ผืนฟ้า แดนดิน โลกกว้าง และ ชีวิต คือ ห้องเรียนห้องใหญ่ของผม

ประสพการณ์ครั้งแรก... ที่เชียงใหม่ (7/11/05)

แปลกใจและไม่น่าเชื่อสายตาตัวเอง ทำไมเราเขียนบล็อคแบบ ธรรมมะ อย่างนี้ จึงมีคนมาแสดงคอมเมนท์นะ แปลกใจจิงๆนึกว่าไม่มีใครอ่านซะอีก ลองดูๆไปเหมือนคนเขียน เขียนให้อ่านได้คนเดียวนะ ซึ่งนั่นก็คือ ผมเองแหละ อุอุ... ตอนนี้ไม่สบายกาย จึงต้องหาธรรมมะเข้ามารักษาจิตใจ ไม่ให้ป่วยตามครับ แต่ถึงยังไงก็ต้องขอขอบคุณทุกท่านนะครับทั้งที่อ่านเข้าใจ และ ไม่เข้าใจ

ความหวัง ... ผมหยุดมันไม่ได้หรอกครับ ผมเคยอยู่ปราศจากความหวังมาแล้ว ผมทราบดีว่า ถ้าผมปราศจากความหวัง ผมก็จะเหมือนคนที่ไม่มีค่า มีชีวิตไปวันๆ แต่ความหวัง เราต้องหัดใช้มันให้ถูก ชิมิคับ ... (ทำเสียงดัดจริต นิดหน่อย ตามกระแส อิอิ...)

อ่าๆๆ วันนี้เปลี่ยนจากเรื่องธรรมมะ มาเป็นเรื่องเที่ยวดีฝ่า รู้สึกผมยังไม่บอกใครรึป่าวน้า ว่าผมไม่เคยขึ้นเหนือเลย ทริปเชียงดาวเป็นครั้งแรกก็ว่าได้เลย แต่เรื่องเชียวดาว เล่าไปแล้ว แต่ยังมีเรื่องเชียงใหม่ ยังไม่เคยได้เล่าให้คายฟัง ลองอ่านกันดูนะค้าบบบบบบ

@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@

ตะดึบๆ เสียงหัวใจผมเต้นโครมคราม โครมคราม รอฟังคำตอบจากมัน(ไอ้อ้วนจังพี่ชายตัวแสป) หลังจากลงมาจากเขาดอยเหลวงเชียงดาว ผมหนะอยากพักที่เชียงใหม่หนึ่งคืน ยังไม่อยากกลับกรุงเทพฯในบัดดล เพราะผมเองยังไม่เคยมาเชียงใหม่เลย ก็เลยอ้อนวอน ขอให้ไอ้อ้วนให้พาไปเที่ยวหน่อย .... (มันหนะไม่อยากไปเพราะแฟนเก่ามันเป็นเด็กเชียงใหม่ สงสัยกลัวเห็นภาพความหลังครั้งก่อนกระมัง) ไม่ได้ ผมไม่ยอมแพ้ ผมก็กวนตีนๆๆๆ กวนโอ้ย มันไปเรื่อยๆ งอแง ไปเรื่อยๆ ถ้ามึงไม่พากูไป กูจะป่วนมึงไปเรื่อยๆๆๆๆๆ

สุดท้าย มันก็ทนไม่ได้ รับปากว่าจะพาไปเที่ยว ผมก้ได้ดีใจที่มันรับปาก(ถึงแม้จะหักคอมันก็ตามเถอะ) ครั้งนี้.... เฮ่อ! เป็นครั้งแรก ..ครั้งแรกของผมจริงๆนะครับ.... ที่ได้มาเที่ยวตัวเมืองเชียงใหม่ ดีใจจังเยย

ผมพักอยู่แถบ ประตูท่าแพ เองครับ แถบนี้ตอนเย็นและกลางคืนวันอาทิตย์ จะปิดถนนเป็นคล้ายๆสวนจตุจักรเลยครับ มีน้องๆ มานั่งตีขิม ร้องเพลง มีอาหาร มีขนม มีข้าวของเครื่องใช้ และมีของที่ระลึกเยอะแยะไปหมด เสียดายที่ตอนนั้นแบตเตอรี่กล้องมันหมดพอดี ไม่ได้ ชาร์ท เลยไม่ได้ถ่ายบรรยกาศมาให้เห็น ที่ผมจำได้สนิทใจก็คือ อาหารและขนมเยอะแยะ กินอิ่มแปร้ และที่สำคัญ ไอ้อ้วนจัง พี่ชายผมอะเดะ มันแดกไปเหล่ไป แบบแสกนถี่ยิบ เลย ถ้ามันทำปากซู้ดๆแสดงว่าเจอคนน่ารักแล้ว แต่ไม่อยากบอกน่ารักของมันเนี่ย เห่ยๆ มากกกกก

ผมหนะพยายามมองตามมัน แต่ตามไม่ทันสักที มีครั้งนึงมันบอกคนข้างหน้าที่กำลังเดินสวนมาในกลุ่มนักศึกษาน่ารัก ผมก็ด้วยความไร้เดียงสา เผลอไปชี้น้องเค้าพอดี น้องเค้าก็มองๆแบบแปลกๆ ไอ้อ้วนมันก็รีบลากคอผมไปในทันใด แถมด่าซ้ำว่า วันหลังห้ามชี้เฟ้ย เออๆๆ กูผิดเองแหละ

สถานที่แรกที่ผมได้ไปเที่ยวหลังจากตื่นตอนเช้า ตอนแรกมันบอกไม่ไปได้ไหม บอกว่ามาบ่อยมาก แต่ผมหนะที่แถบตัวเมืองเชียงใหม่ ผมอยากไปที่นี่ที่สุดเลย วัดพระธาตุดอยสุเทพ ครับ

ตอนแรกผมแปลกใจมาก ที่มีทางขึ้นสองทาง อ้วนจังถามผมว่า ไปกระเช้าไหม เพราะผมได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยที่ข้อเท้าตอนลงดอยเชียงดาว อย่างไรก็ตาม อย่างผมเหรอมีหรือที่จะยอมขึ้นกระเช้าง่าย อาศัยสองเท้าเรานี่หละ ก้าวขึ้นดอยพระธาตุอย่างเต็มภาคภูมิ (เหอะๆๆ ทำเหมือนกับสูงมาก) แต่ดูรูปสิ มันสูงจิงๆนะ ยิ่งขาเดี้ยงๆอย่างผมนะ ต้องเดินไปพักไป ผมก็อาศัย บริกรรม "พุทโธ พุทโธ" หรือ "ปวดหนอ ปวดหนอ " ไปด้วยครับ เผื่อจะได้บุญไปด้วย ซึ่งระหว่างทางก็มี คำธรรมมะเยอะแยะ ติดตามต้นไม้ ให้ได้อ่านเพื่อพิจารณา

แต่พอขึ้นมา ก็พบว่าไม่ผิดหวังเลยครับ พระธาตุสวยงามมากครับ และด้วยแสงอาทิตย์ที่สาดส่องลงมาถึงตัวพระธาตุที่แวววาว ทำให้ผมรู้สึกประทับใจมากครับ การเข้าสักการะ จะมีพระประจำอยู่สี่ทิศครับ และที่ผมได้เอามาให้ดูเป็น พระธาตุด้านเหนือ รวมทั้งคำสวดมนต์ครับ " ขอให้เป็นผู้มีปัญญา ดุจจันทร์เพ็ญ ทรงไว้ซึ่งพระไตรปิฎก อันเป็นคำสั่งสอนที่เป็นเครื่องมือนำสัตว์ให้พ้นจากทุกข์ ฯ "

หลังจากนั้น อ้วนจังบอกผมว่าจะพาไปเลี้ยงอะไรอร่อยๆ เลยพาไปร้านกาแฟชื่อ กาแฟวาวี ครับ อ้วนจังบอกว่าดังมาก แต่ผมก็ไม่รู้ว่าดังแค่ไหน แต่บรรยกาศดีครับ

แต่ไม่อยากบอก มันนะไม่ได้พาผมไปคนเดียวหรอก มันหลอกลวงหญิงสาวสองคนไปด้วย ก็แหม่มเสื้อน้ำตาล กับเสื้อแดงนี่หละครับ เห็นกันตั้งแต่อยู่ที่พระธาตุแล้วหละ แต่พวกเธอทั้งสองคนก็คุยสนุกดีครับ ไม่อยากบอกเลยนะครับว่า การพูดภาษาอังกฤษ์ ของอ้วนจังดีมาก (เอ่อ.. กระเเดะ ดีมาก ขอรับ) ดัดลิ้น ดัดเสียง เหมือนพวกจีนฮ่อ เอ้ย จีนสิงค์โปร์ เลย แต่จิงๆจะว่ามันก็ไม่ได้หรอกครับ เพราะผมเองรวมทั้งคนไทยส่วนใหญ่ พูดภาษาอังกฤษ์ แบบ ทิงลิช คือ (ไทย + อังกฤษ์) ซึ่งฝรั่งฟังมะรู้เรื่องครับ สงสัยมันดู วีซีดี .... บ่อย เลยเก่งสำนวน โดยเฉพาะ ไอ้คำว่า เยสๆๆ โนๆๆ อ่าๆๆๆ พูดเหมือนเจ้าของภาษาอีก

หลังจากกินกาแฟ + ขนมมัฟฟิน + เค้ก (แต่มันไม่อิ่มเลยอะ อยากกินข้าววววววว) ผมก็ไปหาซื้อของฝากประเภทน้ำพริกหนุ่ม ไส้อั่ว มาฝากคนที่บ้านและที่ทำงานครับ เสร็จแล้วก็เดินกลับโรงแรมไปเอาของ เพื่อไป สนามบิน (ไฮโซมากกกกกก) ปิ้กบ้าน เมืองบางกอก

ภาพสุดท้าย คือ ป้าย AUA ครับ ไม่รู้คนคิด คิดได้ไงเนี่ย อ่านได้ทั้งสองภาษาเลย เก่งจิงๆ นับถือๆ

อืม! จบแล้ว.... หายเครียดยัง ... วันหลังมีไร จะมาเล่าอีกก็แล้วกัน

บ้ายบายครับ

ปล. คำคม ทุกคำ จำเค้ามา หรือไม่ก็ก็อปเค้ามาครับ (ถ้าจำผมรู้ที่มา ผมก็จะบอกชื่อผู้พูดด้วยครับเพื่อเป็นเกียรติแก่ท่านเหล่านั้น แต่บางครั้งผมไม่ทราบที่มาจริงๆ ก็ก็อปต่อๆกันมาหละครับ) และ สำหรับวันนี้

" ไม่มีใครมองเห็นวิวด้วยการมองออกไปแค่ 1 เมตร เช่นเดียวกับ ไม่มีใครประสพความสำเร็จในการตั้งเป้าหมายชีวิตในวันเดียว "

ปล. วันนี้ผมอารมณ์ดีครับ (เลียนแบบใครบางคน) เอิ้กๆๆๆ




Create Date : 14 กรกฎาคม 2549
Last Update : 14 กรกฎาคม 2549 15:00:00 น. 2 comments
Counter : 1183 Pageviews.  

 
ทำไมสมัยเรา ไม่เห็นรู้จักร้านกาแฟอันนี้วะ


โดย: dinkun (กริชครับผม ) วันที่: 9 ตุลาคม 2549 เวลา:19:56:30 น.  

 
แบบว่าร้านนี้ ผมชอบไปนะคับ
อิอิ
ไปส่งกบ(เจ้ย) ไปส่องหนุ่มๆ น่ารัก กิ๊บๆ
กาแฟอร่อย หอมๆ พนักงานคิดเงินน่ารัก แต่ตอนนี้คงอ้วนเป็นหมู

คิดถึงเจียงใหม่จัง


โดย: วอนน (kennetto ) วันที่: 16 มีนาคม 2550 เวลา:19:05:48 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

น้องzeroสุดหล่อ
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




พายุที่มันพัดผ่าน หอบฝนมา
ฟ้ามืดหม่นสักเท่าไร เราอาจจะต้องหนาว
ต้องทรมานแต่ไม่นานก็คงจางหาย
มันเป็นเหมือนกำลังใจจากฟ้า
ส่งมาให้คนรู้ว่าชีวิตมีค่า..
แค่อย่าเพิ่งถอดใจ
[Add น้องzeroสุดหล่อ's blog to your web]