ผืนฟ้า แดนดิน โลกกว้าง และ ชีวิต คือ ห้องเรียนห้องใหญ่ของผม

รักแท้ดูแลไม่ได้กับคนเจ้าน้ำตา@2005-10-31

ความรักของเธอ เสียงที่บอกฉัน ว่าเธอห่วงใย
มือนั้นของเธอที่แตะหน้าผากฉันวันที่ฉันไม่สบาย
ทุกๆฉากทุกตอนไม่เคยจางหาย แม้จะผ่านเนิ่นนานเท่าไร
และทุกฉากทุกตอนนั้นคอยตอกย้ำ สิ่งที่ฉันเป็น ตั้งแต่เสียเธอไป

ว่าฉันเป็นคนโง่เหนือใครๆ มีรักแท้อยู่ ดูแลไม่ได้ จะรู้ค่ามันก็สายเกินไป
ปวดร้าวคิดอยากย้อนเรื่องราวแค่ไหน ได้แต่ฝัน
ต่อจนเหมือนเดิม รูปเมื่อก่อนนั้น ที่มันขาดไป
แต่ทางของเรา จะต่อได้อีกไหม หรือว่าฉันต้องทำใจ
ทุกๆฉากทุกตอนไม่เคยจางหาย แม้จะผ่านเนิ่นนานเท่าไร
และทุกฉากทุกตอนนั้นคอยตอกย้ำ สิ่งที่ฉันเป็น ตั้งแต่เสียเธอไป

ว่าฉันเป็นคนโง่เหนือใครๆ มีรักแท้อยู่ ดูแลไม่ได้
จะรู้ค่ามันก็สายเกินไป ปวดร้าวคิดอยากย้อนเรื่องราวแค่ไหน ได้แต่ฝัน
บอกหน่อยที่ไหนพอจะมี ประตูให้ฉันย้อนไปคืนวัน
ที่ฉันมีเธออยู่ จะขอดูแลอีกครั้ง โวโว้โอ


ฉันเป็นคนโง่เหนือใครๆ มีรักแท้อยู่ ดูแลไม่ได้
จะรู้ค่ามันก็สายเกินไป ปวดร้าวคิดอยากย้อนเรื่องราวแค่ไหน

ได้แต่ฝัน

======================================

อ่าๆๆๆ อ่านหัวเรื่อง รักแท้ดูแลไม่ได้กับคนเจ้าน้ำตา ก็งงๆกับตัวเองอยู่เหมือนกัน นี่หมายความว่าคนเจ้าน้ำตาจะไม่มีรักแท้เหรอ แหะๆๆไม่เกี่ยวเลย ไม่อยากบอกนะ ผมหนะบ้านนอกกกกกกกก มากกกกกกก เพิ่งเคยได้ยินสองเพลงนี้เมื่อสองอาทิตย์เอง ยิ่งเพลงรักแท้ดูแลไม่ได้ เพิ่งได้ยินเอง เคยได้ยินชื่อเพลงมาสักพักแล้วแต่เพิ่งได้ยินเพลงเอง เพราะช่วงนี้เริ่มมาเปิดวิทยุฟังบ้างแล้วอะ หลังจากไม่ได้เปิดมานานนนน มากกกก ยิ่งตอนนี้สองเพลงนี้ดังมาก เปิดเกือบทุกสถานี โดยเฉพาะไอ้วงมันฝรั่งได้ยินโคตรบ่อยเลย

ถามว่า อิน มั้ย ไม่อินเท่าไหร่นะสำหรับเพลงรักแท้ดูแลไม่ได้ เพราะไม่รู้ว่าไอ้รักแท้มันหน้าตาเป็นยังไง แต่ไม่ได้หมายความว่า ผมจะคิดว่ารักทั้งสองครั้งที่ผ่านมาไม่ใช่รักแท้นะ ผมคิดเสมอทุกครั้ง ว่า ความรักของผม มันเป็นของแท้ เพราะผมไม่ได้เสแสร้งว่ารักใครนิ ผมรักทุกคนจริงๆ ถึงตอนนี้อาจมีคนใดคนนึงหรือทั้งสองคน ไม่รักผม แต่ผมก็ยังรัก หวังดี และ เป็นห่วงเค้าอยู่ อ่า! ทำไมอะ ผมรักของผมนี่ และถึงแม้ผมไม่ได้เป็นแฟนกันกับทั้งสองคนนั้นแล้ว

ทำไมผมจะรักพวกเค้าไม่ได้ ความรักมันไม่ได้จบลงที่ความเป็นแฟนนี่ครับ Love is color blind นะครับ ถ้าจะให้รอว่า เมื่อไหร่เลิกรักคนเก่าแล้วค่อยมาหาใหม่ สงสัย ขี้นคานแน่ๆ

ผมรักพ่อแม่ผม ผมรักพี่น้องผม ผมรักเพื่อนๆผม ผมรักประเทศไทย ผมรักธรรมชาติ ผมรักแสงสีความศิวิไลน์ และผมก็รักโลกใบนี้ Love is all around!

สุดท้าย ผมก็รักคุณด้วยครับ .................... ................. ................. ................ ....... คนอ่านทั้งหลาย ขอบคุณทุกคนครับที่เสียเวลาเข้ามาอ่าน ขอบคุณมากขึ้นอีกสำหรับขาประจำที่ชอบมาคอมเมนท์ ทุกๆคนที่ห่วงใยผม และโดยเฉพาะ คนที่รับฟังผมเสมอรวมทั้งเพื่อนๆน้องๆทุกคนที่คอยเฝ้าดูแลให้กำลังใจผม ผมแค่อยากให้รู้ว่า ผมเองก็รักและห่วงใยพวกคุณทุกๆคนนะครับ ว่าแต่มีใครบ้างเอ่ย! ไหนๆดูหน่อยสิ แหะๆๆๆ (ไม่มั่นใจอะว่าจะเหลือ เพราะส่วนใหญ่โดนวีนหนีไปหมดแล้วววววววววว จริงไหมจ้ะคุณหญิง )

====================================================================


edit @ 2005/11/30 18:16:29
edit @ 2005/11/30 18:21:21




 

Create Date : 01 กรกฎาคม 2549   
Last Update : 14 กรกฎาคม 2549 16:15:35 น.   
Counter : 340 Pageviews.  

คลื่นซัด กรรมซ้อน@2005-10-24

ผมนั่งคิดอยู่นานว่าผมควรจะเขียนบล็อคเรื่องนี้ดีไหม คิดไปคิดมาก็เขียนดีกว่า มันเป็นเรื่องต่อเนื่องหรืออาจเป็นเรื่องเดียวกันแต่นำมาเรียบเรียงใหม่จากคลื่นซัดกรรมซ้อนหนะครับบางท่านอาจเคยอ่านแล้วแต่บางท่านอาจไม่ทันได้อ่านเพราะผมลบไปแล้ว เมื่อวันเสาร์ที่มีคลื่นเล็กลูกนึงมา นั่นคือ ลูกของเพื่อนพ่อคนนึง ที่ตอนเด็กๆรู้จักกันเพราะบ้านอยู่ไม่ไกลกันมาก เวลาพ่อไปเยี่ยมเพื่อนก็พาเราไปด้วย เพื่อนพ่อคนนี้เป็นคนบ้านเดียวกันกับพ่อผมซึ่งเป็นคนต่างจังหวัด ตอนเด็กๆเราเจอกันบ่อยเหมือนกันแต่พอโตขี้นเรียกได้ว่า แทบไม่ได้เจอกันเลยก็ได้ เค้าโทรมาขอความช่วยเหลือผมในวันเสาร์ เขาบอกผมว่าเขาป่วยต้องการเงินจำนวนหนึ่งซึ่งเรียกได้ว่ามากสำหรับผม ผมปรึกษาแม่ผม ผมปรึกษาคนที่ห่วงใยผม แต่สองคนนี้นิสัยเหมือนผมคือ เป็นโรคใจอ่อน จริงๆผมเองก็มีคำตอบอยู่ในใจว่าจำนวนเงินนี้มันมากไปหน่อย แต่เท่าไหร่ที่ควรจะให้ หรือ ไม่ให้ดี นั่นคือสิ่งที่ผมต้องหาคำตอบ ดังนั้นผมจึงได้โทรไปหาคนๆหนึ่ง แฟนเก่าผมเองครับ เค้าเก่งในเรื่องแบบนี้ เค้ามีความคิดเป็นของตัวเอง และเค้าก็ยังเรียกได้ว่า มีความคิดที่แตกต่างกับผม ผมต้องการ 2nd opinion จากคนที่คิดไม่เหมือนผมบ้าง เพื่อผมจะได้มองได้รอบด้าน เหมือนกับที่มีพี่คนนึงบอกว่า ไม่นึกว่าผมจะฟังได้นานขนาดนี้ตอนเค้าวิจารณ์เรื่องของผม แหะๆๆ หรือว่าผมเป็นคนไม่มั่นใจในตัวเองก็ไม่รู้ เอาหละกลับมาเรื่องคลื่นซัดของผมต่อนะครับ ครั้งแรกนี้เค้าให้คำปรึกษาค่อนข้างดี ผลสรุปก็คือ อย่าให้เลย ทำเฉยๆดีกว่า ผมก็ อือ ลองทำตามดู แต่ปรากฎว่าน้องคนนั้นโทรมาอีกสองสามที ขอร้องผมอีก ผมก็อึดอัดมากครับ ผมไม่เก่งในเรื่องความสำพันธ์ การหักใจ การตัด หรืออะไรประเภทนี้ มันทำให้ผมอึดอัดมากครับ ดังนั้นผมจึงโทรกลับไปหาคนๆที่เรียกได้ว่าเป็นคนๆเดียวกันอีกรอบ คราวนี้ผมไม่ได้ต้องการคำปรึกษาแต่ผมต้องการกำลังใจ อ่า ใช่ครับผมโทรไปด้วยเสียงเศร้าๆ เรียกได้ว่าร้องไห้ก็ได้ ก็มันอึดอัดนี่ แต่แทนที่จะได้กำลังใจ ผมกลับได้คำหลายๆคำที่ทำให้ผมรู้สึกไม่ดี และ อารมณ์ที่ไม่ดีรวมทั้งความโกรธของเค้า ประโยคที่ผมจำได้ชัดๆนะครับ เช่น ยังยืนด้วยตัวเองไม่ได้เหรอ ทำไมต้องมาฟูมฟายกับเรื่องแค่นี้ และนอกจากนี้ก็ ทำดีทำไมหวังผลตอบแทน เอ้า!ผมไม่ได้หวังผลตอบแทนนะครับแค่คิดว่าถ้าผมเดือดร้อนจริงๆซึ่งผมไม่รู้ว่าน้องคนนั้นเดือดร้อนจริงๆหรือเป่า ผมก็คงต้องการความช่วยเหลือ ถึงแม้จากคนที่ไม่สนิทมากก็ตามเพราะจำนวนมันอาจจะมากเกินกว่า ครอบครัวและ เพื่อนๆน้องเค้าช่วยได้ ถ้าเราช่วยเพิ่มเติมอีกสักหน่อยก็คงช่วยเค้าได้มากขี้น คิดอย่างนี้มันหวังผลเหรอครับ ใช่ครับที่ผมโทรไปครั้งที่สองนี้ จุดประสงค์หลักคือ โทรไประบาย โทรไปเพราะอึดอัด แต่กลายเป็นว่ายิ่งทำให้ผมอึดอัดเข้าไปใหญ่ วันก่อนพ่อหมี คอมเมนท์ผมมาว่า " ใครๆต่างก็มีภาระของตนเองทั้งนั้น เขาแบกภาระเราด้วยไม่ไหวหรอก ยิ่งรู้สึกว่ามันไม่จบสิ้นซะที " ผมขอบอกพ่อหมีไว้เลยนะครับ เค้าเองเป็นคนบอกว่า ถ้าว่ายน้ำไม่ไหวก็บอกนะ จะช่วยพยุง ครับมันอยู่ในข้อสัญญาระหว่างเราหลังจากการเลิกกัน ผมขอให้เค้าทำตัวเหมือนเดิมสักระยะนึง ผมเองก็จะพยายามปรับตัวออกไปเพื่ออยู่ด้วยตนเองให้ได้ เพื่ออยู่ในชีวิตที่ไม่มีเค้าให้ได้ เพื่อกำจัดความเคยชินที่เค้าสร้างให้ผมรู้สึกว่าผมต้องมีเค้าอยู่ตลอดเวลาในหัวใจ แล้วระยะเวลานั้นมันยังไม่สิ้นสุดครับ ผมเองก็ปรับตัวออกมาเยอะแล้ว ไม่ได้ไปวุ่นวายกับกิจกรรมประจำวันเค้าเหมือนแต่ก่อนแล้ว แต่คราวนี้ผมมีเรื่องที่ผมไม่สามารถแก้ไขด้วยความคิดเพียงลำพังด้วย ผมแค่อยากได้อีกความคิดไม่ได้เหรอครับ เพราะถ้าผมไปถามเพื่อนผมคนอื่นๆผมคงต้องเล่าสาธยาย environment ทั้งหมดออกมา กว่าจะได้ความเห็นก็นาน สู้อธิบายให้คนๆหนึ่งซึ่งเคยเป็นเสมือนคนเดียวกันไม่ดีกว่าเหรอครับ ใช่ครับในการโทรคุยครั้งที่สอง ผมมีคำพูดที่ว่า ถ้ามีเค้าอยู่ด้วยคงจัดการเรื่องนี้ได้ง่าย หรือ ผมคิดถึงวันเวลาเก่าๆนะ ทำไมครับ คิดถึงมันผิดหรือครับ ไม่ได้จะขอให้คืนดี แต่คิดถึงมันผิดตรงไหน เออ ผมอาจพูดตรงไปหน่อยไม่ควรพูดถึง แต่ผมแค่รู้สึกอยากระบายให้คนที่เป็นเพื่อนสนิทคนนึงฟัง หรือ ผมกับเค้าเป็นไม่ได้แม้เต่เพื่อนสนิทครับ แล้วเค้าก็บอกเองว่ามีอะไรก็ขอให้บอก แต่พอบอกแล้วเกิดปฎิกริยาอย่างนี้หมายความว่าไงครับ ช่วยอธิบายให้ผมได้เข้าใจหน่อย ผมจะเล่าให้ฟังนะครับ ขนาดแฟนคนแรกของผมที่เราต้องเลิกกันเพราะเค้าค่อนข้างเป็น materialisum ถ้าเค้าอยู่กับผมเค้าคงไปไม่ถึงฝ้นที่เค้าต้องการ อันนี้เป็นเหตุผลหลักที่ทำให้เราต้องเลิกกัน แรกๆไม่เข้าใจต่อมาก็เข้าใจ อ่า เข้าเรื่องดีกว่า แฟนคนแรกของผมเค้ายังโทรมาบอก มาเตือนผมเรื่องงานเลยครับ เมื่อตอนที่ผมมี conflict ในด้านความสามารถของโปรแกรม ที่เรามีอยู่กับ SVP- Senior vice president เค้าค่อนข้างสนิทกับ SVP ของผม เค้ายังมาเตือนด้วยความหวังดี เราเองก็ยังเป็นเพื่อนที่ดีกันได้ แต่กับอีกคนนึงที่ผม ไม่รู้ว่าเค้าคิดยังไง ทำไมความคิดของเราถึงคนละขั้วเลยวะ ไม่เข้าใจจริงๆ มีเพื่อนคนนึงเคยถามว่า กับเค้าแล้ว ตกลงเลิกกันรึยัง ผมตอบว่าไม่รู้ แต่รู้เพียงว่าสำหรับเค้า เค้าเลิกแล้ว ผมเองตอบได้เพียงว่า ผมได้ใช้เวลาที่ยังอยู่ในสัญญานั้นพยายามปรับตัว จากคนที่ร่วมชีวิตกัน มาเป็นเพื่อนสนิท แต่ไม่รู้สิเหมือนเค้าไม่อยากเป็นแม้กระทั่งเพื่อนวะ ไม่รู้จริงๆ พ่อหมีครับ ถ้าได้อ่านกรุณา คอมเมนท์หน่อยนะครับ อยากรู้ครับว่าพ่อหมีคิดยังไง ดูเหมือนพ่อหมีจะเข้าใจเค้ามากกว่าผมอีก อ่า หรือว่าเค้าชอบคบคนแบบ มิสทิฟฟานี่ เพื่อนผมครับ ที่เค้ามีปรัชญาว่า ถ้าเค้าทุกข์เค้าชอบเก็บไว้ลำพัง แต่ถ้าเมื่อไหร่มีความสุขจะมาหาเพื่อน ครับ อ่า! ผมไม่ใช่คนแบบนี้หนิครับ ไม่ว่าสุขหรือทุกข์ เราจะไปด้วยกัน ถ้าเราเป็นเพื่อนกัน เพื่อนนะครับ ไม่ใช่คนรู้จัก ผมรู้สึกไม่ดีเวลาที่ผมไม่สามารถช่วยอะไรเพื่อนได้เวลาเพื่อนทุกข์ ผมหนะอย่างน้อยขอเป็นคนรับฟังหรือว่า คนให้กำลังใจ เท่านั้นก็พอแล้วครับ สำหรับความเป็นเพื่อน หง่า ! ผิดหรือครับที่ผมคิดอย่างนี้ ช่วยๆกันคอมเมนท์หน่อย โดยเฉพาะพ่อหมี ผมรออยู่นะครับ คนอื่นๆก็เหมือนกัน อย่าอ่านเฉยๆ ถ้าคิดว่าเป็นเพื่อนผม คอมเมนท์หน่อย อย่างน้อยก็ถือว่าได้ช่วยเพื่อนคนนี้ให้รู้จักคิด มากขึ้น เข้าใจมุมมองอื่นๆมากขึ้น ช่วยหน่อยก็แล้วกัน ขอบคุณล่วงหน้าครับ




 

Create Date : 01 กรกฎาคม 2549   
Last Update : 1 กรกฎาคม 2549 19:16:39 น.   
Counter : 417 Pageviews.  

วันวุ่นๆ@ 2005/10/20 00:55:07

วันนี้เป็นวันที่เหนื่อยมาก ตั้งแต่เช้าแล้ว ต้องขับรถเข้าออฟฟิตที่บางซื่อ ไปตามงานกับน้องๆผ่านออนไลน์เพราะหัวหน้าฝ่ายจะต้องเอาไปพรีเซนท์ เสร็จแล้วสิบโมงหนักๆต้องเผ่นไปหา จิตแพทย์ แหะๆๆผมเป็นโรคประสาทครับ ถ้าจะพูดให้ดีคือ จิตหงุดเงี้ยว เอ้ยๆๆไม่ใช่ เป็นโรคซึมเศร้าครับ จริงๆก็พอรู้ตัวว่าเป็นมานานแล้วอะ แต่อาการไม่ค่อยกำเริบ เคยกำเริบหนักก็สองทีเอง แหะๆตอนอกหักอะครับ คราวแรกแรงมากกกกก แต่พอนานๆเข้าตัวผมเองก็พอเข้าใจว่า มันจากกันด้วยเหตุผล ที่ผมไม่สามารถทำฝันเค้าให้เป็นจริงได้ แต่คราวที่สองนี้เป็นเพราะอีกคนหมดรักผมแล้ว คำง่ายๆแค่นี้เอง ซึ่งมันทำให้ผมรับยากเหลือเกิน คำๆนี้ทำไมมันหมดง่ายปานนี้วะ ไม่เข้าใจจริงๆครับ
บังเอิญพอครั้งที่สองนี้อาการกำเริบ ก็จัดได้ว่าหนักก็ว่าพอควรเลยครับ เล่นมิวสิควีดีโอ จนเพื่อนๆปั่นป่วน ครั้งนี้ก็รู้ตัวเองแล้วว่าควรถึงเวลาแก้ไขโดยไปพบหมอ ก็เลยตั้งใจไปหาโดยไม่ต้องให้ใครแนะนำ ก็ไปหามาเดือนกว่าๆแล้วครับ ซีงปัจจุบันอาการเริ่มดีขี้นแล้วครับ ไม่รู้เพราะ ยาของหมอ หรือ เวลา หรือ การปลง หรือการควบคุมจิตใจกันแน่ แต่ที่แน่ๆผมศึกษาธรรมมะด้วยนา ช่วยได้เยอะเหมือนกัน โดยเฉพาะการควบคุมจิตใจของผม ที่มันมักจะล่องลอย ไปไหนต่อไหนโดยไม่รู้จุดหมาย หัดควบคุมมันให้มันมาอยู่ที่ตัวของเราเอง มันทำให้ผมมีสมาธิมากขึ้น ทำอะไรได้มากขึ้น

ไปหาหมอเสร็จแล้วก็ต้องนั่งรถไฟฟ้ากลับมาประชุมที่บางซื่อ เสร็จแล้วก็ต้องรีบปั่นพรีเซนท์สำหรับวันพรุ่งนี้ให้หัวหน้า ทำยังไม่ทันเสร็จ ต้องวิ่งกลับเพลินจิต อีกแล้ว ไปพรีเซนท์กับ SVP โอ้ย อะไรจะวิ่งไปมาขนาดนี้ เหนื่อยจิงๆนะ งานทำแทบไม่ทัน ก็เหนื่อยนะ ลนๆด้วยกลัวมาไม่ทันแล้วผู้ใหญ่จะรอ ปรากฎให้เรารอจน สองทุ่มกว่า ค่อยมาบอกว่าไม่ต้องแล้ว จิงๆก็เซ็ง แต่ทำไงได้เราเป็นลูกน้องนี่หว่า วิ่งไปมา ยังกับแมสเซนเจอร์แหนะ แต่พอส่องกระจกก็พบว่าไม่เคยเห็นแมสเซ้นเจอร์หน้าตาดีเท่านี้มาก่อนนะ จิงๆ อิอิ

ในระหว่างรอ เข้าพรีเซนท์ ได้คุยกับเพื่อนคนนึง ได้คุยอย่างตรงๆอย่างที่อยากคุย เพราะผมเป็นคนตรงๆมั้ง บางทีก็ตรงไปหน่อย เรื่องบางเรื่องไม่ควรพูดก็พูด แล้วเรื่องที่พูดก็ไม่รู้ว่าเป็นเรื่องที่ควรพูดหรือป่าว แต่ก้พูดด้วยความเป็นห่วงคนๆนึง สรุปสุดท้ายเหรอครับ แหะๆๆ เค้าก็ยอมรับอย่างตรงไปตรงมา อือ ลูกผู้ชายดีหวะ ฝากดูแลด้วยก็แล้วกันนะเพื่อน

edit @ 2005/10/20 00:55:07




 

Create Date : 01 กรกฎาคม 2549   
Last Update : 1 กรกฎาคม 2549 19:15:15 น.   
Counter : 672 Pageviews.  

ดากานดา@2005-10-17

ดากานดา แปลว่า หญิงผู้เป็นที่รัก แหะๆถ้าไม่พูดถึงก็เชยแย่แล้ว
ไปดูมาแล้ว เหมือนไปดูคนเดียวเลยอะ เซ็งอะ! ชอบนะชอบเรื่องนี้ แต่ที่ชอบมากสุดคือ นุ้ย เธอน่ารักมากกกกกกกก ขอ บอก ไม่รู้สิชอบนะ ชอบมากกว่า ดากานดาอีก หะๆ หรือว่าผมหลงเสน่ห์ชุดสีขาว ผมรู้สึกลึกว่า บริสุทธิ์ดี น่ารักครับแต่ไม่รู้สิใครๆก็ชอบดากานดา ทั้งน้องผม ทั้งเพื่อนผม เค้าบอกว่าดากานดา มีเสน่ห์ ใช่ผมยอมรับว่า เธอมีเสน่ห์ ถ้าผมเป็นไข่ย้อย ผมก็คงแอบชอบเธอเหมือนกัน แต่ นุ้ยน่ารักมากตั้งแต่แรกพบ และนุ้ยก็ดูแลไข่ย้อยมาตลอด ถ้าผมเลือกใครสักคนมาเป็นคู่ชีวิต ผมก็คงเลือกนุ้ย มากกว่า ดากานดา แน่ แต่ถ้าอยากเป็นแฟน คงเลือก ดากานดา มั้งเพราะวันเวลามันทำให้เราชอบคนที่เราแอบชอบมานาน ยิ่งชอบมากยิ่งขึ้น ความผูกพันทั่งหลายทั้งปวง แหะๆ แต่ทั้งสองคนก็มีเสน่ห์ของตัวเองดี ไม่รู้สิ ตอบยากแฮะ ...

มีคนชมว่าไข่ย้อยน่ารัก ตอนผมสั้นก็โอเคนะ ตอนเค้าเขินๆ นุ้ย ก็ดูน่ารักดี แต่ตอนผมยาวนะ โห เซอร์โคตรแม่งเลย เชยฉิบหาย แต่เพื่อนนุ้ยที่ชื่อต่อ ก็หน้าตาดีนะ แต่ทำไมใครๆก็ว่า หน้าตาธรรมดาฟะ เอ! หรือว่าเราคิดไม่ค่อยตรงกับชาวบ้านฟะ ไม่รู้จิ เอาเป็นว่าน่ารักทุกคนก็แล้วกัน เล่นเก่งทุกคนด้วย อิน! เออ ลืมพูดถึงอีกคน พี่แต คนนี้เจ๋งมาก ขโมยซีน ทุกซีนที่ออกเลย ตลกดี แต่เศร้าหวะ ตอนน้องตัวเล็กที่ชื่อ จิ๋ว ตาย ไม่รู้สิ ไม่ชอบการตาย ไม่ชอบการจากลา ทั้งๆที่มันเป็นสัจจะของชีวิต ตอนไข่ย้อยจากเกาะไป ผมยังไม่เข้าใจว่าทำไม ก็งงๆ ถ้าเป็นเรานะคงอยู่เป็นเพื่อนนุ้ยอีกสักพัก เพราะนุ้ยกำลังเสียใจอยู่ ไม่น่ารีบออกจากเกาะเลย แต่พอถามเพื่อน เพื่อนเข้าใจว่าทำไม ไม่รู้สิคิดไม่เหมือนกันมั้ง ผมเองดูหนังเรื่องนี้แล้วอยากไปทะเลเหมือนกันหนีร้อนไปพึ่งเย็น อยากไปเกาะพะงัน ไปหานุ้ย อิอิ จะมีเหลื่ออีกไม่เนี่ย




 

Create Date : 01 กรกฎาคม 2549   
Last Update : 1 กรกฎาคม 2549 19:14:17 น.   
Counter : 448 Pageviews.  

วังวนของความรู้สึก@2005-10-16

เมื่อวานนี้ไปไหว้พระมา ไปที่ๆเคยไปประจำครับ คือ วันบวร และ ศาลเจ้าพ่อเสือ ที่ศาลเจ้าพ่อเสือเป็นที่ๆมีความทรงจำมากมาย จนบางครั่งคนที่เป็นแฟนเก่าผมสงสัยว่าอะไร แต่ผมก็ไม่เคยบอกเค้า จริงๆแล้วถ้าผมจำไม่ผิด ผมมาศาลเจ้าพ่อเสือที่แถวเสาชิงช้าครั้งแรกกับคนที่รักผมมากที่สุด อ่า คุณแม่ผมเองครับ ปกติคุณแม่ไม่ได้เข้าศาลเจ้าเท่าไหร่นะครับ แต่วันนั้นแม่พาผมไปเพราะผมเพิ่งอกหักจากแฟนคนแรก และคงได้ยินจากคนอื่นด้วยมั้งครับว่า ดวงผม มันคนจิตใจอ่อนแอ ต้องไปไหว้เจ้าพ่อเสือบ่อยๆ จะได้มีจิตใจเข้มแข็ง แม่ผมก็คงอยากให้ลูกชายเค้าจิตใจเข้มแข็งเหมือนกัน ก็เลยพาไปไหว้ ซึ่งต่อมาผมก็มาไหว้แทบจะเป็นประจำครับ ตั้งแต่ศาลชั่วคราว จนกระทั่งย้ายมาสถานที่จริง

ที่ยังติดอยู่ในวังวนความรู้สึกเพราะในตอนกลางคืน ผมเห็นว่าแฟนเก่าเงียบๆไปก้เลยโทรไปถามสารทุกข์สุขดิบตามประสา คนที่รู้สึกดีๆให้กัน คราวนี้เค้าก็คุยดีเหมือนกันนะเล่าให้ฟังโฉมงโฉงเฉงว่า กำลังจะติด internet highspeed วันนี้ไปซื้ออุปกรณ์ต่อไม่ค่อยรู้เรื่องต้องโทรถามเพื่อนเรื่อยๆ ผมเองก็คิดน้อยใจว่า อือก็รุ้ไม่ใช่เหรอว่าผมก็จบ IT มาต่อให้โง่ๆเหอะ ทำไมนะไม่คิดจะถามผมบ้างเหรอ หรือเราไม่ได้เป็นแม้แต่เพื่อนวะ สงสัยสำหรับเค้าเราเป็นแค่คนรู้จัก หรือ คนน่ารำคาญคนนึง ที่เมื่อไหร่จะไปจากชีวิตกูเร็วๆสักที เค้าก็ถามผมว่าไปไหนมา ผมก็บอกไปศาลเจ้าพ่อเสือมาวันนี้ แถมโดนล็อคล้อด้วยที่ๆปกติไปจอดนั้นแหละ เสียค่าปรับตั้ง 700 บาทแหนะ พอจะเล่าต่อ เค้าก็บอกว่าพอๆเหอะๆ เราก็อึ้ง แต่ก็หยุด ปกติคุยกับเพื่อนนะ เราบ่นให้เพื่อนฟง เพื่อนก็ไม่เคยว่า เพื่อนบ่นให้ฟังบ้าง เราก็ไม่เคยว่า เค้าเองหลังๆบ่นเรื่องงานมาผมก็ไม่เคยว่า ไม่เคยรำคาญ แต่เค้าเล่นตัดบทรำคาญๆไป คือ เหมือนกับว่าถ้าจะเล่าหรืออัพเดทชีวิตให้ฟัง ก็ฟังแต่เรื่องดีๆก็แล้วกัน เรื่องไม่ดีไม่ต้องเล่า เดี่ยวกูพลอยซวยไปด้วย (ไม่แน่ใจว่าเค้าจะคิดอย่างนี้รึเปล่าแต่จากคำพูดเค้ามันรู้สึกอย่างนั้นหนิ) อือ!...รู้สึกไม่ดีมากๆเลย ไม่ชอบมากๆเลย เค้าเปลี่ยนไปมาก เอาแต่ใจสุดๆ ที่บ่นไม่ได้อยากกลับมาคืนดีนะ แต่อย่างน้อยถ้ายังเป็นเหมือนเดิมเราก็เป็นเพื่อน หรือ เพื่อนสนิทกันได้นะ แต่นี่ เห้อๆๆ รู้สึกแย่มาก เทียบกับแฟนคนแรกนะ เรายังเป็นเพื่อนกันได้ ผมกลัวว่าต่อไปจะเกลียดเค้ามากขึ้นเรื่อยๆ และความรู้สึกดีๆที่เคยมีให้กันมันจะถูกลบเลือนด้วยความเกลียดนี่แหละแล้วสุดท้าย เราจะเป็นไม่ได้แม้แต่คำว่า "เพื่อน"

อ่า ไม่เอาแล้ว ชีวิตต้องเดินต่อไป บอกตัวเองไว้ ถ้าเค้าไม่อยากเป็นเพื่อนกับเรา เราก็คงถอยมาแค่คนรู้จักกันก็พอ เนอะ

อ่า ใบเซียมซีหลวงพ่อดำ วัดบวร ตรงมากสำหรับความคิดผม ตั้งใจจะเอามาใส่บล็อค แต่ดันไปเจอเรื่องเสียความรู้สึกก่อนเลยขอบ่นหน่อย แต่ไม่ใช่ว่าเมื่อวานไม่มีสิ่งดีเลยนะ มีเยอะเหมือนกัน ที่รู้สึกดีที่สุดคือไปไหว้พระ ใจสงบ และมีคนบางคนเป็นห่วงเป็นใยเรา คอยปลอบใจยามลำบาก นี่ก็รู้สึกดีมากเหมือนกัน

ใบที่ยี่สิบหก ตกเวลา ชะตาหมอง
งานเงินทอง หาลำบาก ยากหนักหนา
ลูกชายหญิง ยากหมาย ได้พึ่งพา
ความเดือดร้อน นานา ประดังมี
คิดเสียว่า ถึงเวลา จะต้องรู้
เพื่อยกใจ ขึ้นสู้ ขั้นสูงศรี
ผู้ผ่านทุกข์ ทั้งหลาย ได้ด้วยดี
เป็นผู้ที่ ระดับใจ ยกไว้งาม
อนิจจัง ทุกข์ข้ง อนัตตา
ตั้งใจ พิจารณา สัจจะสาม
เพียงเล็กน้อย แม้นคอย แลเห็นตาม
จะพบความ สุขใจ สืบไปเอย

สาธุ สาธุ สาธุ เหอะๆ ผมมันเจ้าทฤษฎี ปฎิบัติได้หรือไม่คงสุดแล้วแต่มั้งครับ แต่ก็คงต้องลองพยายามดู อ่านเซียมซีใบนี้แล้วใจสงบขึ้นอีกเยอะเลย ขอบคุณครับที่ช่วยตักเตือนสั่งสอน




 

Create Date : 01 กรกฎาคม 2549   
Last Update : 1 กรกฎาคม 2549 19:13:03 น.   
Counter : 510 Pageviews.  

1  2  3  4  5  

น้องzeroสุดหล่อ
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




พายุที่มันพัดผ่าน หอบฝนมา
ฟ้ามืดหม่นสักเท่าไร เราอาจจะต้องหนาว
ต้องทรมานแต่ไม่นานก็คงจางหาย
มันเป็นเหมือนกำลังใจจากฟ้า
ส่งมาให้คนรู้ว่าชีวิตมีค่า..
แค่อย่าเพิ่งถอดใจ
[Add น้องzeroสุดหล่อ's blog to your web]