วันนี้เป็นอีกวันที่ประชาชนคนเสื้อแดงออกมาแสดงพลังอีกครั้งหนึ่งเพื่อเปิดปมและชี้แจงข้อเท็จจริงว่า ฝ่ายใดเป็นผู้ลงมือเข่นฆ่าประชาชน และเผาสถานที่สำคัญ อาทิ ห้างสรรพสินค้า เซ็นทรัลเวิลด์ และเพื่ออ่านจดหมายปรับทุกข์ของบรรดาแกนนำ นปช. ที่ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำทั่วประเทศ ณ ศาลฏีกา นั่งฟังข่าวและอ่านข่าวว่า ตร.วางกำลังกว่า 30 กองร้อย รับมือคนเสื้อแดง คุมเข้มบ้านคนสำคัญต่างๆ ตั้งด่านรอบกทม...โห..นะ..เกิดความไม่เข้าใจในการทำงานของ รบ. นี้ที่เลือกปฏิบัติ อย่างเมื่อไม่นานมานี้จนถึงวันนี้ พธม.ได้ออกมาเรียกร้องให้ รบ. จัดการเกี่ยวกับเขมรและคนไทยที่ถูกจับโดยมีข้อเสนอต่างๆ ให้ รบ.ทำตามและทุกวันนี้ก็ยังรายล้อมอยู่รอบๆ ทำเนียบ สิ่งที่ รบ.จัดการกับ พธม.ก็แค่ออกมาตักเตือนพอหอมปากหอมคอแบบแทบจะจุ๊บปากกันถ้าจุ๊บกันได้ ไม่มี ตร. 30 กองร้อย เหมือนคนเสื้อแดง เมื่อก่อนเคยคิดว่า รบ.นี้สองมาตรฐาน แต่วันนี้ขอถอนคำพูด ขอเปลี่ยนเป็น รบ.นี้ไร้มาตรฐานน่าจะเหมาะที่สุดว่าป่ะคะ แต่ถ้ามองโลกในแง่ดีคิดว่าที่ รบ. เลือกปฏิบัติแบบนี้เพราะห่วงเลยให้ตำรวจคอยดูแลเผื่อคนมาร่วมขบวนเป็นลมเป็นแล้งไปจะได้ให้ตำรวจเหล่านั้นช่วยกันพยาบาลแบกหามทันท่วงทีมั๊งคะ..555555....หรือคงเหมือนกับที่ตอนนี้น้ำมันพืชขาดตลาด มีการเก็บกักตุนโดยใครไม่รู้..ทั้งนี้เพราะเป็นห่วงพวกเรากลัวจะกินของทอดๆ ของมันกันเกินขนาด เลยเอาน้ำมันไปแอบไปเก็บไว้เพื่อไม่ใช้พวกเราหาซื้อได้ง่ายๆ ถ้าใครอยากซื้อก็ต้องใช้เงินใช้ความสามารถในการเข้าแถวเพื่อซื้อ นอกจากฝึกความอดทนให้กับประชาชนแล้ว ยังเป็นห่วงสุขภาพพวกเราไม่ให้กินของทอดแล้วให้ไปหันกินของต้ม ลวก ปิ้ง แทนการทอด..แหม..มันช่างเป็นความหวังดีซะจริงๆ เล๊ย
กระแนะกระแหนพอหอมปากหอมคอแล้ว อยากบอก รบ.ว่าพลังประชาชน คือ พลังที่น่ากลัวที่สุด อย่าคิดว่ามีอำนาจแล้วจะทำอย่างไรก็ได้ จงดูมดเป็นตัวอย่าง เมื่อมดถูกรุกรานมันก็จะกรูกันออกมารวมพลังกันต่อสู้แม้ศัตรูจะยิ่งใหญ่ตัวใหญ่ขนาดไหนมดก็ไม่กลัวยิ่งฆ่า ยิ่งขยี้มดก็ยิ่งกรูกันออกมากัด แม้จะพยายามทำลายมดสักแค่ไหนก็ไม่มีวันหมดก็จะมีมดชุดแล้วชุดเล่าออกมา ทางที่ดีอย่าแหย่มดซะน่าจะดีกว่าเลี่ยงได้ให้เลี่ยงไป ฆ่ามดแม้ตัวเดียวก็จะมีมดอีกร้อยอีกพันตัวออกมาแบบไม่กลัวตาย..
และจะขอแสดงความยินดีดีไหมเนี่ยที่วันที่ 11 ก.พ 54 ภาพประชาชนคนเสื้อแดงใช้หนังสติ๊กสู้ทหารจนได้รับรางวัลโลก เป็นภาพความโหดเหี้ยมของรบ.ไทย ที่ถูกเผยแพร่ให้ชาวโลกได้เห็น ไทยถือเป็นสยามเมืองยิ้ม แต่ภาพที่คนแต่งกายแบบทหารใช้สไนเปอร์ยิง นปช. อย่างเลือดเย็นกลบภาพสยามเมืองยิ้มโดยปริยาย และเป็นภาพที่ทำให้เห็นความขัดแย้งกับคำพูดของผู้นำไทยที่บอกว่าชายใส่ชุดดำเป็นคนยิง แต่สิ่งที่ปรากฏสู่สายตาคนทั้งโลกกลับกลายเป็นภาพคนแต่งกายแบบทหารเป็นคนยิง และภาพประชาชนใช้หนังสติ๊กยิงต่อสู้กับทหารที่มีปืน เป็นภาพที่ทำให้ฟ้องชาวโลกได้เห็นความเป็นเผด็จการในการตัดสินใจของผู้นำไทย ที่แสดงให้เห็นภาวะผู้นำบกพร่องกับสิ่งที่ไม่ถูกต้องหลายๆ อย่างแล้วอย่างนี้จะสมควรดีใจและยินดีหรือไม่นะ ที่สำคัญอิจฉาอียิปต์จริงๆ ว๊อยค่ะ...
ช่วงนี้จะอัพบล๊อกได้ก็เฉพาะวันหยุด จะเห็นได้ว่าบล๊อกนี้กับบล๊อกก่อนหน้าห่างกันหลายอาทิตย์ เมื่อเสาร์อาทิตย์ที่แล้วไม่ว่างวันเสาร์มีงานที่โรงเรียนเจ้าตัวน้อย เค้าได้ขึ้นแสดงเป็นตัวตลก ในฐานะนักเรียนโปรแกรม EIP ซึ่งต้องแสดงความสามารถทางภาษา จึงต้องแนะนำตัวเองเป็นภาษาอังกฤษพร้อมคำแปล ร่วมกับเพื่อนๆ ที่ขึ้นไปแนะนำตัวต่างอาชีพกัน เลยเก็บรูปมาฝาก..ไม่ใช่สิเลยเก็บรูปมาเก็บไว้ในบล๊อก เพื่อเก็บไว้เป็นความความทรงจำในช่วงเวลานี้ เอาไว้ดูเมื่อเวลาผ่านไปค่ะ
สำหรับวันอาทิตย์มีคนโทร.มาชวนไปทานข้าวที่บ้านน้ำเคียงดิน ซึ่งตั้งอยู่บนถนนอักษะ ใกล้พุทธมณฑลสาย 4 ถือเป็นลาภปากแบบไม่ได้ตั้งตัว ก็เลยต้องเก็บรูปมาฝากเช่นกัน เป็นภาพที่ใช้กล้อง 2 ตัวที่เวลาเอาภาพมาลงในบล๊อกแล้วดูไม่แตกต่างกันเลย เป็นกล้องโซนี่และกล้องแคนนอน กล้องตัวหลังตั้งแต่ซื้อมาไม่ได้ใช้เลยเกือบจะสามปีได้แล้ว คนในบ้านเอาไปใช้แบบลืมไปเลย วันก่อนคิดได้ว่ามีกล้องนี่หว่าเราถามหาเค้าถึงเอามาคืนให้ ก็เลยลองใช้ดูเป็นครั้งแรก คงมีใครหลายๆ คนแปลกใจว่าเป็นเจ้าของแต่ทำไมไม่ใช้ให้คนอื่นใช้ทำไม พอดีตอนนั้นซื้อกล้องมา 2 ตัวพร้อมกันเป็นกล้องดิจิตอลแบบพกพาสะดวก กับกล้องแบบค่อนข้างมืออาชีพ ด้วยความที่ตัวหลังกล้องจะใหญ่เกินพกพาไปไหนสะดวกก็เลยไม่ค่อยชอบ และมีคนชอบเห็นคุณค่าของกล้องแทน ช่วยเอาไปใช้แทนให้จนได้รับรางวัลการถ่ายภาพมาจากไหนก็จำไม่ได้ จนวันนี้คงไม่มีเวลาและอาจเบื่อมั๊งเลยไม่ได้หยิบใช้อีก จขบ. เลยต้องทวงคืนมาใช้เอง..555555....ที่เล่ามาทั้งหมดก็เพื่ออยากให้เห็นถึงความเสียสละของ จขบ. นั่นเองค่ะ...555555...
วันอาทิตย์นี้มีงานบนถนนอักษะ ก็เลยทำให้รถติดมากพอสมควร ที่ร้านอาหารคนก็เต็มเหมือนกับได้กินฟรีกันยังไงยังงั้น ดีที่กลุ่มตัวเองไปตอนเกือบห้าโมงเย็น ก็เลยไม่ต้องรอคิวหรือจองโต๊ะแย่งโต๊ะกับใคร แต่พอทานเสร็จสักทุ่มกว่าได้ ออกมาข้างนอกตกใจเลย ผู้คนทำไมล้นหลามได้ปานนี้รอคิวกันเป็นร้อยและเป็นการรอแบบอดทนและเต็มใจ เจ้าของร้านไม่รวยชาตินี้แล้วจะไปรวยชาติไหนหนอคนแน่นร้านแบบนี้ ความจริงเคยมาร้านนี้แต่มานานมากแล้ว มาครั้งนี้อะไรๆ ก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปสักเท่าไหร่ มีหงส์ มีกระต่าย มีต้นไม้เหมือนเดิมเปี๊ยบ อาหารก็รสชาติเหมือนเดิม อาคารสถานที่ก็มีแตกต่างนิดหน่อย คือเพิ่มโต๊ะมากกว่าเดิมยื่นออกไปในสวนซึ่งเคยเป็นสวนองุ่นแต่ตอนนี้ไม่มีแล้ว ก็หมดไปอีกหนึ่งอาทิตย์ที่ดูวุ่นวายจนไม่มีเวลาเข้าบล๊อก
ขอแถมคลิปขำๆ พอคลายเครียดเป็นเรื่อง..ตายเพราะตด...ได้มาโดยไม่ได้ตั้งใจพอดูแล้วรีบเซฟเก็บไว้มาฝากให้คนอื่นขำบ้าง ขณะเขียนก็ขำแล้วค่ะ..ใครอยากขำก็คลิกเปิดดูกันเอาเองนะคะ..
ฝากความยินดี
ศิลปิน : แคล KAL
อัลบั้ม : เพลงประกอบละคร เธอกับเขาและรักของเรา
อย่าบังคับให้ฉันต้องรอ
ว่าเธอเองจะเลือกรักใคร
อย่าบังคับให้ฉันเข้าใจและทนทุกอย่าง
อย่าบังคับให้ฉันแย่งชิง
สิ่งที่เป็นของฉันมานาน
แต่วันนี้ฉันรู้ทุกอย่างไม่มีอีกแล้ว
ฉันรักแต่เธอและรักมานานเกินไป
ยิ่งรักเท่าไหร่ ยิ่งอยากยอมแพ้
ฉันขออย่างเดียวให้เขาจริงใจดูแล
อย่างที่ฉันได้ทำเพื่อเธอเสมอ
ฝากความยินดีกับคนของเธอบอกเขาให้เขาได้ฟัง
ฉันขอเป็นฝ่ายหลีกทางได้ไหม
ฝากความยินดีกับเธอสองคน
ไม่ช้าฉันคงทำใจได้ ฉันยินดีจากไป
ฉันเต็มใจเพื่อเธอ
บอกกับเขาว่าเขาโชคดีที่เป็นคนชนะใจเธอ
บอกกับเขาว่าฉันรักเธอมากมายเท่าไหร่
บอกด้วยความจริงใจจากฉันว่าเธอเองมีค่าเพียงใด
อยากให้เขาได้รักรู้สึกกับเธออย่างฉัน
ฉันรักแต่เธอและรักมานานเกินไป
ยิ่งรักเท่าไหร่ ยิ่งอยากยอมแพ้
ฉันขออย่างเดียวให้เขาจริงใจดูแล
อย่างที่ฉันได้ทำเพื่อเธอเสมอ
ฝากความยินดีกับคนของเธอบอกเขาให้เขาได้ฟัง
ฉันขอเป็นฝ่ายหลีกทางได้ไหม
ฝากความยินดีกับเธอสองคน
ไม่ช้าฉันคงทำใจได้
ฉันยินดีจากไป ฉันเต็มใจเพื่อเธอ
ฉันยินดีจากไป ฉันเต็มใจเพื่อเธอ
ชุดน้องน่ารักดีจังครับ
ปล. รัฐบาลชุดนี้ไม่ใช่แค่สองมาตราฐาน
แต่ไร้มาตราฐานครับ หุหุหุ