วรรณกรรมของหมื่นลี้
Group Blog
 
All Blogs
 
บทที่ 28 สลับแขกเป็นเจ้าบ้าน

“จงทำตัวให้คล่องดุจลม ทึบดุจป่า จู่โจมและปล้นชิงดั่งไฟ ตั้งมั่นสงบดั่งขุนเขา ยากที่จะหยั่งดั่งเมฆ และเคลื่อนไหวดุจดั่งสายฟ้า.... ผู้ที่จะชนะได้ต้องรู้จักศิลปะแห่งยุทธศาสตร์ทางตรง และทางอ้อม นี่คือศิลปะแห่งการดำเนินกลยุทธ์” ซุนวู

ที่คฤหาสน์ตระกูลดำรงฤทธิกุล เสียงโทรศัพท์ได้ดังขึ้นในเวลา 11.30 น.

“สวัสดีคะ บ้านคุณ เจ้าสัวรณฤทธิ์ คะ ไม่ทราบว่าจะเรียนสายกับใครคะ” เสียงสาวใช้ที่รับสายพูดขึ้น

“สวัสดีครับ ขอเรียนสายกับเจ้าสัวครับ” เสียงในสายพูดขึ้น

“ไม่ทราบว่าใครต้องการเรียนสายด้วยคะ”

“บอกท่านว่า ตี๋น้อย โทรมา”

“ขอโทษด้วยคะคุณตี๋น้อย ตอนนี้ท่านเจ้าสัวยังไม่กลับจากที่ทำงาน จะฝากอะไรไว้ถึงท่านไหมคะ” ร่างบอบบาง และดูสวยกว่าคนใช้ทั่วไปกล่าวขึ้น พลางกดปุ่มอัดเสียงขึ้น

“งั้นฝากบอกท่านด้วยว่า ผมขอโทษด้วยที่ทำไม่ได้ แต่ขอท่านอย่าห่วงเลย ให้เวลาผมหาเงินเข้าไปใหม่ก่อน แล้วจะทำตามเงื่อนไขให้สำเร็จให้จงได้ ฝากแค่นี้ละครับ ขอบคุณมาก” จากนั้นก็เป็นเสียงวางสาย สาวใช้คนสวยรีบฉวยทัมไดร์ฟออกจากเครื่องบันทึกเสียง พลางวิ่งขึ้นชั้นสองทันที

ก๊อก..................ก๊อก...........................

ประตูห้องนอนได้ถูกเปิดออกด้วยระบบอัตโนมัติ ทำให้ร่างสาวใช้รีบถลาเข้าไปในห้อง ก่อนที่จะปิดประตู

หมับ................ว๊าย......................

พริบตาที่เข้ามาในห้อง ร่างบอบบางก็ถูกวงแขนกอดรัด และระดมจูบพรมไปทั้งใบหน้า

“ปล่อยเชอรี่ก่อนสิคะ ไม่งั้นเชอรี่ไม่บอกข่าวสำคัญที่สุดให้พี่ตี๋นะ”

เชอรี่ หรือที่บรรดาคนใช้ด้วยกันเรียกกันว่า นังเชย หรือชื่อจริงว่า อบเชย ทำสะบัดสะบิ้ง ทำให้ชายหนุ่มที่พึ่งจะตื่นนอน เพราะไปเที่ยวฉลองความสำเร็จกับเพื่อนที่รัชดาซอย 4 จนถึงเช้า หัวเราะอย่างชอบใจ

“บอกมาก่อนสิ ถ้าข่าวถูกใจก็ปล่อย ถ้าไม่ถูกใจก็ไม่ปล่อย”

“นี่คะ เสียงพูดของตี๋น้อยโทรมาอ้อนเจ้าสัว แต่ไม่รู้เรื่องอะไรนะคะ แต่น่าจะเป็นเรื่องเกมนี่แหละ” พูดพลางส่งทัมไดร์ฟให้กับตี๋ใหญ่ แต่ชายหนุ่มกลับอุ้มเชอรี่ไปที่เครื่องเสียง

“อุ๊ย...พี่ตี๋อะ เชอรี่อายนะ” ปากบอกอาย แต่หน้าไม่แดงสักนิด แถมยังทำตาปรือ จนชายหนุ่มต้องหอมอีกฟอดใหญ่ ก่อนที่จะพูดว่า

“นี่ เชอรี่ ช่วยเอาเสียบใส่ให้หน่อยสิ มือไม่ว่าง”

“เสียบอะไรคะ” คนใช้สาวทำตาตื่น

“เสียบทัมไดร์ฟ เสียบเสร็จแล้วค่อยเสียบอย่างอื่นต่อ”

ตี๋ใหญ่ที่อารมณ์ดีมาตั้งแต่เจ้าหยง หรือชื่อในเกมคือ ขงหยง มารายงานว่าตี๋น้อยตายแล้ว เพราะถ้าเดินทางในเกม กว่าข้อมูลจะถึงมือเขาก็เกือบครึ่งเดือน ทำให้เพื่อนคู่ใจต้องออกจากเกมมาบอกก่อนที่จะเดินทางไปสมทบในเกม

“เสียบอะไรต่อคะ” สาวเจ้าที่หมายมั่นจะขยับตำแหน่งสู่ว่าที่สะใภ้ท่านเจ้าสัว แม้ว่าจะเป็นอนุก็ยอม ถามขึ้นอย่างให้ท่า

“ก็เสียบทัมไดร์ฟอีกอันไง แล้วคิดว่าเสียบอะไรละ”

รายนี้ก็ไม่แพ้กันเท่าไรนัก กล่าวตอบทันควัน จากนั้นแว่ว ๆ เสียงตี๋น้อยดังมาจากเครื่องเสียง ทำให้ตี๋ใหญ่หัวเราะลั่นอย่างชอบใจ พร้อม ๆ กับวางสาวใช้สาวลงบนเตียงนอน ก่อนที่จะโยนตัวเองตามลงไป จากนั้นก็ปรากฏเสียงหัวเราะคิกคักดังตามมา


ในเมืองขุมทรัพย์ ซึ่งขณะนี้ได้ตกเป็นสมบัติส่วนตัวของโจโฉไปแล้ว โดยการปราบปรามผู้ที่ลุกขึ้นมาต่อสู้ และสามารถสังหารผู้นำการต่อสู้นั้นได้ ทำให้สามารถรวบรวมผู้คนบนเกาะ และกองทหารไว้ได้

“เอาละ เรามาว่ากันเรื่องรายละเอียดของแผนที่ท่านขุนพลจูสือว่าน และท่านจ้าวเซวียนหยวน เป็นคนร่างหน่อย ขอท่านจ้าวสรุปเนื้อหาให้พวกเราฟังอีกทีหนึ่งด้วยครับ”

ขงหยง ซึ่งอารมณ์ดีเป็นพิเศษ เนื่องจากได้รับการชื่นชมจากตี๋ใหญ่ถึงผลงานในเกาะแห่งนี้ ได้กล่าวขึ้นในที่ประชุม นอกจากนั้น จูสือว่านที่เย่อหยิ่งตั้งแต่แรกนั้นได้รับบาดเจ็บ ทำให้ต้องพักรักษาตัวอีกนาน และคนแซ่จ้าวผู้นี้ก็ไม่เย่อหยิ่งเหมือนจูสือว่าน

“แผนพัฒนาเกาะแห่งนี้จะอยู่ใน 3 ขั้นตอนคือ
1. การเพิ่มขยายประชากร และพื้นที่ของเมือง พูดง่าย ๆ ก็คือ ทำให้ที่นี่กลายเป็นแคว้น ๆ หนึ่งที่จะเป็นแหล่งผลิตเสบียงอาหาร และเกลือ
2. การผลิตทหาร และป้องกันตนเอง ซึ่งที่นี่จะผลิตทหารชั้นยอดให้กับหน่วยชาญศึกของท่านขุนพลทั้งสอง เพื่อจะได้ใช้ช่วยเหลือท่านโจโฉในการพิชิตแผ่นดินภาคเหนือต่อไป
3. การสร้างกองทัพเรือที่ยิ่งใหญ่ เพื่อเป็นกันชนระหว่างภาคเหนือ และภาคใต้ นอกจากนั้นแล้ว ถ้าท่านโจโฉจะทำสงคราม เกาะแห่งนี้ก็คือแนวหน้าในการบุกทะลวงภาคใต้
โดยขั้นตอนแรกนั้น จะต้องได้รับความช่วยเหลือจากแคว้นเองจิ๋วที่อยู่ใกล้ ๆ กัน เพื่อขอให้ประชากรที่ต้องการมีที่ดินเป็นของตนเอง และผู้ที่ต้องการเป็นทหารชาญศึก ให้อพยพมาที่นี่ นอกจากนั้นแล้ว ในช่วงแรกนั้น กองทัพเรือของเองจิ๋วจะต้องคุ้มครองเกาะแห่งนี้ จนกว่าทางเกาะจะสร้างป้อมค่าย รายล้อมริมน้ำ และสร้างกองทัพเรือของตนเองได้” จ้าวเซวียนหยวนกล่าวอย่างฉะฉาน ทำให้คนทั้งสามอดที่จะทึ่งในแผนการนี้ไม่ได้

“ข้าคิดว่า มันจะไม่ใหญ่เกินตัวไปหรือ” กวัวจินเทียนกล่าวอย่างครุ่นคิด

“ก็เพราะเหตุนี้แหละ ที่ข้าจึงต้องขอหน่วยชาญศึกไว้ที่นี่ ให้ท่านทั้งสองติดตัวไปเพียง 50 คน และภายในเวลา 4 เดือน ข้าจะคืนให้” จ้าวเซวียนหยวนลูบเคราเบา ๆ พลางมองขุนพลทั้งสองอย่างจริงใจ

“ตกลง ข้าจะยอมรับข้อเสนอของเจ้า และจะช่วยพูดกับท่านโจโฉให้”

ขงหยงกล่าวขึ้น ซึ่งความจริงเรื่องนี้เขาได้ปรึกษาตี๋ใหญ่มาแล้วในผับที่รัชดาแล้ว แม้ว่าอัตราความเสี่ยงมันจะมาก แต่เมื่อขุนพลปีศาจจูสือว่าน และเหล่าทหารชาญศึกอยู่ด้วย คงไม่มีใครกล้าที่จะตุกติกกับเขา อีกอย่าง ถ้าสิ่งที่กล่าวมาทั้งหมดนั้นสามารถทำได้ พวกเขาก็จะสามารถเข้ายึดเขตภาคใต้ หรือ กังตั๋ง ได้ทันทีที่รวบรวมแผ่นดินทางเหนือสำเร็จ ซึ่งจะสามารถใช้เวลาได้เร็วกว่าโจโฉตัวจริงในประวัติศาสตร์ และแผ่นดินนี้ก็ไม่ต้องเกิดเป็นสามก๊กอีกต่อไป

ขงหยงหยิบหนังสือแผนงาน และรายละเอียดประกอบต่าง ๆ โหลดลงเข็มขัดจอมปราชญ์ของตี๋น้อย ซึ่งโจโฉให้เป็นของเขา พร้อมกับอาวุธต่าง ๆ ในเซตนิลกาฬ ไม่ว่าจะเป็นหอกกางเขนดำ ดาบ มีด และธนูนิลกาฬ ทำให้ในช่วงนี้เขาออกจะร่าเริงผิดปกติ และทำให้นิสัยขี้ระแวงของเขาไม่ได้กำเริบเช่นปกติ

“เดี๋ยวครับท่าน พอดีชาวเมืองมีข้อจะขอร้อง และได้ยื่นจดหมายมาทางข้า”

วังกงลู่กล่าวขึ้นอย่างกะทันหัน ทำให้ทุกคนหันไปมอง เพราะไม่เคยปรากฏเหตุการณ์ที่วังกงลู่จะเสนอเรื่องราวต่าง ๆ ตามคำร้องขอของชาวบ้านเลยสักครั้ง

“ไม่ต้องมองข้าอย่างนั้นหรอก พอดีเมื่อวานข้าเดินผ่านลานชุมนุมของชาวบ้าน เห็นเขาถกปัญหากันใหญ่ถึงเรื่องต่าง ๆ ข้าเห็นว่ามันเป็นเรื่องที่มีเหตุผล จึงขออาสามายื่นเรื่องให้” ขุนพลขวากล่าวขึ้นเมื่อเห็นสายตาที่สงสัยของขงหยง และกวัวจินเทียน

“อืม....ขอให้เปลี่ยนเจ้าเมืองหรือ ไม่เคยมีมาก่อนนะ ที่ชาวบ้านจะขอเปลี่ยนเจ้าเมือง” ขงหยงอ่านดู ก่อนที่จะเอ่ยขึ้น

“มันก็จริงที่ว่า ไม่เคยมีเมืองไหนที่ชาวบ้านจะขอเปลี่ยนเจ้าเมือง แต่ถ้าอ่านดูเหตุผลแล้วก็ดูเข้าทีนะ” วังกงลู่อดไม่ได้ที่จะช่วยกล่าวช่วยชาวบ้าน

“เพราะเจ้าเมืองไม่มีหัวพัฒนา ไม่ออกเยี่ยมเยียนดูแลชาวบ้าน ปกป้องและให้ท้ายกลุ่มนายทุนนอกกฎหมาย และที่สำคัญที่สุดคือ ไม่มีความสามารถที่จะสร้างเมือง และกองกำลังให้ใหญ่กว่านี้ได้” ขงหยงอ่านแล้วก็นิ่งคิดไปครู่ใหญ่

“ไม่น่าจะเป็นความคิดชาวบ้านจริง ๆ นั่นแหละ”

“แต่ชาวบ้านที่นี่เขาก็มีการศึกษาที่ดีนะครับ ไม่เหมือนชาวบ้านที่อื่น ดังนั้น พวกเขาอาจจะคิดอย่างนั้นก็ได้ เพราะท่านขุนพลขวาก็ไปเห็นมากับตา และได้ยินมากับหู” จ้าวเซวียนหยวนกล่าวขึ้น ทำให้ขงหยงมองหน้าจ้าวเซวียนหยวน ก่อนที่จะพูดว่า

“งั้นงานนี้เจ้าช่วยทำหน้าที่เจ้าเมืองให้หน่อย เพราะจากแผนการพัฒนาที่เจ้าเสนอมา ถ้าเจ้าไม่ได้เป็นเจ้าเมือง อาจจะทำให้งานล่าช้ากว่าที่ควรจะเป็นได้”

“ได้ขอรับ ข้าจะทำให้ดีที่สุดตามแผนการที่ได้เสนอไปอย่างแน่นอน” จ้าวเซวียนหยวนรับคำ ทำให้ขงหยงพยักหน้ารับด้วยความพึงพอใจ

พรุ่งนี้แล้วที่เขาจะได้กลับไปร่วมกับโจโฉ เพื่อสร้างผลงานในการที่จะปราบปรามก๊กอ้วนเสี้ยว และครั้งนี้ขุนพลทั้งสองยอมอยู่ข้างกายของเขา ทำให้กลุ่มนักรบปีศาจที่เก่งกาจซึ่งไม่เคยยอมอยู่กับใครภายใต้การดูแลของจูสือว่าน บัดนี้ เมื่อจูสือว่านวางมือ กองทัพนี้ก็กลายเป็นกองกำลังส่วนตัวของเขาทันที ทำให้ฐานะของเขากลายเป็นกุนซือปีศาจ ที่จะนำทัพปีศาจนี้บดขยี้อ้วนเสี้ยวเพื่อสร้างผลงานทันทีที่ฝึกฝนคนใหม่ขึ้นมาสำเร็จ ซึ่งโจโฉก็จะจัดเตรียมกลุ่มทหารไว้ให้สองหมื่น รอเขาไปบัญชาการเป็นกองพลปีศาจ

“รู้สึกว่าจะสำเร็จตามแผนนะ เหมือนที่ตี๋น้อยบอกไว้เลยว่า คนอย่างตี๋ใหญ่ และขงหยงนั้น แม้จะฉลาด แต่ขาดเฉลียว เมื่อเห็นเนื้อชิ้นใหญ่อยู่ตรงหน้า และแผนการแห่งความสำเร็จที่ใหญ่ ๆ อยู่ไม่ไกลก็จะละเลยจุดอ่อนเล็ก ๆ น้อย ๆ โดยทันที”

เสียงเสี่ยวหมวยกล่าวขึ้นในร้านรับแลกเงินของเฉียนไท่เส้า ทำให้คนอื่น ๆ ทั้ง 9 คนที่นั่งอยู่ด้วยพากันจ้องมองเสี่ยวหมวยอย่างยิ้ม ๆ

“ใช่ โดยเฉพาะเมื่อข้างกายของพวกมันมีสาวงามที่ต้องการจะยกฐานะตัวเองอยู่ข้างกาย เจ้าขงหยงก็จะต้องรีบปิดประชุมด้วยการยอมรับปากตี๋น้อยไปทุกเรื่อง เพื่อที่จะกลับที่พักที่มีนางงามเหล่านั้นรออยู่”

หลัวหย่ง ซึ่งเปิดร้านขายเสื้อผ้า ทำให้รู้จักกับเหล่าสาว ๆ ในเมืองนี้เกือบทุกคน ทำให้รู้ว่าใครต้องการยกฐานะตัวเอง และช่วงใช้ได้อย่างถูกต้อง ทำให้แผนการที่ยิ่งใหญ่นี้สามารถผ่านไปได้ ด้วยกลหญิงงาม

“ไม่น่าเชื่อว่า ตี๋น้อยจะสามารถดำเนินกลต่อเนื่องแบบยุบยับซับซ้อนขนาดนี้”

เสี่ยวหมวยทอดถอนใจชมเชยในแผนการที่ติดต่อกันจนเหมือนกับเปลี่ยนรูปแบบของสงครามที่มี พร้อมกับเปลี่ยนแบบแผนสงครามที่มีมาทันที

“แหม....หายใจเข้าหายใจออกเป็นตี๋น้อยไปหมดนะ อาหมวยเล็กนา” ป้าอี่หลางแซวออกมา ทำให้เสี่ยวหมวยหน้าแดง

“ป้าก็...กำลังพูดกันเป็นงานเป็นการนะ จะมาแซวกันทำไมเนี่ย”

“หรอ เป็นงานเป็นการเชียวหรอ แล้วงานหมั้น หรืองานแต่งละ” ป้าอี่หลางก็ไม่ยอมเลิกแซว ทำให้ลุงพันต้องกระแอมไอออกมา ทำให้ร่างท้วม ๆ ของป้าต้องหัวเราะคิก ๆ ออกมา

“โรคหวงลูกสาวกำเริบแล้ว ใครมียาดีเอามาให้ลุงพันกินหน่อยเร็ว” คำพูดนี้เรียกเสียงหัวเราะจากบรรดาอดีตพนักงาน NPC ทั้งหลายได้เป็นอย่างดี ทำให้เสี่ยวหมวยหน้าแดงมากขึ้นไปอีก

“ว่าแต่เจ้าพวกกระทิงทั้ง 16 ตัวนี่ ฝีมือแต่งหน้า แต่งตา แต่งผม และปลูกหนวดปลูกเคราของมันเนี่ย สุดยอดจริง ๆ” ลุงเว่ย เจ้าของร้านขายอาวุธที่จ้าวเซวี่ยงหยางไปดูอาวุธได้เอ่ยขึ้น

“นั่นนะสิ นี่ถ้าอาหมวยไม่บอกไม่รู้นะเนี่ย พาลจะนึกว่า เจ้าตี๋น้อยตายไปแล้วจริง ๆ” ลุงพันเอ่ยปากยอมรับความสามารถของ 16 นงคราญอีกคน

“นี่ถ้าพวกลุง ๆ ป้า ๆ ทั้งหลายได้เห็นศพของตี๋น้อยนะ จะอึ้ง ทึ่ง ปนสยอง เพราะแยกไม่ออกเลยแหละ นึกว่าตี๋น้อยตายไปจริง ๆ” เสี่ยวหมวยพูดขึ้นอย่างอารมณ์ดี ทำให้ลุงพันต้องพูดชมเชยขึ้นว่า

“แค่จัดการแปลงโฉมคนที่อายุ 17 ให้กลายเป็นอีกคนที่มีอายุ 20 ปีก็ยากแล้ว แต่คนที่น่าทึ่งมากที่สุดก็ไม่พ้นตี๋น้อย คนอะไร สามารถกลมกลืนตัวเองจนกลายเป็นคนใหม่ได้ในเวลาเพียงไม่ทันข้ามวัน ทั้งบุคลิก นิสัย ความเคยชินใหม่ ๆ อย่าว่าแต่ขงหยงเลย ต่อให้เป็นเพื่อนสนิทก็ไม่คิดสงสัยว่า จ้าวเซวียนหยวนคือ ตี๋น้อย”

“แล้วงานที่เสี่ยวหมวยขอร้องทุกคนให้ช่วยทำ ไม่ทราบว่าเสร็จหรือยังคะ” เสี่ยวหมวยที่ยิ้มแย้มแจ่มใสที่ได้ยินคำชมเชยตี๋น้อย แต่ก็ยังสอบถามงานที่ให้บรรดาพี่ ๆ ลุง ๆ และป้า ๆ เหล่านี้ไปทำ

“งานง่าย ๆ แค่นี้สบายมาก นี่คะ คุณหมวย ทะเบียนสำมะโนประชากรของเมืองขุมทรัพย์” ป้าอี่หลางส่งแผ่นดิสเล็ก ๆ ให้เสี่ยวหมวย ทำให้อีกฝ่ายโหลดลงเข็มขัดจอมปราชญ์ของตนเองทันที

“เออ...แล้วนี่ตี๋น้อยเขาลงทุนให้เข็มขัดจอมปราชญ์ไปจริง ๆ หรอ แพงมากเลยนะนั่น อีกอย่าง อาวุธเซตนิลกาฬของลุงพันนั่นก็เป็นหนึ่งไม่มีสอง ไม่เสียดายหรอ” ลุงเว่ย เจ้าของร้านอาวุธเอ่ยขึ้นอย่างเสียดาย

“โธ่...ลุง แค่เข็มขัดกับอาวุธ ตี๋น้อยเขาเอาไปฝากไว้กับตี๋ใหญ่เท่านั้นเอง เดี๋ยวก็ไปเอาคืนมาหรอก แค่สมบัติไม่กี่ตัง แลกกับกองกำลังมหาศาลที่จะได้มา พร้อมทั้งโอกาสในการยึดครองกังตั๋ง ขยายไปเสฉวน และครอบครองทั้งแผ่นดินเชียวนะ” เสี่ยวหมวยบอกแผนการคร่าว ๆ ออกมา เล่นเอาคนทั้งหมดตกใจกับแผนการนี้

“เล่นขนาดนั้นเชียวหรอ อยากรู้แผนการจัง บอกรายละเอียดหน่อยสิ” ลุงพันตาเป็นประกายด้วยความอยากรู้กลยุทธ์ของตี๋น้อย แต่เสี่ยวหมวยส่ายหน้า พลางบอกว่า

“รายละเอียดยังไม่เปิดเผย แต่จะทยอยเปิดเผยเรื่อย ๆ ตอนนี้ตี๋น้อยบอกมาว่า ให้พวกเราทุกคนช่วยทำตามแผนที่วางไว้อย่างเคร่งครัดด้วย เพราะช่วงนี้สำคัญมากที่จะวางรากฐานสำหรับความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ในอนาคต”



Create Date : 21 ตุลาคม 2554
Last Update : 21 ตุลาคม 2554 19:16:46 น. 0 comments
Counter : 397 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Muen Li
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add Muen Li's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.