ผืนฟ้า แดนดิน โลกกว้าง และ ชีวิต คือ ห้องเรียนห้องใหญ่ของผม

การเดินทางรอบ2ของผม

ตื่นขึ้นมาตอนตีสองก่าๆ ในเช้าวันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคม เนื่องจากนอนมากไป รู้สึกตอนนอน จะนอนประมาณสามทุ่มกว่า และ ไม่ได้อาบน้ำ เช่นเคย (งานนี้รีบทานยาตั้งแต่กลับบ้าน ก่อนขึ้นมาห้องนอนแล้ว) ตั้งใจว่าจะงีบนึงตามสูตรแล้วค่อยตื่นมาอาบน้ำ แต่คราวนี้ตื่นได้จริงๆ และหลับค่อนข้างสนิทด้วย (ปกติชอบหลับก่อนเพื่อบรรเทาความเหนื่อย แต่มักจะนอนไม่สนิท)

ตอนตื่นขึ้นมา ลืมตาโพลง สมองก็เริ่มรู้สึกทำงาน คิดโน่นคิดนี่ไปเรื่อยๆ มาสะดุดอยู่ความคิดนึง นั่นคือ การเดินทางของผม ผมเองต้องขอบคุณ พี่ชายอ้วนของผม ที่ชี้ประตูบานนี้ให้ผมเห็น(อย่างไม่ตั้งใจ) แต่คนที่ไขประตูบานนี้ได้ก็คือผม และกุญแจมันก็อยู่ในใจผมเอง

อ้วนจังตัวแสป ชอบเดินทาง เพราะต้องการแสวงหาตัวตนของเค้า แต่ผมกลับไม่ใช่ สิ่งที่ผมแสวงหาคือ จุดหมายของมันตะหาก ผมจะเรียกได้ว่าเป็นคนที่ใช้ชีวิตไร้จุดหมายมาตลอดก้ได้ ทุกเป้าหมายที่ผมเดินผ่านมานั้น เป็นจุดหมายที่คนที่ผมรักพยายามชี้ให้ ผมเองก็พยายามทำ ถึงแม้ไม่ได้ดีอย่างที่พวกท่านหวัง แต่ก็น่าจะถือได้ว่าไม่เลวร้ายนัก หลังจากที่ผมเรียนจบ ป. โท อย่างที่เป็นจุดมุ่งหมายที่คุณพ่อผมตั้งไว้ว่า คุณพ่อผมจะทำหน้าที่ของท่านให้ดีที่สุด คือการส่งเสริมให้ลูกชายคนนี้ได้การศึกษาที่ดีที่สุด หลังจากนั้นท่านถือว่าท่านส่งผมถึงฝั่งแล้ว หน้าที่ต่อไปของผม คือ หาเส้นทางที่ผมต้องเลือกเดินทางของตนเอง

หลังเรียนจบ ผมมีโอกาสได้ใช้ชีวิตลำพังและท่องเที่ยวบ่อยครั้ง แต่ก็ถือได้แค่ว่า "ท่องเที่ยว" ไม่ใช่ "การเดินทาง" เหตุผลที่ผมมองคำสองคำนี้ต่างกันคือ ผมเห็นวัตถุที่แปลกตามากมายในการท่องเที่ยว แต่ผมมองไม่เห็นความหมายที่ซ่อนอยู่ภายในของการเดินทางแต่ละครั้งเลย ตอนนั้นผมท่องเที่ยวในต่างแดนเพราะผมเหงาจนกระทั่งผมรู้สึกเหงายิ่งกว่าที่ต้องเดินทางลำพัง เพราะทุกครั้งที่ผมไปคนเดียวผมจะรู้สึกเงียบเหงา และเป็นการเดินทางที่เงียบงัน มีแต่เสียงลมหายใจ และเสียงเต้นของหัวใจอันน้อยๆของผมเป็นเพื่อนร่วมทาง ซึ่งน้อยครั้งนักที่ผมจะได้เพื่อนๆที่รู้จักกันร่วมเดินทาง หรือแม้กระทั่งเจอเพื่อนร่วมทางตามรายทาง โดยเฉพาะเวลาที่ผมเดินทางแบบขับรถไปคนเดียว จนผมรู้สึกว่า ความเหงาที่ผมขาดมัน ได้แปรออกเป็น สิ่งที่ผมต้องการจริงๆ นั่นคือ .... ความรัก....

ดังนั้นผมจึงเลือกเดินทางกลับบ้านผม ที่ๆผมรู้แน่ว่า ที่นั่นมีความรักมอบให้ผม แต่อย่างที่ว่า ผมมีความรู้สึกกับตัวผมเองว่า มันยังไม่พอ ไม่ใช่พ่อแม่ไม่รักผมนะครับ ท่านรักผมมาก แต่สิ่งที่ทำให้ผมคิดว่าไม่พอ นั้นเกิดมาจากว่า เมื่อถึงเวลานึงของพวกท่าน ผมอาจเหลือแค่ ตัวผมคนเดียวในโลกใบนี้ ผมจึงเดินทางอีกครั้ง เพื่อค้นหา ... ความรัก หาใครสักคนที่สามารถจะให้ความารักผมได้ จนกระทั่งวันสุดท้ายของชีวิตผม แค่คนๆเดียว ขอแค่คนๆเดียวเท่านั้นจริงๆ ...

ดังนั้น สามสี่ปีที่ผ่านมา ผมจึงพยายามและไขว่คว้า หาคนๆนั้น จนในที่สุดผมพบว่าแนวทางความคิดนี้เป็นสิ่งที่ไม่ถูกนัก เพราะตั้งแต่มีแฟนมาสองคน ผมเหมือนผูกชีวิตและอนาคตไว้ที่คนทั้งสองนั้น แต่เมื่อเร็วๆนี้ผมเพิ่งจะมองเห็นว่า ชีวิตแต่ละคนมีเส้นทางที่แตกต่างกัน ถึงแม้เราจะอยู่ร่วมหรือแชร์เส้นทางของเรากับใครสักคนหรือหลายๆคน แต่ยังไงก็ตามแต่ละคนก็อาจมีจุดมุ่งหมายที่แตกต่างกัน แต่ถ้าเราเพียงพบใครสักคนหรือหลายๆคนเป็นเพื่อนร่วมทางกับเราได้ มันก็คงจะดีไม่น้อย ดังนั้นผมจึงเริ่มเดินทางอีกครั้งครับ... เพียงแต่ครั้งนี้เป้าหมายมิใช่แสวงหาใครสักคน แต่เป้าหมายของผมคือ การหาเป้าหมายที่เหมาะกับตัวผมครับ (อ่านแล้วงงไหมเอ่ย..)

แต่ก่อนที่จะเดินทางนั้น เราควรจะกำหนดเป้าหมายคร่าวๆไว้ก่อน โอเคครับ ผมบอกว่า การเดินทางครั้งใหม่ของผมคือ "การแสวงหาเป้าหมายในชีวิต" แต่สิ่งที่ผมกำหนดเบื้องต้นนั้นมันออกจะเป็นนามธรรมมากเกินไป ทำให้ผมเองอาจเดินสะเปะสะปะไปเรื่อย ดังนั้น ผมขออนุญาติเอาเป้าหมายสูงสุดของพุทธศาสนิกชน มาเป็นที่ตั้งก่อนนะครับ นั่นคือ "การเข้าถึงพระนิพพาน "(จนกว่าผมจะหาจุดมุ่งหมายหรือจุดสำเร็จที่แท้จริงของผม)

ผมทราบครับว่า ด้วยสติกำลัง ปัญญา หรือ ความสามารถทั้งหลายทั้งปวงของผมเหล่านี้ของผม ณ.เวลานี้ ไม่มีสิทธิที่จะถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้แน่ และไม่แน่ใจว่าเมื่อถึงเวลาที่เป็นที่สุดของชีวิตน้อยๆนี้แล้ว ผมจะได้มองเห็นแสงของพระนิพพานหรือไม่ แต่อย่างน้อยถ้าเราเดินสักหนึ่งก้าว ย่อมดีกว่าไม่ได้เดินเลยใช่ไหมครับ

เอาหละ เมื่อเรา ตั้ง Goal แล้ว เราก็มาดูว่า Objective ควรเป็นอย่างไร ณ. เวลานี้คร่าวๆก็คงเป็น เพื่อให้เข้าใจในความเป็นไปของชีวิตและความเป็นไปของโลก เพื่อแสวงหาการหลุดพ้นครับ (เหอะๆๆ ก้อป หนังสือพุทธศาสนามาทั้งดุ้นเลย) เมื่อมี Objective ก็ต้องสร้าง Strategic Planning หรือ แผนกลยุทธ์ เพื่อใช้สำหรับการเข้าถึงเป้าหมายให้เป็นรูปธรรม อืม! ณ. เวลานี้คร่าวๆที่ผมคิด คือ การใช้วิธีสร้างบุญบารมีตามหลักพุทธศาสนา (อย่างที่ผมเคยเขียนไว้ก่อนหน้านี้แล้วครับ) คงเริ่มที่ "ทาน" "ศีล" "ภาวนา"

อู้ อะไรกันเนี่ย ยิ่งพูดยิ่งเข้าใจยาก เอาเป็นว่าตอนนี้ ผมเริ่มจากการให้ทาน ก่อนละกัน ค่อยๆเก็บสะสมทีละเล็กทีละน้อย การเดินทางไปยังป่าเขา หรือ ที่ชนบทห่างไกล คือการที่ผมจะได้มองเห็นธรรมชาติของโลกใบนี้ มองเห็นความแตกต่างของมันว่าต่างกันอย่างไร มองเห็นชีวิตความเป็นอยู่และการใช้ชีวิตของผู้คน ความสุขความทุกข์ยากของผู้คนที่หลากหลาย แล้วจะนำกลับมาประมวลเพื่อค้นหาเส้นทางและเป้าหมายเบื้องต้นที่ผมต้องการ

ฮ่าๆๆๆ .... วันนี้พร่ามซะยาวเลย คงต้องบอกเพื่อนๆหรือผู้ที่แวะเข้ามาทุกท่านนะครับว่า บล็อคผมมันอาจแปลกๆ ธีมของมันอาจดูเลอะเทอะในสายตาบางท่าน มีทั้งเรื่องความรัก ท่องเที่ยว กิจกรรม คำบ่น หรือแม้กระทั่งธรรมมะ แต่สำหรับความคิดส่วนตัวของผมมันไม่ได้หลุดเลยครับ เพราะมันทั้งหมดก็คือ ส่วนหนึ่งของ ชีวิตใหม่ของผม หลังจากวันที่เค้าคนนั้นไม่อยู่ ครับ...

คำคมเล็กน้อยสำหรับ entry นี้ครับ

"ธรรมชาติสร้างจินตานาการ อุดมการณ์สร้างความสำเร็จ"




Create Date : 14 กรกฎาคม 2549
Last Update : 14 กรกฎาคม 2549 15:04:05 น. 0 comments
Counter : 761 Pageviews.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

น้องzeroสุดหล่อ
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




พายุที่มันพัดผ่าน หอบฝนมา
ฟ้ามืดหม่นสักเท่าไร เราอาจจะต้องหนาว
ต้องทรมานแต่ไม่นานก็คงจางหาย
มันเป็นเหมือนกำลังใจจากฟ้า
ส่งมาให้คนรู้ว่าชีวิตมีค่า..
แค่อย่าเพิ่งถอดใจ
[Add น้องzeroสุดหล่อ's blog to your web]