ตุลาคม 2550

 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
27
29
30
31
 
 
DESTINY Vol.2 No. 2
ตอนที่ 2 : และดูเหมือนตอนนั้นฉันโคตรเหงา

เจ็บป่วยเรื่องความรู้สึก เมื่อในวันหยุดสุดสัปดาห์เป็นวันที่ไม่มีอะไรทำมากไปกว่าอยู่บ้านอ่านหนังสือ และอ่านหนังสือ ความสุขของคนโสดผิดแผกแตกต่างกันไปตามรสนิยม บางคนชอบชอปปิ้ง โดยเฉพาะสาวๆ การผลาญเงินตัวเองไปกับการจับจ่ายเป็นความสุขอย่างประหลาด แน่นอน, นั่นหมายถึง ต้องมีเงินในกระเป๋าเพียงพอจะปล่อยให้มันหลุดออกไปแลกกับสินค้าล่อใจเพื่อสนองนี้ดแห่งความน่าเบื่อหน่ายสำหรับสาววัยปลายยี่สิบ บางคน... แต่สำหรับเธอ, ความสุขไม่ใช่การชอปปิ้ง แต่เป็นการนอนเกลือกกลิ้งอยู่บนพื้นบ้านแทนการถูพื้น อ่านหนังสือชื่อ “เอนไซโคลพีเดียบริทานิกา หมวด B” และบางครั้งมันก็อ่านเธอ เมื่อมันหนัก-เธอหลับมันจึงทับอยู่บน-อก หนังทุกเรื่องถูกรื้อมาวางกองตรงหน้า หลับตาเลือกมาหนึ่งเรื่อง แล้วก็ได้ A stranger of mine มา... หนังญี่ปุ่นซึ่งเป็นอภินันทนาการจากเพื่อนบางคนในเวลาไม่นานนี้เอง

หยิบแผ่นเสียบเข้าเครื่อง และนอนดูอย่างไม่ตั้งใจอะไรนัก, นาฬิกาข้างฝาบอกเวลาเก้านาฬิกา – เออ ถ้าเป็นเก้านาฬิกาของกลางคืนก็คงจะดี เพราะอีกไม่กี่ชั่วโมงก็จะเช้าแล้ว

“หมายเลขโทรศัพท์สิบตัวเนี่ย มันเปลี่ยนให้คนไม่รู้จักกันกลายเป็นเพื่อนกันได้เลยนะ...” หนังตลกร้ายกาจเรื่องนี้ทำเอาหัวใจแห้งๆ กลับชุ่มชื้นขึ้นมาอย่างประหลาด ก็หนังมันตลกนี่นา... และแน่นอน, ความคึกคะนองก็ตามมาหลังจากที่หนังจบ เธอลุกไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า เสื้อยืดสีขาว สมนาคุณจากไฮเนเก้น ข้อความด้านหลังกระชากหัวใจและเธอคิดว่าคงมีใครบ้างแหละที่อยากจะสะกิดทักเพราะข้อความนั้นมันเขียนเอาไว้ว่า

“เรื่องโรแมนติกทุกเรื่อง เริ่มต้นที่คำทักทาย” ไม่ได้เจตนา แต่เสื้อผ้าเกือบทั้งหมดอยู่ในเครื่องซักหยอดเหรียญ และเหลือเพียงตัวเดียวนี่เองที่เพิ่งจะถูกแกะออกจากซองพลาสติก... แน่นอน มันยังไม่ได้ซัก

นรก – ทำไมเรือหางยาวต้องมีเสียงดังกว่าสิบล้อสองคันกำลังเหยียบแข่งกันหนี-ยมบาลด้วย, เธอชะโงกหน้าออกไปที่ลำคลองเล็กแคบขนาดเรือสองลำต้องหลีกให้กัน คนคัดท้ายเรือหางยาวเป็นชายวัยรุ่น เหอะ... อยากอินเทรนด์เป็นเด็กแว้นท์กับเขาบ้างสิท่า โมดิฟายเรือซะเสียงเหมือนมอเตอร์ไซค์ไร้ท่อยังไงยังงั้น, และเพื่อตัดรำคาญ การออกไปยืดเส้นยืดสายนอกบ้านบ้างน่าจะเป็นเรื่องที่ดี อย่างน้อยก็หนีจากเสียงเรือแว้นท์นี้ได้...

หอศิลป์ ไม่ใช่เป้าหมายหลัก แต่เป็นความบังเอิญที่ต้องเดินผ่าน เพราะไม่รู้จะไปไหนดี ในยามที่ตะวันตรงหัวแบบนี้ มันร้อนตับแตก และแอร์เย็นๆ ภายในหอศิลป์ก็น่าจะช่วยคลายอารมณ์อยากเตะดวงอาทิตย์ลดลงไปได้บ้าง...

หอศิลป์เอกชนที่เพิ่งเปิดใหม่ไม่นานมานี้ และนิทรรศการศิลปะส่วนใหญ่ก็ระดับอินเตอร์ หรือกระทั่งศิลปินไทยก็มักจะเป็นมือวางอันดับหนึ่งของประเทศเท่านั้นที่มีโอกาสได้ไปยืนอวดผลงานและฝีมือที่นั่น, เปล่า - - เธอไม่ได้ชอบศิลปะเป็นพิเศษ ไม่ได้ชอบมากไปกว่าดนตรี แต่เพราะมันเป็นอาหารใจชนิดหนึ่งที่ช่วยเพิ่มมุมมองในชีวิต และทัศนคติให้กว้างออกไปอีกด้าน บางภาพเขียน หรือภาพถ่ายที่ศิลปินถ่ายทอดออกมา เป็นสิ่งเหลือเชื่อว่าคนเราคนหนึ่งสามารถจินตนาการสิ่งต่างๆ ออกมาแล้วถ่ายทอดเป็นรูปเป็นร่างได้ เป็นเรื่องที่น่าทึ่งสำหรับคนที่วาดรูปดอกไม้ได้แค่ มีวงกลมตรงกลางและทองหยอดอีกห้าหยดอยู่รายรอบ ขีดเส้นตรงลงไปหนึ่ง ให้โค้งแต่พองาม แล้วเติมขนมเปียกปูนลงไปด้านข้างพร้อมขีดด้านในอีกสี่ห้าขีด ถ้าอารมณ์ดีหน่อยก็แถมกระถาง เป็นรูปสี่เหลี่ยมคางหมูปลายสุดของเส้นนั้น นั่นแหละดอกไม้...แต่ให้ตายเถอะ, ดอกไม้ในหอศิลป์ มันแทบจะมีกลิ่นลอยออกมาเตะจมูกเสียด้วยซ้ำ

เธอเดิน... และเดินอ้อยอิ่ง อืดเอื่อย หนึ่งเพื่ออวดข้อความด้านหลังของเสื้อยืด สองเพื่อชื่นชมกับศิลปะ และสามเพื่อฆ่าเวลาให้มันตายลงไปต่อหน้าช้าๆ


งานศิลปะชุดนี้เป็นชุด “คนที่พ้นผ่าน” เป็นภาพเหมือนของคน และ abstract art เหมือนซะจนนึกว่าเป็นภาพถ่าย แล้วเธอก็ต้องมาสะดุดหยุดกึกที่ภาพหนึ่งตรงหน้า เหมือนส่องกระจกแล้วมองเห็นตัวเองสะท้อนกลับมา คนอะไร...หน้าตาดีเป็นบ้า

“เฮ่ย ใครเนี่ย” เธออุทานกับตัวเอง แต่ดังทั่วหอศิลป์ที่เงียบสงัด และสงบ

“เธอผ่านมาแล้วจากไป บนหนทางยาวไกลที่เธอมา: นาโปลี ตุลาคม, 28-2004” ชื่อภาพ และวันเวลาเขียนไว้บนกระดาษที่ติดอยู่ข้างกัน

“อ๋าย... นี่มันฉันนี่” เธอเหลียวซ้าย แลขวา มองหาเจ้าหน้าที่สักคน เพื่ออธิบายถึงรูปนี้

“ครับ” ชายหนุ่มที่ยืนยิ้มแก้มตุ่ยอยู่ข้างหลัง ทันทีที่เธอหันไป ก็พบว่าระยะห่างระหว่างเธอกับเขาใกล้กันเสียยิ่งกว่าระยะประชิดของการยืนติดกันบนรถเมล์ตอนเจ็ดโมงเช้า นั่นทำให้เธอก้าวถอยหลังไปอีกสองก้าว

“ระวังหลัง เดี๋ยวรูปจะเสีย มันแพงครับ”

“นี่มันฉัน”

“ผมก็ว่างั้น”

“มาอยู่นี่ได้ยังไง”

“ผมหอบมา”

“คุณวาดรูปนี้เหรอ”

“แหง”

“ไม่มีทาง ไม่ใช่คุณหรอก ฉันอยากเจอคนวาดรูปนี้”

“ก็ผมนี่ไง”

“คุณเนี่ยนะ หน้าตาคุณไม่ได้บอกเลยว่าเป็นคนที่ฉันเคยเจอที่เนเปิลล์” ชายหนุ่มผมยาวถึงกลางหลัง มัดรวบด้วยหนังถัก สวมเสื้อผ้าฝ้ายย้อมดำ ตามสไตล์ศิลปินชาตินิยม เพื่อแสดงถึงเอกลักษณ์ที่ชัดเจนและทัศนคติขบถต่อเทคโนโลยีและไม่ตกเป็นเหยื่อของระบบทุนนิยม

“คุณก็เปลี่ยนไปเยอะ” เขามองเธอตั้งแต่เท้าถึงหัว แต่จ้องนานเป็นพิเศษที่ใบหน้า นั่นทำให้เธอเขินจนต้องแก้ขวยด้วยประโยคดุๆ อย่างที่เคยทำกับนักศึกษาเมื่อคราวที่ถูกชมว่า “อาจารย์สวย” ในบางวันที่พวกเขาจะขอเลิกก่อนเวลาเพื่อไปซ้อมบอล ซ้อมเชียร์ หรือร้อยพันเหตุผลที่จะหามาเป็นข้ออ้างเพื่อขอเลิกเรียนเร็วกกว่าปกติ

“นี่ไม่ได้ล้อเล่นนะ ฉันอยากเจอเขา เขาจะมาไหม หรืออยู่ที่ไหน”

“เขาไหน”

“คนที่วาดรูปฉัน”

“ก็ผมนี่ไง”

“ไม่ตลกนะจะบอกให้”

“งั้นเอางี้ คุณเขียนที่อยู่และหมายเลขโทรศัพท์ไว้ เดี๋ยวเขามาผมจะให้เขาติดต่อไป เอ่อ อย่าลืมเขียนให้อ่านออกด้วย ตัวหนังสือแบบการ์ตูนญี่ปุ่น ไม่เอา” เขาจำได้ กับลายมือไม่สมวัยของเธอ... ตัวหนังสือยึกยือ อ่านชื่อได้ว่า “ปรมิตา” เหอะ ชื่อประหลาด คนก็ประหลาด

เขายิ้มกริ่มเมื่อเธอยื่นกระดาษที่เขียนชื่อ ที่อยู่และเบอร์โทรศัพท์มาตรงหน้าก่อนที่จะผละจากไป ไม่สนใจเขาอีก, นี่เขาเปลี่ยนไปมากขนาดนั้นเชียวหรือ ไม่อยากเชื่อตัวเอง แต่ที่แปลกใจคือ เขาเปลี่ยนแบบหล่อขึ้นหรือเปล่า นั่นล่ะที่สงสัย เพราะสองปีกว่าที่อิตาลีนั้นเขาไม่ได้ดูแลตัวเองนอกเหนือไปจากตั้งใจเรียน การเป็นนักศึกษาไทยในต่างแดน ทำให้ต้องดิ้นรนเพื่ออยู่รอดทุกวิถีทาง เขารับจ้างวาดรูปในสวนสาธารณะ เหมือนกับที่ศิลปินคนอื่นทำกัน ซึ่งของแบบนี้ มีแต่ฝีมือเท่านั้นที่จะทำให้อยู่ได้ นั่งวาดให้ดูเห็นๆ แถมด้วยค่าแรงถูกๆ ใช้เวลาไม่นาน ก็ได้ภาพสเกตที่เกือบเหมือนตัวจริง แต่ถ้าอยากได้ภาพสีน้ำมันที่ค่อนข้างสวยงามอลังการก็ต้องใช้ความอดทนกันเล็กน้อยทั้งคนวาดและคนถูกวาด และเธอ...ก็หลงมาจากไหนไม่รู้...นั่งนิ่งๆ ให้เขาวาดรูปอยู่ได้ตั้งหลายชั่วโมง แต่กลับไปโดยที่รูปยังไม่เสร็จ เขาจำเป็นต้องหอบรูปนั้นกลับเมืองไทยมาด้วย เพราะมันขายไม่ออก

แต่จะว่าไป เขาไม่เคยเอามันออกขายเลยต่างหาก ผู้หญิงอะไร้ - -ตาสวยเป็นบ้า ขนาดนั่งจ้องตาอยู่ตั้งนานยังนั่งนิ่งราวกับรูปปั้นวีนัส ไม่รู้สึกรู้สาอะไร ไม่ไหวหวามไปกับสิ่งที่เขาพยายามสื่อออกไปจากสายตาเสยสักนิด... คิดแล้วก็กลุ้ม เพราะสายตาทื่อๆ ของเขานี่หรือเปล่า สาวๆ หลายคนจึงไม่ได้มองว่ามันมีอะไรเป็นพิเศษในนั้น แต่เธอเหล่านั้นกลับย้อนด้วยถ้อยคำที่ทำเอาเขามึนงงไปหลายครั้ง “ทะลึ่ง” เมื่อเขาจ้องเอาดื้อๆ และจินตนาการไปว่าเธอน่าเป็นแบบให้เขาวาดรูปนู้ด...

ปรมิตา หายไปจากหอศิลป์ เขาไม่สนหรอกว่าเธอจะไปไหน เพราะตอนนี้เขามีเบอร์มือถือ และที่อยู่ของเธอเป็นที่เรียบร้อย เขาเดินไปหยิบป้ายแล้วเพิ่มเข้าไปใหม่ ข้างๆ ภาพของเธอ ป้ายนั้นเขียนว่า “จองแล้ว” เขานึกถึงหนังที่เพิ่งดูเมื่อเช้าก่อนออกจากบ้านมาที่นี่ a stranger of mine เป็นหนังญี่ปุ่นที่ขำขาด ฮา ตลกเจ็บแสบ และประโยคหนึ่งในเรื่องคือ

“หมายเลขโทรศัพท์สิบตัวเนี่ย มันเปลี่ยนให้คนไม่รู้จักกันกลายเป็นเพื่อนกันได้เลยนะ...” เขาจำมันได้แม่น และนั่นทำให้เขากล้าหาญที่จะขอที่อยู่ และเบอร์เธอไว้... เผื่อบางทีมันอาจจะเปลี่ยนจาก “คนไม่รู้จัก เป็นคนรัก” ก็ได้ ใครจะรู้

แล้วเขาก็อดนึกถึงเรื่องที่เคยเกิดขึ้นเมื่อคราวที่เป็นนักเรียนศิลปะที่โน่นไม่ได้ ในวันที่เขาจะกลับเมืองไทย ณ สนามบินระหว่างประเทศ ฉากนั้นเขายังจำมันได้ติดตา ภาพของหญิงสาวผมทองยาวหยิกสยายในชุดหนังสีดำ แว่นดำปิดใบหน้าเกือบหมด แต่ปากจิ้มลิ้มและจมูกโด่งเป็นสันคมของเธอนั่นต่างหากที่น่าสน ตรงสเป็ก! เขาบอกตัวเอง... ผอม สูง ขาว สวย ถึงไม่ค่อยจะอึ๋มสักเท่าไหร่ แต่ของแบบนี้มันเพิ่มๆ เอาได้ถ้ามันอยู่ในเฟรมผ้าใบ ผู้หญิงอะไรก็ไม่รู้... น่าจิกมาวาดรูปนู้ดโคตรๆ และเขาก็เริ่มพิธีกรรมในการจีบ โดยมีเป้าหมายคือ เพื่อให้เธอมาเป็นนางแบบให้เขา...

“กาแฟครับ ถ้าคุณชอบหวานผมมีลาเต้ ถ้าคุณชอบขม นี่เป็นเอสเพรสโซ” ก็ถ้วยเดียวกันนั่นแหละ แค่เปลี่ยนมาถืออีกมือเท่านั้นเอง

“ฉันไม่ดื่มกาแฟ”

“ขอผมนั่งข้างคุณได้ไหม”

“ยินดี”

“ผมเป็นจิตรกร คุณล่ะ”

“นางแบบ”

“ยอดไปเลย ผมคิดว่ารูปร่างคุณเหมาะกับการเป็นนางแบบมาก คุณเพอร์เฟค” เขาเว้นคำว่านางแบบนู้ดเอาไว้

“คุณชอบดูหนังไหมคะ” เธอถามกลับเอาบ้าง

“ผมชอบดูหนังสงคราม เอ่อ แล้วก็หนังอินดี้” เธอลอบถอนใจโล่งอกได้แนบเนียน...

แล้วการสนทนาก็ลามปามไปจนถึงขอเบอร์ ดูเหมือนเธอจะสนุกกับการได้คุยกับเขา จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ประกาศเที่ยวบินที่เธอต้องไปนั่นแหละ เขาจึงได้ฉีกสมุดบันทึกออกมาหน้าหนึ่ง ก่อนจะยื่นให้เธอเขียนเบอร์โทฯ ของตัวเอง และเขารับมาเขียนเบอร์ของเขาในสี่ห้าบรรทัดถัดมาแล้วพับครึ่งฉีกมันออกแล้วยื่นให้เธอ

“ยินดีที่ได้รู้จัก มิสเตอร์พาราเมซ” เธอเรียกชื่อเขาด้วยสำเนียงอเมริกัน – นั่นทำให้เขาอ้าปากค้าง อึ้งไปเล็กน้อยเมื่อนึกหน้าเธอออก...โอ้ว พระเจ้า มิน่าล่ะถึงได้เพอร์เฟคซะขนาดนั้น นั่นเพราะเธอคือผู้หญิงที่ดังมากในฮอลีวู้ด นิโคล คิดแมน ปลอมตัวหนีบอดีการ์ดและแฟนๆ มาเที่ยวคนเดียว

แต่นั่นก็ไม่น่าเจ็บใจเท่ากระดาษอีกครึ่งที่เขาฉีกให้เธอไปนั่นน่ะ... เป็นส่วนที่เธอเขียนให้เขา ในมือของเขามีชื่อและเบอร์โทฯ ของตัวเองชัดแจ๋ว.../



Create Date : 26 ตุลาคม 2550
Last Update : 26 ตุลาคม 2550 21:16:50 น.
Counter : 418 Pageviews.

3 comments
  
สายตาเสยสักนิด----> จะเสยอะไรเหรอ

การผลาญเงินตัวเองไปกับการจับจ่ายเป็นความสุขอย่างประหลาด---> ใช่โคตรสุขเลย แต่มาทุกข์เอาทีหลังตอนที่แม่บ่นเนี่ยแหละ

“เรื่องโรแมนติกทุกเรื่อง เริ่มต้นที่คำทักทาย” ---> ใช่เสื้อตัวที่พี่เล่าให้ฟังรึเปล่าอ่ะ แหมไวนะ เอามาเป็นเป็นพล็อตเฉยเลย

ี่ภาพหนึ่งตรงหน้า เหมือนส่องกระจกแล้วมองเห็นตัวเองสะท้อนกลับมา คนอะไร...หน้าตาดีเป็นบ้า---> นางเอกของเรื่องนี้นี่มันหลงตัวเองนี่หว่า

เมื่อคราวที่ถูกชมว่า “อาจารย์สวย”--->จริงเหรอ

กระดาษอีกครึ่งที่เขาฉีกให้เธอไปนั่นน่ะ... เป็นส่วนที่เธอเขียนให้เขา----> พระเอกเรื่องนี้มันเอ๋อจริงๆเลย
โดย: น้องเก้อ IP: 222.123.120.200 วันที่: 27 ตุลาคม 2550 เวลา:18:33:55 น.
  
ป้าจ๋า หนูเม้นไปแล้ว ยาวด้วย
แต่มันบอกว่ามีคำไม่เหมาะสมต้องรอให้ป้าพิจารณาก่อนอ่ะ
คำไม่เหมาะสมไรไม่รู้ หนูจำได้ว่าไม่มีนะ คำหยาบก็ไม่มี(ละมั้ง)


รีบๆมาพิจารณานะ หนูขี้เกียจพิมพ์ใหม่แล้ว จำไม่ได้ด้วยว่าเม้นไรไปมั่ง
โดย: น้องเก้อ IP: 222.123.120.200 วันที่: 27 ตุลาคม 2550 เวลา:18:47:35 น.
  
โหยยย ไอ้มุขหักมุมอันสุดท้ายนี่แจ๋วจริง
โดย: The SoVo (http://kangalala.spaces.live.com/) IP: 122.17.116.74 วันที่: 12 พฤศจิกายน 2550 เวลา:19:57:07 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ดาริกามณี
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 25 คน [?]



Just Do it :


* มีอีกชื่อว่า หญ้าเจ้าชู้

* เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์บทประพันธ์
รักข้ามรั้ว (หญ้าเจ้าชู้)
ลุ้นสุดฤทธิ์ พิชิตรัก (หญ้าเจ้าชู้)
ภารกิจรักพิทักษ์เธอ (หญ้าเจ้าชู้)
ปีกแห่งฝัน (ดาริกามณี)

* เป็นสาวก 'รงค์ วงษ์สวรรค์
* เป็นแฟน คาราบาว
* เป็นกิ๊ก เฉลียง
* ฝืนอะไรที่เป็นอื่น ฝืนอัตตา
สูงเทียมฟ้าก็มิเท่า เป็นเราเอง

* การปรากฎตัวของคนคนหนึ่ง
อาจเปลี่ยนใครอีกคนไปทั้งชีวิต

* หากต้องการอ่านนิยายที่ใส่รหัส,
รบกวน "ฝากข้อความหลังไมค์" จ่ะ