือเป็นเพื่อนเพราะการแสดงท่าทีที่ไม่หวงเนื้อหวงตัวเหมือนกันต้องสังเกตกันเอาเองจากส่วนอื่นประกอบอีกที สรุปอีกทีได้ว่าสมัยนี้กล้ามากกว่า กล้าแม้กระทั่งจีบผู้ชายก่อนและกล้าพอที่จะพลีกายให้ผู้ชายที่ตัวเองชอบโดยไม่สนใจว่าจะเกิดอะไรขึ้นและต่อไปจะเป็นอย่างไร นั่นเพราะพวกเธอคิดว่าการมีอะไรกันก่อนเวลาอันสมควรจะเป็นการผูกมัดอีกคนได้ ซึ่งเธอคิดผิดถนัด โบราณเคยสอนไว้ว่า ของอะไรที่ได้มายากมักมีค่า ของอะไรที่ได้มาง่ายคนมักไม่รู้คุณค่า นั่นเป็นเรื่องจริงที่ จขบ.เองก็ได้เห็นจากผู้คนที่ใกล้ตัวและมาเล่าให้ฟังถึงความเจ็บช้ำที่ถูกอีกคนทอดทิ้งไป และแทบทุกคนก็ต้องเสียตัวให้กับคนที่ตัวเองรักมาแล้วทั้งนั้น เคยถามน้องผู้นั้นว่าเพราะเหตุใดถึงตัดสินใจที่จะมีอะไรกับเค้าก่อนเวลาอันควร..เธอบอกว่าคิดว่าเค้ารักจริง การมีอะไรกันก่อนสำหรับคนที่รักกันก็ไม่น่าจะเป็นอะไร..ถามเธอต่อว่าแล้วเอาอะไรมาวัดว่าเค้ารักเราจริง เธอบอกไม่รู้สิการกระทำเค้ามั๊ง..ก็ถามว่ากระทำอย่างไรที่เรียกว่ารู้ว่าเค้ารักเราจริง..เธอตอบว่า ก็รักเธอ เอาอกเอาใจเธอ ซื้อโน่นซื้อนี่ให้ อยากไปไหนก็พาไป พาไปรู้จักเพื่อนเค้า รู้จักพ่อแม่ญาติพี่น้องก็มี บางคนเก็บเงินเก็บทองด้วยกันโดยบอกเพื่ออนาคตของเรา...จขบ.ก็ถามต่อว่าแล้ววันนี้ทำไมเค้าถึงทิ้งเราล่ะ ก็ในเมื่อเค้ารักเราอย่างที่เราบอก..เธอตอบ เพราะเธอไม่รู้ไงว่าเพราะอะไรเค้าถึงทิ้งเธอไปทั้งที่มีอะไรกันแล้ว...จขบ.บอกเธอว่าเธอน่าจะรู้คำตอบดีแล้วเพราะคำตอบที่ได้คือประโยคสุดท้ายนั่นเอง..คือมีอะไรกันแล้ว...
บางคนอาจเถียงว่าไม่จริง บางคนเมื่อมีอะไรกันแล้วก็ยังคบกันจนได้แต่งงานกัน จขบ.ก็จะบอกว่านั่นเป็นส่วนน้อย แต่ส่วนมากไม่รู้เหมือนกันว่าใครทำสถิติไว้บอกว่าส่วนใหญ่เลิกกันแทบทุกราย นั่นเพราะผู้ชายคิดว่า...เซ็กส์ก็คือเซ็กส์ ความรักที่แท้จริงต้องใช้เวลาในการศึกษาและเรียนรู้กัน และมีคนบอกว่าเซ็กส์เป็นแค่อารมณ์เร่าร้อนไร้ความผูกพันพอนานไปก็เบื่อแล้วก็จบด้วยการแยกทางกัน เซ็กส์เป็นการแสดงความรักในอีกรูปแบบหนึ่งก็จริง แต่ไม่ใช่วิธีที่ทำให้รักสมหวัง ผู้หญิงส่วนใหญ่มักเอาเซ็กส์ไปปนกับความรัก เคยได้ยินคำพูด "ความรักความผูกพัน" บ้างไหมว่าถ้ามีความรักความผูกพันเป็นพื้นฐานจะทำให้ความรักที่มีให้กันคงอยู่ยาวนาน การยอมปล่อยเนื้อปล่อยตัวสุดท้ายก็ต้องจบความรักด้วยน้ำตาและความเสียใจ ผู้หญิงก็คือคนที่เจ็บปวดเจ็บช้ำและเป็นคนที่เสียหาย และก็มีคนบอกอีกนั่นแหละว่า อย่าคิดว่าการที่ผู้ชายมีเซ็กส์กับผู้หญิงไม่ใช่เพราะเค้ารักหรือคิดว่าเค้ามีความรู้สึกพิเศษเหมือนที่ผู้หญิงคิดว่ามีเซ็กส์กับคนที่ตัวเองรักและชอบ ผู้หญิงจะวาดหวังหลังจากนั้นคงจบลงที่การแต่งงาน เพราะคิดว่าการมีเซ็กส์ด้วยกัน คือการสร้างความผูกพันทางกายซึ่งน่าจะสื่อไปถึงจิตใจได้ แต่รู้บ้างไหมว่านั่นทำให้เกิดการเรียกร้องและเร่งรัดให้เป็นอย่างที่ตัวเองคิด คือการแต่งงาน ทั้งที่ยังรู้จักนิสัยใจคอกันไม่ดีพอ แต่ผู้ชายไม่ใช่เมื่อเจอแบบนี้ก็เกิดความเบื่อหน่ายรำคาญ ยิ่งเซ็กส์จืดจางชาชินก็หาทางตีจากในที่สุด จงจำไว้ว่า อย่าใจเร็วด่วนได้มีเซ็กส์กับคนที่เราชอบหรือรักเร็วเกินไป โดยเฉพาะคนที่เพิ่งคบกัน ควรรอดูใจกันให้ดีก่อน ความรักต้องใช้เวลาให้เกิดความใกล้ชิด ความไว้วางใจกันและเข้าใจกัน และถ้าหากเจอผู้ชายที่อยากให้ผู้หญิงพลีกายก่อนเวลาก็จงรู้ไว้ว่าเวลาการคบกันที่เหลือเริ่มจะหมดลงแล้ว และถ้าเจอผู้ชายประเภทนี้ก็ปล่อยเค้าไปตามทางเค้าเถอะนะก็แค่ผู้ชายเห็นแก่ตัวคนหนึ่งเท่านั้นเอง อย่าทิ้งศักดิ์ศรีและความเป็นผู้หญิงและพรหมจรรย์ให้กับคนไร้ค่าแบบนี้เลย และควรรวมตัวกันต่อต้านการเสียตัวก่อนเวลาอันควรก็คงจะดีนะคะว่าป่ะ...เพื่อยกระดับผู้หญิงมีค่าให้ผู้ชายได้เห็นกันค่ะ...ต่อไปคุณผู้ชายจะได้รู้จักเกรงใจผู้หญิงบ้างไม่คิดจะย่ำยีรังแกกันให้ปวดหัวใจกันได้ง่ายๆ อีกต่อไป...
เพลง: เพ้อ
ศิลปิน : The bangkok acoustic
ลมพัดมา ถูกกายใจก็เหน็บหนาว
โดนอีกคราว ก็หนาวมากขึ้นทุกที
ลมอ่อนแรง ก็เหมือนแรงใจที่มี
เมื่อวันนี้ ในใจเริ่มจะหมดหวัง
เธอ..ทิ้งไป ไม่บอก ไม่กล่าว สักนิด
คนใกล้ชิด ยังคอยให้มา รักกัน
นานแค่ไหน..ที่เพ้อ และยัง ไหวหวั่น
หัวใจยัง คิดถึงเธออยู่เรื่อยไป
หากเธออยู่ตรงนั้นห่วงกันบ้างไหม
ว่ามีใครเก็บใจไว้ให้เธอ
อดทนตรงนี้ด้วยใจที่รอคอยแต่เธอ
ทุกคืนวันเฝ้าเพ้อแต่เธอ
เธอจะรู้บ้างหรือเปล่า
ลมพัดไป แต่ใจยังอยู่ตรงนี้
ยังไม่มี ความรักของเธอ คืนมา
แต่ยังหวัง สักวันแค่เพียง พบหน้า
อยากสบตา บอกคำว่ารักเธอ
เธอ..ทิ้งไป ไม่บอก ไม่กล่าว สักนิด
คนใกล้ชิด ยังคอยให้มา รักกัน
นานแค่ไหน..ที่เพ้อ และยัง ไหวหวั่น
หัวใจยัง คิดถึงเธออยู่เรื่อยไป
หากเธออยู่ตรงนั้น ห่วงกันบ้างไหม
ว่ามีใคร เก็บใจ ไว้ให้เธอ
อดทนอยู่ตรงนี้ ด้วยใจ ที่รอคอยแต่เธอ
ทุกคืนวันเฝ้าเพ้อ แต่เธอล่ะเธอจะรู้ บ้างหรือเปล่า
ลมพัดไป แต่ใจยังอยู่ตรงนี้
ยังไม่มี ความรักของเธอ คืนมา
แต่ยังหวัง สักวันแค่เพียง พบหน้า
อยากสบตา บอกคำว่ารักเธอ
อยากสบตา บอกคำว่ารักเธอ
แวะมาเจิมใครเจิมขอให้เฮง เฮง เฮง
และขอให้ จขบ.ร่ำรวยร่ำรวยจ้า