ผืนฟ้า แดนดิน โลกกว้าง และ ชีวิต คือ ห้องเรียนห้องใหญ่ของผม

ถึงคราวต้อง admit

ไอ้ที่จั่วหัวว่า ถึงคราวต้อง admit นั้น ไม่ได้ยอมร้งรับอะไรหรอกครับ แอดมิท นั้นมันคือ แอดมิด เข้าโรงพยาบาล ตอนวันจันทร์ไปหาหมอที่โรงพยาบาลมาอีกครับ ซึ่งคุณหมอเปลี่ยนยาให้ผมใหม่ เดิมเมืออาทิตย์ที่แล้วผมเริ่มๆเจ็บคอ คุณแม่ผมให้ Roxicyclin วันละสองครั้ง ต่อมากินไปประมาณสามสี่วันไม่ดีขึ้นมาก คุณแม่ผมไปปรึกษากับหมอที่ศูนย์สาธารณสุข หมอท่านนั้นให้ Amoxycillin แบบ 1000 mg กินสองครั้งเช้าเย็น พร้อมคุณแม่ก็ฉีด Lincosin ให้สองวันติด ซึ่งก็ประคองได้ดีในระยะแรก พอทำงานที่สระบุรี ก็ไอ ประมาณไอกรน ได้เลย จนต้องกลับ กทม ก่อนกำหนด เพื่อหาหมอ พอวันศุกร์เช้าเริ่มไม่ไหว อาการไม่ดีขึ้น สองอาทิตย์แล้ว ตอนแรกก็คิดว่าเป็นหวัดใหญ่ แต่ไหงไม่ดีขึ้นเลย โดยเฉพาะอาการเจ็บคออย่างแรง แม่ผมก็เลยให้ผมไปพบกับคุณหมอเฉพาะทาง หูคอจมูก เลยครับ หมอขอเปลี่ยนยาครับ มาให้ Ciproxyl ซี่งเป็นยาแก้อักเสปอีกขนาน ผมถามเพื่อนมันบอกว่าแรงกว่าเดิมอีก โห อะไรกันขนาดนี้ยาแรงเรื่อยๆ สงสัยอีกหน่อยดื้อยาหมดเลยแน่ หมอให้ยามาสามวันจน ถึงวันจันทร์ค่อยมาใหม่ หมอขอดูอาการคับ พอวันจันทร์ดีขึ้นไม่มาก หมอเลยถามว่า แอดมิทไหม คราวนี้คุณเป็นไข้ด้วยนะ ผมหนะอยากแอดมิทจะตาย แต่ด้วยความที่วันอังคารมีประชุมสำคัญมาก ซึ่งนายใหญ่ โทรมากำชับผมเองว่าต้องไป ก็เลยต้องฝืนไป ก็เลยบอกคุณหมอว่า คงยังไม่ได้ขอเป็นวันพฤหัสกลับมาจากสระบุรีก่อนละกันครับ ซึ่งหมอก็เลยเพิ่มยาแก้อักเสปอีกตัว คือ Amoxksiklav 375 mg (Amoxicilin clavulanic acid) ซึ่งผมไม่รู้ว่ามันต่างกับตัวเดิมที่กินคือ Amoxycillin ยังไง แต่สงสัยครับว่าทำไมตอนแรกหมอให้ผมหยุด Amoxycillin แล้วมากิน Ciproxyl แทน แต่ตอนนี้ให้มากินเบิ้ลเลย ... ตับหนู จะเจ้งไหมเนี่ย เดี่ยวกินเดี่ยวหยุด หรือว่าตอนแรกคุณหมอต้องการแก้คออักเสปของผม ต่อมาพอดีขึ้นก็เลยมาแก้ไซนัสอักเสป แต่ที่แน่ๆถ้าตายไปแล้วเนี่ยอวัยวะยังจะบริจาคได้เหรอเนี่ย มีแต่ ยา กับ ยา วันพฤหัส ด้วยความโลภ ตอนเช้ามีสัมมนาเรือง Change management ซึ่งเจ้านายใหญ่ได้เชิญ MD ของบริษัทในเครือ ที่ไปเรียน Change mgmt ที่ Harvard Business School มา ซึ่งผมคิดว่าเค้าคงสามรถถ่ายทอดประสบการณ์ที่ดีให้พวกผมได้ ซึ่งเข้าไปฟังในโรงแรมใกล้สำนักงานใหญ่ แต่พอตอนเช้าขนาดให้คุณแม่ปลุก ก็ยังรู้สึกไม่ไหว เนื่องจากถึงบ้านที่ กทม ดึก ด้วยเหตุฝนตก รถติด และ มือถือใช้ไม่ได้ สัญญาณไม่มีมาหลายวันแล้ว ก็เลยตัดสินใจไม่ไปแต่เสียดายมากกกกกกกกก ที่ไม่ได้เข้าเรียน ผมเองเป็นคนขี้เกียจทุนเดิม ดังนั้นจึงไม่อยากอ่านเอง การมีคนสอนจะได้ความรู้ไวมากครับ ตอนนี้ก็นอนพะงาบๆ ใน โรงพยาบาล คุณแม่ถามว่าให้มาเฝ้าไหม ผมก็บอกท่านว่าไม่ต้อง ขนาดมายังขับรถมาเองไหว แค่นี้อยู่คนเดียวสบายมาก แต่การนอนอยู่คนเดียวตั้งแต่บ่ายถึงเย็น ถึง ค่ำ นี่มันเหงาใจมากเลยนะครับ แต่คนต้องฝึก ว้า.. แย่อีกแล้ว ไปคิดถึงอะไรที่ไม่ควรคิด อืม..ก็มันคิดถึงวันคืนดีๆนิครับ เอาเหอะ ท่องไว้ ท่องไว้ในใจ ว่ามันคงไม่มีอีกแล้ว ต่อไปต้องเข้มแข็ง ต่อไปเราก็คงต้องหัดนอนป่วย นอนรักษาตัวอยู่คนเดียว เพราะเมื่อถึงเวลาของคุณพ่อคุณแม่ผม ผมก็ต้องอยู่เองให้ได้ คิดไว้ คิดไว้ว่า ต่อไปคงต้องนอนป่วยคนเดียว เผลอๆอาจต้องนอนตายคนเดียว ไม่ที่ โรงพยาบาล ที่บ้าน ที่ข้างนอก ที่ข้างถนน ก็ที่ในรถยนต์ มันเป็นสิ่งทีหนีไม่พ้นเจงๆ เห้อ..


Create Date : 14 กรกฎาคม 2549
Last Update : 14 กรกฎาคม 2549 9:56:25 น. 0 comments
Counter : 608 Pageviews.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

น้องzeroสุดหล่อ
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




พายุที่มันพัดผ่าน หอบฝนมา
ฟ้ามืดหม่นสักเท่าไร เราอาจจะต้องหนาว
ต้องทรมานแต่ไม่นานก็คงจางหาย
มันเป็นเหมือนกำลังใจจากฟ้า
ส่งมาให้คนรู้ว่าชีวิตมีค่า..
แค่อย่าเพิ่งถอดใจ
[Add น้องzeroสุดหล่อ's blog to your web]