Group Blog
 
<<
มกราคม 2553
 
30 มกราคม 2553
 
All Blogs
 

ไขข้อข้องใจสารพัดข้อมูลบน ‘ฉลากอาหาร’


* อาหาร เพื่อสุขภาพที่ดีของผู้บริโภค

ทุกครั้งเวลาที่เราไปเดินช็อปปิ้งเลือกซื้ออาหาร และเครื่องดื่มตามซูเปอร์มาร์เก็ต
เชื่อว่าใครที่เป็นคนฉลาดซื้อ ฉลาดใช้ ต้องหยิบบรรจุภัณฑ์เหล่านั้นขึ้นมา
พลิกอ่านข้อมูลที่จำเป็นต่อการตัดสินใจบน ฉลากอาหารอย่างถี่ถ้วนจนเป็นนิสัย

การเสียเวลาสักแค่ 2 นาที เพื่อรับรู้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อตัวเรา
มันเป็นเรื่องที่สำคัญมาก แต่ถึงอย่างนั้นสารพัดข้อมูลบนฉลากอาหารที่มีมากมายเหลือเกิน
จะรู้ได้ยังไงว่าเรากำลังเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับตัวเราเอง

วันนี้ มีเคล็ดลับในการดูฉลากอาหารบนบรรจุภัณฑ์อาหาร เพื่อประโยชน์สูงสุดต่อตัวเราเอง
อีกทั้งยังมีส่วนช่วยในการลดโลกร้อนอีกด้วย


★ อย่าไว้ใจคำว่า ‘ธรรมชาติ’
ฉลากที่ระบุว่า “ธรรมชาติ” หรือ “ผลิตในครัวเรือน” “บริสุทธิ์” “สด” หรือ “แบบพื้นบ้าน”
จะต้องระวังเป็นพิเศษ เพราะความหมายคลุมเครือไม่บอกมาตรฐานใดๆ
และไม่มีเกณฑ์แจ่มแจ้งชัดเจนเหมือนสินค้าออร์แกนิก
ผลิตภัณฑ์ที่ระบุถ้อยคำเหล่านี้บนฉลากอาหารต้องมีคำอธิบาย เช่น
ถ้าเป็นเนื้อสัตว์ที่โฆษณาว่า “ธรรมชาติ” ก็จะต้องระบุว่า เป็นเนื้อสัตว์ที่ไม่ได้รับฮอร์โมนหรือยาปฏิชีวนะ
ผลิตภัณฑ์ที่ระบุว่า “ธรรมชาติ” ไม่จำเป็นต้องผ่านการตรวจสอบ
ดังนั้นเราจึงต้องพิจารณาด้วยตัวเองอย่างรอบคอบ


★ รู้จักอาหาร ‘ออร์แกนิก’
อาหาร “ออร์แกนิก” (Organic) หรือ อาหารเกษตรอินทรีย์ หมายถึงผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรที่ไม่ใช้ปุ๋ยเคมี
ยาปราบศัตรูพืช การฉายรังสี และไม่ใช้สายพันธุ์ที่ตัดต่อพันธุกรรม
การปศุสัตว์แบบออร์แกนิก ก็ต้องเลี้ยงด้วยอาหารสัตว์ชนิดออร์แกนิกด้วยเช่นกัน
ห้ามเจือปนอาหารจากแหล่งอื่นและห้ามใช้ยาปฏิชีวนะ

ผลิตภัณฑ์ออร์แกนิกอาจมีส่วนผสมที่ไม่ใช่ออร์แกนิกได้ไม่เกิน 5%
ถ้ามีส่วนประกอบที่เป็นออร์แกนิกเพียง 70-95%
ผลิตภัณฑ์นั้นห้ามติดฉลากว่าเป็นผลิตภัณฑ์ออร์แกนิกโดยเด็ดขาด
แต่สามารถระบุปริมาณส่วนประกอบออร์แกนิกบนฉลากได้
(ในเมืองไทยมีสำนักงานมาตรฐานเกษตรอินทรีย์
เป็นหน่วยงานตรวจสอบและรับรองผลิตภัณฑ์เกษตรอินทรีย์ตามมาตรฐานสากล
นอกจากนี้ยังมีเครือข่ายตลาดนัดสีเขียว ที่ส่งเสริมการผลิตและการบริโภค สินค้าเกษตรอินทรีย์)

ข้อดีของผลิตภัณฑ์ออร์แกนิก คือ เราสามารถแน่ใจได้ว่าปลอดจากยาฆ่าแมลง
ซึ่งใช้กันอย่างแพร่หลายในผักและผลไม้แทบทุกชนิด
แต่เนื่องจากผลิตภัณฑ์ออร์แกนิกอาจจะราคาแพงกว่าอาหารทั่วไป
และวิธีประหยัดค่าใช้จ่ายก็คือ เลือกผลิตภัณฑ์เกษตรอินทรีย์ เมื่อคุณซื้อผักและผลไม้ที่มักใช้สารเคมีมากๆ
ส่วนอาหารที่มีการใช้สารเคมีไม่มากเท่าไหร่ ก็สามารถซื้อจากร้านค้าทั่วไปได้


★ เลือกซื้ออาหารจาก ‘ธัญพืช’
ผู้บริโภคส่วนใหญ่สนใจเลือกซื้อธัญพืชแบบไม่ขัดสีมากกว่า เพราะมีสารอาหารที่ครบถ้วนกว่าแบบที่ขัดสี
และการเลือกซื้อาหารจากธัญพืช
เคล็ดลับก็คือ ให้มองหาฉลากที่ระบุว่า “โฮลวีต” หรือ “โฮลเกรน” เพราะทำจากธัญพืชทั้งเมล็ด


★ ‘ซีเรียล’ ที่มีคุณค่า
ถ้าอยากกินซีเรียลเป็นอาหารเช้าที่มีคุณค่า ควรอ่านฉลากให้ดีก่อนตัดสินใจซื้อ ดูรายการส่วนประกอบ
อย่าเลือกชนิดที่ผลิตจากธัญพืชเต็มเมล็ดและไม่เติมน้ำตาล
และขั้นตอนต่อไปให้ดูตารางแสดงคุณค่าทางโภชนาการ
ผลิตภัณฑ์ที่ดีต้องมีใยอาหารอย่างน้อย 3 กรัมต่อหนึ่งหน่วยบริโภค


★ ดู ‘หน่วยบริโภค’
ฉลากอาหารทั่วไปจะระบุปริมาณวิตามิน แร่ธาตุ และสารอาหารต่อปริมาณอาหาร 100 กรัม หรือ 100 มล.
แต่ผู้ผลิตบางรายอาจบอกปริมาณต่อหนึ่งหน่วยบริโภค
แต่ “หน่วยบริโภค” ใน ความหมายของผู้ผลิตและผู้ซื้ออาจไม่ตรงกัน

การเทียบคุณค่าทางโภชนาการระหว่างผลิตภัณฑ์สองยี่ห้อ
ควรเทียบปริมาณต่อหน่วยที่เท่ากันชัดเจน เช่น 100 กรัม หรือ 100 มล.


★ ‘ส่วนประกอบ’ น้อยดีกว่า
ถ้าเราอ่านส่วนประกอบอาหารบนฉลากทุกครั้ง
หากพบว่ามีรายการที่ยาวเหยียดก็แสดงว่า ผลิตภัณฑ์นั้นผ่านกระบวนการผลิตหลายขั้นตอน
และมีสารเจือปนหลายชนิด แต่ละชนิดมีทั้งข้อดีและข้อเสีย เช่น
สารกันบูด ช่วยยับยั้งการเติบโตของแบคทีเรีย จึงช่วยป้องกันภาวะอาหารเป็นพิษ
สารช่วยละลาย หรือสารคงรูป อาจช่วยให้ไขมันต่ำมีเนื้อละเอียดไม่จับตัวเป็นก้อน
แต่สารปรุงแต่งบางชนิด เช่น สีสังเคราะห์ อาจทำให้แพ้อาหาร เกิดภูมิแพ้ และโรคหอบหืด เป็นต้น


★ อย่าหลงเชื่อคำโฆษณา
หากอ่านฉลากอาหารแล้วพบคำว่า “ไม่มีคอเลสเตอรอล” หรือ “ไขมันลดลง 90%”
อย่าด่วนตัดสินใจ เพราะคอเลสเตอรอลคือไขมันที่มีในผลิตภัณฑ์จากสัตว์ เช่น เนื้อ ปลา ไข่ และนม
อาหารที่ผลิตจากพืชล้วนๆ เช่น ซีเรียลจึงไม่จำเป็นต้องระบุบนฉลากว่าไร้คอเลสเตอรอล
เว้นแต่ผู้ผลิตตั้งใจระบุไว้เพื่อเป็นจุดขาย เพราะรู้ดีว่ามีผู้บริโภคไม่มากนักที่รู้ข้อเท็จจริง
ส่วนอาหารที่ระบุว่า “ไขมันลดลง 90%” แสดงว่ายังมีไขมันผสมอยู่ 10% ซึ่งขนมขบเคี้ยวและเค้กบางยี่ห้อใช้คำนี้
หลอกให้เชื่อว่าสินค้าของเขาดีต่อ สุขภาพ แต่ที่จริงอาจมีไขมันไม่ต่างจากยี่ห้ออื่นเลย


★ อย่าหลงเชื่อ ‘อาหารมหัศจรรย์’
มีอาหารและผลไม้บางชนิดได้รับความนิยมเพราะคำโฆษณาว่าเป็น “อาหารมหัศจรรย์”
แต่นักโภชนาการเตือนว่าอย่าด่วนหลงเชื่อ เพราะคำว่า “อาหารมหัศจรรย์” ที่ ถูกนำไปกล่าวอ้างอยู่เสมอ
ยังไม่มีคำจำกัดความที่ชัดเจนเชิงกฎหมาย
การกินอาหารและผักผลไม้อย่างใดอย่างหนึ่งเพียงอย่างเดียว ไม่สามารถทำให้เรา สุขภาพดีขึ้นได้ในพริบตา
รู้แล้ว ก็อย่าลืมอ่านฉลากอาหารบนผลิตภัณฑ์ก่อนตัดสินใจซื้อทุกครั้ง


ข้อมูลจาก โพสทูเดย์
ที่มา : //www.thaihealth.or.th




 

Create Date : 30 มกราคม 2553
1 comments
Last Update : 30 มกราคม 2553 14:24:10 น.
Counter : 943 Pageviews.

 

 

โดย: นนนี่มาแล้ว 6 กุมภาพันธ์ 2553 14:48:21 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 200 คน [?]




Friends' blogs
[Add ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.