Group Blog
 
<<
มกราคม 2553
 
27 มกราคม 2553
 
All Blogs
 

ทานผัก 7 สี เคล็ดไม่ลับฉบับ “ครูเล็ก ภัทราวดี”



ยังเป็นคุณครูคนเก่งอยู่เสมอ สำหรับครูเล็ก ภัทราวดี มีชูธน ครูสอนการแสดงให้กับโรงละครภัทราวดีเธียเตอร์
บุคคลสำคัญที่คร่ำหวอดอยู่ในวงการมาเป็นเวลากว่า 40 ปี

สุขภาพดี เริ่มต้นง่ายๆ ที่ตัวเราเอง
ไม่ว่าจะเจอกี่ครั้ง กี่ครั้ง ครูเล็ก ภัทราวดี ก็ยังคงสุขภาพแข็งแรง ผิวพรรณผ่องใส เต่งตึง ดูอ่อนกว่าวัยอยู่เสมอ
วันนี้ Ms. Healthy จึงอดไม่ได้ ที่จะต้องเข้าไปฉกเคล็ดลับในการดูแลสุขภาพของครูเล็กมาฝากกันคะ

“การดูแลใส่ใจสุขภาพเป็นเรื่องสำคัญ เพราะด้วยอายุที่เพิ่มขึ้นทำให้ต้องรักษาสุขภาพ
และใส่ใจเป็นพิเศษในการเลือกอาหารที่เป็นประโยชน์ ให้คุณค่าและสร้างพลังงาน แก่ร่างกาย”
นี่คือประโยคแรกทันทีที่เริ่มการสนทนากับครูเล็ก นอกจากนี้เธอยังบอกอีกว่า

เธอมักจะเลือกรับประทานผักเป็นส่วนใหญ่ โดยจะเน้นการรับประทานผักเจ็ดสี
เพราะผักผลไม้แต่ละชนิด จะให้คุณประโยชน์แตกต่างกันแล้ว ยังมีสีสันที่น่ารับประทานต่างกันออกไปอีกด้วย

สีสันของผักผลไม้นั้น นอกจากจะเป็นส่วนประกอบช่วยเพิ่มความเชิญชวนในการรับประทานแล้ว
สารอาหารที่มีอยู่ในผักผลไม้ยังเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ที่ซึมผ่านเข้าไปในแต่ละอวัยวะภายในร่างกาย
เพื่อช่วยบำรุงส่วนต่างๆ ของร่างกายด้วย

“ส่วนตัวแล้วชอบรับประทานสลัดผัก เพราะในผักมีสารอาหารมากมาย
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของวิตามิน เกลือแร่ ต่างๆ และพยายามลดการรับประทานผลไม้ที่มีรสหวาน
เพราะการทานผลไม้หรืออาหารที่มีรสหวานมากๆจะส่งผลเสียต่อสุขภาพ ทำให้อ้วนและเป็นโรคเบาหวานได้ง่าย
จึงพยายามหลีกเลี่ยง แต่ถ้าเห็นแล้วอยากรับประทานก็จะกินไม่เกินหนึ่งคำ
โดยจะชิมให้ลิ้นได้ลิ้มรสชาติของอาหาร เพียงแค่คำเดียวก็พอ”ครูเล็ก อธิบาย

หลายคนคงอยากรู้นะคะว่าผักเจ็ดสีที่ครูเล็กพูดถึง มันดีต่อสุขภาพยังไง
เคล็ดลับดีดีอย่างนี้ จะพลาดได้ยังไงล่ะคะ เริ่มกันที่

★ ผักสีแดง
ผักผลไม้ที่อยู่ในกลุ่มสีสันร้อนแรงสีนี้ ได้แก่ มะเขือเทศ ส้มโอสีชมพู แตงโม
ซึ่งมีประโยชน์ช่วยบำรุงปอด โรคมะเร็งที่หัวใจและปอด ผักผลไม้สีแดงช่วยป้องกันได้

★ ผักผลไม้ที่ให้สีแดง-ม่วง
ได้แก่ องุ่น ลูกพรุน แครนเบอร์รี่ แบล็กเบอร์รี่ สตรอว์เบอร์รี่ แอปเปิ้ลแดง
สำหรับคนที่อยากได้ชื่อว่าเป็นคนฉลาดควรต้องรับประทานผัก- ผลไม้ในกลุ่มนี้
เพราะผลไม้สีแดง-ม่วง จะเข้าไปช่วยบำรุงการทำงานของเซลล์สมอง
ใครอยากเป็นอัจฉริยะก็ต้องรับประทานผักผลไม้สีนี้กันเยอะๆ คะ

★ ผักผลไม้ที่ให้สีส้ม
ได้แก่ แครอต มะม่วง แอปริคอต แคนตาลูป ฟักทอง มันฝรั่งหวาน ผลไม้จำพวกแตง
พิเศษสุดสำหรับสาวๆ ที่อยากเป็นสาวสุขภาพดีและมีผิวพรรณที่เปล่งปลั่ง นวลเนียนแล้วล่ะก็
ผักผลไม้สีส้มสามารถช่วยได้ แถมยังช่วยบำรุงสายตาอีกด้วย

★ ผักผลไม้ในประเภทสีส้ม-เหลือง
ได้แก่ ส้ม ส้มเขียวหวาน พีช มะละกอ เนคทารีน ซึ่งมีคุณสมบัติในการช่วยบำรุงหัวใจ และกระเพาะอาหาร
และสำหรับคนที่มีปัญหาเรื่องการขับถ่ายหรือท้องผูก สีส้ม-เหลืองก็พอช่วยได้
และในสีส้ม-เหลืองนี้ยังมีวิตามินซีจำนวนมาก ผักผลไม้สีส้ม-เหลืองยังบำรุงระบบเซลล์ในร่างกาย
และมีความสามารถในการฆ่าเซลล์มะเร็งในร่างกายของมนุษย์ และสัตว์ได้อีกด้วย

★ ผักผลไม้ในประเภทสีเหลือง-เขียว
ได้แก่ ผักขม อโวคาโด แตงโมฮันนีดิว กะหล่ำเขียว ผักกาดเทอร์นิพ ข้าวโพดเหลือง ถั่วลันเตา
มีประโยชน์ช่วยบำรุงตับของเราให้แข็งแรง และยังกระตุ้นระบบการฟอกของเสียต่างๆ ในร่างกายอีกด้วย

★ ผักผลไม้ประเภทสีเขียว
ได้แก่ บร็อกโคลี่ หัวกะหล่ำปลี กะหล่ำปลี กะหล่ำปลีจีน ผักกวางตุ้ง ผักคะน้า ผักบุ้ง
แน่นอนว่าที่เราเคยได้ยินผู้ใหญ่พูดกันเสมอๆ ว่ากินผักบุ้งจะทำให้ตาหวาน
เพราะว่าพืชผักผลไม้สีเขียวนี้จะมีวิตามินเอเยอะ ซึ่งจะเป็นตัวช่วยในการบำรุงสายตาของเราให้มีสุขภาพดีค่ะ

★ ผักผลไม้ประเภทที่มีสีขาว-เขียว
ได้แก่ กระเทียม ใบกระเทียม หัวหอม ขึ้นฉ่าย ลูกแพร์ ใบเอนไดฟ์
ประโยชน์ของผักผลไม้สีนี้ก็คือ ช่วยในการทำงานของระบบหมุนเวียนต่างๆ ภายในร่างกาย
โดยเฉพาะหัวใจ ใครไม่อยากเป็นโรคหัวใจก็ต้องบริโภคผักผลไม้สีขาว-เขียวกันเยอะๆคะ

แหม! ประโยชน์มากมายขนาดนี้จะรอช้าอยู่ใย ใครอยากมีสุขภาพดีปราศจากโรคเหมือนครูเล็ก
ก็ต้องรีบไปหาซื้อผักเจ็ดสีมารับประทานกันแล้วล่ะคะ

นอกจากรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ แล้วการพักผ่อนก็สำคัญไม่แพ้กัน
ถึงแม้ว่าครูเล็กจะมีงานที่ต้องทำมากมายในแต่ละวัน
แต่ก็ไม่ลืมที่จะแบ่งเวลาให้ร่างกาย ได้รับการผักผ่อน ด้วยการนอนหลับอย่างน้อยวันละ 6-8 ชั่วโมง
การผักผ่อนที่เพียงพอ ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยรักษาสุขภาพให้แข็งแรง มีสมาธิในการทำงาน
มีความคิดสร้างสรรค์ในการพัฒนาตน และพัฒนาผลงานให้ออกมามีประสิทธิภาพ

เคล็ดลับการเสริมสร้างความกระปรี้กระเปร่าของครูเล็ก ยังไม่หมดเพียงเท่านี้
เพราะนอกจากการรับประทานอาหารที่คัดสรรมาเป็นอย่างดีแล้ว ในเรื่องของการออกกำลังกาย
ถึงแม้ว่าเวลาจะไม่เป็นใจ แต่เธอก็ยังได้ออกกำลัง จากการปฏิบัติภารกิจประจำวันที่เธอต้องทำนั่นเอง

“ด้วยสายงานแล้วทำให้ต้องเป็นคนกระฉับกระเฉง กระตือรือร้นอยู่เสมอ เดินเร็วแต่ไม่รีบ
รู้จักฝึกฝนให้ตนเป็นคนไม่ขี้เกียจ ตื่นแต่เช้า รู้จักรักษาสุขภาพ เพราะการเป็นครูสอนการแสดงต้องใช้พลังเยอะ
ไม่ว่าจะเป็นการวิ่ง เดิน การแสดง หรือแม้แต่การฝึกการหายใจ
ที่เป็นตัวอย่างกับเด็กๆให้เค้าได้เรียนรู้อย่างสนุกสนาน ไปพร้อมๆกัน
เพราะส่วนใหญ่จะไม่มีเวลาไปออกกำลังกายข้างนอก แต่ด้วยอาชีพที่ต้องขยับเขยื้อนร่างกาย
ตลอดเวลาหกชั่วโมงที่สอน ก็คล้ายกับเป็นการออกกำลังกายไปในตัวด้วย เพราะแค่ขยับก็เท่ากับออกกำลังกาย
แต่ สิ่งที่ต้องระวังก็คือส่วนหัวเข่า เพราะเริ่มมีอายุมากขึ้นข้อเข่าก็เริ่มเสื่อม
เนื่องมาจากตอนเด็กๆ สะสมไขมันไว้เยอะ ชอบกินของทอดของมัน และเนื้อสัตว์
ทำให้เกิดโรคข้อเข่าเสื่อมได้ง่าย” ครูเล็ก กล่าวด้วยแววตาที่อบอุ่น

นี่คือแบบฉบับเคล็ดไม่ลับของครูเล็ก ภัทราวดี ที่ Ms. Healthy นำมาฝากกันคะ
ถ้าใครอยากดูดีอย่างนี้ก็ไม่ยากเพียงแค่คุณหันมาใส่ใจกับสุขภาพ เลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์
หาวิธีออกกำลังกายที่เหมาะสมกับตัวคุณ และพักผ่อนให้เพียงพอ
ถ้าคุณทำได้รับรองว่าคุณจะมีสุขภาพที่ดีปราศจากโรค สามารถปฏิบัติภารกิจประจำวันได้อย่างราบรื่น
ลองดูซิคะแล้วจะรู้ว่าสุขภาพดีเริ่มต้นได้ง่ายๆ ที่ตัวคุณ


เรื่องโดย : นางสาวกรรณิการ์ เอมแสง
ที่มา : //www.thaihealth.or.th




 

Create Date : 27 มกราคม 2553
1 comments
Last Update : 27 มกราคม 2553 10:45:18 น.
Counter : 991 Pageviews.

 

 

โดย: นนนี่มาแล้ว 6 กุมภาพันธ์ 2553 15:13:20 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 200 คน [?]




Friends' blogs
[Add ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.